เรื่อง เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] [จบ]
บที่ 1 ฉันก็แค่าุ 2,500 ปี (ตอน้).
หากุสามารถข้ามเวลาจากยุคปัจจุบันกลับไปยังอดีตได้ ุจะทำเช่นไร?
แ้ถ้าหากุมีชีวิตอยู่ตั้งแต่อดีตมาแ้ึสองพัน้าร้อยปี จนึยุคปัจจุบันล่ะ?
ุจะทำเช่นไร?
ตอนนี้ ซูเย่กำลังนั่งอยู่ให้องเรียน
เขานั่งเงียบ ๆ ี่โต๊ะแถวสุดท้ายของคลาสเรียนคณะแพทย์ร่วมสมัย ณ าวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง
แสงแดดสุดแผดเผาประจำเดือนตุลาคมช่วยเพิ่มความร้อนระอุให้องและนักศึกษาากว่า 50 ชีวิตได้เป็่าดี บางคนึกับเหงื่อซกเต็ม้าผากจน้หยิบผ้าเช็ด้ามาซับา ๆ กัน
ซูเย่นั่งฟังาบรรยายไปพลางสัมผัสึไออุ่นใอากาศ เขาะซิบแผ่วเบาเป็เสียงี่มีแต่เขาเท่านั้นี่ได้ยิน
“สายลมใ้ำความร่มเย็น คลายยากเข็ญให้ใจเบิกบาน” ตัวอักษรปรากฏขึ้น`
เป็บทประพันธ์ของไคเฟิง``
ทันทีี่เสียงนั้นจางหายไป ลมจากทิศใต้ก็พัดผ่านเข้ามาให้องเรียน่าแผ่วเบา!
และอุณหภูมิให้องเรียนค่อย ๆ ลดลงจนรู้สึกได้ึความเย็นสบาย
โดยเฉพาะบริเวณแถวสุดท้ายี่ซูเย่นั่งอยู่เป็ี่ี่รู้สึกเย็นสบายี่สุด
“หืม?”
ั้อาจารย์ผู้สอนั้เพื่อนให้องต่างมองไปี่้าต่าง่าฉงนใจ เ็ ๆ เมื่อครู่นี้มาจากไหนกันนะ ?
ซูเย่ตี้าซื่อและตั้งใจเรียนต่อไป..
หลังจากผ่านเรื่องเ็ปริศนาไปได้แ้ อาจารย์หลี่เคอหมิงี่ยืนสอนอยู่ี่้าห้องเหมือนจะนึกขึ้นได้ เขามองไปรอบ ๆ ห้องเรียน่จะยิ้มกว้าง
“เมื่อเดือนี่แ้เราเริ่มเรียนกันใเรื่อง ‘พื้นฐานใาจับเส้นชีพจร’ กันไปแ้...เรามาลองมาทบทวนความรู้กันหน่อยเป็ไง?”
พอได้ยินเช่นนั้น
สี้าของนักศึกษาใชั้นเรียนแทบจะพลิกจาก้ามือเป็หลังมือ สี้าี่เพิ่งจะผ่อนคลายจากสายเ็ เปลี่ยนเป็ซีดเผือดใฉับพลัน
ไม่นะ พวกเขาไม่อยากจะฟังต่อเลย....
"เรื่องนี้เป็เรื่องพื้นฐานสำหรับาวินิจฉัยชีพจรี่ดี เาะงั้นอาจารย์เชื่อว่าพวกเุคนคงจะจำเนื้อหาใส่วนนี้ได้เยอะแ้ เอาล่ะ...มาลองสุ่มถามใครสักคนให้องนี้กันดีกว่า”
ุคนรีบก้ม้าก้มตาใทันที หัวใจี่เ้ระรัวจนทำให้ตัวสั่นกันหงก ๆ ะี่หลบสายตาอาจารย์หลี่เคอหมิง
ใใจได้แต่ภาวนา่าะสับะส่าย อย่าเลือกฉัน อย่าเลือกฉัน อย่าเลือกฉันเลยนะ!
"ถ้า่านั้น..."
อาจารย์หลี่เคอหมิงลากเสียงยาวเช่นเดียวกันกับหัวใจของนักศึกษาุคนี่แทบจะขาดใจอยู่รอมร่อ
"สุดหล่อี่อยู่แถวหลังสุดล่ะว่าไง?"
อาจารย์หลี่เคอหมิงหรี่ตาลง เขาจงใจเลือกเด็กนักศึกษาหลังห้องเาะเป็ตำแหน่งี่แอบหลับง่าย อู้ก็ง่ายและมักจะเป็ตำแหน่งี่พวกไม่เอาอ่าวไปนั่งกันบ่อย ๆ วิชาแพทย์แผนจีนี่สามารถใช้รักษาผู้คน ถ้าไม่ตั้งใจเรียนหรือรู้่าถ่องแท้ก็เอาไปรักษาคนมั่ว ๆ ไม่ได้หรอกนะ!
นักศึกษาุคนค่อย ๆ เงย้าแ้หันกลับไปมองข้างหลังห้อง ใใจอยากจะเห็นผู้โชคดีคนนั้นเหลือเกินว่าเป็ใคร
ทันทีี่เห็นว่าเป็ซูเย่ ุคนก็ได้แต่มองด้วยความสงสัย
เดี๋ยวนะ? หมอนี่อยู่ใคลาสเราด้วยงั้นเหรอ?
!?
ซูเย่เก็อึ้งไปครู่หนึ่งเช่นกัน เขาไม่คิดว่าจะโดนคนอื่นสังเกตเห็นได้ เาะเขาตั้งใจเข้ามาฟังบทเรียนเงียบ ๆ ไม่คิดจะสุงสิงกับใครแ้แท้ ๆ แต่ดันโดนอาจารย์ผู้สอนเป็คนเรียกเสีย่านั้น
แต่ก็ไหน ๆ ก็ถูกเรียกขึ้นมาแ้ ก็มีแต่้ทำาน้ำสินะ เขายืนขึ้นพร้อมรอยยิ้ม ั์ตาสะท้อนแสงแวววาว่ามุ่งมั่น
ภายให้วงความคิดของเขานั้นปรากฏเป็ภาพของ “ราชวังแห่งความทรงจำ” ี่มีลักษณะโดยรอบเหมือนกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ไม่มีผิด ัในั้นร่างจำแลงของเขาปรากฏขึ้นใมิติความคิดนั้นราวกับเข้ามาอยู่ใสถานี่นี้จริง ๆ
เขาเดินไปยังส่วนโซนของราชวงศ์หมิง
ภาพปรากฏขึ้นเป็ห้องี่มี้าต่างสูงจากเพดานจรดพื้นส่องแสงแวววาวปะทะกับกำแพงสีขาวบริสุทธิ์ ใแต่ละมุมมีรูปแกะสลักี่มีความวิจิตรงดงามได้ถูกจัดวางเอาไว้่าประณีต!
ราชวังแห่งความทรงจำได้ถูกแบ่งออกเป็ 19 โซน และแต่ละโซนนั้นก็จะถูกแบ่งาแต่ละราชวงศ์นั้น ๆ เอาไว้
ใแต่ละโซนราชวงศ์นั้นก็จะประกอบไปด้วยหลาย่า เช่น ชั้นหนังสือี่ตั้งเป็แถว ๆ สิ่งของามายตั้งแต่ข้าวของธรรมดา ๆ วรรณกรรม ภาพเขียนอักษร ภาพวาด รวมไปึโบราณวัตถุ
เมื่อเขาเดินมาึโซนหนังสือของราชวงศ์หมิง ก็ใช้สายตาไล่ดูชื่อหนังสือบนชั้น โดยชื่อของหมวดหมู่จะถูกจัดเอาไว้าตัวอักษร เช่น หลี่ชื่อเจิน[1] จะถูกวางเอาไว้ี่หมวดอักษร ล(L)
เขาไล้นิ้วมือไปาสันหนังสือเพื่อตาาจากหมวดี่้าอยู่ครู่หนึ่ง ่จะหยุดมือแ้ดึงหนังสือ “ำาี” ออกมาจากชั้นวางแ้เปิดู ัในั้น ภาพห้วงความคิดของเขาก็ปรากฏเป็เนื้อหาเกี่ยวกับ “ำาี” ั้หมด
ขั้นตอนั้หมดนี้ดูเหมือนจะใช้เวลานานหลายนาที แต่ใความเป็จริงแ้มันผ่านไปเพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น
อาจารย์หลี่เคอหมิงเก็สังเกตได้ึความผิดปกติจากท่าทางของนักศึกษาภายให้องี่มีต่อเพื่อนร่วมห้องคนนี้ จึงถามซูเย่่าสงสัยว่า “นักศึกษามาจากคณะไหน ชื่ออะไร ทำไมอาจารย์ไม่เคยเห็น้า”
“ผมซูเย่ จากคณะวิจัยสมุไีครับ” ซูเย่กล่าว
ไม่ใช่คณะแพทย์นี่นา!
นักศึกษาให้องต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินี่อีกฝ่ายพูด สายตาี่มองไปยังซูเย่ก็เปลี่ยนจากตื่นตะลึงเป็สายตาทะมึนทึบทันที
เป็ี่รู้กันว่านักศึกษาแพทย์นั้นจะได้รับาสอนจากอาจารย์และคณะแพทย์โดยตรง เช่นกลุ่มของพวกเขาเป็นักศึกษาแพทย์ทั่วไป ี่ไม่เคยเรียนเรื่องแพทย์แผนจีนา่อนจนึปีี่กำลังจะจบาศึกษา แน่นอนว่าถ้าพวกเขา้าใบปริญญาของแพทย์แผนจีนก็สามารถทำได้ด้วยาเรียนต่อปริญญาโทใคณะนี้
เมื่อเทียบกับนักศึกษาคณะแพทย์แผนจีนแ้ ี่น่าเจ็บใจก็คือคณะวิจัยสมุนไพรนั้นได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพจากาเรียนเพียง 5 ปี! ใะี่นักศึกษาแพทย์ทั่วไป้เรียน เรียน เรียน และเรียนเกี่ยวกับเทคนิคาแพทย์ใุ ๆ ด้าน กว่าจะไปึใระดับปริญญาเอกก็้ใช้เวลาเกือบสิบปี สิ่งี่เรียกว่าความยุติธรรมอยู่ตรงไหนกัน!
ทำไมมันึเป็เช่นนั้น!
เรียนแค่้าปีใะี่คนอื่น ๆ ้เรียนกันเป็สิบปี แต่ดันได้สิทธิประโยชน์เหมือนกันซะงั้น!
พวกี่เรียนคณะวิจัยสมุไี เรียนทฤษฎีแค่้าปี หากินกับวิชาความรู้ี่ตัวเไม่เคยได้ลองเอามาใช้เลยสักครั้ง คนพวกนี้จะเอาทักษะอะไรไปช่วยเหลือผู้คนได้อีก?
ขนาดอาจารย์ใคณะแพทย์แผนจีนก็ยังไม่แนะนำให้เรียนเลยถ้าใจไม่รักจริง เาะาเรียนั้สามภาคใคณะวิจัยสมุไีมันลำบาก และยากยิ่งกว่าคณะอื่นเป็ไหน ๆ!
ถ้าสอบไม่ผ่านใเทอมนั้น ๆ ก็เท่ากับจะไม่ได้ใบประกอบวิชาชีพอีกเลย แต่มันก็ไม่ยุติธรรมอยู่ดี เาะคณะอื่นก็เหนื่อยากว่ากันหลายเท่าตัว
ุสายตาี่มองไปยังซูเย่ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยความมุ่งร้าย ยังเจือความรู้สึกเหม็นขี้้าด้วย
สายตาี่มองเหมารวมว่าพวกเด็กวิจัยสมุไีั้คณะนั้นไร้ประโยชน์
นี่แหละจุดจบของพวกไร้ทักษะจากาปฏิบัติ! คณะวิจัยสมุไีจะ้อับอายเาะความอวดดีของไอหนุ่มนั่นี่กล้าเสนอ้ามาึี่นี่!
อาจารย์หลี่เคอหมิงึกับผงะเมื่อได้ยินคำตอบจากซูเย่ เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันี่นักศึกษาแปลก้ามานั่งฟังชั้นเรียนี่เขาสอนั้ ๆ ี่ไม่ใช่คาบเรียนของตัวเ ยังเข้ามานั่งเรียนั้ ๆ ี่ไม่มีพื้นฐานเนี่ยนะ? อีกฝ่ายรู้เรื่องหรือ?
อาจารย์หลี่เคอหมิงพูดกับซูเย่ต่อว่า “ถ้า่านั้น....เคงไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้า่อนสินะ งั้นนั่งลง่เถอะ”
เขาตั้งใจจะเปลี่ยนบรรยากาศี่มาคุภายให้อง แต่หลังจากี่เขาพูดออกไปั้ห้องก็ดันหัวเราะออกมาเสีย่านั้น
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า..."
“อาจารย์ครับ! พูดจาแทงใจดำเกินไปรึเป่า แบบนี้เหมือนลากไปตบ้ากลางสี่แยกเลยนะ!”
“อาจารย์อย่าดูถูกคนอื่นไปสิ เขาอาจจะเคยเห็นปกมาแ้ก็ได้น่ะ?”
ซูเย่ยิ้มใะี่มองไปยังกลุ่มนักศึกษาี่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา หึ ตลกกันาสินะ?
มาลิ้มลองรสชาติาโดนตบเกรียนจากปีศาจาุ 2,500 ปีดูหน่อยเป็ไง
ซูเย่หายใจเข้าึ ๆ ่จะพูดออกมา่าเสียงดังฟังชัด
"ซื่อเจินได้กล่าวไว้ว่า ใราชวงศ์ซ่งนั้นมีบุตรผู้สาาวผู้หนึ่งได้คิดค้นำาีขึ้นมา ซึ่งเป็เรื่องี่ดูหมิ่น เหยียดหยาม และน่าขบขัน ต่อผู้ี่สนใจแต่ท่องจำเรื่องยา..."
"ชีพจรี่เลื่อนลอย เหมือนจะาไป แต่ก็ไม่าพอ..."
"วิธีจับชีพจรแบบเซิน เมื่อฤดูหนาวมาึ..... "
......
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮะ?"
เสียงหัวเราะี่ดังลั่น่้านี้เงียบลงใฉับพลัน
นักศึกษาุคนมองซูเย่่าประหลาดใจ
ท่องได้จริง ๆ เหรอเนี่ย!?
แถมยังจำได้ตั้งขนาดนั้น!?
อาจารย์หลี่เคอหมิงมองซูเย่ด้วยความประหลาดใจปนประทับใจ เขาคาดเอาไว้ว่านักศึกษาของเขาจะจำได้เพียงแค่เล็กน้อย แต่กลับกันคือนักศึกษาใหม่ี่เขาไม่ได้สอน กลับจำได้่าแม่นยำเสีย่านั้น
"มีระยะความยาวอยู่สามรูปแบบ ความยาวี่หนึ่งตับใร่างกายคนเทียบความยาวเท่ากับหนึ่งช่วงฤดูใบไม้ผลิ ชีพจรหัวใจี่เ้นานคือจิตวิญญาณี่แ็แรง ชีพจรไตจะยาวนานและลงรากึ..."
"พอ่!"
อาจารย์หลี่เคอหมิงบอกให้ซูเย่หยุดพูด เขาเริ่มรู้สึกสนใจใตัวเด็กหนุ่มคนนี้ขึ้นมาเสียแ้ “เเคยเรียนรู้เกี่ยวกับวิชาแพทย์า่อนี่จะเริ่มเรียนี่นี่หรือเป่า?”
ซูเย่หยุดาสาธยาย่จะทำท่าหยุดคิดเล็กน้อย แ้ตอบกลับว่า “ผมไม่เคยเรียนครับ แค่อ่านหนังสือมานิดหน่อย”
"เล่มไหนบ้างล่ะ?"
อาจารย์หลี่เคอหมิงรู้สึกประทับใจใความขยันเลยถามต่อ
ุคนหันกลับไปมองซูเย่พ
"‘ยาาุรศาสตร์ของจักรพรรดิเหลือง’ ‘าเกษตรและพืชสมุนไพรโดยเฉินหนง’
‘ตำราเกี่ยวกับไข้และโรคเบ็ดเตล็ด’" และ "ใบสั่งยาจำเป็สำหรับเฉียนจิน..."
ซูเย่พูดชื่อหนังสือออกมาเป็พรวน
นักศึกษาั้หมดึกับนิ่งเป็หิน
ี่พูดมานี่...กี่เล่มแ้นะ?
แต่รายชื่อหนังสือี่ซูเย่เคยอ่านก็ยังคงไม่หยุดออกจากปากของเขา...!
เชิงอรรถ
[1] หลี่สือเจิน (李时珍) คือ าาสมุไี
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??