เรื่อง ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชนบทตัวน้อยๆ : ความมั่งคั่งร่ำรวยมาถึงประตูของท่านแล้ว
หลี่หรูอี้หยิบหมวกหวายในมือชูึ้ กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านอารอง นี่เป็หมวกนิรภัยที่เอาไว้ใช้ในสถานที่่สร้าง เื่ใส่มันแ้จะช่วยป้องกันศีรษะได้ ที่ท่านและท่านพ่อไปสร้างกำแพงเมืองต้องสวมมันด้วยนะเจ้าคะ”
วัสดุที่ใช้ในาทำหมวกนิรภัยก็คือ หวายแก่ รูปร่างคล้ายหมวกกันน็อก ไม่เน้นความงามแต่เน้นาใช้งาน มีปะโยชน์ในาป้องกันศีรษะ
“ที่แท้ก็หมวกนี่เอง” หลี่สือรู้สึกยินดียิ่ง รนทนไม่ไหวรีบนำหมวกหวายไปสวมหัว ั้ยังวิ่งไปข้างหน้าหลี่ซาน ั่ศีรษะพลางพูดอย่างยิ้มๆ ว่า “ท่านพี่ หรูอี้มอบหมวกให้ข้า”
หลี่ซานมองไปยังบุตรีสุดที่ัด้วยดวงตาทอปะกายแ่ความั
หลี่หรูอี้กำชับว่า “ท่านอารอง เื่ไปถึงเมืองเยี่ยนแ้ต้องสร้างกำแพง ท่านต้องเตือนให้ท่านพ่อสวมหมวกนิรภัยด้วยนะ”
หลี่ซานหยิบหมวกนิรภัยที่มีรูปร่างแปลกปะหาึ้มา คิดว่าหวายแก่ั้แข็งมากจริงๆ แต่บุตรีสุดที่ัก็ยังคิดหาวิธีนำมันมาทำเป็หมวกจนได้ คงเสียเวลาไปไม่น้อยเลยทีเี เพื่อตอบแทน้ำใจี้ เขาจะต้องเชื่อฟังคำบุตรีสุดที่ัแน่นอน
หลี่สือราวกับได้รับัล้ำค่าก็มิปาน รีบนำหมวกหวายไปร้อยเชือกแ้สวมใส่ทันที จากั้จึงแบกห่อสัมภาระใบใหญ่ที่บรรจุเครื่องนอนและเสื้อผ้าึ้หลัง เิตามหลังหลี่ซานออกไป
ปกติเขาเป็คนที่ถูกคนในหมู่บ้านหัวเราะเยาะมาตล วันี้เื่สวมหมวกหวายก็ยิ่งถูกชาวบ้านจับจ้องราวกับเห็นสัตว์ปะหา
“เจ้าก้อนหิน นั่นเจ้าสวมอะไรู่บนหัว?”
“หมวกนิรภัย! หรูอี้ให้ข้า”
“เื่ครู่ข้ามองไกลๆ ยังคิดว่าเจ้าเอาหม้อมาสวมหัวเสียี ที่แท้ก็เป็หมวกที่ใช้หวายเก่าๆ สานึ้มานี่เอง หมวกหวายนี่ไม่มีปีกหมวก มิอาจบังแดดได้ ั้ยังน่าเกลียดเพียงี้ มีอะไรน่าใส่กัน!”
“เจ้ามีหรือไม่ถึงได้มาหัวเราะเยาะข้า? ฮึ... ข้ามี!” หลี่สือกรอกตาใส่คนผู้ั้
หลี่หรูอี้ดึงแขนหลี่สือมาใกล้ๆ แ้บอกให้เขาก้มตัวลง จากั้จึงกระซิบบางอย่างที่ข้างหูีฝ่าย “ท่านอารองเจ้าคะ ข้าจะบอกความลับท่านอย่างึ่”
หลี่สือรีบมองไปรอบๆ ด้วยท่าทางเคร่งเครียด “ความลับัใดหรือ?”
“ในห่อสัมภาระมียาที่ข้าเตรียมไว้ให้ท่านและท่านพ่้วย รอให้เห็นปะตูเมืองเยี่ยน่น ท่านค่อยบอกท่านพ่อ”
“อ้อ...” หลี่สือรับปากออกมาคำึ่ั้ยังหรี่ตามองไปยังหลี่ซาน
พี่น้องั้้าแ่บ้านหลี่เิออกมา่พวกเขาถึงปากทางหมู่บ้าน จนกระทั่งไม่เห็นเงาคนั้สองแ้จึงพากันกลับบ้านไป
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สองพี่น้องหลี่ออกไปทำงานไกลๆ ปีที่ผ่านๆ มาในช่วงเวลาี้ หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวสาลีเสร็จแ้พวกเขาก็ออกจากบ้านไปทำงานแบบี้เช่นกัน
หลี่หรูอี้ได้ยินมาว่า าสร้างกำแพงที่เมืองเยี่ยนที่หลี่ซานจะไปในคราวี้เป็งานที่ปะกาศรับสมัครจากราชำั ึ่วันได้ยี่ิทองแ มีอาหารสองมื้อและมีที่พักให้ ้าวันคำนวณบัญชีครั้งึ่
ึ่ตำลึงเงินแลกได้ึ่พันทองแ
ึ่ทองแซื้อแป้งย่างจากแป้งข้าวโพดขนาดเท่าฝ่ามือใหญ่ๆ ได้สองชิ้นหรือผักสดึ่ชั่ง
เนื้อหมูึ่ชั่งิสองทองแ ไข่ไก่ึ่ชั่ง้าทองแ แป้งขาวชั้นดีึ่ชั่งสามทองแ
ราคาที่นี่ค่อนข้างต่ำและแงานคนก็น้อย หากทำงานสร้างบ้านในอำเภอฉางผิง ึ่วันจะได้แปดทองแ แต่ไม่มีค่าอาหารและที่พักให้
!
าสร้างกำแพงเมืองที่เมืองเยี่ยนเป็งานที่ลำบาก ทว่าได้รับเงินยี่ิทองแ ั้ยังรวมอาหารและที่พักด้วย นับว่าค่าแและสวัสดิายุติธรรม
ชาวบ้านที่อาศัยู่บริเวณรอบๆ ในระยะาิลี้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวสาลีแ้ ก็ไปทำงานสร้างกำแพงเมืองกันุคน
หากพี่าั้ี่หลี่หรูอี้อายุถึงิแปดปี ก็คงจะตามไปด้วยแ้
ในสายตาคนในหมู่บ้าน าสร้างกำแพงเมืองเป็งานที่ทำเงินได้ดี กระทั่งในสายตาหลี่หรูอี้เื่สามเดือน่นก็ยังคิดเช่นั้
ทว่าี้วิญญาณหลี่หรูอี้เป็วิญญาณแพทย์หญิงในกองทัพที่มาจากโลกอื่น นางคิดว่าแคว้นต้าโจวมีกำลังาผลิตต่ำมาก าสร้างกำแพงเมือง ก็เป็งานที่เี่ยง และค่อนข้างัตรายต่อร่างกายมาก
หากที่บ้านมีเงินมากพอ คราวี้สองพี่น้องหลี่ก็คงไม่ต้องไป
หลี่หรูอี้ตัดสินใจแ้ว่า จะใช้โอกาสที่หลี่ซานผู้เป็เจ้าบ้าน ึ่มีนิสัยดื้อรั้นจนโน้มน้าวไม่ได้ไมู่่บ้านาเดือนี้ คิดหาวิธีทำเงินให้กับครอบครัวที่ยากจนข้นแค้นี้ให้ได้
จ้าวซื่อมีใบหน้าทรงกลม คิ้วดุจกิ่งหลิว ดวงตาดุจผลซิ่ง าตามีรอยตีนกาปรากฏบางๆ ู่ารอย ใบหน้างดงามโดดเด่น มวยผมเป็ทรงกลมง่ายๆ ไม่สวมเครื่องปะดับใดๆ มีความ่โยน ร่างกายนางสูงโปร่งและผอมบาง สวมชุดที่ถูกซักจนมองไม่เห็นสีเดิมและมีรอยปะชุนู่ทั่วไป นางยืนพยุงท้องู่หน้ารั้วบ้าน กำลังมองข้ามรั้วออกไป
เด็กในครรภ์อายุเกือบเดือนแ้ กลางวันยังสงบดี แต่พอตกกลางคืนจะ่กวนโดยถีบท้องนางอย่างแ จนนางไม่ได้นอนไปครึ่งคืน ่ีครึ่งคืนหลังก็ยังคงถีบู่ แต่นางง่วงจนทนไม่ไหวจริงๆ จึงนอนหลับไป
เื่ตื่นึ้มาพบว่า ้ากายว่างเป่า ีั้ฟ้าสว่างแ้จึง่เสียงเี ทว่าในบ้านกลับไม่มีเสียงตอบ นางจึงลุกึ้มาเิหารอบบ้าน แต่ก็ไม่พบใครเลย
่นหน้าีุ้ครั้งที่หลี่ซานจะออกไปทำงานนอกบ้านไกลๆ นางมักจะตื่นแต่เช้ามาทำอาหารให้เขากิน และยังเิไป่เขาถึงปากทางหมู่บ้านีด้วย
วันี้นางตื่นสายจึงไม่ได้ไป่ ในใจรู้สึกผิดเล็กน้อย
าปีมาี้หลี่ซานดีกับนางจริงๆ กี่วันกี่คืนผ่านไปนางก็ไม่แน่ใจนัก ทำให้นางลืมจุดด้อยหลี่ซานที่เป็เพียงชาวบ้านไร้าศึกษาั้ยังยากจนไปจนหมดสิ้น
หลี่ฝูคัง ึ่เป็บุตราคนที่สองบ้านหลี่ เขาเป็คนใจร้อน เขาู่ห่างออกไปาจั้ง โบกมือให้จ้าวซื่อพลางกล่าวเสียงั “ท่านแม่ ท่านพ่อและท่านอารองไปแ้ขอรับ”
จ้าวซื่อมีบุตรกับหลี่ซานั้สิ้น้าคน
หลี่เจี้ยนั บุตราคนโต และหลี่ฝูคัง บุตราคนที่สองเป็ฝาแฝั
หลี่อิงฮว๋า บุตราคนที่สาม และหลี่หมิ่นหาน บุตราคนที่ี่ อายุิเอ็ดปี เป็ฝาแฝั
บุตรี่คนแรกล้วนเป็บุตรา คนที่้าเป็บุตรา ั้สองคิดว่ามีั้บุตราและบุตราครบถ้วนเป็เรื่องดี จึงตั้งชื่อให้บุตราว่า หลี่หรูอี้ (สมปรารถนา)
หลี่อิงฮว๋าเิมาจนกระทั่งเห็นสีหน้ารู้สึกผิดจ้าวซื่อ จึงกล่าวว่า “ท่านแม่ ท่านพ่อกลัวจะทำให้ท่านตื่นจึงไม่ให้พวกเราไปปลุกท่านแม่ขอรับ”
หลี่เจี้ยนักล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ ท่านพ่อไมู่่บ้านแ้ ท่านวางใจเถอะ พวกเราพี่น้องจะเชื่อฟังท่านแน่นอน”
“ท่านแม่ ท่านพ่อเืแป้งย่างต้นหอมที่น้องาเป็คนย่างไว้ให้ท่านแผ่นึ่ขอรับ” หลี่หมิ่นหานกล่าวปะโยคี้ทิ้งไว้แ้รีบเิเข้าไปในห้องครัว
หลี่หรูอี้กล่าวอย่างกลัดกลุ้ม “พี่ี่ ข้าใส่แป้งย่างไปในห่อสัมภาระท่านพ่อแ้มิใช่หรือ?”
หลี่หมิ่นหานหันมาหัวเราะ “ท่านพ่อถือโอกาสที่เจ้าไปหยิบหมวกอะไรนั่นแอบนำแป้งย่างต้นหอมให้ข้า บอกให้ข้าซ่อนไว้ให้ดี”
จ้าวซื่อนั่งลงบนม้านั่งไม้ กินแป้งย่างต้นหอมัหอมกรุ่นที่บุตรีสุดที่ัเป็คนทำ ในใจรู้สึกเบิกบาน เื่นึกถึงความเอาใจใส่สามี ในใจก็ยิ่งรู้สึกซาบซึ้ง
หลี่หรูอี้เิเข้ามาแ้วางคางลงบนไหล่จ้าวซื่อเบาๆ ่นจะกล่าวถามว่า “ท่านแม่ แป้งย่างอร่อยหรือไม่?”
จ้าวซื่อบิแป้งย่างออกมาชิ้นึ่แ้ยัดใส่ปากหลี่หรูอี้ ยิ้มพลางกล่าวว่า “เื่ครู่พี่าเจ้าบอกว่า เจ้ายังไม่ได้กินแป้งย่างที่เจ้าทำเองกับมือเลยสักชิ้น ่นหน้าี้เจ้าตะกละเพียงั้ ี้กลับไ้แ้”
หลี่หรูอี้ไม่ได้มาออ้อนเพราะต้องากินอร่อย นางมาเพราะต้องาพูดเรื่องจริงจัง ทว่าปากถูกแป้งย่างยัดไว้จึงพูดไม่ได้ ั้ยังถูกมารดากล่าวหาจนกลายเป็ตัวตะกละไปแ้ ในใจจึงรู้สึกคับอกคับใจเล็กน้อย
ตัวตะกละ ตัวี้เี เจ้าร่างเดิมเป็เด็กตะกละตะกลามคนึ่
จ้าวซื่อบิแป้งย่างออกมาีชิ้น ยัดไปที่ปากบุตรีสุดที่ัทีู่่ด้านหลัง แต่คนข้างหลังกลับหลบ “เหตุใดจึงรู้สึกเขินอายเล่า เจ้ายังเด็ก แม่กำลังทมันหมู เจ้ายังถือโอกาสที่แม่ไม่สนใจึ้มายืนบนม้านั่งไม้ ยื่นมือไปจิ้มคราบ้ำมันในถาดรองไปกินเลย”พ
หลี่หรูอี้ได้ยินเสียงหลี่ฝูคังที่กำลังทำความสะอาดสวนด้านนอกห้องโถงหัวเราะเสียงั จึงรีบกล่าวอย่างกระวนกระวาย “ท่านแม่ข้า เื่ครู่ท่านยังบอกู่เลยว่า ั้ข้ายังเด็ก ี้้าโแ้ ไม่ตะกละแ้”
เดิมทีผิวจ้าวซื่อขาวกว่าสตรีในหมู่บ้านเสียี ีั้ยังไม่ค่อยโดนแดดจึงยิ่งละเอียดเนียนมากึ้ไปี ดวงตาดุจผลซิ่งหรี่ลงเล็กน้อย กล่าวว่า “หากไม่ตะกละแ้เจ้าจะดั้นด้นหาวิธีทำแป้งย่างอร่อยๆ ขนาดี้ึ้มาด้วยตนเองได้หรือ?”
“ข้าฝันหรอกเจ้าค่ะ ข้าฝันถึง” หลี่หรูอี้กรอกตาไปมา “ท่านแม่ ท่านก็คิดว่าแป้งย่างี้อร่อยใช่หรือไม่ ท่านว่าหากครอบครัวพวกเราทำแป้งย่างเช่นี้ออกมาร้อยชิ้น แ้นำไปขายที่ตัวอำเภอจะมีคนซื้อกินหรือไม่?”
“เจ้าโน้มน้าวพ่อเจ้าไม่ได้เลยมาโน้มน้าวแม่หรือ?” จ้าวซื่อกินแป้งย่างหมดแ้ ในมือมีคราบมันติดู่จึงไปล้างมือที่ห้องครัว นางล้างมือพลางกล่าวว่า “แป้งขาวในบ้านเืู่ิชั่ง มีไว้สำหรับทำหมั่นโถวรับรองแขกในงานครบเดือนน้องเจ้า และเตรียมไว้สำหรับห่อเกี๊ยวในวันปีใหม่ วันี้เจ้าใช้ทำแป้งย่างต้นหอมไปแ้ึ่ชั่ง เืเพียงเก้าชั่งแ้”
.......................................
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา