เรื่อง ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชนบทตัวน้อยๆ : ความมั่งคั่งร่ำรวยมาถึงประตูของท่านแล้ว
หมู่้าหลี่เป็หมู่้าใหญ่ มีทั้งหมดี่ิกว่าครัวเรือน ในั้มียี่ิกว่าครอบครัวใช้แซ่หวัง ะูหวังจึงเป็ะูใหญ่ ส่วนะูื่ๆ ล้วนเป็ผู้ที่ย้ายมาจากนอกพื้นที่ตั้งแต่เมื่อิห้าปีก่อน ครอบครัวแซ่หลี่มีเพียง้าหลี่ซานครอบครัวเดียวเ่าั้
หลี่หมิ่นหานยังไม่ตื่นดี เอามือึ้มาขยี้ตา่ามึนงง
หลี่อิงฮว๋าเห็นชายฉกรรจ์อายุี่ิกว่าปี ใบ้าแดงก่ำ สวมเสื้อผ้าสีเขียว ถือตะกร้าไผ่สานใบใหญ่ไว้ในมือ ท่าทางดูคุ้นเคยอยู่บ้าง แต่กลับคิดไม่ออกว่าเป็ใคร จึงเอ่ยถามไปว่า “ไม่ทราบว่าท่านคือใคร มาหา้าะูหลี่ด้วยเรื่องใดหรือขอรับ?”
หลี่หมิ่นหานตื่นเต็มตาแ้ เมื่อเห็นชายฉกรรจ์ผู้ั้จึงรีบกระซิบบอก “ี่สาม เขาคือคนขายเนื้อแซ่จางในเมืองขอรับ” ปีที่แ้ตอนวันเกิดอายุสามิปีหลี่ซาน จ้าวซื่อพาหลี่หมิ่นหานไปซื้อเนื้อหมูจากตัวเมืองเพื่อนำกลับมาห่อเกี๊ยว ทั้งยังทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อให้หลี่ซานกินอีกด้วย หลี่หมิ่นหานยังเคยคุยกับคนขายเนื้อแซ่จางผู้มีใบ้าแดงก่ำคนี้อยู่ปะโยคึ่
คนขายเนื้อแซ่จางสำรวจผู้เยาว์ที่มีใบ้าคล้ายกันึเจ็ดส่วน เขาสอบถามมาจากตัวเมืองจนชัดเจนดีแ้ และรู้ว่าครอบครัวหลี่มีฝาแฝดสองคู่ หรือว่าเจ้าเด็กที่อยู่ตรง้านี่จะเป็ฝาแฝดคู่ึ่ในั้ จึงเอ่ยไปตรงๆ “ข้าคือจางต้าเป่ามาจากตัวเมือง พ่อข้าส่งข้ามาที่้าหลี่เพื่อขอบุ ที่หมอเทวดาน้อยแซ่หลี่ช่วยชีวิตเอาไว้”
หลี่หมิ่นหานเข้าใกระจ่างึ้มาโดยพลัน “อ้อ... ที่แท้ ท่านปู่ที่้สาวข้าช่วยไว้คราวก่อนเป็พ่อท่านลุงจางนี่เอง”
คนขายเนื้อแซ่จางัเราะ จากั้จึงเดินทางไปที่หมู่้าหลี่กับผู้เยาว์ทั้งสอง ระหว่างทางยังที่จะถามไม่ได้ว่า “วิชาแพทย์้สาวเจ้าเรียนมาจากผู้ใดหรือ?”
หลี่อิงฮว๋ากรอกตาไปมา จากั้จึงค่อยๆ เอ่ยึ้ว่า “ท่านตาที่เีไปแ้ข้าเป็ซิ่วไฉ ที่้าจึงมีตำราแพทย์คัดด้วยลายมืออยู่หลายเล่ม…” นี่คือความจริง เขาไม่อาจบอกกับผู้อื่นว่า วิชาแพทย์หลี่หรูอี้เรียนมาจากความฝั
คนขายเนื้อแซ่จางตบศีรษะตนึ่ครั้ง “ที่แท้มารดา้าเจ้าก็มาจากครอบครัวบัณฑิต วิชาแพทย์หมอเทวดาน้อยแซ่หลี่ก็เรียนมาจากมารดานี่เอง”
“แม่ข้าไม่เป็วิชาแพทย์หรอกขอรับ เพียงท่องตำรายาได้หลายเทียบเ่าั้” หลี่อิงฮว๋ามิได้กล่าวเิจริงแต่่าใด จ้าวซื่อรู้ว่าจะออกเทียบยาให้ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยได้่าไร ทั้งยังเคยใช้ปะกอบกิจการมาแ้
หลี่หมิ่นหานถูกหลี่อิงฮว๋าไล่ให้กลับไปแจ้งที่้าก่อน เขาวิ่งไปจนกระทั่งึ้า และไปหยุดอยู่ตรง้าจ้าวซื่อที่กำลังนั่งปักผ้าอยู่ในห้องโถง เขากล่าว่าตื่นเต้นว่า “ท่านแม่ คราวที่แ้้สาวช่วยท่านปู่ไว้คนึ่ ท่านปู่คนี้เป็บิดาคนขายเนื้อแซ่จางในตัวเมือง คนขายเนื้อแซ่จางถือมาขอบุ้สาวแ้ขอรับ ตอนี้เขาอยู่ระหว่างทางมา้าพวกเรา ี่สามอยู่เป็เพื่อนเขาขอรับ”
จ้าวซื่อได้ยินว่าจะมีแขกผู้ชายมาที่้า อีกทั้งสองี่้หลี่ซานก็ไม่อยู่ นางไม่สะดวกพบแขก แต่แขกมาพบหลี่หรูอี้ นางจำต้องอยู่เป็เพื่อน
เพื่อป้องกันมิให้ผู้อื่นครหา นางจึงตัดสินใพบแขกที่ลานด้าน้าอันเปิดโล่ง
หลี่หรูอี้กำลังย้ายสมุนไพรที่เพิ่งตากจนแห้งอยู่ในห้องเบ็ดเตล็ด นางถูกจ้าวซื่อเรียกออกไปสอบถาม่าละเอียด
“ท่านปู่เป็คนอ้วน จู่ๆ ก็หมดสติล้มลงบนถนน มีชายฉกรรจ์สองคนเข้าไปแบกเขา แต่ร่างท่านก็หนักา หมอที่ร้านยากล่าวว่า เขาป่วยเพราะล้ม นี่มิใช่ครั้งแรกที่เป็เช่นี้ คราวี้สาหัสานัก ช่วยเืมิได้แ้ จึงให้พวกเขาแบกกลับไป ข้าผ่านทางไปพีจึงคิดใช้วิธีัษาม้าตายปะึ่ม้าเป็[1]หยิบยืมเข็มเงินจากท่านหมอ แ้ัษาท่านปู่จนได้สติเจ้าค่ะ”
จ้าวซื่อจับจ้องไปยังบุตรีสุดที่ัพลางเอ่ยถาม “เจ้าเรียนวิชาแพทย์มาจากที่ใด ทั้งยังรู้จักการฝังเข็มด้วย?”
“มีคนสอนข้าในฝัเจ้าค่ะ” ก่อน้าี้หลี่หรูอี้เคยอธิบายแ้ ซึ่งตอนั้จ้าวซื่อก็อยู่ด้วย อาจเป็เพราะจ้าวซื่อคิดไม่ึว่าจะมีบุตรชายผู้ป่วยมาขอบุึปะตู้า นางจึงต้องการสอบถามให้แน่ชัด
ตอนที่อยู่้าเดิม จ้าวซื่อเคยอ่านหนังสือเบ็ดเตล็ดมาบ้าง หลายปีก่อนยามหนีจากภัยพิบัติ นางพบเรื่องแปลกปะหลาดามาย เคยเห็นิ่ต่างๆ ากว่าสตรีในหมู่้าเีอีก จึงกล่าวกำชับว่า “หากไปด้านนอกอย่าได้กล่าวเช่นี้ เมื่อครู่ี่สามอธิบายกับคนขายเนื้อแซ่จางไปแ้ว่า มีหนังสือแพทย์ท่านตาเจ้าอยู่ใน้า แม่เป็คนท่องเทียบยาให้เจ้าฟัง ต่อไปให้เจ้ากล่าวกับผู้อื่นเช่นี้”
“เจ้าค่ะ” ในโลกเดิมหลี่หรูอี้มิใช่คนชอบพูดจาโอ้อวด ดังั้ย่อมฟังคำจ้าวซื่อเอาไว้
!
สายตาจ้าวซื่อกวาดไปยังหลี่หมิ่นหานที่มีเหงื่อไหลเต็มั พาลนึกไปึบุตรชายคนโตและบุตรชายคนรอง ซึ่งก่อน้าี้ก็มีสภาพเช่นเดียวกัน จึงถามไปว่า “ตอนเช้าพวกเจ้าี่คนผลัดกันแบกฟืนไปขายที่ตลาดหรือ?”
หลี่หมิ่นหานพยัก้า
หลี่หรูอี้กล่าวด้วยน้ำเีงขุ่นเคือง “ท่านแม่ ฟืนึ่มัดหนักา ข้าบอกไม่ให้พวกเขาไปขายฟืนแ้ พวกเขาก็ไม่ฟัง”
หลี่หมิ่นหานรีบกล่าว “ต้าหู่กับซื่อโก่วจื่อในหมู่้าอายุน้อยกว่าข้าตั้งหลายเื ต้นฤดูใบไม้ผลิก็แบกฟืนไปขายที่ตลาดแ้” ในใกังวลว่า จ้าวซื่อจะริบเงินทองแดงที่พวกเขาได้จากการขายฟืน “ท่านแม่ ข้าไปเช็ดตัวก่อนนะขอรับ”
หลี่หรูอี้เห็นจ้าวซื่อมิได้ขวางไว้ ในใพลันรู้สึกขมขื่น นี่ล้วนเป็เพราะครอบครัวยากจนเืเิ จึงยิ่งต้องตัดสินใให้แน่วแน่ว่าจะทำการค้าเล็กๆ เพื่อหาเงินให้ได้
หลี่หมิ่นหานไปตักน้ำเย็นที่ถังในครัวึ้มาครึ่งกะละมัง เตรียมเช็ดตัว
หลี่หรูอี้เีงดัง “ี่ี่ ท่านเพิ่งเหงื่อออก ห้ามใช้น้ำเย็นเช็ดตัวเป็อันขาด ข้าต้มน้ำร้อนอยู่พี ไม่สิ้นเปลืองอันใด ท่านใช้น้ำร้อนเช็ดตัวเถิด” บริเวณรอบๆ หมู่้าหลี่ล้วนเป็ภูเขาใหญ่ มีต้นไม้า อีกทั้งครอบครัวหลี่ก็มีบุรุษที่ขยันขันแข็งอยู่หกคน ฟืนใน้าใช้่าไรก็ไม่หมด ตอนเช้านางต้มน้ำร้อนสำหรับเช็ดตัวให้หลี่เจี้ยนอันและหลี่ฝูคังไปแ้
หลี่หมิ่นหานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เช่นั้ก็ต้มให้าหน่อย อีกสักครู่ี่สามก็ต้องเช็ดตัวเช่นกัน”
ไม่นานคนขายเนื้อแซ่จางก็มาึ้าครอบครัวหลี่ เมื่อพบหลี่หรูอี้ เขาก็คุกเข่าก้มศีรษะขอบุแทนบิดา จากั้จึงวางตะกร้าไผ่สานทิ้งไว้แ้กลับไปโดยไม่ดื่มน้ำสักอึก
บนตะกร้าไผ่สานใบใหญ่ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าสีดำผืนึ่ ด้านในมีกลิ่นคาวเลือันเข้มข้นโชยออกมา ไม่ทราบว่าบรรจุิ่ใดไว้ด้านใน
หลี่หรูอี้คาดเดาไปว่าคนขายเนื้อแซ่จางขายเนื้อหมู เช่นั้ในตะกร้าไผ่สานใบใหญ่จะต้องบรรจุเนื้อหมูไว้แน่ ตอนี้ครอบครัวคล้ายจะขาดแคลนไปทุกิ่ทุก่า เนื้อหมูเป็ดี หากนำไปตุ๋นยังขายหาเงินได้อีกจำนวนึ่ หากคิดทำการค้าขายเกี่ยวกับอาหารก็นับว่ามีเงินทุนแ้ ในใพลันรู้สึกยินดี “ท่านอย่าเพิ่งไป ข้ามีคำพูดฝากไปบอกท่านปู่จางหน่อยเจ้าค่ะ”
“หมอเทวดาน้อยแซ่หลี่ พูดมาเถิดขอรับ” เช่นี้แ้คนขายเนื้อแซ่จางจึงค่อยมีเวลาสำรวจหลี่หรูอี้ นางสวมอาภรณ์ตัวใหญ่สีเทาที่มีรอยปะชุนไปทั่ว รูปร่างไมู่ เส้นดูุ่เิ ผิวเืงเล็กน้อย ดตางามดุจผลซิ่งดูมีจิตวิญญาณ ปากนิดจมูกหน่อย นับว่างดงามา คอเชิดเล็กน้อยดูมีบารมี ดูฉลาดเฉลียวกว่าุหนูในห้องหอที่อยู่ในเมืองเีอีก
หลี่หรูอี้กล่าวไปตามตรง “กินคาวให้น้อย และให้นำผลสีแดงบนภูเขามาตากแห้งแ้นำไปต้มน้ำดื่มทุกวัน เช่นี้จะมีปะโยชน์ต่อร่างกายเจ้าค่ะ” ท่านปู่จางเป็คนร่างอ้วน ป่วยเป็โรคเลืออกในส ไขมันในเลืู และความดันโลหิตู กินผลสีแดงบนภูเขาจะช่วยลดไขมันในเลืและช่วยลดความดันโลหิต
ซึ่งผลสีแดงบนภูเขาก็คือ าา นั่นเอง
เมืองเยี่ยนอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือแคว้นต้าโจว บริเวณภูเขาใกล้ๆ มีซานจาป่าามาย จะออกผลาที่สุดในฤดูใบไม้ร่ บนต้นมีาาป่า สีแดงอยู่เต็ม เป็เช่นี้ทั่วทั้งภูเขา
ชาว้าจึงพากันึ้เขาไปเก็บาาป่าาินเอง หรือไม่ก็นำไปขายที่ตัวอำเภอ
ขายในอำเภอฉางผิง ผลใหม่ึ่กองใหญ่หนักห้าชั่ง ขายได้ึ่ทองแดง หากเป็ซานจาตากแห้งึ่กองใหญ่หนักปะมาณสามชั่ง ขายได้ึ่ทองแดง
เมื่อคนขายเนื้อแซ่จางได้ยินว่า เป็ผลแดงบนภูเขาที่มีราคาถูกา บนใบ้าจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ัจากขอบุอีกครั้งก็เดินจากไป
คนในครอบครัวหลี่รอจนกระทั่งคนขายเนื้อแซ่จางเดินไปไกลจึงค่อยนำตะกร้าไผ่สานใบใหญ่มาเปิดดู นำผ้าสีดำที่คลุมอยู่ด้านบนออก เดิมทีทุกคนต่างคิดว่าเป็เนื้อหมูึ่ตะกร้า ผู้ใดจะทราบว่าเป็เครื่องในหมูที่มีกลิ่นเหม็นและขาหมูสองขาที่เต็มไปด้วยขน
เครื่องในหมูปะกอบด้วยไส้ ัใ ตับ ี่โ ราคาถูกา ึ่ตะกร้าเพิ่งจะยี่ิกว่าชั่ง ทั้งหมดเป็เงินไม่กี่อีแปะ
ขาหมูสองขาหนักปะมาณี่ชั่ง ่าาก็ึ่อีแปะ เป็ที่ขายพ่ไปตอนขายเนื้อ
ฤดูร้อนอากาศยิ่งร้อน เครื่องในหมูมีกลิ่นคาว หากจัดการไม่ดีย่อมเป็ตัวเรียกพวกแมลงวัน ทั้งยังขายไม่ออกอีกด้วย
หวี่ๆๆ แมลงวันได้กลิ่นเครื่องในหมูพลันบินเข้ามา หนุ่มน้อยทั้งี่แห่ง้าหลี่รีบโบกมือไล่ปัดแมลงวันเป็การใหญ่
พ
จ้าวซื่อเห็นบุตรีสุดที่ัมีสี้าผิดหวังจึงรีบกล่าวไปว่า “ยังดีที่เป็เนื้อ”
หลี่อิงฮว๋ารีบกล่าวเสริม “เมื่อปีก่อนมีหมอพเนจรมาในหมู่้า ตรวจโรคออกเทียบยาให้ครอบครัวข่ง ท่านย่าข่งให้ผักปวยเล้งไปกำึ่ขอรับ”
.......................................
คำอธิบายเพิ่มเติม
[1] ัษาม้าตายปะึ่ม้าเป็ เป็ำี มีความหมายว่า ั้ๆ ที่รู้ว่าทำไม่ได้ก็ยังลองทำด้วยความหวัง
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา