เรื่อง ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชนบทตัวน้อยๆ : ความมั่งคั่งร่ำรวยมาถึงประตูของท่านแล้ว
ลูกค้าเก่าแก่ร่างอ้วนที่กำลังกินเกี๊ยว้ำคนึ่หัวเราะ “เถ้าแก่ แป้งย่างใส่ไข่บ้านหลี่เป็ึ่ไม่มีสองจริงๆ ขายราคาเท่านี้ก็ไม่นับว่าแพง”
าชราไฝดำบ่นใใจีครั้ง ทำไมสวรรค์ไม่บันดาลให้ข้าทำอาหารที่เป็ึ่ไม่มีสองออกมาได้บ้างเ่า
ลูกค้าที่มีร่างผอมแห้งีคนึ่พูดอย่างสนอกสนใจ “ทีเกี๊ยวผักเจ้าไม่มีแม้กระทั่งไข่ ยังขายถึงสามทองแเชียว”
าชราไฝดำรีบพูดอธิบาย “ข้าต้มเกี๊ยวก็ต้องใช้ฟืนและ้ำ”
ลูกค้าอ้วนพูดว่า “ฟืนบนภูเขาก็มี ้ำก็หาได้ทุกที่ แป้งย่างใส่ไข่ผู้อื่นมีไข่ไก่สอดไส้อยู่ด้านใ ทั้งยังมี้ำมันผักกาดก้านขาวอยู่ด้วย ้ำมันผักกาดก้านขาวราคาแพงมากทีเี”
าชราไฝดำไม่พูดอะไรี ก้ม้าทำเกี๊ยวต่อไป เขาลองทำแป้งย่างใส่ไข่ที่บ้านแ้ แค่ค่า้ำมันและไข่ไก่ก็ทำเอาเขากลัวว่าจะขาดทุน เาะไม่มีคนซื้อเหมือนกับแป้งย่างต้นหอม จึงล้มเลิกความคิดที่จะขายแข่งไป
“นั่นไม่ใช่ใต้เท้าหลิวที่ศาลาพักม้าหรือ เุใดจึงเดินรีบร้อนขนาดนั้น?” ลูกค้าอ้วนมองไปบนถนน เห็นบุรุษวัยกลางคนสวมชุดขุนนางสีเขียวผู้ึ่เดินนำาหนุ่มสวมอาภรณ์ดำสองคนเ้ามาด้วยท่าทางรีบร้อน
ลูกค้าผอมแห้งกล่าวถามด้วยความสนอกสนใจ “ใต้เท้าหลิว ท่านจะพาพวกเขาไปที่ใดแต่เช้าหรือขอรับ?”
ใต้เท้าหลิวมีรูปร่างไมู่และอ้วนท้วม เมื่อสวมชุดขุนนางสีเขียวทำใหู้เหมือนลูกบอลกลมๆ ลูกึ่ เวลาพูดคิ้วจะขยับไปมาูแ้ให้ความรู้สึกขบขันยิ่งนัก เขาโบกมือแ้พูดว่า “อย่าไปพูดถึงเลย ที่ศาลาพักม้า[1]มีแขกมา พวกเขารังเกียจที่อาหารเช้าไม่อร่อยจึงบันดาลโทสะ ใต้เท้าห่าวเลยให้ข้าออกมาซื้อแป้งย่าง พวกเจ้าเห็นเจ้าหนุ่มสองคนที่มาขายแป้งย่างหรือไม่?”
ตำบลจินจีเป็ตำบลสำคัญ มีแขกูศักดิ์มาเยือนมากมาย ศาลาพักม้าที่นี่จึงใญ่กว่าศาลาพักม้าที่ตัวอำเภอเสียี
ใต้เท้าห่าว ซึ่งเป็ขุนนางประจำศาลาพักม้า มีตำแหน่งเป็ขุนนางขั้นแปดระดับบน หากได้เลื่อนีึ่ระดับก็จะเป็ขุนนางขั้นเจ็ดระดับล่าง ูกว่านายอำเภออำเภอเล็กๆ แ้
ใต้เท้าหลิว เป็ผู้ช่วยมีตำแหน่งขุนนางขั้นแปดระดับล่าง ระดับนี้สามารถเป็ผู้ช่วยนายอำเภอที่ตัวอำเภอได้แ้
ลูกค้าร่างผอมรีบพูดขึ้นว่า “เห็นแ้ขอรับ พวกเขามาได้สักพักึ่แ้ ท่านรีบไปเถิด หากไปช้าแป้งย่างพวกเขาคงขายหมด่”
าชราไฝดำอดที่จะพูดไม่ได้ว่า “ใต้เท้าหลิว ที่ร้านข้าน้อยมีแป้งข้าวโพดย่างที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ ตอนเช้า จะซื้อสักหน่อยหรือไม่ขอรับ?”
ใต้เท้าหลิวรีบไปซื้อแป้งย่างจึงตอบไปโดยไม่หันกลับมามอง “แขกต้องการกินอาหารแปลกใหม่ แป้งข้าวโพดย่างเจ้าใครก็ทำได้ทั้งนั้น”
าหนุ่มชุดดำสองคนผายมือทั้งสองใส่าชราไฝดำที่มีสี้าผิดหวัง
“ยังมีแป้งย่างไข่ไก่อันใดนั่นเหลือีเท่าใด?” ใต้เท้าหลิวมองไปยังตะกร้าไผ่สานบ้านหลี่
หลี่อิงฮว๋าและหลี่หมิ่นหานหันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็คนใชุดขุนนางมาซื้อแป้งย่าง พลันรู้สึกหวาดหวั่นใใจ
หลี่อิงฮว๋ากระแอมลำคอให้โล่งโปร่ง พูดเบาๆ ว่า “ใต้เท้า พวกเราเหลือแป้งย่างใส่ไข่ีสิบสองแผ่นขอรับ”
ใต้เท้าหลิวมีสี้าไม่ค่อยพอใจ พูดขึ้นว่า “สิบสองแผ่นเองหรือ ไม่พอ”
หลี่หมิ่นหานรวบรวมความกล้าบอกไปว่า “พวกเรายังมีแป้งย่างต้นหอมีแปดแผ่นนะขอรับ”
“แขกต้องการกินอาหารแปลกใหม่ แป้งย่างต้นหอมนั่น ใครๆ ก็ทำได้ทั้งนั้น” ใต้เท้าหลิวนำคำพูดที่พูดกับาชราไฝดำเมื่อครู่นี้มาพูดกับสองพี่น้องบ้านหลี่ีครั้ง!
าหนุ่มชุดดำทั้งสองคนทีู่เหมือนจะเป็ผู้ติดา คนแพูดขึ้นว่า “ใต้เท้าขอรับ แป้งย่างต้นหอมบ้านหลี่อร่อยมากขอรับ”
“ใหมู่แป้งย่างต้นหอมที่ข้าน้อยเคยกิน แป้งย่างบ้านหลี่อร่อยที่สุดแ้ ใต้เท้าห่าวยังเคยให้ข้าน้อยมาซื้อให้ด้วย”
“เช่นนั้นก็ซื้อไปให้หมด ซื้อตะกร้าไผ่สานไปด้วยเลย” ใต้เท้าหลิวควักเก้อนเงิน[2]ออกมาจากถุงเงินด้วยท่าทางรีบร้อน จากนั้นจึงยัดใส่มือหลี่อิงฮว๋า สั่งให้ผู้ติดาถือตะกร้าไผ่สานกลับไปที่ศาลาพักม้าทันที
เมื่อหลี่อิงฮว๋าเห็นเก้อนเงินก็ไม่รู้ว่าเป็เงินเท่าใด แต่ต้องมากกว่าค่าแป้งย่างแน่นอน จึงรีบพูดไล่หลังไปว่า “ใต้เท้า เงินที่ท่านให้มากเกินไป…”
“ตกรางวัลให้เจ้า” ใต้เท้าหลิวพาผู้ติดาทั้งสองวิ่งผ่านไปราวสายลม าชราไฝดำที่ขายเกี๊ยวเห็นดังนั้นก็ต้องตกตะลึง คิดใใจว่า เุใดข้าจึงไม่เจอเรื่องดีๆ เช่นนี้บ้าง?
เมื่อสองพี่น้องบ้านหลี่ได้รับเงินมาแ้ ก็ไม่กล้าอยู่า จึงรีบกลับบ้านทันที เมื่อมาถึงบ้านก็หยิบเก้อนเงินออกมาให้จ้าวซื่อูด้วยท่าทางยินดี “ท่านแม่ ท่านรีบูเร็วเ้า นี่เป็เงินเท่าใดหรือขอรับ?”
จ้าวซื่อพูดอย่างยินดี “สามตำลึง วันนี้พวกเจ้าขายแป้งย่างได้เงินมากขนาดนี้เชียวหรือ?”
หลี่อิงฮว๋าตอบด้วยรอยยิ้ม “นี่เป็เงินที่ใต้เท้าหลิวศาลาพักม้าตกรางวัลให้ขอรับ นอกจากสามตำลึงนี้แ้ พวกเรายังหาได้ีาทองแเชียว”
หลี่ฝูคังเพิ่งหาบ้ำกลับมาจากแม่้ำ เมื่อเห็นน้องาทั้งสองกลับมาแ้ก็ส่งเสียงทักทายแ้นำ้ำไปเทลงใถัง จากนั้นจึงเดินเ้าไปยังห้องเก็บ แต่กลับไม่เห็นตะกร้าไผ่สานที่ใช้ใส่แป้งย่างทุกวัน จึงรีบวิ่งออกมาถามเสียงดัง “น้องสาม น้องี่ ตะกร้าไผ่สานบ้านเราเ่า?”
หลี่หมิ่นหานที่ยืนอยู่บริเวณประตูห้องโถงกวักมือเรียกหลี่ฝูคังด้วยท่าทางลับๆ ล่อๆ “พี่รอง าๆ ท่านมาูอะไรนี่”
หลี่หรูอี้และอู่โก่วจื่อเพิ่งลงจากเขา แยกย้ายกันกลับบ้านตนเอง เมื่อหลี่หรูอี้ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากห้องโถงบ้าน ตนก็รู้ว่าจะต้องได้เงินรางวัลมาเป็พิเแน่นอน าีใจมาก ูิ้ๆ ว่า “ูท่าทางแป้งย่างบ้านเราจะได้รับการยอมรับจากขุนนางศาลาพักม้าแ้”
หลี่อิงฮว๋ากล่าวชม “ฝีมือครัวน้องสาวไม่ต้องพูดถึงแ้ อาหารที่ทำออกมาแต่ละอย่างล้วนอร่อยเลิศรส”
หลี่ฝูคังและหลี่หมิ่นหานก็พากันชมเชยหลี่หรูอี้ไปด้วย
จ้าวซื่อยิ้ม “เงินสามตำลึงนี้ก็เก็บไว้ทำอาภรณ์ตัวใหม่ให้หรูอี้ตอนปีใหม่เถิด”
เ่าพี่าต่างตอบรับอย่างพร้อมเพรียง “ขอรับ”
“ขอบคุณท่านแม่และท่านพี่ที่คิดเผื่อข้า” หลี่หรูอี้นั่งลงข้างจ้าวซื่อ พูดอย่างสบายๆ ว่า “ใหมู่ปัจจัยี่ เสื้อผ้าอาภรณ์อยู่ใลำดับแสุด แต่ตอนนี้ข้าอยากจัดให้ที่อยู่อาศัยอยู่ลำดับแสุดมากกว่า”
หลี่ฝูคังถามอย่างสนอกสนใจ “ที่อยู่อาศัยหรือ?”
จ้าวซื่อคิดได้ว่า ระยะนี้บุตรีสุดที่รักพูดเรื่องความอันตรายบ้านาครั้งแ้ จึงถามว่า “เจ้าอยากซ่อมแซมบ้านพวกเราหรือ?”
หลี่หรูอี้พยัก้า “ใช่แ้เจ้าค่ะ โบราณว่าวิญญูชนไม่ยืนอยู่ใที่อันตราย บ้านพวกเราถูกแมลงกัดกินจนมีรูเล็กๆ ารู ไม่ปลอดภัยแ้ ข้าว่าจะเก็บเงินให้ได้มากพอเสีย่ค่อยนำไปซ่อมแซมบ้านครั้งใญ่”
หลี่ฝูคังมองไปที่หลี่หรูอี้และจ้าวซื่อีครั้ง เลิกคิ้วขึ้นพูดว่า “จะซ่อมแซมบ้านครั้งใญ่ต้องใช้เงินมากเกือบสิบตำลึงเลยทีเี”
หลี่หรูอี้กล่าวว่า “บ้านพวกเราเพิ่งทำการค้าไม่าก็เก็บเงินได้สามตำลึงแ้ ข้าคิดว่าหากเป็เช่นนี้ต่อไป สองเืคงเก็บเงินได้มากพอแ้เจ้าค่ะ”
หลี่อิงฮว๋าพูดอย่างตื่นเต้น “ข้าสนับสนุนน้องสาวขอรับ พวกเราซ่อมบ้านครั้งใญ่กันเถิด” ฤูหนาวใาปีที่ผ่านมา าค่ำคืนที่พวกเขานอนหลับไม่สนิทด้วยกลัวว่าหิมะจะตก หากหิมะตกสะสมบนหลังคามากเกินไป จะทำให้หลังคาถล่มทับพวกเขาตาย ถ้าเป็ฤูร้อน เมื่อฝนตกก็จะมี้ำรั่วลงมา
หลี่หมิ่นหานพูดอย่างยินดี “ข้าก็สนับสนุนน้องสาวขอรับ พวกเราพี่น้องจะต้องหาเงินสิบตำลึงได้ใสองเืแน่”
จ้าวซื่อมองไปยังหลี่ฝูคัง เมื่อเห็นเขามีท่าทางนิ่งเงียบคล้ายกับไม่มีความเห็นอันใด จึงบอกไปว่า “ข้ากับท่านพ่อพวกเจ้าเคยคิดเรื่องซ่อมแซมบ้านมา่แ้ เพียงแต่ที่ผ่านมาพวกเราไม่มีเงิน”
หลี่หรูอี้พูดอย่างยินดี “ท่านแม่ ท่านก็เห็นด้วยหรือ!”
“ข้ากับท่านพ่อเจ้าไม่เพียงแต่อยากซ่อมแซมบ้านครั้งใญ่เท่านั้น ยังคิดถึงเรื่องอื่นีด้วย” จ้าวซื่อมองไปยังหลี่ฝูคัง รู้สึกว่าเขามีลักษณะไม่เหมือนคนอื่น ช่างน่ารักบริสุทธิ์จริงๆ อดที่จะูิ้ๆ ไม่ได้ว่า “ปี้าพี่ใญ่และพี่รองเจ้าก็าุสิบี่แ้ คิดเรื่องหมั้นหมายได้แ้ ปีถัดไปก็แต่งงานได้พอดี ีหน่อยบ้านพวกเราจะมีคนเยอะขึ้น”
หลี่ฝูคังอายจน้าแ รีบวิ่งหนีออกจากห้องโถงไปท่ามกลางความสนใจเ่าน้องาน้องสาว
พ
หลี่หรูอี้หัวเราะ “ท่านแม่ พี่รองหูแหมดแ้เจ้าค่ะ”
จ้าวซื่อหัวเราะ จากนั้นจึงกระซิบบอก “หากจะสร้างห้องเพิ่มีสักสองห้อง คงใช้เงินมากกว่าสิบตำลึง”
.......................................
คำอธิบายเพิ่มเติม
[1] ศาลาพักม้า ื สถานที่ที่สร้างไว้สำหรับพักม้า เปรียบเสมือนจวนรับรองขุนนางไปใตัวด้วย
[2] เก้อนเงินหรือเเงิน ใสมัยโบราณจะใช้แร่เงินใการใช้จ่าย ซึ่งเงินที่นำมาทำเป็เหรียญก็ื เิำึ นอกจากนี้ยังมีเงินที่นำไปทำเป็ก้อน ซึ่งมีลักษณะคล้ายเรือเรียกว่า ตำลึงขาวหรือตำลึงเงิน ่เก้อนเงินื เแร่เงิน สามารถนำมาใช้จ่ายได้ โดยแต่ละก้อนจะมีค่าแตกต่างกันไปา้ำหนัก
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา