เรื่อง ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชนบทตัวน้อยๆ : ความมั่งคั่งร่ำรวยมาถึงประตูของท่านแล้ว
ใบสั่งจองสินค้าหนึ่งชุดมีฉบับ เนื้อหาเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ทั้งฉบับจะต้องมีรอยนิ้วมือของลูกค้าและหลี่เจี้ยนอันประทับอยู่ด้วย
ก่อนมาวันนี้ี่น้องปรึกษากันแ้ว่า จะให้หลี่เจี้ยนอันรับผิดชอบเก็บเงินตามใบสั่ง ่หลี่ฝูคังรับผิดชอบการส่งมอบขนมไหว้พระจันทร์รสหวานแก่ลูกค้า ่ี่น้องฝาแฝดมีใตรงกันจึงร่วมมือกันได้เป็อย่างดี
เพียงไม่าลูกค้าาสิบก็เดินถือตะกร้าไผ่สานที่บรรจุขนมไหว้พระจันทร์รสหวานกลับ้าไปด้วยใบ้าพึงพอใ ทว่ายังมีลูกค้าายังไม่ไป “้าข้าจะขอสั่งซื้อขนมไหว้พระจันทร์รสหวานตระกูลหลี่อีกห้าสิบชิ้น นี่เงินมัดจำ”
“ที่ซื้อไปเมื่อวานสามสิบชิ้นนั่นข้าซื้อให้้าตนเกิน แต่วันนี้จะซื้อไปให้ผู้อาวุโส”
“ขนมไหว้พระจันทร์รสหวานของ้าเ้าหอมดีจริงๆ หอมกว่าขนมไหว้พระจันทร์ของร้านขนมในเมืองเยี่ยนเีอีก ผู้อื่น่ากันว่าขนมไหว้พระจันทร์้าเ้าขายแพง แต่ข้าไม่คิดเช่นั้ วันนี้จะซื้อเพิ่มอีกสี่สิบชิ้น”
หลี่เจี้ยนอัน่าอย่างลำบากใ “ขอ่าตามตรง พวกเราก็กำหนดให้ลูกค้าในตำบลจินจีสั่งซื้อขนมไหว้พระจันทร์รสหวานได้าสุดครอบครัวละห้าสิบชิ้นเช่นกันขอรับ”
“ตำบลจินจีเล็กๆ จะสู้อำเภอฉางผิงของพวกเราได้อย่างไรเล่า”
“พวกเราเป็ลูกค้าเก่าของเ้า ก่อน้านี้ขอเพียงเ้าตั้งร้านขายแป้งย่าง พวกเราก็ไม่ไปซื้อแป้งย่างของร้านอื่นอีกเลย”
“ยังไม่เคยได้ยินว่า มีผู้ใดที่ลูกค้ามาหาถึงที่แ้กลับไม่ขายของ”
“พวกเ้าขายขนมให้ข้าหน่อยเถิด ให้ข้าซื้อขนมไหว้พระจันทร์เพิ่มเพื่อนำไปแสดงความกตัญญูแก่ผู้อาวุโสใน้ามิได้หรือ”
เมื่อทุกขอร้องาเข้า หลี่เจี้ยนอันก็พยัก้าตกลงในที่สุด
นี่คือการตาแบบยั่วน้ำลายที่หลี่หรูอี้่าถึง เป็การจำกัดปริมาณการซื้อขาย แต่กลับสามารถทำให้ปริมาณการซื้อขายเพิ่มาขึ้น
ัจากลูกค้ากลุ่มนี้กลับไปแ้ตาก็เปิดทำการ ชาว้าเดินออกมาจากประตูเมืองฉางผิงเพื่อมาจับจ่ายสินค้าตามปกติ
วันนี้ตระกูลหลี่ไม่ได้ขายแป้งย่างต้นหอม ขายเพียงขนมไหว้พระจันทร์รสหวานและรับจองสินค้าเ่าั้ หลี่เจี้ยนอันและหลี่ฝูคังจึงสบายกว่าเมื่อวาน
สายลมยามสารทพัดมา นำพากลิ่นหอมของขนมไหว้พระจันทร์รสหวานให้ตลบอบอวลไปทั่วทั้งตา กลิ่นนี้ไม่เพียงจะดึงดูดทุกเ่าั้ ทว่ายังดึงดูดไปถึงผู้ดูแลร้านขนมของตระกูลฉินที่ขายดีที่สุดในอำเภอฉางผิงด้วย
ผู้ดูแลร้านแซ่ฉินเป็ชายวัยกลางร่างูตัวอ้วน สวมชุดผ้าไหมสีเทา่ ตัวอ้วนกลมราวกับลูกบอล แต่กลับคาดเข็มขัดสีม่วงไว้ที่เอวจนแน่น ทำให้ผิวหนังช่วงท้องนูนออกมาเป็สามชั้น ดูแ้น่าขันยิ่งนัก
คุ้นเคยหนึ่งเดินเข้ามาโบกมือทักทาย “ผู้ดูแลฉิน เ้าก็มาซื้อขนมไหว้พระจันทร์ตระกูลหลี่ด้วยหรือ”
ผู้ดูแลฉินยิ้มจนตาหยีเป็เส้นเี “เพื่อน้าข้าซื้อขนมไหว้พระจันทร์รสหวานมาให้ข้าชิมแ้ ข้าคิดว่ารสชาติเป็เอกลักษณ์ดีจึงมาดูเีหน่อย”
หลี่เจี้ยนอันและหลี่ฝูคังไม่รู้จักผู้ดูแลฉิน จึงไม่ทราบว่าชายร่างอ้วนในชุดสีเทาที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ไม่ไกลเป็คู่แข่งทางการค้า
ผู้ดูแลฉิน่าว่า จะมาดูเีหน่อยก็ทำเช่นั้จริงๆ เขายืนอยู่จนกระทั่งหลี่เจี้ยนอันและหลี่ฝูคังเตรียมขับเกวียนกลับ้า ตนเจึงค่อยกลับไปที่ร้านขนมในอำเภอ
พนักงานหนุ่มร่างูผอมเดินเข้ามาถามว่า “ผู้ดูแลขอรับ ขนมไหว้พระจันทร์ตระกูลหลี่ขายดีหรือไม่”!
ตอนไปสังเกตการณ์ผู้ดูแลฉินแอบดูถูกขนมไหว้พระจันทร์ตระกูลหลี่อยู่ในใ คิดว่าพ่อค้าหาบเร่เล็กๆ จะขายขนมไหว้พระจันทร์ได้าเพียงใดกันเชียว ทว่าัจากผ่านไปได้ครึ่งชั่วยามก็ไม่กล้าดูถูกอีก หยาดเหงื่อไหลท่วมใบ้าอ้วนๆ คิ้วก็ขมวดแน่น “ดี” ดีเพียงใดน่ะหรือ ก็ดีาจริงๆ
พนักงาน่าอย่างกังวล “เช่นั้จะกระทบถึงกิจการร้านค้าของพวกเราหรือไม่”
“กระทบแน่” พนักงานผู้นี้ทำงานที่ร้านขนมมาาปีจนเรียกได้ว่าเป็สหายคู่คิดแ้ ผู้ดูแลฉินจึงไม่ปิดบังเขา “เดิมทีพรุ่งนี้ข้าคิดว่าจะไปซื้อขนมไหว้พระจันทร์ดีๆ จากเมืองเยี่ยนมาขายในราคาแพงเีหน่อย แต่ตอนนี้คงไม่ไปแ้”
สายตาของพนักงานทอดมองไปยังขนมไหว้พระจันทร์ราคาถูกสี่ชนิดที่จัดวางอยู่ในร้านก่อน่าขึ้นว่า “หรือปีนี้ร้านของพวกเราจะขายได้แต่ขนมไหว้พระจันทร์พวกนี้?”
“ใ่แ้ คงขายได้แต่ขนมไหว้พระจันทร์พวกนี้” ผู้ดูแลฉินเคยกินขนมไหว้พระจันทร์รสหวานตระกูลหลี่มาแ้ รสชาติดีกว่าขนมไหว้พระจันทร์ราคาแพงในเมืองเยี่ยนา ราคาก็ไมู่ เรียกได้ว่ามีเพียงหนึ่งไม่มี หากไม่ใ่โง่จะต้องมาซื้อขนมไหว้พระจันทร์ตระกูลหลี่แน่ คงไม่มาซื้อขนมไหว้พระจันทร์ราคาแพงจากเมืองเยี่ยนเป็แน่
ในฐานะที่เป็พ่อค้า ทั้งๆ ที่รู้ว่าสินค้าจะขายไม่ออกแ้ยังจะไปรับสินค้ามาทำไมอีกเล่า?
พนักงาน่าอย่างร้อนใ “ผู้ดูแลขอรับ ข้าได้ยินว่า ร้านเมี่ยนเซียงไจและร้านขนมตระกูลหลิวไปรับขนมไหว้พระจันทร์ราคาแพงมาจากเมืองเยี่ยนจำนวนา หากร้านของเราไม่รับของมาด้วย ลูกค้าคงไม่เข้าร้านแน่”
“ข้าจะไปสืบดูเีหน่อยว่า ร้านั้สั่งขนมไหว้พระจันทร์มาจริงหรือไม่” ผู้ดูแลฉินไม่สนใพักดื่มน้ำ รีบออกไปสืบเรื่องร้านขนมทันที ผลก็คือ เป็ดั่งที่พนักงาน่าจริงๆ ร้านเมี่ยนเซียงไจและร้านขนมตระกูลหลิวรับขนมไหว้พระจันทร์มาจากเมืองเยี่ยน ร้านละสี่พันชิ้น
ขนมไหว้พระจันทร์ที่ผลิตจากร้านขนมเมืองเยี่ยนแบ่งออกเป็สามระดับ แบบที่ถูกที่สุดชิ้นละสิบทองแดง แบบกลางชิ้นละสิบแปดทองแดง แบบที่แพงที่สุดชิ้นละยี่สิบทองแดง
ที่่ามาข้างต้นเป็เพียงราคาซื้อเ่าั้ เมื่อร้านเมี่ยนเซียงไจและร้านขนมตระกูลหลิวนำมาขายจะต้องเพิ่มราคาขนมไปอีกห้าทองแดง เมื่อเป็เช่นนี้ขนมไหว้พระจันทร์ที่รสชาติแย่ที่สุดยังต้องขายถึงสิบเจ็ดทองแดง แพงกว่าขนมไหว้พระจันทร์รสหวานตระกูลหลี่ตั้งเจ็ดทองแดง
ในคืนั้ผู้ดูแลฉินตัดสินใกระทำการตรงกันข้าม เขาจะไม่รับขนมไหว้พระจันทร์จากเมืองเยี่ยนมาขาย แต่จะไปรับขนมไหว้พระจันทร์ราคาถูกจากร้านขนมในตำบลใกล้เคียงมาขายแทน
เทศกาลไหว้พระจันทร์ของปีนี้ ร้านขนมตระกูลฉินขายเพียงขนมไหว้พระจันทร์ที่มีราคาถูกเ่าั้ ชิ้นที่แพงที่สุดชิ้นละหกทองแดง ชิ้นที่ราคาถูกสุดชิ้นละสามทองแดง
ในอำเภอมีรสนิยมทางด้านรสชาติอาหารูา อีกทั้งที่นี่ก็อยู่ไม่ไกลจากเมืองเยี่ยน ชาว้าที่ผ่านไปผ่านา็มีไม่น้อย แต่ก็ใ่ว่าทุกจะซื้อเพียงขนมไหว้พระจันทร์ราคาแพง ขนมไหว้พระจันทร์ราคาถูกก็มีตาใหญ่เช่นกัน
ผู้ดูแลฉินมีหัวการค้าดีา การตัดสินใในคราวนี้ทำให้ร้านขนมตระกูลฉินไม่ขาดทุนทั้งยังทำกำไรได้อีกเล็กน้อย ่ร้านขนมอีกร้านั้ขายไม่ออกจนขาดทุนไปาสิบตำลึงเงิน นี่เป็สิ่งที่่ากันภายั
วันนี้้าหลี่ได้รับใบสั่งซื้อขนมไหว้พระจันทร์รสหวานมาจากอำเภอฉางผิงทั้งหมดจำนวนพันหนึ่งร้อยเจ็ดสิบชิ้น
เด็กๆ ้าหลี่นำงานทั้งห้าทำงานจนมือเป็ระวิงจึงไม่ทราบว่าปริมาณการขายขนมไหว้พระจันทร์รสหวานของพวกตนได้ส่งผลกระทบถึงธุรกิจร้านขนมในอำเภอฉางผิงแ้
ไม่ทันไรก็ถึงเวลาพักกินอาหารเย็น เมื่อหมูทอดกระเทียมชามใหญ่ถูกยกขึ้นโต๊ะ งานทั้งห้าก็พากันตกตะลึงจนตาค้าง
้าหลี่ทำการค้ามาาเดือนแ้ กินแต่เครื่องในหมู หางหมูและขาหมูที่ขายเนื้อแซ่จางเอามาให้ นี่เป็ครั้งแรกที่จ่ายเงินซื้อเนื้อหมูกันเ
จ้าวซื่อเห็นความลำบากของลูกๆ อยู่ตลอดโดยเฉพาะช่วงวันมานี้ นางรู้สึกปวดในักจึงไม่ตำหนิที่หลี่หรูอี้ซื้อเนื้อหมูมาทอดกิน
นอกจากหมูทอดกระเทียมก็มีแตงกวาผัดไข่อีกชามใหญ่ ่อาหารหลักคือ หมั่นโถวขนาดใหญ่เ่ากำปั้นผู้ใหญ่ ึ่ทำมาจากแป้งหยาบและแป้งขาวผสมกัน
ทุกกินกับข้าวชามใหญ่กันจนเกลี้ยง กระทั่งน้ำแกงในชามก็ถูกอู่โก่วจื่อตัวตะกละตะกลามกินลงท้องไปจนหมด
ัจากกินอาหารเสร็จ หลี่เจี้ยนอันก็พูดกับงานทั้งห้าตามที่หลี่หรูอี้กำชับไว้ว่า “เงินสิบทองแดงนี่เป็เงินค่าจ้างของวันนี้ พวกเ้าเอาเงินกลับไป้า ไปบอกที่้าว่า ปลอดภัยดีก่อนค่อยกลับมาทำงานกันต่อเถิด คืนนี้ยังต้องทำงานกันถึงดึก แ้พวกเ้าก็ที่้าข้าเลยแ้กัน”
ไม่มีใครไม่ชอบเงิน โดยเฉพาะเด็กชายเด็กหญิงทั้งห้าที่ครอบครัวยากจน พวกเขาได้กินอาหารดีๆ ตอนเช้าก็เพิ่งได้รับค่าจ้างมาสิบทองแดง ตกเย็นก็ได้รับมาอีกสิบทองแดง รวมเป็ยี่สิบทองแดงแ้ รายได้เช่นนีู้พอๆ กับผู้ชายผู้ใหญ่ที่ไปทำงานสร้างกำแพงในเมืองเยี่ยนเลยทีเี จะทำใรับไว้ได้อย่างไร ัั้พวกเขาจึงไม่กล้ารับ
หลี่หรูอี้ที่ยืนอยู่ข้างๆ สังเ่าาของทั้งห้า เห็นว่าไม่มีใครมีความโลภในดวงตาจึง่าเสริมไปว่า “พวกเ้าเอาเงินกลับไปให้ครอบครัวก็พอ แต่ต้องจำไว้ให้ดี พวกเ้าจะต้องเงียบไว้ ห้ามพูดเรื่องครอบครัวของเรากับผู้อื่นเด็ดขาด”
อู่โก่วจื่อรีบรับคำทันที “ต่อให้ตีให้ตายข้าก็ไม่พูดแน่”พ
อีกสี่ที่เหลือรีบเอ่ยปากสัญญาเช่นกัน ห้าี่น้อง้าหลี่ยัดเงินใส่มือพวกเขา พวกเขาจึงค่อยรับไว้ด้วยใบ้าซาบซึ้งใ จากั้จึงวิ่งเอาเงินกลับไปมอบให้ที่้า เพียงไม่าก็วิ่งกลับมาในสภาพเหงื่อโทรมา
วันต่อมาหลี่เจี้ยนอันและหลี่ฝูคังไปขายขนมไหว้พระจันทร์รสหวานที่ตำบลจินจี ได้รับคำสั่งซื้อมาเพิ่มอีกห้าร้อยสี่สิบชิ้น ก่อนกลับยังไปเหมาซื้อน้ำมันงาจากร้านธัญพืชมาด้วย ทำให้ผู้ดูแลดีใจนแถมน้ำมันพืชให้อีกชั่ง
ชายชราไฝดำวิ่งตามมาถึงประตูตำบล ่าถามเีงัว่า “เ้าไม่ขายแป้งย่างต้นหอมแ้หรือ”
.............................
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา