เรื่อง คู่มือเศรษฐีนีชาวนาฉบับสาวน้อยทะลุมิติ
เจินจูพินิจพิเคราะห์หยกในมือไปพลาง หวนนึกถึงเหตุการณ์บางอย่างที่กลัดกลุ้มใจไปพลาง ดูจากปะสบการณ์หลายปีที่หล่อหลอมเธอมา คาดว่านี่อาจจะเป็นของจำพวกจี้หยกหรือแผ่นหยก จี้หยกอาจเป็นป้ายปะจำตัวของใครบางคนหรือบางสำนัก แผ่นหยกก็เป็นตัวกลางที่สามารถเก็บข้อความบางอย่างเอาไว้ได้
“ฮ่าๆ…เรานี่ฉลาดจริง” เธอกล่าวอวดตนเ หัวเราะแหะได้ไม่กี่วินาทีก็กลับมางงอีก “ถึงรู้ว่าเป็นของสิ่งใด แล้วมันมีปะโยชน์อะไรเล่า?”
เธอขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง และตัดสินใจวางมันลงบนโต๊ะด้านข้างก่อนหยัดกายขึ้นและเปิดสำรวจลิ้นชักที่เหลือต่อไป
สิบนาทีต่อมา เจินจูหอบแฮ่ก ผิดหวังจนต้องกลับมานั่งลงบนเก้าอี้ ในลิ้นชักแปดสิบเอ็ดช่องล้วนว่างเปล่าทั้งหมด
“หลอกลวงอาเจ้หรือ…” ในใจเธอร้องโหยหวนอยู่พักหนึ่ง
“ก็รู้ว่าไม่ได้โชคดีขนาดั้ ซื้อลอตเตอรี่แม้แต่เงินห้าหยวนก็ยังไม่เคยถูก ยังฝันว่าจะได้ว่าเป็นยาวิเศษหรือหนังสือศิลปะการต่อสู้ที่ล้ำค่าอะไรกัน”
เฮ้อ... มาเผชิญความจริงชัดๆ กันเถอะ
เธอหยิบหยกบนโต๊ะขึ้นมาและพิจารณาต่ออย่างไม่ยินดี นึกถึงพวกนิยายปะเภทฝึกฝนการเป็นเซียนขึ้นมาได้ ดูเหมือนว่าพวกตัวเจะต้องอาศัยพลังวิญญาณหรือพลังปราณมาใช้สำรวจวัตถุแต่ละอย่างหรือเปล่า?
เจินจูคิดด้วยความสับสน นิยายที่อ่านในอดีตส่วนาก็อ่านแบบกวาดตาผ่านตัวหนังสือเร็วๆ ไม่ได้คิดวิเคราะห์จดจำรายละเอียดส่วนไหนได้ ถ้ามีคนถามว่าแก้วทำจากอะไร เธอก็สามารถตอบได้เลยว่าทำขึ้นจากสารที่อยู่ในทราย ถ้าถามว่าสบู่ทำขึ้นมาได้อย่างไร เธอก็จำได้ว่าเกิดจากการจับตัวกันของไขมันหมู ส่วนรายละเอียดอย่าได้คาดหวังว่าเธอจะจำได้
เจินจูเกาศีรษะ รู้สึกงงจับทางไม่ถูก พลังวิญญาณคืออะไร? แล้วพลังปราณหาได้จากที่ไหน? สิ่งเหล่านี้สัมผัสก็ไม่ได้ ก็ไม่เห็นและยังไม่เคยพบปะา่อน ผู้ใดจะสามารถอธิบายให้เธอได้บ้าง?
เธอไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ก็นำหยกวางลงบนโต๊ะ ตัดสินใจจัดการกับเรื่องอื่นก่อน อาทิเ่ จะออกไปจากมิติช่องว่างตอนนี้ได้อย่างไร
เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ในใจบังเกิดความคิดอยากออกไปจากที่นี่
ทันใดั้ก็รู้สึกว่าภาพตรงหน้าช่างลางเลือน มืดจนอะไรไม่เห็นอะไร ไม่นานหลังจากั้ร่างของเธอก็กลับมานอนอยู่บนเตียง ความรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วกายก็ตามมาเ่กัน ที่เธอคาดเดาไว้ไม่ผิดจริงๆ การอยู่ในมิติช่องว่างความรู้สึกเจ็บปวดจะลดลงไปา เมื่อจู่ๆ ก็ถูกความรู้สึกเจ็บปวดกระตุ้นขึ้นมาฉับพลัน เธอจึงร้องออกมา “โอ๊ย…”
เสียงร้องดังลั่นย่อมดังเป็นพิเศษในความมืดมิดอันเงียบงัน เธอตกใจจนต้องยกมือปิดปากทันที กลั้นลมหายใจให้เงียบแล้วเงี่ยหูฟังสักครู่ เมื่อไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวภายนอกห้องจึงผ่อนลมหายใจออกมา
เธอนอนหงายอย่างเงียบๆ ภายใต้ความมืด เอื้อมมือไปลูบหาสิ่งของข้างหมอนด้วยความเคยชิน ผ่านไปสักพักถึงนึกขึ้นได้ว่าที่นี่เป็นยุคสมัยที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ
โดยทั่วไปการสื่อสารระหว่างกันต้องอาศัยการร้องตะโกน การคมนาคมก็อาศัยการเดิน การจะทำให้ตนเอบอุ่นก็ต้องอาศัยการขยับตัว ส่วนยามนี้จำต้องใช้ปะสบการณ์ส่วนตัวเป็นหลักแล้ว เธอยิ้มเยาะปลอบใจตนเ เวลากลางวันยังใช้แสงอาทิตย์แยกแยะได้ ดึกขนาดนี้คงทำได้เพียงนอนรอฟ้าสว่าง
เธอนับนิ้วเพื่อปะเมินเวลาที่อยู่ในมิติช่องว่างน่าจะไม่เกินสองชั่วโมง รวมกับเวลาที่เธอหมดสติไป อย่างไรก็ไม่เกินเที่ยงคืน
“อืม ยังไม่ดึกเลย เข้าไปศึกษาหยกชิ้นั้อีกรอบเสียหน่อย อีกอย่างอยู่ข้างในั้ร่างกายก็ไม่ค่อยเจ็บด้วย” สำหรับนกฮูก [1] ที่มักนอนหลังเที่ยงคืนไปแล้ว นับว่าเวลานี้ยังคงเร็วเกินไปที่จะพักผ่อน
ทันทีที่ใจคิดเ่ั้ เธอก็รู้สึกว่ามีแรงดึงดูดเกิดขึ้นฉับพลัน เพียงชั่มลมหายใจเดียวก็มาปรากฏอยู่บนผืนหญ้าสีม่วงอีกครั้ง กลิ่นหอมรางเลือนในอากาศทำให้เธอรู้สึกสบายเป็นอย่างา ความเจ็บปวดบนร่างน้อยลงไปครึ่งหนึ่งทันที
เจินจูไม่ได้เข้าไปในกระท่อมทันที แต่เดินเอื่อยๆ ไปยังสระน้ำเล็กๆ ข้างกระท่อม นั่งยองๆ ลงพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน
น้ำแร่นี่ช่างสะอาดใสแจ๋ว ตาน้ำข้างใต้มีฟองน้ำเล็กๆ พากันผุดออกมาเป็นครั้งคราว ฟองกลมมันวาวแย่งกันลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ ช่างน่ารักเหลือเกิน กรวดหินเล็กใหญ่แตกต่างกันกระจายอยู่ก้นสระไม่น้อย ทะลุผิวน้ำลงไปย่อมเห็นหินทุกก้อนได้อย่างชัดเจน
สีหน้าฉายแววสงสัยเล็กน้อย เธอเอื้อมมือไปแตะผิวน้ำเบาๆ น้ำแร่อุณหภูมิเย็นฉ่ำ เห็นใสแจ๋ว เจินจูลังเลใจเล็กน้อย ก่อนที่สองมือก็วักน้ำในแอ่งขึ้นมาดื่มสองอึกโดยไม่รู้ตัว น้ำแร่บริสุทธิ์รสหวานแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายซึมซาบถึงก้นบึ้งในจิตใจ
เจินจูหยุดชะงักชั่วครู่ ไม่ได้รู้สึกว่ามีตรงไหนผิดปกติ ทว่ากลับรู้สึกถึงความเจ็บบนร่างกายที่เบาลงชัดเจน เธออดยิ้มให้กับน้ำแร่ตรงหน้าไม่ได้ !
“อันนี้มีปะโยชน์ จริงๆ ก็ไม่ได้คาดหวังว่าแกสามารถล้างเอ็นตัดไขกระดูกได้ แค่สร้างสุขภาพและกระดูกให้แข็งแรงทุเลาความเจ็บไปได้ก็นับว่าดีาแล้ว”
เธอน้ำแร่อย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง ในตาทอปะกายความตื่นเต้นดีใจ แต่ไม่กล้าดื่มเข้าไปอีก หากดื่มาไป ดึกดื่นค่อนคืนมืดมิดไร้แสงไฟจะหาห้องน้ำเข้าได้ที่ไหนกันเล่า ในมิติช่องว่างนี้ก็ไม่มีที่แบบั้ด้วย เธอไม่สามารถเข้าห้องน้ำในสถานที่สวยงามเ่นี้ได้หรอก อย่างไรเสียอนาคตก็ยังอีกยาวไกล รอฟ้าสางแล้วค่อยว่ากัน
เจินจูหมุนกายผืนนา ดูไม่เจอเงื่อนงำอะไร จึงเดินวนรอบแปลงนาหนึ่งรอบ ปากก็เอ่ยพึมพำ “ผืนนานี่เล็กไปหน่อย ปลูกอะไรก็ไม่ได้เยอะ พรุ่งนี้ลองเพาะเมล็ดพันธุ์พืชดูแล้วกัน”
เธอไปรอบด้าน สังเกตอย่างละเอียดอีกครั้ง นอกจากจะพบว่ามุมกำแพงมีจอบอยู่หนึ่งเล่มนอกจากั้แล้วก็ไม่เห็นสิ่งของพิเศษอะไรอื่น จึงเดินไปทางกระท่อม ั้ใจคิดแก้ปัญหาเรื่องหยกชิ้นั้ต่อ เธอเพิ่งคิดวิธีใช้อย่างหนึ่งได้ เลยคิดจะลองดู
เธอเดินเข้ามาในห้องแล้วนั่งลง หยิบหยกขึ้นมาด้วยความระมัดระวัง ก่อนจะนำมันมาแปะติดบนหน้าผากเบาๆ หลังจากั้ก็รวบรวมจิตใจ ใช้ใจสัมผัส นี่คือวิธีที่เธอคิดได้ในเวลานี้
สักพักขณะที่เธอคิดว่าคงไม่เกิดปะโยชน์อะไรแล้ว ก็เกิดเสียงดัง “ตูม” ขึ้นในสและข้อมูลามายก็หลั่งไหลเข้ามา
ชั่วพริบตาเดียวเจินจูก็รู้สึกมึนเมา จิตใจไม่มั่นคง จนกระทั่งเวียนศีรษะและอยากอาเจียน เธอนอนคว่ำอยู่บนโต๊ะเพื่อระงับความรู้สึกอึดอัดเหล่านี้ ผ่านไปนานพอดูถึงจะแยกย่อยข้อมูลชิ้นใหญ่นี้ได้สำเร็จ
“ฮู่ว…เวียนหัวจนอาเจ้จะตายแล้ว ทรมานกว่ารถไฟเหาะที่เคยนั่งอีก” เจินจูหอบหายใจสองสามครั้ง สงบจิตสงบใจแล้วจึงเริ่มจัดการข้อมูลในสที่เพิ่งได้รับมา
นี่คือมิติช่องว่างสวนสมุนไพรของคนโบราณเก่าก่อน ที่ใช้เพาะปลูกวัตถุดิบยาหายากและมีจำนวนจำกัด เพื่อนำาลั่นเป็นยาลูกกลอนแต่ละชนิด เดิมทีโลกใบเล็กนี้ควรจะเป็นสวนสมุนไพรที่มีขนาดกว้างใหญ่ไพศาล น่าเสียดายที่ร่างเล็กของหูเจินจูคนนี้เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ไร้ปัญญาบำเพ็ญเพียรเป็นเซียนโดยสิ้นเชิง หากปราศจากสิ่งที่เรียกว่าแก่นรากจิตวิญญาณแล้ว ก็ไร้หนทางที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดที่กำหนดโดยมิติช่องว่างได้
ดังั้มิติช่องว่างที่เธอได้เห็นจึงเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งของสวนสมุนไพรเท่าั้ อีกอย่างคือทุกสิ่งที่อยู่ในมิติช่องว่างที่เธออยู่นี้ล้วนถูกจำกัดข้อห้ามเอาไว้ เ่ พลังเหนือธรรมชาติที่ซ่อนไปทั่วในอากาศอาจมีเพียงหนึ่งในห้าของพลังที่ แท้จริง ปะสิทธิภาพที่ซ่อนอยู่ในน้ำแร่ก็เป็นเพียงครึ่งหนึ่งของปะสิทธิภาพเดิม และสวนสมุนไพรเล็กๆ แปลงั้จำเป็นต้องอาศัยการรดน้ำของน้ำแร่ วัตถุดิบยาจึงจะสามารถเติบโตได้ หาไม่แล้วความเร็วในการเจริญเติบโตก็จะช้าลงครึ่งหนึ่งเ่กัน
เจินจูเอนหลังพิงบนเก้าอี้ พร่ำบ่นเพราะรู้สึกไม่เป็นธรรมว่า “ลดลงครึ่งหนึ่งทุกอย่าง รังแกคนธรรมดาชัดๆ เลย เหอะ... หรือว่าใครก็สามารถบำเพ็ญเพียรเป็นเซียนั้แต่กำเนิดได้เล่า”
แม้ว่าการบำเพ็ญเพียรเป็นเซียนจะเลื่อนลอยเกินไป แต่เพราะไม่มีแก่นรากจิตวิญญาณและพลาดปะสิทธิภาพของมิติช่องว่างสวนสมุนไพรแบบเต็มที่ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอค่อนข้างหดหู่ใจากว่า
แต่ถึงอย่างไรสภาพจิตใจของเธอก็ถือว่าบรรลุนิติภาวะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ปะเดี๋ยวเดียวเธอก็ปล่อยวางได้ มนุษย์ย่อมต้องรู้จักพอใจในสิ่งที่มี เมื่อมีผู้ให้ถึงจะมีผู้รับ ที่จริงเธอเป็นเพียงคนธรรมดา ได้ครอบครองมิติช่องว่างขนาดเล็กเ่นี้ก็นับว่าสวรรค์มีเมตตาแล้ว สำหรับมิติสวนสมุนไพร บางทีมันอาจจะไม่ควรเป็นของมนุษย์เดินดินบนโลกั้แต่แรกด้วยซ้ำ
จิตใจของเจินจูเหนื่อยนิดหน่อย สภาพจิตใจของเธอวันนี้ผันผวนา แม้ว่าร่างกายที่อยู่ในมิติช่องว่างจะสบายกว่าด้านนอก แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากชีวิตความเป็นจริงมาอยู่ในมิติช่องว่างได้ตลอดไป
เธอใจสั่นเบาๆ วินาทีถัดา็กลับมาปรากฏบนเตียง ยามนี้นอกห้องเงียบสงัด มีเสียงร้องระงมของแมลงดังหวีดหวิว บางคราวมีกลิ่นอายจากพงหญ้าโชยมาในค่ำคืนอันมืดมิด เจินจูนอนหงายอยู่บนเตียงเงียบเชียบ แล้วไม่นานก็ผล็อยหลับไป
วันต่อมา ยามฟ้าเพิ่งสาง เจ้าบ้านสาวของตระกูลหูก็ตื่นแต่เช้าตรู่ วันที่วุ่นวายก็เริ่มต้นขึ้นด้วยการเตรียมทำอาหารเช้าของครอบครัว
ตอนที่เจินจูตื่นขึ้นา็เป็นเวลาฟ้าสางแล้ว
อากาศในป่าเขาสะอาดสดชื่นเป็นพิเศษ เธออดสูดหายใจเข้าออกลึกๆ ไม่ได้ รู้สึกจิตใจผ่อนคลาย อาการบาดเจ็บภายนอกมีเจ็บปวดบ้างเล็กน้อย แต่ดีขึ้นกว่าเมื่อวานา
เธอขยี้ดวงตาตัดสินใจตื่นขึ้นมาจัดการกับสรีระร่างกาย เลิกผ้าห่มออก อากาศเย็นฉ่ำทำให้เธออดสั่นเทาไม่ได้ หยิบเสื้อกันหนาวลายดอกไม้เล็กๆ ที่อยู่บนหัวเตียงมาสวมไว้ลวกๆ ข้างเตียงมีรองเท้าผ้าสีดำสภาพเยินอยู่คู่หนึ่ง คิดว่าน่าจะเป็นของหูเจินจู
สวมรองเท้าเสร็จกำลังคิดจะออกไป เสียงเรียกลูกไก่ให้กินอาหารของเจ้าผิงอันน้องชายตัวเล็กจากนอกห้องก็ดังเข้ามา “กุ๊ก…กุ๊ก…กุ๊ก” งานให้อาหารไก่นี้เดิมทีเป็นนางที่ทำมาโดยตลอด คิดว่าผิงอันนึกอยากช่วยหลี่ซื่อทำงานบ้านยิบย่อย ครั้นนึกถึงผิงอันที่รูปร่างเล็กกำลังเลียนแบบท่าทางการเรียกไก่ของเธอ เจินจูก็อดที่จะยิ้มปลื้มอกปลื้มใจไม่ได้ เด็กรู้ความมักทำให้คนเอ็นดู
อาการบาดเจ็บที่ขาท่อนล่างยังมีความเจ็บอยู่บ้าง เธอลากขาที่เป๋เล็กน้อยมายังปะตู สิ่งที่สะท้อนเข้ามาในม่านตาคือหจางๆ รางเลือนปกคลุมลงมาที่ลานบ้านของครอบครัวเกษตรกรเล็กๆ ควันจากการทำอาหารลอยตลบอบอวลพวยพุ่งที่ห้องครัวฝั่งตรงข้าม เห็นหลี่ซื่อกำลังทำอาหารเช้าอยู่ ในลานเล็กๆ ผิงอันกำลังถืออาหารไก่เทกลับเข้าไปในชาม เมื่อเห็นว่าเจินจูเปิดปะตูออกมา ดวงตาของผิงอันก็เป็นปะกาย เขาวางชามลงวิ่งเข้ามา “ท่านพี่ ท่านตื่นแล้ว”
“อืม อรุณสวัสดิ์ผิงอัน เจ้าขยันจริงๆ ให้อาหารไก่ได้ด้วย” เธอลูบศีรษะของผิงอันแล้วยิ้มชื่นชมเขา
ใบหน้าเล็กของผิงอันเงยขึ้นก่อนรับอย่างภูมิใจว่า “ข้าทำได้มานานแล้ว ต่อไปให้ข้าเป็นคนเลี้ยงไก่เถิด”
“…ได้สิ ผิงอันเป็นเด็กดีจริงๆ รู้จักช่วยทำงานในบ้านด้วย ท่านพ่อกลับมาเห็นว่าทำได้เ่นี้ต้องดีใจาเป็นแน่”
ผิงอันชอบท่านพ่อหูฉางกุ้ยของเขาาที่สุด แม้หูฉางกุ้ยจะเงียบขรึมไม่ถนัดพูดจา ก็มิได้เป็นอุปสรรคต่อใจที่สนิทชิดเชื้อของผิงอัน เพราะหูฉางกุ้ยมักพาเขาทำกิจกรรมจำพวกขึ้นเขาไปจับไก่หรือไม่ก็ลงคลองจับปลาและกุ้งบ่อยๆ สำหรับเด็กผู้ชายในชนบทสิ่งเหล่านี้เป็นการเล่นที่สนุกสนานที่สุด กลับกันกับหูเจินจูคนเดิมที่ไม่สนิทชิดใกล้กับหูฉางกุ้ยเลย เพราะบนใบหน้าหูฉางกุ้ยมีรอยแผลเป็น และมักถูกคนหัวเราะเยาะพูดในทำนองว่ามีบิดาขี้เหร่
หลี่ซื่อได้ยินการเคลื่อนไหวบริเวณลานบ้านก็วิ่งเข้ามา เห็นเจินจูเดินออกมาด้วยตนเ ดวงตาก็เผยให้เห็นความกังวลใจอย่างห้ามไม่อยู่ ตบหัวไหล่ของเธอเพื่อส่งสัญญาณว่าให้กลับไปพักผ่อน เจินจูด้วยความอบอุ่นใจ แล้วกล่าวกลับไปอย่างอ่อนโยน
“ท่านแม่ ข้าดีขึ้นาแล้ว ไม่เป็นอะไร” ขณะพูดยังหมุนตัวอยู่ที่เดิมรอบหนึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเดีขึ้นาแล้วจริงๆ
หลี่ซื่อย่นหัวคิ้วเล็กน้อย ในตาเกิดปะกายเคลือบแคลงสงสัย สภาพอาการบาดเจ็บที่แล้วสาหัสขนาดั้ดีขึ้นเร็วเพียงนี้เลยหรือ?
เจินจูเห็นความสงสัยในดวงตาของนาง จึงอธิบายด้วยความหนักใจเล็กน้อย “เอ่อ... บาดแผลเมื่อวานเพียงแค่ดูสาหัสเท่าั้ ที่จริงแล้วมีแค่การกระแทกบนหน้าผากั้ที่รุนแรงอยู่เล็กน้อย ที่อื่นไม่มีส่วนใดเป็นอะไรเลย” เธอเล่ารายละเอียดด้วยความจริงจังพ
“ท่านแม่ ข้าไปปลดทุกข์ก่อน อีกเดี๋ยวค่อยว่ากันเถิด” กลัวว่าหลี่ซื่อจะระแคะระคายอะไรเข้า เจินจูจึงใช้ข้ออ้างหนีไปปลดทุกข์เสียดื้อๆ
เชิงอรรถ
[1] นกฮูก สามารถใช้เรียกคนที่นอนดึกๆ ดื่นๆ หรือตอนกลางคืนไม่หลับไม่นอนอีกด้วย
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา