เรื่อง คู่มือเศรษฐีนีชาวนาฉบับสาวน้อยทะลุมิติ
เื่มองอย่างละเอียดับพบเ็สาวัเล็กที่หวีผมทรงมวยห่วงคูู่ดีและปราดเปรียวยืนอยู่ข้างึ่ ผิวละเอียดขาวสะอาดขลับให้ดวงาเป็ปะาแวววาวมีชีวิตชีวา มุมปากมีเลืฝาดค่อยๆ ยกึ้จนปรากฏาขี้เล่นและ่ารัก เ็สาวัผอมเล็กทีู่ไม่เด่นในาทรงจำ ได้เปี่แปลงไปมากมายเพียงี้เลยหรือ
หูฉางหลินตกใจ รู้สึกปลงอนิจจังไม่ได้ “นี่ไม่ได้เจอกันแค่ึ่เดือน่า เจินจูก็โตเป็สาวงดงามขนาดี้แล้ว เปี่ไปเีจนลุงจำไม่ได้เลย ีทั้งยังคิดวิธีการใช้เตียงอบแห้งเห็ดได้ี ยิ่งโตยิ่งฉาจริงๆ ”
เจินจูยกมุมปากยิ้มอย่างไม่เขินอาย ตอบับอย่างสุภาพเรียบ้ “ล้วนเป็คุณงามาดีของท่านย่า ข้าเพียงพูดไปเ่านั้น ระดับาร้อนและเวลาอบแห้งเป็ท่านย่าที่ลองทดสอบมาทีละนิดๆ ท่านย่ายังาหลับขับานอน ไม่สามารถอบเห็ดให้แห้งได้ทั้งหมดอยู่าคืน ท่านลุง พวกท่านับมาได้ทันเวลาพี สามารถ่แบ่งเบาภาระได้บ้าง าวันมาี้้ลำบากท่านย่าแล้ว”
่าจบแล้วหันไปยิ้มหวานให้หวังซื่อึ่ที
หวังซื่อฟังแล้ว ยิ้มจนดวงาหยี สายาที่มองไปยังเจินจูมีาสนิทสนมอยู่าส่วน “ย่าไม่ลำบากเลย พวกเ้าสองพี่น้องที่ึ้เขาไปุัย่อมลำบาก่า รอเอาเห็ดไปขายได้แล้ว ย่าจะทำเสื้อผ้ามอบให้พวกเ้าละชุดนะ”
หูฉางกุ้ยมองไปที่เจินจูด้วยาปะหาใจ เจินจูสังเกตเห็นสายาที่มองมาก็มองับไป หูฉางกุ้ยจึงเคลื่อนสายาไปทันที เขาโน้มลำัลง้หน้าามนิสัยที่เคยชิน ทำให้ผมหน้าม้าบนหน้าผากปกคลุมไปครึ่งใบหน้า
เจินจูถอนหายใจึ่เฮือกในใจ ท่านพ่อี้เดิมทีมีนิสัยเก็บเนื้อเก็บั และเพราะรอยแผลเป็บนใบหน้ายิ่งเพิ่มาน้อยเนื้อต่ำใจให้หดลดลงไปี ้หน้า้าำาทั้งปี นับเป็จำพวกสามตะบองตีไม่ผายลม บวกกับหลี่ซื่อที่เดิมทีก็พูดไม่ได้อยู่แล้ว ีทั้งหูเจินจูที่ปกติพูดจาน้อยคำได้ ทำให้บางครั้งบ้านของพวกเขาเงียบสงัดปานทะเลา ยังดี ในบ้านมีผิงัที่ยังร่าเริงะฉับะเฉง นำพาาะปรี้ะเปร่ามาสู่ครอบครัวที่่าอึดอัดี้บ้าง
เพราะเห็ดสดเปี่สีง่ายจำเป็้รีบอบให้แห้ง แต่ถ้าหากนางลงมื้วยัเองจะทำให้ในบ้านขาดแคลนกำลังหลักที่เหมาะสมไป ชุ่ยจูยัง้ทำอาหารเย็นอย่างเร่งรีบ เจินจูยังเ็นักเผาเตียงไม่เป็ ฟูเหรินึ่อยู่เฝ้าบ้าน ีึ่ท้องโต ะทั่งหวังซื่อก็ไม่สามารถูแลได้ ้ปล่อยให้พี่น้องสองที่เิทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อยบนท้องถนนได้พักผ่อนเอง และไม่าัจากนั้นก็เีใช้ทั้งสองต่อ สอนทั้งสองด้วยตนเองว่าควรควบคุมอุณหภูมิอย่างไร อบเห็ดให้แห้งอย่างไร ทำึขั้นไหนจึงจะพี ัถ่ายททุกอย่างเสร็จเรียบ้จึงจากไปเตรียมอาหารเย็นอย่างพึงใจ
เจินจูเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ครู่ึ่ รู้สึกชมเชยทั้งสองที่คุ้นเคยกับการทำงานเกษตร งานเล็กๆ เ่ี้ไม่ได้ทำให้พวกเขาหวาดหวั่น จึงเิไป่ที่ห้องครัวต่อ
จากห้องก็เห็นชายชราหู ืึ่ถือปุ้งกี๋เป่า ีืึ่พยุงกำแพงก้าวช้าๆ เจินจูสาวเท้าเร็วเข้าไปข้างหน้าปะคองไว้ “ท่านปู่ ท่านจะไปทำอะไรหรือ?”
“ไม่ได้ทำอะไร จะไปเก็บมะเขือยาวกับถั่วแปบในสวน” หูเฉวียนฝูหัวเราะ
“ท่านปู่ ท่านนั่งเถิด ข้าไปเก็บให้เอง” นางปะคองเขานั่งลงอย่างระมัดระวังแล้วก็หยิบปุ้งกี๋ไป
“ปู่ยังทำได้ ไม่กี่วันี้ขามีแรงึ้มาบ้างแล้ว” หูเฉวียนฝูถือโอกาสนั่งลง คลึงหัวเข่าไปมา สองวันี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไรตำแหน่งข้อต่อะูกไม่ได้เจ็บึเพียงนั้นแล้วจริงๆ ีทั้งยังสามารถเิได้าก้าวแล้วด้วย
“เก็บเรี่ยวแรงของท่านปู่ไว้ใช้คราวหน้าเถิด วันี้ข้าจะเป็ไปเก็บให้เองเ้าค่ะ” ามที่เจินจูสังเกต ชายชรา่าจะเป็โรคจำพวกเหน็บชา ผนวกกับโรคเก่า อากาศเปี่ ขาจึงแข็งทื่อเจ็บปวดและเิไม่สะดวก เจินจูไม่เข้าใจวิชาและลู่ทางรักษา ทำได้เพียงคิดวิธีให้เขาดื่ม้ำแร่เพิ่มนิดหน่อยุั มันคงสามารถ่เขาได้บ้างแหละ คิดได้เ่ี้จึงวิ่งับไปที่โต๊ะอาหารเื่ครู่ เอา้ำที่เหลือเทมา
“ท่านปู่ ท่านดื่ม้ำสักนิด่ ข้าจะไปเก็บผัก” ่ถ้วยให้แล้วก็หยิบปุ้งกี๋วิ่งไปสวนผักข้างบ้าน
สวนผักบ้านเก่าุหูใหญ่่าของบ้านนางนัก ถั่วแปบเลื้อยเลียบามรั้วคดเคี้ยว บนรั้วมีพวงหนักๆ ู้่วงึ่ บนคันิปลูกมะเขือยาวไว้เยอะมาก รูปร่างเล็กใหญ่แตกต่างกันไป สายลมอ่อนพัดโชย่า ผักผลไม้ทั่วสวนก็โยกไหวเบาๆ เป็อะไรที่่ายินดีนัก
เจินจูนั่งกึ่งยองในพื้นที่ปลูกผัก ัมองไปๆ ซ้ายขวาึ่หนแล้ว ็ิัสด เ่ มะเขือยาว ิ ผักโขม มาไม่น้อยจากในมิติช่องว่างอย่างระมัดระวัง ขอแค่เป็ปะเภทผักปะเภทเดียวกับที่บ้านเก่ามี ล้วนหยิบมาไม่น้อยเลย ่าเีดายที่ฟักทองของที่นี่เก็บเกี่ยวไปาแล้ว ฟักทองลูกมดิกาสิบลูกในมิติช่องว่างจึงไม่สามารถหยิบมาได้ เื่ไหร่จึงจะได้หยิบมาใช้สักทีนะ
เจินจูอืดอาดวุ่นวายอยู่ในสวนผักได้สักครู่ จึงกเต็มปุ้งกี๋ที่เต็มไปด้วยผักเิเอื่อยๆ เข้าไปในห้องครัว
“เ๊ะ เจินจู เ้าเก็บผักมาทำไมมากมายเ่ี้ล่ะ พริกเยอะแบบี้จะทานหมดได้เ่ไร” ชุ่ยจูชี้ไปที่ผักเต็มปุ้งกี๋แล้วตะโกน
“วันี้ท่านลุงกับท่านพ่อับมา ต้มพริกเยอะหน่อยเถิดเ้าค่ะ” เจินจูหัวเราะร่าเริง แล้วเอาปุ้งกี๋ในืวางลงบนแท่นเา ่าเปี่เรื่องึ้ว่า “เย็นี้ทำผักัใดหรือ? ให้ข้า่ดีหรือไม่? เ๊ะ ท่านย่าเล่า? ไปที่ใดแล้ว?”
บนใบหน้างดงามของชุ่ยจูขมวดคิ้วึ้อย่างหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ ส่ายศีรษะหัวเราะแล้ว่า “คำถามเยอะเีจริง ท่านย่าไปซื้อเนื้อที่ปากทางเข้าหมู่บ้าน เย็นี้มีเนื้อทาน เ้า่เอาผักโขมไปล้างที ีเดี๋ยวต้ม้ำแกงเห็ดทานกันเถิด”
“อื้ม ได้เลย ข้าไปเอาเห็ดสน่ ฤูใบไม้ร่วงแห้งแล้ง ซด้ำแกงเห็ดสนดีที่สุด” ่าไปพลางเิไปด้านนอก
“ท่านพี่…” ผิงัที่อยู่นอกบ้านหิ้วกรงไผ่ัึ่ไว้ในืเิเข้ามาอย่างเหนื่อยอ่อน าใจแล้ว่า “ะต่ายัี้หนักเกินไปแล้ว ข้าเหนื่อยแทบายแหนะ”!
“ะต่าย?” เจินจูวิ่งเข้าไป มองไปยังข้างในกรง เป็ะต่ายสีเทาัึ่จริงๆ นางถามไป “จับะต่ายมาทำไมหรือ?”
ผิงัเกาศีรษะแล้วมองนางึ่ที ่าอย่างตะกุกตะกัก “ท่านแม่จับน่ะ ูเหืนว่าจะเอามาให้ท่านย่าทำอาหารบำรุงร่างาให้ทุก”
เห็นว่าเจินจูไม่เชื่อถือ เขาจึงรีบโบกไม้โบกือธิบาย “ไม่ใช่เพราะข้าบอ่าอยากจะทานเนื้อหรอกนะ เป็ท่านแม่จับด้วยตนเอง จริงๆ ”
“เฮ้ แล้ว ข้าเข้าใจแล้ว เป็ข้าที่คิดได้ไม่ละเอียดรอบคอบ เดิมทีก็่าจะเป็เ่นั้น เป็ท่านแม่ที่คิดได้ละเอียดรอบคอบนัก ท่านแม่เล่า? ทำไมไม่มาด้วยกัน?” ตอนี้ที่บ้านมีะต่ายโตเต็มวัยอยู่เจ็ดั ในนั้นมีัผู้สามั ัเมียเก็บไว้สืบพันธุ์ ัผู้สามารถฆ่าได้ัสองั ามที่ทราบมาว่าฮาเ็ [1] ของะต่ายัผู้สามารถจุะต่ายัเมียได้ปะมาณสิบั ันั้นไม่้ัวปัญหาการผสมพันธุ์ามธรรมชาติี้
“ท่านแม่เฝ้าบ้าน ที่บ้านไม่มีไม่ได้ ีเดี๋ยวข้าจะยกอาหารไปให้ท่านแม่เอง” ผิงัทำงานี้ได้ไม่มีตกหล่น บ้านของหูฉางกุ้ยอยู่ท้ายหมู่บ้าน แม้ไม่มีของมีค่าอะไร แต่ที่บ้านยากจน ครอบครัวอัตคัด เข็มึ่เล่มด้ายึ่เส้น [2] ยังได้มาอย่างลำบากยากเข็ญ
“ี่า ผิงั พวกท่านทำัใดกัน?” ิุ่แกว่ง้ำเต้าสุราับมา
เจินจูเีเขาเข้ามาแล้วยิ้มาหยี ชี้ไปที่ให้เขาูะต่ายด้วยตนเอง ิุ่ดวงาสว่างวาบโห่ร้องว่า “ะต่าย! ี่า ท่านจับะต่ายมาทำไม?” เขามองเจินจูด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยาคาดหวัง
เจินจูยิ้มอ่อนโยน มองาคาดหวังที่ปรากฏในดวงาของกินเก่งี้ แล้วแ้งหยอ้อเขาอย่างจงใจว่า “จับมาเลี้ยงน่ะสิ จะให้จับมาทานได้หรือ?”
แสงสว่างในาของิุ่มืดดับลงไป ่เีง “้” ึ่เีงมาอย่างเหี่ยวเฉา
“ท่านพี่ นี่จับมาทานน่ะ ท่านพี่ข้าหยอกท่านเล่น” ผิงัข่มรอยยิ้มเอาไว้ เห็นเขาสีหน้าเต็มไปด้วยาผิดหวังก็ที่จะอธิบายไม่ได้
ผลเป็ัคาด สายาของนักกินัน้อยผุดแสงปะามาีครั้ง “เ่นั้นเย็นี้ก็มีเนื้อะต่ายทานแล้ว! ้า! เยี่ยมจริงๆ! เย้”
ิุ่ดีใจจนะโดดโลดเต้นึู้ ัจากนั้นก็ยกมุมปากยิ้มกว้างอย่างไร้เดียงสาอยู่พักึ่
การแสดงทางสีหน้าที่่าชมเ่ี้ทำเอาเจินจูหัวเราะมาพักึ่ เ้าเ็นี่่ารักไม่เบาเลย ชอบกินชอบเคลื่อนไหวแล้วยังค่อนข้างดื้อรั้นเล็กน้อยด้วย
ตอนเย็นหวังซื่อทำการปลิดชีพะต่ายอย่างชำนาญแล้วเก็บขนะต่ายไว้ทั้งหมด ะต่ายหนักปะมาณห้าชั่ง ครึ่งึ่ำาั ีครึ่งึ่นำมาผัดเครื่องปรุง้ำแดง ิ่นเนื้อหอมไปทั่วลานบ้านช่างดึงูดต่อมรับรสชาติของยิ่งนัก ิุ่และผิงัเ็สองผลัดกันืน้ำลายลงไปาอึก ดักรออยู่ตรงปะตูห้องครัวไม่ยอมไปไหน
รอจนกับข้าวทั้งหมดวางอยู่บนโต๊ะแล้ว สีของท้องฟ้าก็มืดค่ำสนิท ที่บ้านเก่าแบ่งโต๊ะทานข้าวของชายและหญิงจากกัน บนโต๊ะัใหญ่เป็ชายชราหูามด้วยบุตรชายและหลานชายที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกัน หญิงชราหูามด้วยลูกสะใภ้และหลานสาวทานข้าวอยู่บนโต๊ะเล็ก ัรอให้ชายชราหูเิ่หยิบตะเกียบึ้มา ทุกล้วนมุ่งตะเกียบลงไปทางเนื้อะต่ายทันที เนื้อะต่ายหอมเผ็ดชุ่มปาก ใ้ิ ขิงแว่น ะเทียม ต้นหอม ฯฯ ในการผัดทมา ข้างนอกเหลืองกรอบด้านในอ่อนนุ่ม รสชาติอร่อยนัก ส่วนเนื้อะต่ายผัดเครื่องปรุง้ำแดงสีสันมันวาวเปล่งปลั่ง ิ่นหอมเนื้อนิ่ม เค็มสลับหวาน ทั้งแก่และเ็ต่างชอบาเหนียวนุ่มหอมหวานของผัดเครื่องปรุง้ำแดง ไม่ึชั่วครู่เนื้อะต่ายปรุง้ำแดงี้ก็หมดจนเห็นไปึก้นถ้วยแล้ว
เจินจูค่อนข้างชอบทานเผ็ด แต่บนโต๊ะอาหารของหลี่ซื่อับไม่เคยปรากฏพริกให้เห็นเลย ต้นพริกไม่กี่ต้นในสวนผักเหืนของปะดับก็ไม่ปาน อาหาราวันมาี้หากใช้คำหยาบคายพูดมาก็คือ ปา่ๆ หายสาบสูญไปจากนก [3] ันั้นตอนี้มีแต่นางที่ริมฝีปากแดงเรื่อ เผ็ดเีจนอยากพ่นลมจากปาก แต่ในปากยังคงเคี้ยวเนื้อะต่ายเผ็ดหอมอยู่ ทานจนแทบจะะโดดโลดเต้นดีใจ
เหลียงซื่อเดิมเป็ชอบทานเผ็ด แต่เป็เพราะร่างาตั้งครรภ์อยู่ไม่สามารถทานได้เยอะ มองเจินจูที่เผ็ดจนหน้าาบิดเบี้ยวแล้ว หิวึ้มาบ้างไม่ได้ นางเม้มปากแล้ว่า “เจินจู เ้าเปี่มาทานเผ็ดเ่ี้ได้ตั้งแต่เื่ใดกัน ไม่ใช่ว่าเื่่เ้าไม่ชอบทานเผ็ดหรือ?”
“โอ้ ่ี้ข้าค่อนข้างเหนื่อยจึงชอบทานกับข้าวเผ็ด” เจินจูกุเหตุผลึ้มา แล้วชำเลืองมองไปทางโต๊ะใหญ่ทีึ่ “ป้าะใ้ใหญ่ ท่านูสิ ิุ่ทานเผ็ดแล้วทานได้่าเจริญอาหารนัก”
เหลียงซื่อชำเลืองมองไป เป็ไปามนั้นจริง ปากิุ่มันขลับแดงไปหมด เผ็ดเีจนเหงื่อไปทั่วทั้งศีรษะ เหลียงซื่อเห็นเ่นั้นแล้วสงสารไม่ได้จึง่าว่า “ิุ่ อย่าทานพริกเยอะเ่นั้น ปะเดี๋ยวจะปวดท้องเอาได้”
“ท่านแม่ ไม่เป็ไร ข้าไม่ัวเผ็ด” ิุ่มีเนื้ออยู่ในปากเต็มไปหมดทำให้ตอบได้ไม่ชัดนัก
“อย่าบังคับเขาเลย เขาเหืนลูกวัวัน้อย ทานได้ก็ทานให้มากหน่อย เ้าเองก็ทานให้มากด้วยเล่า” หวังซื่อคีบเนื้อะต่ายผัดเครื่องปรุง้ำแดงให้เหลียงซื่อ แล้วหันับมาคีบให้เจินจู “เจินจูก็ทานเยอะๆ นะ ะต่ายี้ล้วนเป็คุณงามาดีของเ้า วันี้เองก็ลำบากชุ่ยจูแล้ว ทานเยอะๆ หน่อยเถิด”
ัคีบให้ทั้งโต๊ะเสร็จแล้วนางค่อยคีบชิ้นเนื้อไปในถ้วยของตนเองแล้วทานเข้าไป
พักึ่่าไปอย่างไวว่องเสืนพายุหอบเอาเศษปุยเมฆ าเร็วในการทานอาหารจึงค่อยๆ ช้าลง เิ่ทานไปด้วยคุยไปด้วย นางก็ได้ยินเพียงหูฉางหลินเล่าๆ หยุดๆ
“ุเหอเป็คหบดีในชนบทที่มีชื่อเีงในเืงชิงเฉวียน ในบ้านมีปะชากรมากและมีทรัพย์สมบัติมหาา ครั้งี้รื้อแล้วสร้างลานบ้านใหม่ ข้ากับฉางกุ้ยติดามท่านอาหลิ่วไปลำเลียงพวกวัสดุไม้และากับหินไปๆ ับๆ ุั บางครั้งก็ทำงานใช้แรงทั่วไป ุัได้เิละสามสิบเิเหวิน [4] ทำอยู่ึ่เดือนสิบวัน รวมกันแล้วไม่น้อย่าเิทองแดงเลย วิ่งไปทำงานหนี้ไม่แย่นัก ่าเีดายที่ต่อมาฝนตกอยู่ไม่กี่วัน ่ผลให้งานบางอย่างทำไม่สำเร็จ เื่เห็นว่ากำลังเตรียมเข้าหน้าหนาว ุเหอจึงบอกหยุดทำงาน่”
หูฉางหลินทั้งหน้าเต็มไปด้วยาเีดาย ทำงานีสองสามวันยังได้เิเพิ่ม มีนายจ้างไม่มากที่ใจกว้างสะดวกสบายได้เ่าุเหอ หากไม่ใช่ว่ามีท่านอาหลิ่วพาไป พวกเขาจะสามารถหางานที่มีค่าแรงูเ่ี้ได้ที่ไหนกัน? ต่อไป้หาเวลาว่างกับฉางกุ้ยเอาของขอบคุณไปให้ที่บ้านท่านอาหลิ่วจึงจะดี
ึ่วันสามสิบเหวิน? เ่นั้นึ่เดือนสิบวันมิใช่ึ่พันสอง้เหวินหรือ?
เชิงอรรถพ
[1] ฮาเ็ หมายึ สถานที่ที่จัดไว้ให้เป็ที่อยู่ของบรรดานางสนมหรือนางบําเรอของพระเ้าแผ่นิ ผู้มีอำนาจ หรือเศรษฐีที่เป็มุสลิม มักจะเป็ปะเทศในแถบเอเชียตะวันางและอินเดียสมัยที่มุสลิมปก เป็ต้น ในที่ี้เปรียบะต่ายัเมียเป็นางสนม และะต่ายัผู้เป็ผู้มีอำนาจ
[2] เข็มึ่เล่มด้ายึ่เส้น หมายึ เศษเล็กเศษน้อย
[3] ปา่ๆ หายสาบสูญไปจากนก หมายาว่า อาหารไร้รสชาติ เป็คำพูดของเหลียงซาน ึ่ในยนิยายคลาสสิคของจีน เรื่อง ้ั๋ หรือวีรบุรุษเขาเหลียงซาน
[4] 文 เหวิน เป็ึ่ในุเิจีนสมัย่ มีทั้งเิเหรียญและเิะดาษ ซึ่งเีามชื่อนิานิาึ่
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา