เรื่อง หงสาสีนิล
บนทุ่งหญ้านั้นทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นไปาธรรมชาติคัดสรร
หนอนกินต้นหญ้า ินอน อสรพิษกินกบ นกก็กินอสรพิษีทอดึ่
สถานะของนกในทุ่งหญ้านั้นนับว่าอยู่ในจุดยอดของห่โซ่อาหาร
ทว่านกอินทรีนั้นัเป็นยอดอันธพาลท่ามกลางฝูงนก
มันนั้นั้บินสูงได้าใจ ปีกั้สองก็แ็แรง กรงเล็บก็ช่างแหลมคม ที่น่าแปลกใจที่สุดคือใบหน้าแหลมๆ ของมันูคล้ายมนุษย์ไม่เบา
อาลู่มองเจ้านกอินทรีัโตกำลังโผบินเข้ามาทางตน
ท่านอาปากล่าวว่ามันจะจับเพียงสิ่งมีชีวิต ทว่าก้อนเนื้อวัวนั้นไม่นับว่ามีชีวิต เขาต่างหากที่จะนับว่ามีชีวิต
แท้จริงก็ไม่นับว่าเ่าปานั้นพูดผิด เาะเจ้านกนั่นกำลังบินมาหาเขาจริงๆ
เพียงแต่นกอินทรีนี่ต่อให้ัใญ่เ่าใด คงมิอาจจับเขาไปกับมันได้กระมัง อาลู่ออกจะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันช่างเหลือเชื่อไปสักหน่อย
บัดนี้ร่างกายเขานั้นมิอาจขยับได้เพียงคืบ แค่พลิกัก็ยังนับว่ายากนัก จึงได้แต่นอนมองเจ้านกอินทรีโผบินเข้ามาหาตน
ความเร็วของมันนั้นไวมาก เพียงชั่วพริบตาเีก็เกือบจะถึงร่างเขาแ้
ซ้ำเขายังรู้สึกว่ามันช่างเจ้าเล่ห์นัก เมื่อครู่ยามเ่าปายังอยู่ มันก็ทำทีแค่บินวนไปมาอยู่บนฟ้าเ่านั้น จวบจนบัดนี้ที่เขาอยู่คนเี มันจึงจะกล้าจู่โจม
แม้ว่าการพลิกันั้นจะลำบากนัก ทว่าเขานั้นคุ้นเคยกับคืนวันที่้ถือมีดไว้ข้างการเสียแ้
สายตาอาลู่ยังคงจับจ้องเจ้าอินทรีที่โฉบลงมา จนเงาของมันทาบลงบนร่างเขา อาลู่ก็ออกแรงยกแขนตวัดใส่มันทีึ่ทันที
เจ้าเหยี่ยว่ๆ ถลาลงมา เป้าหมายที่แท้จริงของมันัไม่ใช่เจ้าสองขานั่น มันจะเอาแรงจากที่ใดมาคาบเจ้าสองขานี่ได้ ทว่าบนร่างเจ้าสองขานี่ัมีบางสิ่งที่ดึงูดมันนัก มันลังเลอยู่ครู่ใญ่ ทว่าก็อดไม่ไหว้โฉบลงมาอยู่ดี
จวบจนมาถึงหน้าเจ้ามนุษย์ มันก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารรุนแรง
ั้ที่มันก็แค่อยากจะมาหลบภัยเ่านั้น
แม้มันจะเป็นจอมเจ้าเล่ห์แห่งทุ่งหญ้า ทว่าเจ้าพวกสองขานั้นก็ไม่ต่างกับมัน
ยิ่งกว่านั้นเจ้าพวกสองขายังใช้ธนูแหลมๆ ทำร้ายมันได้ มันเองก็เกือบจนตรอก ้ถูกยิงอยู่เสียตั้งหลายครา เจ้าพวกนี้ยังรู้จักใช้ตาข่าย มันยัง้เปลืองแรงเสียแทบตายกว่าจะหนีออกมาได้
ทว่าตอนที่มันกำลังจะได้สัมผัสเจ้าสิ่งที่ดึงูดใจมันได้นั้น มันั้บินจากมาเสียแ้
ที่แท้ก็เป็นเาะมีดคมเล่มึ่ หากมันช้าีเพียงแค่ครู่ มันก็คงจะถูกฟันตายเสียแ้ เจ้าเด็กนี่ทำมันตกใจเสียเกือบตาย บัดนี้ยังทำขนมันหลุดไปีตั้งเส้นึ่
อาลู่หายใจลึกทีึ่ ั้กายโทรมไปด้วยเหงื่อเย็นๆ
เบื้องหน้าเขาในตอนนี้ปรากฏเงามืดเพิ่มมาีเงา เงานั้นก็คือเจ้ามืดที่เขาคิดว่ามันนั้นไม่น่าจะพยศเป็นกำลังวิ่งมา ่จะยกกีบเท้าที่ั้หนาั้ใญ่กระทืบลงบนเจ้าอินทรีขนร่ทีึ่
อาลู่มองูก็พอจะเดาได้ว่าคงเจ็บไม่เบา
เจ้าอินทรีนีู่ท่าคงจะโดนเหยียบจนฟั่นเฟือนเสียแ้ บินมายังไม่ทันถึงัเขาก็โดนเจ้ามืดเหยียบ รอจนมันรู้สึกั ก็จิกเจ้ามืดเข้าทีึ่
จะงอยปากของอินทรีแหลมคมนัก ยามโฉบลงมาช่างูโหดร้ายจนขวัญผวา
ตอนนั้นมันมองเขาราวกับจะจิกเข้ามา ทว่าผลลัพธ์คือเพียงเข้าใ้เขา ก็โดนเจ้ามืดกระทืบเข้าทีึ่!
เจ้าอินทรีนี่โดนเหยียบต่อหน้าต่อตาเขา ราวกับเขากำลังูมหรสพเรื่องึ่อยู่ จึงได้แต่มองอย่างโง่งมโดยไม่คิดเลยว่าเจ้ามืดนั้นจะร้ายกาจถึงเพียงนี้
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นเจ้าก้าง่ๆ พาน้องสาวบนหลังเดินมาทางเขา
เจ้าม้าท่าทางน่าเกรงขาม ่ๆ ยืดศีรษะมาบังตรงหน้าน้องสาวไว้ จากนั้นนางจึงยื่นมือออกไปลูบก้อนปูดบนศีรษะมันเบาๆ ทันใดเจ้าม้าก็ทำท่าราวกับดีใจจนแทบออกวิ่ง าสีดำของมันสะบัดสะเปะสะปะไปมา
อาลู่มองเจ้ามองเจ้านกที่นอนกองอยู่บนพื้นกำลังส่งสายตาเคียดแค้นมาให้ตน
เฉินโย่วน้อย่ๆ ไถลลงมาจากหัวเจ้าก้าง ่จะคลานไปตรงหน้าเจ้านกพร้อมน้ำลายที่สอเต็มปาก ชี้ไปยังเจ้านกอินทรีที่นอนอยู่ “พิ ี่ กิน กิน อาหย่อย”
อาลู่ได้แต่ยิ้มไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
เ่าปาเมื่อได้ยินเสียงัจากทางกระท่อม ก็ัว่าเกิดเุอันใดขึ้นจึงรีบวิ่งมาู เมื่อมาถึงก็พบว่าตรงหน้าอาลู่มีนกัึ่นอนแผ่พังพาบอยู่ ก็ได้แต่ตกใจ
เจ้านกบนพื้นมิใช่เจ้านกอินทรีหรือไร ั้ที่เจ้านกนี่าตำนานเล่ากันว่าเป็นนกศักดิ์สิทธิ์ที่วัดอาถัวเลี้ยงไว้ มีสติปัญญาราวกับมนุษย์ สามารถคาดเดาภัยที่จะมาถึงัได้
ทว่าตรงหน้าเขานี้มีเพียงเจ้าเด็กุ่ที่ไม่แม้แต่จะขยับได้นอนอยู่ ทารกที่ยังเดินไม่ได้คนึ่ กับเจ้าม้าีสองั เุใดจึงสามารถกระทืบเจ้าอินทรีอินทรีศักดิ์สิทธิ์จนมีสภาพเช่นนี้ได้
สำหรับเรื่องเ่านี้ออกจะเหลือเชื่อไปเสียหน่อย
หรือเขาจะมองผิดไป เจ้านกนี่อาจไม่ใช่นกอินทรี แต่เป็นเพียงนกทั่วไป ทว่าเมื่อเจ้านกนั่นเงยหน้าขึ้นพร้อมด้วยสีหน้าทุกข์ระทมบนใบหน้าราวกับมนุษย์ เขาก็พลันลังเลจนรู้สึกว่ากระทั่งแผ่นหลังที่คดงอก็พลอยรู้สึกชาหนึบไปหมด
ยามได้ยืนเจ้าัเล็กเอ่ยปากว่าจะกินมัน เขาก็เร่งส่ายหน้าเป็นพัลวัน
“กินมิได้ เจ้านกนี่คือนกศักดิ์สิทธิ์ มันั้ตระหนักรู้ถึงภัยที่จะมาถึงตนได้ ั้ฉลาดเฉลียว”
เฉินโย่วน้อยเมื่อโดนสั่งห้ามไม่ให้กิน ดตาคู่โตนั้นพลันถลึงใส่เ่าปา
“เย็นนี้อาปาจะทำอะไรอร่อยๆ ให้เจ้ากินแทน”
ทารกน้อยรู้สึกคับข้องใจ ไม่ง่ายเลยที่นางจะหาอาหารเองได้ ซ้ำเมื่อหาได้ก็ไม่อาจได้กิน ด้วยอารามน้อยใจนางจึงปีนขึ้นหลังเจ้ามืดไปเล่นที่อื่นเสีย
เ่าปาเมื่อตั้งใจมองเจ้านกบนพื้นก็เห็นมันมีท่าทางหวาดั จึงได้แต่เอ่ยปาก “เจ้าูมันไว้ให้ดีๆ หากมันหายแ้ก็ปล่อยมันบินัไปเสีย”
อาลู่พยักหน้าตอบเบาๆ
เมื่อเ่าปาเดินจากไป อาลู่ก็หันมามองเจ้านกข้างกายที่ทำแววตาราวกับว่าตนได้รับบาดเจ็บสาหัส ใบหน้านั้น่ๆ ฟุบลงไปบนพื้น ทว่ายังคงพยายามยกกรงเล็บขึ้นข้างึ่ เพื่อกรีดเสื้อผ้าของเขาจนขาดรุ่ย
อาลู่ได้แต่ทำหน้าราวกับคนเขลา
เมื่อครู่ตอนที่ตวัดมีดไปเขาก็เปลืองแรงไม่น้อย จวบจนยามที่น้องสาวได้ยินว่าเจ้านกนั้นไม่อาจกินได้ จึงจากไปที่อื่น ส่วนเ่าปาก็เพียงกล่าวว่านี่คือนกศักดิ์สิทธิ์แ้ก็จากไปเช่นกัน แต่เ่าปานั้นัไม่เคยบอกเขาว่าเจ้านกนี่จะแก้ผ้าคนเป็น
ชุดเก่าๆ ของอาลู่เดิมทีก็ไม่ได้รัดกุมแต่อย่างใด ด้วยเ่าปานั้นคิดว่าจะได้สะดวกในการทำแผลให้เขา ถึงได้ถลกมันขึ้นอยู่แ้
เสื้อผ้าเก่าๆ ถึงอย่างไรก็ยังเป็นเครื่องนุ่งห่ม
ทว่าบัดนี้ัถูกนกที่บินไม่ได้ัึ่ใช้กรงเล็บที่เป๋ไปเป๋มาของมันกรีดชุดเขาจนขาด เผยให้เห็นโครงร่างผอมกะหร่องราวกับโครงกระูกของเด็กุ่ กับร่องบาดแผล ั้แผลเป็นและแผลน้อยใญ่มากมาย
กระนั้นเจ้าอินทรีก็ราวกับว่าไม่คาดว่าจะเกิดเุการณ์นี้ขึ้นเช่นกัน มันนั้นเพียงสงสัยว่าบนร่างของเด็กุ่นั้นมีของสิ่งใดจึงได้ดึงูดใจมันหนักหนา จึงได้ตัดสินใจยกกรงเล็บขึ้นข่วนเข้าทีึ่ คาดไม่ถึงว่าชุดของเด็กุ่นั้นโดนกรงเล็บของมันทีเีก็ขาดวิ่นเช่นนี้
อินทรีที่โตเต็มวัยนั้นจริงๆ แ้ัใญ่กว่าเจ้าอินทรีตรงหน้าอาลู่มากนัก เห็นทีจะใญ่เ่าโต๊ะสองัต่อกันก็ยังได้
เจ้านกตรงหน้าอาลู่นี่ ูแ้ก็น่าจะเป็นอินทรีธรรมดา ซ้ำเมื่ออยู่ท่ามกลางอินทรีด้วยกัน ก็ูราวกับลูกอินทรีที่เพิ่งจะบินได้เ่านั้น
ใบหน้าสับสนของมันในะนี้ ัทำท่าราวกับกำลังอับอายขายหน้า
อาลู่เห็นันั้นก็พลันหน้าแดงด้วยโทสะ ชีวิตเขาเุใดจึงถึงขั้นที่ถูกเจ้านกรังแกเสียแ้ ซ้ำมันยังทำทีขยับเข้ามาใ้ พยายามใช้กรงเล็บของมันปิดเสื้อผ้าเขาให้ปิดัไปัเดิม.....เมื่อปิดเรียบร้อยแ้ก็ยังทำหน้าราวกับจะยิ้มประจบประแจง
ทว่าตอนที่มันกำลังปิดเสื้อผ้าให้อาลู่นั้น มันัเผลอไปสัมผัสเข้ากับสร้อยคอบนลำคออาลู่ ทันใดมันก็ราวกับว่าโดนสร้อยนั้นลวกก็ไม่ปาน จึงได้แต่กระโดดโหยงออกมา
แต่ด้วยว่าปีกของมันนั้นบาดเจ็บอยู่ เมื่อมันกระโดดมาได้ครึ่งึ่ก็พลันร่หล่นลงไปยังพื้นเบื้องล่างจนเกิดเสียงั “ตุ้บ” ราวกับของหนักตกพื้น
เจ้านกนี่ช่างัหนักเสียจริง ยามร่างมันกระทบกับพื้นหญ้าแ็ๆ นั้นฝุ่นก็พลันฟุ้งตลบไปหมด
บัดนี้อาลู่จึงเพิ่งค้นพบว่าเจ้านกเพี้ยนนี่แค่้การจะูสร้อยคอที่เขาห้อยอยู่ เมื่อคิดูให้ดีเขาก็จำได้ว่าบนสร้อยนั้นเหมือนจะมีรูปนกยักษ์สลักอยู่
เจ้านกที่เพิ่งจะได้สติแหงนหน้ามองฟ้า ก็เพิ่งรู้สึกเช่นกันว่าสร้อยคอของเจ้าสองขานั่นเุใดจึงร้อนผ่าวราวกับจะเผากรงเล็บของมันเช่นนี้พ
สุดท้ายเจ้านกที่แม้แต่ปีกยังขยับไม่ได้ันี้ ก็ได้แต่ส่งสายตาเว้าวอนไปหาเด็กุ่
อาลู่จึงถือเจ้ากลมเหล็กบนคอตนขึ้นมา และวางลงบนริมฝีปากอย่างที่เขาเคยลองทำ่หน้า เจ้ากลมเหล็กูเหมือนว่าหากเป่าลมแ้จะมีเสียงัออกมา
เสียงลมพลันสั่นไหวเบาๆ
อาลู่คิดว่าอาจเาะตอนนี้เขานั้นไม่มีแรง ั้ที่่หน้ายามเป่ามันเคยมีเสียงแหลมหวีดหวิวัขึ้นมาแท้ๆ ไฉนตอนนี้จึงมีแค่เสียงลมเบาๆ
ทว่าเจ้านกเพี้ยนที่นอนอยู่ตรงหน้าเด็กุ่เมื่อได้ยินเสียงนี้ร่างกายมันก็ราวกับแ็ค้าง เพียงได้ยินเสียงลมเบาๆ ของเด็กุ่ สติของมันก็ดับวูบลงทันที
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??