เล่มที่1 ตอนที่3 บทนำ เหมือนจะตายอย่างสงบ(3) |
ในหน้าต่างบานั้ฉายภาพควันน้ำพวงพุ่ง เื้หลังเป็น้ำที่ทั้งสูงชันและกว้างใหญ่อย่างที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“เห็นนี่รึเปล่าคะ? โลกใบนี้น่ะ ด้านบนเป็ทะเลและผืนดิน ่รอบๆทั้งหมดล้อมไปด้วยน้ำที่หากลงไปก็จะมีเพียงแต่ความว่างเปล่า”
หลังนิ่งเงียบฟังเด็กสาวอธิบายด้วยสีหน้าจริงจังมากว่า 5 นาที เรนยะก็ตะโกนถามขึ้นด้วยความงงงัน
“นี่มันโลกตั้งแต่ยุคัยไหนน่ะ ห้ะ?”
“ถึงภาพโลกใบนี้จะดู่าเข้าใจผิดว่าเป็โลกัยดึกดำบรรพ์็เะ แต่นี่ก็คือความจริงค่ะ หากได้ไปทางใดแล้วก็ไม่อาจย้อนกลับมายังจุดเดิมได้ ถ้าลงไปในน้ำนั่นแล้วก็จะต้องหายไปเท่าั้”
“ที่สร้างโลกนี้ขึ้นมาแม่งบ้าไปแล้วสิ?”
ได้ฟังความรู้สึกที่แท้จริงที่ไม่สามารถโกหกได้ซึ่งหลุดออกมาจากปากของเรนยะ คราวนี้เด็กสาวถึงกับโวยวายเสียงดัง
“บ้างั้นหรอ!? ว่าเทพเจ้าที่ยืนอยู่ตรงหน้านี่ว่าบ้างั้นเหรอคะ!”
“ก็บ้าจริงนี่หว่า! จากขอบนั่นลงมาเป็น้ำทะเลเนี่ยนะ เอาน้ำจากไหนมาเติมวะเนี่ย!?”
“ของแบบั้น่ะ ทวีปไหนๆ มันก็มีแม่น้ำอยู่ทั้งั้ไม่ใช่รึไงล่ะคะ”
“เอ๋ อะไรกัน โลกนี้ไม่มีน้ำหมุนเวียนงั้นเหรอคะ!?”
“จะมีได้ยังไงเล่าับ้า! อย่าทำเหมือนพวกเธอใช้น้ำวนอยู่บนดาวดิ!”
“ที่บอกว่าทรัพยากรไม่พอน่ะ ไม่ใช่เพราะไอ้ระบบสิ้นเปลืองนี่รึไงกัน?”
หลังได้ต่อว่าเด็กสาวจนพอใจ เรนยะที่ปกติเป็พวกหนามยอกเอาหนามบ่ง ถนัดใช้กำลังแก้ปัญหา พยายามปรับอารมณ์ให้เย็นลงอย่างจำยอมต่อสถานการณ์ ตอนั้เองที่เขาเห็นว่าเด็กสาวเองก็หน้าซีดลง
“ยังไงซะที่บอกว่าน้ำไม่หมุนเวียนเนี่ย คงไม่ได้วางแผนจะใช้พลังงานสิ้นเปลืองจากไหนมาสร้างน้ำอยู่หรอกนะ? ถ้าน้ำที่จากขอบโลกมีมหาศาลขนาดั้ล่ะก็ ต่อให้พวกที่ระเหยขึ้นไปจะกลับมายังทวีป็เะ ถ้าไม่คอยเติมเรื่อยๆ ตลอดไปล่ะก็โลกคงได้แห้งลงสักวันแน่”
“ะ... ะ... ะ... ไม่ใช่...ไม่ใช่อย่างั้หรอก....มั้งค่ะ?”
“นี่ ัเด็ก้ มองาฉันแล้วพูดมาให้ชัดๆ ซิ”
“ะ ไม่...ไม่ใช่ค่ะ! ไม่ใช่อย่างั้จริงๆ นะคะ ! ถึงจะยอมรับว่าใช้พลังไปเปล่าๆ จริงๆ ็เะ แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่จะขอร้องในครั้งนี้เลยนะคะ ! สาบานต่อพระเจ้าเลยค่ะ”
- พระเจ้าน่ะมันก็ตัวเองไม่ใช่รึไง – เรนยะได้แต่สะกดกลั้นความรู้สึกที่อยากจะสาวความต่อ เขาจ้องมองเด็กสาวที่เอาแต่จงใจหลบาเขาอยู่อย่างั้
“นี่?”
“จะอธิบายต่อนะคะ อย่างที่เห็นว่าทวีปเอลโดร่าจะแบ่งออกเป็ 5 ่”
เด็กสาวที่จงใจเมินเสียงเรียกของเรนยะอธิบายต่อ
จะไล่บี้เอาความจากเด็กสาวต่อก็คงทำได้ไม่ยาก แต่ถึงจะไล่เค้นต่อไปก็คงไม่มีปะโยชน์อะไร เรนยะจึงตัดสินใจามน้ำไป
“ทิศเหนือ ใ้ ออก แล้วก็กลางงั้นหรอ”
“ใช่ค่ะ แบ่งพื้นที่ครอบครองามทิศต่างๆ ทางด้านตะวันออกเป็ของมนุษย์ ตะวันเป็ของเอลฟ์ ทางใ้เป็ของพวกพันธ์ผ และทางเหนือเป็ของั”
“แล้วตรงกลางที่เหลือล่ะ”
“เป็เขตปกครองของพวกปีศาจค่ะ”
ภาพทวีปที่สะท้อนอยู่บนแผนที่ถูกแบ่งออกเป็ 5 สีามคำบอกของเด็กสาว
“อืมมมม ก็...จะอธิบายคร่าวๆ แล้วกันนะคะ าแวดล้อมของโลกนี้ค่อนข้างจะยากต่อการใช้ีิของแต่ละสิ่งมีีินะ พูดให้เห็นภาพหน่อยก็คือมีการทำสงครามกันอยู่ตลอดแหละ”!
ได้ยินแบบั้เรนยะก็อดไม่ได้ที่จะลองถามเด็กสาวดู
“ทำไมกันล่ะ?”
“คิดว่าพวกผู้เกี่ยวข้องอาจจะไม่ทันรู้ล่ะมั้งคะ โลกนี้น่ะมีผู้ดูแลอยู่ 5 ที่เล่นต่อสู้ชิงพื้นที่ฆ่าเวลา....”
“อย่า-นะ!”
“อ๊ะ เดี๋ยวก่อนอย่ารัดคอ บอกว่าอย่ารัดคอไง ทำไมรัดซะแน่นขนาดนี้เนี่ย! นี่มันรัดไปยันเส้นเลือดใหญ่ไม่ใช่แค่หลอดลมแล้วนะคะ! จะร่วงแล้วค่ะ! หยุดซะทีจะร่วงอยู่แล้วววว”
เด็กสาวสะบัดหนีมือที่จับคอตนไว้อย่างเอาเป็เอาาย ก่อนจะขยับเว้นระยะห่างจากเรนยะ
ถึงเด็กสาวเว้นระยะห่างออกไป แต่ก็ไม่มีทีท่าจะหนีไป เรนยะขยับเข้าใกล้เด็กสาวที่ดิ้นรนเอาีิรอดเื่กี้สุดีิ จะเอายังไงต่อคงขึ้นอยู่กับคำตอบต่อไปของเด็กสาวแล้ว
แต่จะว่าไปแล้ว ถ้าให้พูดถึงความแต่างระหว่างฆ่ารัดคอกับฆ่าแขวนคอแ้่ะ็ เขาคิดว่ามันคงต่างกันที่การรัดหลอดลมจนขาดอากาศหายใจายกับกระดูกคอหักายล่ะมั้ง
“อย่ามาล้อเล่น่า จะทนให้เกิดสงครามอยู่ในาแบบั้ได้ยังไงกัน!”
“ก็พอจะเข้าใจสิ่งที่อยากจะบอกอยู่หรอกนะคะ แต่ว่านั่นไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะเข้าไปทำอะไรได้หรอกนะคะ!”
เด็กสาวทำได้เพียงปะท้วงด้วยสีหน้าอย่างเอาเป็เอาาย ขณะที่หลบเลี่ยงอย่างหงุดหงิด
“เป็เทพเจ้าไม่ใช่รึไงล่ะ?”
“ฉันยกสิทธิการจัดการทั้งหมดไปให้หมดซะแล้วน่ะ จะฝืนแย่งมาก็ได้อยู่หรอก แต่ผลพวงทั้งหลายก็จะมากับโลกใบนี้แทนน่ะสิคะ ถ้าจะให้เห็นภาพก็...”
เด็กสาวหยุดยืนคิดเล็ก้ ขณะที่คอยระวังที่ลำคอของตนพร้อมกับหนีไปรอบๆ
“ถ้าได้รับการยินยอมว่า ให้จมทวีปนี้ลงไปสัก 80% แ้่ะ็ จะทำอะไรสักอย่างตอนนี้เลยก็ยังได้”
“อย่าดีกว่า”
“ถ้าอย่างั้ก็คงทำอะไรไม่ได้หรอกค่ะ ยกเว้นว่าผู้ดูแลของทางั้จะคืนสิทธิการจัดการให้นะคะ”
ได้ยินดังั้เรนยะก็หยุดไล่ามเด็กสาว
“ด้วยสถานการณ์แบบนี้ ที่โลกแห่งนี้ก็เลยไม่มีการเวียนว่ายายเกิดเป็ต้นมาไงล่ะคะ”
“หมายความว่ายังไง?”
เื่แน่ใจแล้วว่าเรนยะยืนนิ่งอยู่กับที่แล้ว เด็กสาวจึงได้หันมาเผชิญหน้ากับเขาก่อนจะเริ่มอธิบายอีกครั้ง
“โดยปกติแล้วดวงวิญญาณก็จะมาจากป่วยายบ้าง สิ้นาุขัยบ้าง แต่มติว่าถูกฆ่าายกลางสนามรบล่ะก็ คงถูกหั่นเป็ชิ้นๆ ้า่ะ ถูกัฉีกร่างกระจัดกระจาย้า่ะ หรือระหว่างปล้นชิงเจอเข้ากับกอบลินหรือพวกออร์คเข้า และสุดท้ายก็ถูกฆ่าาย ถ้าเป็ดวงวิญญาณที่ายจากเรื่องแบบั้แ้่ะ็ คิดว่ายังอยากจะกลับไปยังาแวดล้อมเดิมแบบั้อยู่มั้ยล่ะคะ”
“แบบั้ก็คงไม่มีทางอยู่แล้วล่ะนะ”
“ใช่ค่ะ เพราะอย่างั้จึงมีดวงวิญญาณที่ปฏิเสธการกลับไปยังโลกเดิมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลยค่ะ”
เด็กสาวพูดด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน
เห็นแบบั้เรนยะที่เคยตั้งใจจะรัดคอเด็กสาวจนถึงเื่ครู่ ก็รู้สึกเห็นใจขึ้นมาหน่อยๆ
“ฉันเองก็ลองทำอะไรหลายๆ อย่างแล้ว ทั้งโน้มน้าวฝั่งพวกผู้ดูแล ไหนจะดวงวิญญาณที่ปฏิเสธการกลับไปเ่าั้อีก แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ได้่ายินดีเลยสักนิดค่ะ”
“ดูเหมือนอย่าง้ก็ได้ลงมือทำอะไรไปบ้างแล้วสินะ”
“ค่ะ ก็...ได้ลองไปบ้าง แต่นอกจากผลที่ได้จะไม่มีอะไรดีขึ้นแล้ว ถ้ายังถูกบนโลกนี้ตำหนิอีกล่ะก็ คงทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับการถูกรัดคอล่ะนะคะ”
-อดีตพลเมืองจากโลกอื่นอย่างเขา ยังไงก็คงไม่ยอมรับการรัดคอล่ะนะ- เรนยะคิด จากั้จึงให้เด็กสาวเล่าต่อ
“ด้วยเหตุนี้ พวกดวงวิญญาณจึงได้ย้ายไปโลกอื่นบ้าง ไม่ก็เลือกที่จะไม่ไปเกิดอีกบ้าง ทำให้โลกนี้เริ่มที่จะขาดแคลนทรัพยากรค่ะ”
“โลกแบบั้น่ะ บดทิ้งซะก็สิ้นเรื่องไม่ใช่รึไง?”
-โลกที่ผู้ดูแลเองก็ไม่คิดจะจัดการอะไร าปะชากรก็้ลงเรื่อยๆ ไม่หยุดแบบนี้ ปล่อยเอาไว้ก็มีแต่จะพังพินาศไปเองไม่ใช่รึไง- เรนยะคิดเช่นั้ แต่เด็กสาวกลับส่ายหน้า
“ฉันเองก็เคยคิดแบบั้เหมือนกันแหละค่ะ แต่ในกรณีนี้ เื่ลองคิดถึงจำนวนีิที่จะต้องสูญเสียไป ก็คงพูดว่าให้ทำลายทิ้งไปซะได้ไม่เต็มปากนักหรอกค่ะ”
-ถ้าจะให้สร้างขึ้นมาใหม่ ทั้งพวกทูต์ ทั้งตัวฉันเองคงทำงานหนักายกันพอดี- เด็กสาวบ่น
“แล้วถ้ารวบรวมเจ้าพวกั้ทั้งหมดอพยพไปโลกอื่นล่ะ?”
“จุไม่ไหวหรอกค่ะ ้แเ ดวงวิญญาณ่ใหญ่จะถูกส่งไปเกิดใหม่โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าจะไปเกิดใหม่ค่ะ ดวงวิญญาณระดับที่สามารถปฏิเสธการไปเกิดใหม่ได้น่ะมีไม่มากนักหรอกค่ะ”
ดวงวิญญาณที่ใช้ทรัพยากรบนโลกแล้วมีความสามารถเหนือกว่าระดับทั่วไป แต่เดิมจะไปเกิดใหม่ที่โลกเดิมเพื่อที่จะรักษาปริมาณทรัพยากรของโลกแห่งั้ไว้
ถ้าพวกั้ต้องการย้ายไปโลกอื่นๆ ทรัพยาการ่ที่ใช้ไปจะไม่ถูกคืนกลับมา แต่จะลด้ลงเรื่อยๆ
่พวกดวงวิญญาณทั่วๆไปที่ไม่รู้เรื่องอะไรอยู่อย่างั้ ก็จะเดินไปบนเส้นทางที่ถูกทำลายต่อไปเรื่อยๆพ
“เป็เรื่องที่ช่างทุกข์ยากจริงๆ เลยนะนั่น”
“ใช่ค่ะ ฉันเองก็อยากจะโน้มน้าวพวกผู้ดูแลเ่าั้ และนำพาโลกไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่เรื่องั้ก็จำเป็จะต้องใช้เวลาค่ะ สรุปแล้วเรื่องที่อยากขอร้องคุณก็คือ”
“อยากให้ไปโลกั้ เพื่อซื้อเวลาการใช้ทรัพยากรเอาไว้สินะ?”
“ถ้าแค่เรื่องทรัพยากรอย่างเดียว คงไม่มาขอร้องแบบนี้หรอกค่ะ แต่ไม่ว่าจะทำยังไงแนบไฟล์ส่งไปกับอีเมลไม่ได้ เลยต้องใช้วิธีส่งแนบไปกับดวงวิญญาณของใครสักค่ะ”
“แล้วพวกโปรแกรมฝากไฟล์อะไรแบบั้ล่ะ?”
“ถ้ามีอีกฝ่ายที่คอยรับล่ะก็คงมีปะโยชน์ที่จะลองใช้ดูเหมือนกันล่ะค่ะ แต่ดูเหมือนทางพวกผู้ดูแลจะไม่ได้รับรู้ถึงสถานการณ์นี้เลย ก็เลยปฏิเสธการแทรกแซงจากฉัน...”
ถึงจะส่งไฟล์ไปได้ แต่ถ้าไม่มีรับมันก็ไม่มีปะโยชน์
ความคิดเห็น
COMMENT
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา