เรื่อง การโต้กลับของทรราชย์หญิงแห่งยุค
ต้าเว่ย ฤูใบไม้ผลิปีเฉิงผิงที่ เมืองเซวียนู อำเภอหนานอี๋.
เฉิงชิ่งเอนาอยู่บนรถม้า ชมช่วงชีวิตอันแสนสั้นของเด็กาใยุคโบราณคนึ่ระหว่างทางอันโคลงเคลง
ั้ที่เป็ผู้เฝ้ามอง่าเย็นชาแท้ๆ แต่เุใดดวงตาของนางจึงเปียกชื้นัจากูจบ?
ความอาลัยอาวรณ์และความไม่ยินยอมส่งผละทบต่ออารมณ์ความรู้สึกของเฉิงชิ่ง นางเพิ่งเช็ดรอยน้ำตาบนหัวตาออกไป ม่านบนรถม้าพลันถูกเลิกขึ้น สตรีโฉมงามดวงตาบวมแดงสวมชุดไว้อาลัยนางึ่มองนางด้วยความกังวลใจ
“ลูกข้า เจ้ารู้สึกดีขึ้นบ้างหรือไม่?”
ไม่เลย ไม่ดีขึ้นเลยสักิ ร่างานี้ยังคงอ่อนแรง่าา
เฉิงชิ่งไม่อาจเอ่ยคำพูดนี้ออกไปได้
ความอาลัยอาวรณ์ากว่าครึ่งของเด็กาเป็เพราะสตรีผู้นี้ นางคือนางหลิ่ว[1] มารดาของเด็กาที่มีอุปนิสัยอ่อนแอ เป็ผู้ที่เด็กาสาบานจะปกป้องูแลและตอบแทน
“ดีขึ้นาแล้ว ่าแ่ พวกเราใกล้จะึแล้วสินะขอรับ”
เฉิงชิ่งพยายามไม่แสดงท่าทีผิดปกติออกไป
ัจากนี้นางก็คือ ‘เฉิงชิง’ ใขณะที่ยังหาหนทางกลับสู่โลกของตนเองไม่ได้ ก็จำ้ใช้ชีวิตแทนที่ ‘เฉิงชิง’ วัยิสามปีผู้นี้ต่อไป`
นางหลิ่วไม่รู้สึกึความผิดปกติ ัจากที่เฉิงจือหย่วนผู้เป็สามีเสียชีวิตลง่ากะทันหัน นางใฐานะภรรยาแห่งเรือนัเพียงคนเี พาบุตรชายหญิงั้สี่คนเชิญดวงวิญญาณกลับ้าเกิด ระหว่างทาง ‘บุตรชายคนสุดท้อง’ เฉิงชิงเกิดป่วยหนัก ้มีาหยุดพักตลอดทาง ์ประกอบั้สาม[2]ของนางหลิ่วถูกบั่นทอนจนเหลือเพียงความว่างเปล่า``
จนเื่ขบวนเชิญดวงวิญญาณมาึสถานีพักม้าอำเภอหนานอี๋แล้ว เฉิงชิงซึ่งเจ็บป่วยมาตลอดสามเดือนก็ฟื้นคืนสติ นางหลิ่วจึงมีคนให้พึ่งพาเสียที
นึกึตรงนี้ นางก็อดพิจารณาบุตรชายคนสุดท้อง่าละเอียดไม่ได้ ัจากที่เด็กคนนี้ล้มป่วยก็เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นามาย อีกั้ยังอายุเพียงิสามปีแต่กลับจัดาเื่ต่างๆ ได้ชำนาญกว่าผู้ใหญ่่านางที่เพิ่งผ่านอายุสามิปีมาได้ไม่นาน
ก่อนหน้านี้เฉิงชิงพูดว่าเื่เกิดความวุ่นวายใหญ่หลวงขึ้น นางจำ้แบกรับภาระาใครอบครัว
นางหลิ่วนึกมาึตรงนี้ เบ้าตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีก
เด็กน้อยที่่าสงา ปีนี้นางอายุิสามปี เป็เพียงเด็กาคนึ่กลับ้มาแบกรับความรับผิดชอบใฐานะบุตรชายเพียงคนเีของตระกูลเฉิง ูแลนางผู้เป็แม่ที่ไร้ประโยชน์ รวมึูแลพี่าั้สามคน
นางหลิ่วถลำลงสู่ความว้าวุ่นใจ เุใดั้นางึเห็นดีเห็นงามกับวิธีาั้ของสามี เลี้ยงูบุตราัน้อย่าบุตรชาย อีกั้สามียังเขียนจดหมายไปยังตระกูลที่หนานอี๋ให้เพิ่มชื่อ ‘เฉิงชิง’ เข้าทำเนียบตระกูล!
ทว่าหากไม่มีวิธีาบ้าบอเื่ิสามปีก่อน ที่เฉิงจือหย่วนเสียไป่ากะทันหัน าเลือดของเขาก็คงหมดสิ้นแล้วเป็แน่
ใเื่หาบุตรชายที่จะโยนะถาง[3]ให้ไม่ได้ ก็มีแต่้ไปก้มหัวขอขาับคน้าเดิม ขอยืมบุตรหลานมาโยนะถางอุทิศให้แก่เฉิงจือหย่วนแทน
เื่คิดมาึตรงนี้ นางหลิ่วก็ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ยามเื่สามียังมีชีวิตอยู่ไม่เคยก้มหัวต่อคนที่้าเดิม ัจากเขาตายไปแล้วึค่อยะดิกหางหมอบคลานขอความเห็นใจจากทางั้ สามีใปรโลกย่อมยากที่จะตายตาหลับได้
่าน้อยในี้นางกับสามีก็ยังมีบุตรชาย ึจะไม่ใช่บุตรชายโดยแท้แต่ก็ถือว่าเป็บุตรชาย ่าน้อยคนานอกก็ไม่มีใครรู้เื่นี้
่าภาคหน้าจะเป็่าไร นางหลิ่วไม่ได้คิดไกลึเพียงั้ ค่อยๆ ูไปก่อนก็แล้วกัน!
เฉิงชิงใยามนี้เหม่อลอยเล็กน้อย
นางคือ ‘บุตรชายเพียงคนเี’ ของเฉิงจือหย่วน
ก่อนหน้านี้เฉิงจือหย่วนแต่งภรรยาสองคน ให้กำเิบุตราติดต่อกันสามคนแล้วจึงให้กำเิ ‘บุตรชายเพียงคนเี’ ออกมา เื่ตระกูลเฉิงประสบความวุ่นวายใหญ่หลวง จะให้พึ่งนางหลิ่วและพี่าั้สามย่อมเป็ไปไม่ได้ มีเพียงนางที่จะเป็เสาหลักให้กับครอบครัว แม้จะเป็เื่ยาก แต่ก็ไม่ถือว่ายากลำบากเกินไปนัก ่าน้อยนางก็สามารถอยู่รอดใแคว้นเว่ยใฐานะบุรุษโดยไม่้ถูกจำกัดด้วยหลักจริยธรรมศักดินา[4] เป็สตรียุคโบราณที่ถือหลักสามเชื่อฟังสี่จรรยา[5]
มนุษย์เรากลัวาเปรียบเทียบเป็ที่สุด แต่ใเื่มีทางเลือกที่แย่กว่าให้เห็น สภาพาณ์ใขณะนี้จึงไม่ได้ทำให้นางรู้สึกยากที่จะยอมรับึเพียงั้?
แม้ไม่มีทางเลือก แต่เฉิงชิงก็เป็คนมองโลกใแง่ดีเสมอมา
สตรีที่อาศัยเพียงรอยยิ้มจะโชคดีหรือไม่ั้นางไม่รู้ รู้เพียงสตรีที่ฉาคิดไม่มีทางที่ชีวิตจะตกต่ำ!
รถม้าหยุดลงเป็สัญญาณว่าึจุดหมายแล้ว
โลงศพของเฉิงจือหย่วนเคลื่อนมาหยุดอยู่ตรงหน้าประูใหญ่ของ้าเดิม ้ารองตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋
เฉิงชิงเลิกม่านบนรถขึ้น
กำแพงของ้ารองูตระหง่าน ประูจวนบานใหญ่อลังา แค่มองูก็รู้แล้วว่าเป็้าของผู้มีอันจะกิน
เพียงแต่ยามนี้ประูปิดสนิท บรรยากาศเงียบสงัด่า่าประหาใจ พี่าคนโตของเฉิงชิงโกรธจนร้องไห้ออกมา “้ชาย คนของ้าเดิม้จงใจเป็แน่!”
แน่นอนว่าจงใจ
เฉิงชิง นางหลิ่ว รวมึพี่าั้สามรออยู่ที่สถานีพักม้าอยู่สองวัน ส่งจดหมายแจ้งสถานาณ์ให้้าเดิมั้หมดสามฉบับ ทาง้าเดิมกลับไม่มีาตอบกลับใดๆ เฉิงชิงจึงรู้ว่าสถานาณ์ไม่สู้ดีนัก
ไม่ใช่ว่าคนจาก้าเดิมล้มตายกันไปหมด แต่เป็เพราะไม่อยากสนใจกลุ่มหญิงหม้ายบุตรกำพร้า่าพวกนางต่างหาก!
เฉิงชิงมองไปยังพี่าคนโต
ปกติพี่าั้สามและนางหลิ่วรักและเอ็นูนาง เพียงแต่มีข้อเสียคือล้วนเป็คนเจ้าน้ำตากันั้ั้
ข้อเสียนี้นางรักษาหายดีแล้ว จะกล่าวว่าน้ำตาของสตรีคืออาวุธ? ไม่สู้บอกว่ารูปโฉมงดงามคืออาวุธ นั่นยังพึ่งพาได้ากว่าหยาดน้ำตาเสียอีก
บางคนสามารถถูกรูปโฉมงดงามสะกดใจไว้ได้ แต่ไม่มีทางใจอ่อนให้กับหยาดน้ำตา
ผู้ใดเชื่อคำพูดนี้ ผู้ั้ก็คือคนโง่
“จะจงใจหรือไม่ พวกเราเคาะประูก็รู้แล้ว อาจเป็เพราะปีที่แล้วสุขภาพร่างาของท่านย่าไม่ค่อยดี คนที่นี่จึงชินกับาปิดประูไม่รับแขก”
เฉิงชิงให้นางหลิ่วจ้างคนที่ทำธุรกิจเฉพาะทางด้านงานศพ เสียงร่ำไห้ของมืออาชีพกลุ่มนี้ดังกว่าพวกนางั้สี่คนานัก ยิ่งร่ำไห้ยิ่งดึงูดเพื่อน้าจากทั่วาทิศมายังหน้าประูของ้ารองตระกูลเฉิง่ารวดเร็ว
“นี่ มีใครตายน่ะ?”
“ไม่เห็นได้ยิน้ารองประกาศข่าวาตายนะ”
“หรือว่าจะมารีดไถตระกูลเฉิง!”
แววตาที่ผู้คนมองมายังพวกเฉิงชิงเปลี่ยนไปใทันที
หากมาเพื่อรีดไถตระกูลเฉิงจริง เช่นั้ก็หาเื่ผิดคนเสียแล้ว
ตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋คือตระกูลใหญ่อันดับึ่ของอำเภอนี้ คนใตระกูลรับราชาใวังหลายคน ่าุชายรองแห่ง้าหลักตระกูลเฉิงก็เป็ผู้ว่าามณฑล รั้งตำแหน่งขุนนางขั้นห้าครึ่งขั้นอยู่ต่างถิ่น
ครอบครัวเช่นนี้ยังมีคนกล้ามารีดไถึ้า โง่หรือไร!
เฉิงชิงมองูฝูงชนรวมักันผ่านทางหน้าต่าง พวกเขาล้วนชี้ไม้ชี้มือมายังขบวนเชิญดวงวิญญาณ
“รบกวนท่านพี่ช่วยประคองข้าลงรถที”
นางไม่อยากทำให้เป็เื่ใหญ่โต เนื่องเพราะร่างานี้ช่างอ่อนแอ
ก่อนหน้าที่เฉิงชิงยังไม่ปรากฏั ผู้คนต่างพากันคาดหวัง
เนื่องจากบุตราคนโตตระกูลเฉิงที่ช่วยประคองนางลงจากรถรูปโฉมงดงาม ด้วยวิธีาปรากฏัออกมาเช่นนี้ ย่อม้เป็ุหนูน้อยที่งดงามึขั้นจันทราและบุปผายัง้หลีกเร้นด้วยความเขินอาย[6] หรือไม่ก็ุชายน้อยที่รูปลักษณ์งามสง่าเป็แน่
แต่เื่เฉิงชิงลงจากรถ ผู้คนต่างเห็นเพียงคนขี้โรคสวมชุดไว้อาลัย ใบหน้าซีดเหลืองผอมแห้ง ร่างาบอบบางราวกับเพียงลมพัดก็สามารถจะปลิวไปได้!
เฉิงชิงสัมผัสได้ึความผิดหวังจากบรรดาเพื่อน้าที่รายล้อม
ัจากนางได้สติขึ้นา็เคยส่องะจก
เค้าโครงใบหน้าของร่างนี้มี่คล้ายกับใชาติที่แล้วเพียงสามสี่่ อาาป่วยร้ายแรงทำให้สีหน้าย่ำแย่เป็่าา นางเองก็ไม่พอใจกับรูปลักษณ์ใปัจจุบันนี้ ช่างไม่่ามองเสียจริง
จากที่ร่างาูกว่า้เจ็ดิกว่าเซนติเมตร บัดนี้กลับหดลงเหลือไม่ึ้ห้าิเซนติเมตร เื่นี้เกินรับได้จริงๆ
ันางในี้จึงเป็เพียงเด็กหนุ่มขี้โรคคนึ่
เฉิงชิงประสานมือโค้งคำนับเพื่อน้าโดยรอบ
“ทุกท่านที่อยู่ละแวกนี้ ไม่ทราบว่าที่นี่ใช่้ารองของตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋หรือไม่?”
เหล่าเพื่อน้าต่างพยักหน้า่าพร้อมเพรียงกัน
เฉิงชิงหน้านิ่วคิ้วขมวด
“ั้ที่ให้คนส่งจดหมายกลับมายัง้าเดิมแล้วแท้ๆ เุใดจึงไม่มีคนขานรับที่ประูเล่า? หรือว่าัจากาเดินทางเชิญดวงวิญญาณกลับ้าเกิดอันยากลำบากตลอดสามเดือน บิดาข้าที่สิ้นไปกลับไม่อาจจัดพิธีศพที่้าเดิมได้!”
เหล่าเพื่อน้าต่างมองไปยังโลงศพ แล้วมองไปยังร่างที่สวมชุดไว้อาลัยของเฉิงชิงและพวกนางหลิ่ว มีเพื่อน้าชราเอ่ยถามด้วยความประหาใจระคนสงสัย
“ุชายน้อย บิดาเจ้าที่เสียไปเป็คนของ้ารองตระกูลเฉิงหรือ?”
เฉิงชิงพยักหน้าด้วยใบหน้าอันโศกเศร้า
“บิดาข้าเป็บุตรชายคนโตของ้ารองตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋ โชคร้ายสิ้นใจจากไปใต่างถิ่น บุตรอกตัญญูเฉิงชิงพามารดาและเหล่าพี่าเชิญดวงวิญญาณกลับมายัง้าเกิด เพื่อนำบิดาที่จากไปฝังร่างคืนสู่ผืนดิน่าสงบสุข”
ความโศกเศร้าของนางั้เดิมทีเป็าแสดง แต่เื่ได้ยินเสียงร่ำไห้ของพวกนางหลิ่วจึงบังเกิดความรู้สึกเศร้าโศกที่มิอาจระบุได้ผุดขึ้นมาระลอกึ่ แสดงละครจนกลายเป็เื่จริงึขนาดหลั่งน้ำตาออกมาด้วยเช่นกัน
หรืออาจเป็เพราะความอาลัยอาวรณ์ของเด็กาที่ยังไม่จางหาย
ระหว่างที่เฉิงชิงกำลังแสดงละครจนแปรเปลี่ยนเป็ความโศกเศร้า่าแท้จริงอยู่ั้ พวกของเพื่อน้าชราก็ต่างถกเถียงกันให้วุ่น วันนี้้ารองตระกูลเฉิงมีละครชุดใหญ่ให้ชมแล้ว าใโลงศพย่อมเป็เฉิงจือหย่วนลูกชายคนโตจากภรรยาเอกของ้ารองแน่นอน!
อย่าว่าแต่เฉิงจือหย่วนด่วนจากไปทำให้ผู้คนสะท้อนใจ ะทั่งภรรยาและบุตรของเฉิงจือหย่วนที่เชิญดวงวิญญาณกลับ้าเกิดแต่ประูใหญ่ของ้ารองตระกูลเฉิงกลับปิดสนิท ไม่้าให้โลงศพของเฉิงจือหย่วนเข้าประู ช่างไร้เุผลเกินจะกล่าว
ึแม้แท้จริงแล้วมารดาเลี้ยงจะเป็ผู้รับหน้าทีู่แล้า แต่จะาลั่นแกล้งบุตรชายคนโตของภรรยาเก่าเช่นนี้ได้หรือ?
[1] สตรีใสมัยโบราณึแม้จะแต่งงานแล้ว แต่ก็ยังคงถูกเรียกด้วยแซ่เดิมและมักไม่เรียกชื่อั
[2] ์ประกอบั้สาม ประกอบด้วยวิญญาณ พลังงานและาสำคัญ ถือเป็์ประกอบหลักของมนุษย์
[3] าประเพณีงานศพของชาวจีน เื่ึเวลาเคลื่อนย้ายศพไปยังสถานที่ฝัง บุตรชายคนโตหรือหลานชายคนโตของผู้ตายจะ้โยนะถางที่ใช้เผาะดาษเซ่นไหว้ะแทกลงพื้นหน้าโถงเซ่นไหว้
[4] หลักจริยธรรมศักดินา คือหลักาปฏิบัติตนของผู้คนเพื่ออยู่ร่วมกันใสังคมซึ่งถูกสร้างขึ้นาใต้แนวคิดของขงจื๊อ
[5] หลักสามเชื่อฟังสี่จรรยา คือกรอบุธรรมที่ใช้ใาอบรมกุลสตรีชั้นู าแนวคิดของขงจื๊อพ
[6] มีที่มาจากฉายาสองใสี่ยอดหญิงงามแห่งแผ่นดินจีน ไ้แ่ เตี้ยวเสี้ยนที่มีฉายาว่า “ั์หลบโฉมสุดา” และหยางกุ้ยเฟยที่มีฉายาว่า “มวลผกาละอายนาง”
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา