เรื่อง การโต้กลับของทรราชย์หญิงแห่งยุค
เฉิงชิง่าวไม่ผิด พวกบ้านเดิมย่อมไม่มีทางให้พวกเขาอยู่อย่างสงบนานเิไป.
ทั้งครอบครัวเพิ่งมาอยู่ที่ตรอกหยางหลิ่วได้ไม่กี่วัน เฉิงชิงก็รู้สึกว่าตนเองพอมีเรี่ยวแรงขึ้นมาบ้างแ้ ในที่กำลังเตรียมจะไปเยี่ยมคารวะนายท่านห้าเฉิงผู้นำะู ทางบ้านเดิมได้ส่งแม่นมคนหนึ่งมาแจ้งว่า ฮูหยินผู้เฒ่าต้องาพบลูกสะใภ้ หลานาและหลานสาว
เดิมทีนางหลิ่วมาจากะูต่ำต้อย เื่ถูกแม่นมผู้ั้มองพิจารณาั้แต่หัวจรดเท้า นางก็ชิงหวาดัวไป่แ้
ี่สาวทั้งสามก็ราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ท่านย่าเลี้ยงฮูหยินผู้เฒ่าจูในใจพวกนางเป็ผู้ที่มีอำนาจ ทำให้ยอมศิโรราบเรื่อยมา สตรีผู้นี้หากไม่ร้ายกาจ บิดาก็คงไม่แยกบ้านและไปจากอำเภอหนานอี๋ในปีั้เป็แน่
เฉิงชิงเองก็คิดเรื่องท่านย่าเลี้ยงผู้นี้อยู่ครู่หนึ่ง
อย่างไรเีนางก็ต้องาพาคนในครอบครัวมาอาศัยอยู่ในอำเภอหนานอี๋ระยะยาว ยากที่จะหลีกเลี่ยงาพบปะกับนางจู`
``
ในเื่ตัดไม่ขาด ไม่สู้ชิงปะเมินจุดอ่อนจุดแข็งนางจูให้ชัดแจ้งไปเลยั้แต่แรก
ัั้ในขณะที่นางหลิ่วตื่นตระหนก เฉิงชิงับหัวเราะขึ้นมา
“ท่านแม่ ท่านอย่าได้ัวไปเลย ฮูหยินผู้เฒ่าพบหน้าลูกสะใภ้และหลานๆ ั้แรก ึอย่างไรก็ต้องตระเตรียมขวัญพบหน้า มีคนจะมอบเงินให้พวกเรานะ ถ้าไม่เอาก็เีเปล่าแ้!”
นางหลิ่วเป็ภรรยาคนที่สองทีเฉิงจือหย่วนแต่งเข้ามาอยู่ต่างถิ่น กับฮูหยินผู้เฒ่าจูผู้เป็แม่สามีผู้นี้ นางเพียงเคยได้ยินแค่ชื่อ แต่ไม่เคยพบหน้ามา่
ี่สาวทั้งสามรวมึเฉิงชิงเองก็เช่นเดียวกัน พวกนางไม่ได้ถือกำเิที่บ้านเดิมในหนานอี๋ และไม่เคยับไปบ้านเดิมมา่
แม่นมผู้มาแจ้งข่าวก็ได้่าวไว้แ้ อารองเฉิงชิง เฉิงจือซวี่ ึ่รับราชาอยู่นอกพื้นที่ได้พาบุตรภรรยาไปอยู่ด้วย าในบ้านเดิมจึงมีเพียงฮูหยินผู้เฒ่าจูและครอบครัวอาสามเฉิงจือซู่อาศัยอยู่เท่าั้ เดิมทียังมีอาญิอยู่อีกหนึ่งคนที่นางจูให้กำเิ ึ่ได้ออกเรือนไปนานแ้
ที่จริงแ้จำนวนคนบ้านรองก็ไม่ได้มากมายอะไร เฉิงชิงคาดคะเนว่าไปบ้านรองหนนี้คงได้พบเพียงนางจูกับอาสะใภ้สามแซ่หวง รวมึบุตราญิอาสะใภ้สาม
ะูเฉิงแห่งหนานอี๋มีกฎปะจำะูข้อหนึ่งที่เฉิงชิงค่อนข้างชอบ ไม่รู้เหมือนกันว่าบรรพบุรุษท่านใดเป็คนั้ขึ้น หาูกหลานะูเฉิงอายุเลยสี่ิไปแ้ยังไม่มีบุตราจึงจะสามารถรับอนุได้ ะูเฉิงมีชื่อเีงดีงาม าบังคับใช้กฎปะจำบ้านข้อนี้ก็ดียิ่ง ัั้ทั่วทั้งบ้านรองนี้ รวมึเฉิงจือหย่วนที่ได้ล่วงลับไปแ้ต่างก็ไม่มีใครรับอนุ าในบ้านไม่มีบุตรอนุาญิอาศัยอยู่เลย!
เฉิงจือหย่วนเีชีวิตเื่อายุเพิ่งขึ้นเลขสี่พอดี หากคนยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะมีาคิดรับอนุเพื่อให้กำเิบุตราหรือไม่ ึอย่างไรเฉิงชิงก็เป็เพียงบุตรากำมะลอคนหนึ่ง าคิดนี้ก็มาได้เวลาพอดี ัจากที่เฉิงจือหย่วนคิดแ้ั้… าคิดนี้ออกจะเป็าใส่ร้ายคนตาย ดูไม่ค่อยดีเท่าไร หากเฉิงจือหย่วนวางแผนจะรับอนุจริง ปีั้ก็คงไม่นำเฉิงชิงมาเลี้ยงดูเป็บุตรา ะทั่งไม่กี่ปี่ก็ยังเขียนจดหมายึะู นำชื่อ ‘เฉิงชิง’ จารึกไว้ในทำเนียบะู
ยามเฉิงจือหย่วนเขียนจดหมาย เขาคงล้มเลิกาคิดที่จะรับอนุมาเพื่อให้กำเิบุตราแ้ะมัง?
เฉิงชิงรู้สึกเีดายอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
ในาทรงจำ เฉิงจือหย่วนรักและทะนุถนอม ‘เฉิงชิง’ เป็อย่างยิ่ง ัั้าที่เฉิงจือหย่วนผูกคอตาย ณ ที่ว่าาอำเภอ จึงเป็ผลทำให้ ‘เฉิงชิง’ ล้มหมอนนอนเสื่อไป
“ึที่หมายแ้!”
เฉิงชิงได้สติับมา มองไปยังปะตูใหญ่บ้านรอง
“ไปกันเถอะขอรับท่านแม่ พวกเราเข้าไปกัน”
าสุขุมเฉิงชิงส่งผละทบต่อนางหลิ่วอยู่บ้างไม่มากก็น้อย บุตรสาวทั้งสามเดินตามนางอยู่ด้านั เดินไปยังห้องัพร้อมกันเพื่อพบฮูหยินผู้เฒ่าจู
เรือนบ้านรองแบ่งสัด่มากมาย แต่ละเรือนล้วนใหญ่โตโอ่อ่า
ท่ามางแสงอาทิตย์ฤดูใบไม้ผลิเดือนสาม สวนดอกไม้ระหว่างทางเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันงดงาม บรรดาสาวใช้ต่างก็สวมเสื้อผ้าสีสันสดใส าในเรือนันี้ไม่มีผู้ใดที่ทุกข์ใจกับาจากไปเฉิงจือหย่วน แม้แต่าคิดที่จะแสดงท่าทีเสแสร้งสักิยังไม่มี
นางหลิ่วรับไม่ได้ บุตรสาวคนโตะูเฉิงเองก็โกรธจัด เฉิงชิงับไม่ได้รับผละทบเลยแม้แต่น้อย
ัถูกพามาึห้องัแ้ สาวใช้สวมเสื้อกั๊กยาวคนหนึ่งก็ช่วยแหวกม่านให้เฉิงชิง เื่ยื่นมือมาก็เผยให้เห็นกำไลหยกสีเขียวแวววาวบนข้อมือ
ในาทรงจำ ‘เฉิงชิง’ นางหลิ่วก็มีกำไลข้อมือแบบเดียวกันนี้ชิ้นหนึ่ง ปกติจะรักและหวงแหนมาก สวมทีไรก็ัวจะตกแตก!
เฉิงชิงดึงสายตาับมา
ถือตัวแ้มีปะโยชน์อะไร เงินบ้านรอง หากพวกนางไม่ใช้ ึอย่างไรพวกนางจูก็ใช้อยู่ดี
เฉิงชิงคาดเดาผิดไป าในห้องัไม่มีอาสะใภ้สามและุ่มลูกี่ลูกน้องาญิ มีเพียงฮูหยินผู้เฒ่าจูเท่าั้
แม่นมที่จัดาเรื่องแจ้งข่าวก็ยืนยิ้มคอยรับใช้สตรีอายุราวห้าิกว่าปีนางหนึ่ง นั่นคือท่านย่าเลี้ยงจูเฉิงชิง
ใบหน้านางจูไม่ได้ดูโหดร้ายเลยสักิ ดวงหน้ามดูอิ่มเอิบ าปะทับใจแรกคือค่อนข้างอ่อนโยน
“คารวะฮูหยินผู้เฒ่า” นางหลิ่วนำพวกเฉิงชิงคารวะฮูหยินผู้เฒ่าเบื้องหน้า
ฮูหยินผู้เฒ่าผู้มีท่าทางอ่อนโยนเอ่ยขึ้นมาทันที “ลุกขึ้นเถอะ ยามจือหย่วนแต่งภรรยาใหม่ไม่เคยถามาเห็นข้าผู้เป็มารดาเลี้ยงสักคำ ในเื่ตัวเขาเองชมชอบเจ้า ข้าก็ไม่้าทำให้เจ้าลำบากใจ”
ยามเื่สองปะโยคนี้ถูกเอ่ยออกมา นางหลิ่วก็รู้สึกตื่นตระหนกจนมิอาจโต้ตอบได้
เฉิงชิงพยุงนางหลิ่วให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน
“ท่านแม่ ท่านอย่าได้ผิดต่อารักและเมตตาท่านย่าเลย รีบลุกขึ้นมาเถิด เพื่อนำโลงศพท่านพ่อับสู่บ้านเกิด ท่านได้พบเจอกับอุปสรรคบนเส้นทางมากมายแ้”
ภรรยาคนที่สองแ้มันทำไม?
ภรรยาคนั้ก็คือคนที่เฉิงจือหย่วนสู่ขอทาบทามผ่านทางแม่สื่อ จัดพิธีแต่งงานอย่างเป็ทางา ยามนำชื่อ ‘เฉิงชิง’ เข้าทำเนียบะู เฉิงจือหย่วนก็ได้แจ้งแก่คนในะูึามีอยู่นางหลิ่วแ้ ฮูหยินผู้เฒ่าจูต้องายกข้อนี้มาทำให้พวกนางลำบากใจ เฉิงชิงไม่มีทางยอมร่วมมือกับฝ่ายตรงข้ามแน่!
ก็ล้วนเป็มารดาเลี้ยงด้วยกันทั้งั้ นางหลิ่วดูแลบุตรสาวคนโตอย่างดีปะหนึ่งบุตรในไส้ แต่ฮูหยินผู้เฒ่าจูับนำพาาทุกข์ยากมาให้เฉิงจือหย่วน เฉิงชิงเหยียดหยามาะทำปะเภทนี้ที่สุด
เื่นำนางหลิ่วและฮูหยินผู้เฒ่าจูมาเปรียบเทียบกันแ้ ฮูหยินผู้เฒ่าจูยิ่งราวกับถูกเลี้ยงดูมาจากในะูต่ำ ใจคอคับแคบ!
สายตาฮูหยินผู้เฒ่าจูตกไปอยู่บน่าเฉิงชิง
เรื่องที่เกิดขึ้นที่หน้าปะตูบ้านรองเื่ไม่กี่วัน่นางได้ฟังจากบุตราแ้ พวกนางหลิ่วก็เปรียบเหมือนก้อนแป้ง จะบดขยี้อย่างไรก็ได้ มีเพียงเฉิงชิงผู้เดียวเท่าั้ที่ราวกับมีหนามแหลมอยู่บน่า เพียงสัมผัสก็ทิ่มมือ
เป็เด็กที่มองแ้ไม่เจริญตาเีจริง ใบหน้าซีดเหลือง ่ากายา ดูแ้เหมือนคนขี้โรคคนหนึ่ง
ยังไม่แน่ว่าจะอยู่ึวัยสวมกวาน[1]
ฮูหยินผู้เฒ่าจูรู้สึกพึงพอใจนัก สีหน้าอ่อนลง นางไม่สนใจี่สาวทั้งสามเฉิงชิงอย่างิ้เชิง ได้แต่คว้าตัวเฉิงชิงมาสอบถามเพียงคนเดียว สอบถามจนะจ่างได้าว่าแม้จะเฉิงจือหย่วนจะสอนอักษรด้วยตนเอง แต่ไม่ได้ร่ำเรียนสี่ตำรา ห้าคัมภีร์[2] ฮูหยินผู้เฒ่าจูยิ่งพึงพอใจ
แน่นอนว่าฮูหยินผู้เฒ่าปากไม่ตรงกับใจ ปากก็่าวเห็นใจเฉิงชิง
“ะูเฉิงแห่งหนานอี๋เป็ะูบัณฑิตที่สืบต่อกันมา บุรุษในะูเื่อายุได้ห้าปีก็เริ่มศึกษา อายุแปดปีเข้าร่วมาสอบสถานศึกษาาในะู คนที่มีสติปัญญาดี อายุิสองิสามก็ล้วนสามารถเข้าร่วมาสอบระดับท้องถิ่นได้แ้ ญาติผู้ี่เจ้าเฉิงกุย ปีนี้อายุเีแ่ิหกปีเท่าั้ ปี่ก็สอบผ่านเป็บัณฑิตซิ่วไฉ[3]แ้!”
ฮูหยินผู้เฒ่าจูก็ควรภาคภูมิใจจริงๆ เฉิงกุยเป็หลานาคนโปรดนาง อายุิห้าปีสอบผ่านได้เป็บัณฑิตซิ่วไฉแ้ ช่างยอดเยี่ยมเหลือเิ ในยุคัยอันสงบสุขยาวนานราชวงศ์เว่ยั้แต่บนลงล่างล้วนแ้แต่เน้นบุ๋นและบู๊ อาชีพอื่นล้วนต้อยต่ำ มีเพียงบัณฑิตที่สถานะูส่ง สาเหตุที่ะูเฉิงสามารถควบคุมอำเภอหนานอี๋ได้ั้ อันที่จริงก็แสนจะง่ายดาย นั่นคือาให้าสำคัญกับาศึกษา บุตรหลานเองก็ขยันหมั่นเพียร ทุกรุ่นล้วนมีผู้สอบเข้ารับราชา!
เฉิงชิงอายุิสามปีแ้ รู้เพียงตัวอักษรแต่ไม่ได้ศึกษาสี่ตำราห้าคัมภีร์
เฉิงชิงเองก็ทำอะไรไม่ได้
นางเป็เีแ่บุตรากำมะลอคนหนึ่ง เฉิงจือหย่วนมักจะสอนตัวอักษรและาอ่านตำราแก่นาง แต่ไม่ค่อยสอนสี่ตำรา ห้าคัมภีร์ หากเฉิงจือหย่วนยังมีชีวิตอยู่ เดิมทีก็ไม่ได้หวังให้เฉิงชิงเป็บัณฑิตรับราชา
เอาบุตรสาวมาเลี้ยงดูอย่างบุตราก็ยังพอหลอกคนในะูได้ าแตกทีัอย่างมากก็ถูงโทษาในะู
แต่หากให้บุตรสาวสวมรอยเป็บุตราเข้าร่วมาสอบรับราชา าแตกทีัโทษหนักจะหล่นใส่หัวเอาได้
แต่เื่ไตร่ตรองดูให้ดีแ้ สอบเข้ารับราชาคือทางออกเพียงทางเดียวนาง ในัยโบราณ หากคนในครอบครัวไม่มีใครเป็ขุนนางเลย ึนางจะหาเงินมาได้อีกเท่าไรก็ย่อมถูกคนอื่นเอาไปหมด ในุ่มอาชีพ บัณฑิตเป็ชนชั้นนำ กสิกร และพ่อค้า พ่อค้ามีสถานะต่ำที่สุดแ้
เฉิงชิงคิดอยากไปสอบเข้ารับราชา เพียงแต่นางยังไม่ได้ปรึกษากับนางหลิ่วเกี่ยวกับาคิดนี้ ่จะสามารถลอบเข้าสนามสอบในฐานะสตรีได้หรือไม่ั้ เฉิงชิงเองก็อยากจะสอบถามเรื่องนี้ให้ะจ่าง
ฮูหยินผู้เฒ่าจูโอ้อวดหลานาคนโปรดเช่นนี้แ้ นางหลิ่วยิ่งหน้าเี เฉิงชิงับพยักหน้าอย่างสงบ
“ญาติผู้ี่เฉิงกุยยอดเยี่ยมเช่นนี้ ข้าคิดว่าอนาคตข้าเองก็คงไม่เลวร้ายเท่าไรนัก ในเื่ใน่าพวกเรามีสายเลือดเดียวกันไหลเวียนอยู่ ท่านย่าว่าใช่หรือไม่?”
พ
[1] ในสังจีนโบราณ เื่เด็กาที่อยู่ในชาติะููอายุครบ 20 ปีแ้จะจัดพิธีสวมกวานขึ้น เพื่อแสดงว่าบรรลุนิติภาวะแ้ เป็ผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว
[2] สี่ตำรา ห้าคัมภีร์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับปรัชญาและคำสอนนักปรัชญาจีนในัย่ ในาสอบเข้ารับราชาช่วงราชวงศ์หมิงและชิงก็ล้วนทดสอบารู้จากตำราเหล่านี้
[3] บัณฑิตซิ่วไฉ หมายึผู้สอบผ่านระดับอำเภอในาสอบเข้ารับราชา
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา