เรื่อง การโต้กลับของทรราชย์หญิงแห่งยุค
มาสอนบ่อยหรือ?.
ฝันหวานไปแ้!
แววตาของศิษย์ที่เ้าเรียนมองเฉิงชิงประึ่มองโ่
“วันี้เจ้ามาเ้าร่วมาสอบเ้าศึกษาสินะ? ถึงแม้ารู้ของศิษย์ี่เมิ่งนั้นดียิ่ง แต่ยังคงต้องกังวลเกี่ยวกับาเตรียมตัวสอบเ้ารับราชาของตนเองี ไหนเลยจะมีเวลามาสอนบ่อย นี่เป็นเพราะว่าสถานศึกษามีกฎให้ศิษย์ี่ในห้องเจี่ยต้องผลัดกันมาสอนสามครั้งในุเดือน ะนั้นในึ่เดือน ศิษย์ี่เมิ่งก็จะมาสอนสามครั้ง แบ่งให้ห้องอี่ ปิ่ง แะิ… ถึงแม้ว่าสถานศึกษาจะแบ่งศิษย์เป็นห้องเจี่ย อี่ ปิ แะิสี่ห้องี้ แตุ่ระดับก็ยังจะแบ่งเป็นห้องแยกย่อยไปี ศิษย์ี่เมิ่งจะจับได้สอนห้องใดนั้นก็ไม่อาจได้แน่ชัด บางห้องดวงไม่ดี จะกี่เดือนผ่านไปก็ไม่เคยเวียนมาถึง!”
เฉิงชิงคิดคำนวณอย่างเงียบงัน พอแบ่งแยกย่อยก็ไม่พอกับาต้องา เช่นนั้นาน่าจะเป็นก็ค่อนข้างน้อย ไม่แปลกเลยที่ด้านนอกห้องเรียนจะมีศิษย์มานั่งกันมากมายเช่นี้
บางโบกไม้โบกมือแสดงาคิดเห็นไม่พึงพอใจกับาจัดสรรของสถานศึกษา`
``
“ห้องอี่และปิ่งสองห้องี้ย่อมต้องาให้ศิษย์ี่เมิ่งไปสอน แต่ไม่รู้ทำไมห้องติงถึงมาร่วมด้วย กลุ่มนั้นแม้แต่าสอบเพื่อเป็นบัณฑิตถงเซิงก็ยังไม่เคยสอบ ฟังาสอนของศิษย์ี่เมิ่งช่างเสียเปล่าโดยแท้ ไม่ต่างกับาใช้มีดฆ่าโคไปฆ่าไก่[1]!”
“ข้าก็ว่าจริง พวกเราที่อยู่ห้องปิ่งควรรวมตัวไปประท้วงสถานศึกษา ไม่สู้เอาโอกาสของห้องติงมาให้พวกเรา”
หลายยิ่งเ่ก็ยิ่งตื่นเ้ ใบ้าและลำคอแดงก่ำราวกับต้องาจะไปหามาทะเลาะด้วย เฉิงชิงรีบ้าเท้าเดินจากไปอย่างเงียบเชียบ
พอพวกนั้นรู้ตัว ย่อมต้องย้ายเป้าหมายมาที่นาง เพราะหากเฉิงชิงสอบเ้าสถานศึกษาผ่าน นางต้องเ้าศึกษาในห้องติงที่ในสายตาของหลายๆ เห็นว่าไม่คู่ควรที่จะฟังาสอนของเมิ่งไหวจิ่น
มองูระดับพวกี้แ้น่าสนใจนักหรือ
ถงเซิงไม่ถือเป็นวุฒิที่แท้จริง สอบผ่านซิ่วไฉต่างหากที่เมื่อพบขุนนางแ้ไม่ต้องคุกเข่า เป็นบัณฑิตที่ได้รับายอมรับจากเหล่าขุนนาง
เมื่อไม่มีวุฒิซิ่วไฉก็จะเป็นเพียงแค่บัณฑิตสำรอง วิ่งห้าสิบ้าหัวเราะเยาะึ่ร้อย้า[2] มีสิทธิอะไรมาูถูกห้องติง!
แต่เดี๋ยว่นะ ลานกว้างแ้ก็กลุ่มอาคารเรียนหายไปไหนเสียแ้ นางเดินมาถึงที่ไหนกัน?
ด้าน้าปกุมไปด้วยพุ่มดอกไม้ ทว่าถัดไปด้านหลังมีศาลาตั้งอยู่หลังึ่ าพื้นที่ค่อนข้างู เฉิงชิงตัดสินในเ้าไปสำรวจาแวดล้อมโดยรอบ
เมื่อห่างจากศาลาไม่มากแ้ก็พลันได้ยินเสียง โชคดีจริงๆ นางจะได้หามาถามทาง
เฉิงชิงมุ่ง้าไปอย่างยินดี แต่ัได้ยินเสียงในศาลาหัวเราะกันเกรียวกราว
“อวี๋ซาน ทาง้าเจ้าตัดเิเดือนเจ้าจริงหรือ?”
“หุบปาก!”
แม้้ำเสียงของอวี๋ซานจะเต็มไปด้วยาหงุดหงิด แต่ฝ่ายตรงข้ามัไม่เกรงกลัว ั้ยังเยาะเย้ยอวี๋ซานว่าต้องายืมเิเพื่อใช้ชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่
“งานชุมนุมวรรณกรรมในเดือน้า เจ้าต้องเอาไปอย่างน้อยสักหลายสิบตำลึงนะ อวี๋ซาน เจ้าต้องายืมเิข้าหรือไม่?”
“พูดได้ถูกต้อง หากแม้แต่เศษเิยังไม่มี นั่นก็จะขาย้าผู้เกินไปแ้!”
เหตุใดถึงเจอพวกอวี๋ซานได้นะ?
เฉิงชิงยืนลังเลอยู่ที่เดิม หรือเดิน้าึ้ไปถามทางดี พวกอวี๋ซานไม่แน่ว่าจะ แต่ก็คงไม่คิดร้ายอะไรกับนาง คิดจะหัน้าเดินไปและแสร้งแสดงท่าทีหวาดกลัวพวกี้
“หากอวี๋เสี่ยนเิขาดมือ ค่าใช้จ่ายของเขาข้าจะให้ั้หมด”
้ำเสียงี้ เฉิงชิงฟังแ้คุ้นหูนัก
ภายในศาลาก็มีเสียงเดาะลิ้น “เฉิงกุย เจ้าช่างมี้ำใจเสียจริง!”!
โอ้ ที่แท้ก็คือเฉิงกุย เฉิงชิงล้มเลิกาคิดที่จะถามทางโดยสิ้นเชิง
เสียงของเฉิงกุยดังมาจากทีู่ “หากไม่ใช่เพราะข้า อวี๋ซานจะ… เป็นเพราะเื่ภายใน้าของข้าที่ไปพัวพันถึงอาเสี่ยน ตัวข้าย่อมร่วมุข์กับอาเสี่ยน”
“ข้าไม่ได้ขาดเิ ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ต้องมาสงสารข้า!”
พออวี๋ซานตอบัก็เรียกเสียงหัวเราะในทันที
เด็กหนุ่มกลุ่มี้ต่างรู้สึกว่าเองช่างมี้ำใจ เ่ระบายาโกรธเกรี้ยวแทนอวี๋ซาน ั้ที่จริงแ้สนุกสนานเป็นอย่างมาก
เฉิงชิงไม่คิดจะไปยุ่งกับเด็กหนุ่มกลุ่มี้แ้ คิดจะหันหลังั แต่ด้วยไม่ชำนาญพื้นที่จึงไปเหยียบกิ่งไม้แห้งเ้า ภายในศาลาพลันมีสาดส่ายสายตามองหา “ผู้ใดอยู่ด้านล่าง? อ้า เป็นเจ้า!”
แต่ละทยอยกันชะโงกศีรษะมาู แ้ก็พบกับใบ้าของเฉิงชิง
อวี๋ซานตะโกนอย่างแปลกใจ
“เฉิงชิง เจ้าแอบฟังพวกข้าคุยกันหรือ!”
เฉิงชิงไร้คำพูด “คุณาสามอวี๋ หากพวกเจ้าจะคิดแลับอะไรก็ควรจะไปในห้องที่มิดชิดกว่าี้ เสียงก็ไม่ต้องดังขนาดนั้น ข้าเดินมาถึงตรงี้ ถูกบังคับให้ต้องฟังพวกเจ้าพูดคุยกัน พวกเจ้าคิดว่าข้ายินยอมนักหรือ?”
บนใบ้าเฉิงชิงเต็มไปด้วยารังเกียจ อวี๋ซานโกรธจนแทบกระอักเลือดมา
สี้าของเฉิงกุยสับสน
ในสายตาของเขา เฉิงชิงเป็นพวกอายุยังน้อยแต่เจ้าแา ั้ยังมีาประสงค์ร้ายต่อ้ารอง หลังจากี้หากเขามาศึกษาอยู่ที่สถานศึกษาเดียวกัน หมายาว่าอาจมีาวุ่นวายตามมาไม่รู้จบ… แต่เมิ่งไหวจิ่นก็แ้ว่าเฉิงชิงสามารถสอบผ่านได้ เช่นนั้นเฉิงชิงก็ย่อมสอบเ้าสถานศึกษาได้เป็นแน่ เฉิงกุยคิดมาถึงตรงี้ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้
“ในเมื่อได้ยินว่าพวกข้าคุยกันก็ควรจะรีบเดินจากไป หากยังเสนอตัวอยู่ตรงี้ก็ถือว่าเจ้าแอบฟัง!”
อคติที่อวี๋ซานมีต่อเฉิงชิงนั้นฝังึ ยิ่งเมื่อครู่เฉิงกุยเพิ่งว่าจะร่วมุข์ไปกับเขา ในเวลาเช่นี้เฉิงกุยไม่สะดวกจะเปิดปาก ดังนั้นจึงย่อมต้องเป็น้าที่ของอวี๋ซาน
เฉิงชิงมองแ้ คุณาสามอวี๋ผู้ี้เป็นไ้ี้า[3]อันึ่
เมื่อคิดถึงคำขอโทษอันูค่าที่เจ้าเมืองอวี๋เพิ่งมอบให้มา เฉิงชิงก็ไม่อยากจะทะเลาะกับไ้ี้า หมุนตัวต้องาจะเดินจากไป อวี๋ซานก็รีบเดินลงจากศาลา หวังจะไปดึงตัวีฝ่าย
“เจ้าเด็กนี่ช่างไร้าสั่งสอน หากเจ้าสอบเ้าสถานศึกษาได้จริง พวกข้าก็ถือว่าเป็นศิษย์ี่ของเจ้า ศิษย์ี่ยังไม่เ่คำ เจ้าก็กล้าที่จะไปหรือ? ที่นี่ยังมีญาติผู้ี่เฉิงกุยของเจ้ายืนอยู่ เจ้าลืมไปแ้หรือว่าตัวเจ้าเองก็แซ่เฉิง ยังไม่รีบทักทายี”
ระหว่างอวี๋ซานเ่คำก็คว้าแขนของเฉิงชิงไว้
เขาพอมองว่าร่างกายของเฉิงชิงบอบบาง แต่ไม่คิดว่าแขนจะผอมลีบเช่นี้ ราวกับว่าเพียงแสักหน่อยเขาก็จะสามารถหักแขนี้ได้
อวี๋ซานตกตะลึง ส่วนเฉิงชิงก็โกรธจัด
“ถึงจะไร้ค่า แต่เจ้าก็ยังเป็นผู้ศึกษาตำราของอริยบุค สุภาพชนขยับปากไม่ขยับมือ อวี๋ซาน เจ้าใช้กำลังรังแกผู้อ่อนแอ พวกเจ้าั้กลุ่ม… ต้องาจะรังแกข้าไปถึงเมื่อไรกัน?!”
นางโ่เองที่แอบฟังพวกเขาพูดคุยกัน พอจะจากไปก็ไม่อนุญาต นางหงุดหงิดที่อวี๋ซานลงไม้ลงมือยื้อยุด ในชั่วะนั้นจึงเ่ถ้อยคำรุนแ แม้แต่คุณาสามอวี๋ก็ไม่เรียกแ้
เฉิงกุยรีบเดินเ้ามาใกล้ในทันที
“อวี๋ซาน เจ้าป่เขา่ เฉิงชิง พวกเราไม่ได้มีเจตนาร้าย ต่างก็เป็นในตระกูลเฉิงด้วยกันั้นั้น หลังจากี้ต้องไปมาหาสู่กันไม่น้อย ิ่ไม่ดี่้าก็ลืมมันไปให้หมดเถิด!”
เฉิงชิงยิ้มอย่างเย็นชา เื่ที่ใส่ร้ายนางว่าทุจริตตอนสอบเ้า แม้เฉิงกุยจะไม่ได้อยู่ในเหตุาณ์ แต่หลังจากนั้นเขาจะไม่ได้ยินแม้แต่น้อยเลยหรือ?
ผู้ที่ได้เปรียบก็สามารถทำตัวใจกว้างเ่ว่าให้ละทิ้ง ‘ิ่ไม่ดี’ ่้าไป ส่วนผู้ที่เสียเปรียบหากกล้าไม่ให้าร่วมมือก็จะกลายเป็นมองข้ามาหวังดีของผู้อื่น เดิมทีเฉิงกุยก็ไม่ได้ตกอยู่ในสถานาณ์ที่ยากลำบากเช่นนาง
เฉิงชิงไม่ตอบั อวี๋ซานก็ยังคงไม่ป่แขนเขา เฉิงชิงเตะไปยังข้อเท้าของีฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม อวี๋ซานเจ็บจนต้องป่มือ
ุไม่คิดว่านิสัยของเฉิงชิงจะแข็งกร้าวเช่นี้ ขนาดบุตราเจ้าเมืองยังกล้ายกขาเตะ ชั่วะนั้นภายในศาลาเงียบสนิทไร้เสียงใดๆ ใบ้าของอวี๋ซานก็เผยจิตใต้สำนึกที่อยากจะยกมือึ้ต่อย เฉิงกุยตะโกน “อวี๋ซานหยุดมือ” แต่ร่างกายัซื่อสัตย์กว่าริมฝีปาก ยื่นนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ
แววตาของเฉิงชิงเต็มไปด้วยาโกรธ หากอวี๋ซานกล้าลงมือ นางก็ไม่สนใจว่าีฝ่ายจะเป็นบุตราเจ้าเมืองหรือไม่ ถึงจะตบตีไม่ชนะ แต่นางก็จะทำให้อวี๋ซานเต็มไปด้วยรอยแผล!
“หยุดเดี๋ยวี้!”
บริเวณพุ่มดอกไม้ไม่ไกล มีผู้ึ่ยืนเอามือไพล่หลังอยู่ตรงตรอกทางเ้า ใบ้าดั่งหยกบนศีรษะประดับกวาน ูชะลูดดุจต้นไผ่ ถ้าไม่ใช่เมิ่งไหวจิ่นแ้จะเป็นผู้ใดได้ี?
อวี๋ซานไม่ได้เอามือลง แต่ก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อ้าเมิ่งไหวจิ่น เขาเลิกคิ้วึ้ สี้าหยิ่งยโสพ
“ศิษย์ี่เมิ่ง นี่คือบุญคุณาแค้นส่วนตัวของพวกข้า เกี่ยวอะไรกับท่านด้วย!”
[1] มีดฆ่าโคไปฆ่าไก่ หมายถึงลงทุนลงแมากเกินาจำเป็น
[2] วิ่งห้าสิบ้าหัวเราะเยาะึ่ร้อย้า หมายถึงผู้ที่หัวเราะเยาะผู้ที่มีาผิดหรือข้อบกพร่องมากกว่าตน ั้ที่ตนเองก็มีาผิดหรือข้อบกพร่องนั้นเช่นเดียวกันเพียงแต่น้อยกว่าเล็กน้อย
[3] ไ้ี้า หมายถึงที่โ่มาก มีาคิดไม่ซับซ้อน
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา