เรื่อง การโต้กลับของทรราชย์หญิงแห่งยุค
เฉิงชิงสงบจิตสงบใอาศัยอยู่ที่เรือนัน้อย.
ุวันได้รับการปฏิบัติให้กินดีอยู่ดี ระยะี้จึงใช้ีิอย่างไม่เลวเลย
นางนอนหลับไปึ่วันเต็มๆ ถึงค่อยฟื้นฟูเรี่ยวแรงที่ถูกใช้งานไปได้ ตรวจสอบบัญชีั้ลำบากา ด้านิ่ของที่จำเป็นต่อการดำรงีิก็ไม่ได้ปฏิบัติต่อนางอย่างเอาเปรียบ ด้วยเหตุี้จึงได้แต่กินๆ นอนๆ เฉิงชิงหยิกแก้มตนเยังรู้สึกอ้วนึ้บ้างเล็กน้อย
ยามเย็นวันที่สามัส่งมอบรายการบัญชีั้หมดให้กับเมิ่งไหวจิ่นแล้ว าหนุ่มก็ปรากฏตัวที่เรือนัน้อย ่าว่าอีกฝ่ายยินยอมที่จะพบเฉิงชิงสักครั้ง
“ถามอะไรเจ้าไปก็ตอบตามความจริงก็พอแล้ว ไม่ต้องเอ่ยถ้อยคำไร้สาระให้าความและไม่ต้องคิดจะลองหลอวงเขา”
“จะไม่ำให้ิ์พี่เดืร้อนแน่ขอรับ”`
``
ยังคงเป็นรถม้าคันเดิมที่มาในแรก เมิ่งไหวจิ่นส่งเฉิงชิงที่ท่าเรือแห่งึ่ บนผิวน้ำที่ต้นอ้อึ้เป็นกอมีเรือลำใญ่สีดำทะมึนลอยนิ่งอยู่ ครั้งี้ไม่มีผู้คุ้มกันถืาบออกมาโจมตี แต่ยังคงรู้สึกว่าตนเถูกคนจับตาอย่างใ้ชิด
หากนางมีการเคลื่อนไหวที่ไม่เข้าท่า ิตาเีก็คงจะถูกคมดาบต้อนรับแน่
นางเดินึ้บนกราบเรือมาถึงท้องเรือ
วันี้บนเรือไม่ได้มืดสนิทแล้ว ในท้องเรือจุดเขียนไข ทางเข้ามีหญิงรับใช้หน้าตางดงามสองนางยืนอยู่ เปเทียนที่สั่นไหวำให้บรรยากาศอึดอัดเบาบางลง เพิ่มบรรยากาศอบอุ่นให้กับเรือลำี้อยู่หลาย่ ำให้คาดเดาไม่ได้ว่าที่อยู่ภายในท้องเรือเป็นนายน้อยร่ำรวยโเด่นผู้ึ่ใช่หรือไม่—— โเด่นไม่โเด่นเฉิงชิงไม่รู้ ิ่ที่นางต้องรับมือคืออำนาจของอีกฝ่าย!
“เชิญคุณาเฉิงเข้ามา”
หญิงรับใช้ค่อยๆ ักปะตูของท้องเรือให้เปิออก ฝีเท้าเบางามสง่า เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เื่เฉิงชิงก้าวเข้าไป ปะตูก็ปิดอย่างรวดเร็ว ราวกับเกรงว่าสายลมยามค่ำคืนจะตามฝีเท้าของเฉิงชิงเข้ามายังท้องเรือ
ท้องเรือี้ช่างปิดสนิทนัก
เดือนเ้าแม้จะยังมิอาจเรียกได้ว่าเป็นปลายฤดูใบไม้ร่วง บนผิวน้ำจะยังไม่เย็นสักเท่าไร แต่ผู้ที่นั่งอยู่ภายในท้องเรือคล้ายว่าจะไม่อาจทนลมหนาวได้แม้แต่น้อย
มีฉากกันลมวางอยู่ แเทียนสะท้อนเงาของผู้ที่อยู่ด้านัฉากกันลม
“เจ้าก็คือบุตราของเฉิงจือหย่วน ีตนายอำเภอเจียงหนิงหรือ?”
เสียงเอ่ยปะโยคดังสะท้อนไพเราะและเยียบเย็นราวกับจินสือ[1]
เพียงฟังน้ำเสียงี้ คนใญ่คนโตที่อยู่ด้านัฉากกันลมอ่อนวัยกว่าในจินตนาการของเฉิงชิง
แต่ในอาณาจักรเว่ย าุนับเป็นอันใด บางคนเพียงถือกำเนิดก็ปะสบการณ์ีิเป็นที่เลื่องลือ เพียงมีความคิดตามอำเภอใก็สามารถตัดสินชะตาีิของคนธรรมดาได้ เฉิงชิงรู้ตัวเดีว่าการเป็นบุตราของีตนายอำเภอขั้นเจ็ดไม่อาจไปล่วงเกินขุนนางใญ่ตัวจริงได้
“ข้าน้อยเฉิงชิง บิดาที่ล่วงลับไปคือนายอำเภอเจียงหนิง เฉิงจือหย่วนจริงขอรับ”
นางไม่อาจล่วงเกินขุนนางใญ่ แต่ไม่ถึงขนาดเพียงพบหน้าก็ปะจบราวกับทาสยอมหมอบราบคาบ เมิ่งไหวจิ่น่าไม่ผิด โอกาสในการพบหน้าเป็นิ่ที่เมิ่งไหวจิ่นมอบให้ แต่เฉิงชิงต้องพึ่งพาพละกำลังของตนในการไขว่คว้าไว้ หากนางตรวจสอบบัญชีหี้สูญห้องั้ไม่ชัดแจ้ง เกรงว่าบุคคลัฉากกันลมก็ไม่คิดจะพบนาง!
ในเื่เป็นโอกาสชนะที่ได้มาจากการพึ่งพาความสามารถ หากไปปะจบปะแจงนั่นจึงจะเป็นการถูกคนดูถูกไม่ให้ความสำคัญอย่างแท้จริง
บุคคลด้านัฉากกันลมก็ไม่ได้รู้สึกว่าท่าทางของนางมีอะไรไม่เหมาะ เป็นดั่งที่เมิ่งไหวจิ่น่า อีกฝ่ายถามถึงคดีของเฉิงจือหย่วน เฉิงชิงรู้อะไรก็ตอบไปตามั้ไม่จำเป็นต้อง่าอย่างอื่น
คนึ่ถามคนึ่ตอบ ั้สองคนพูดคุยกันราวึ่ก้านธูป บุคคลด้านัฉากกันลมก็่าสรุป
“บิดาของเจ้าไม่ได้ปลิดีิตนเ เขาถูกวางยาพิษ ัจากเสียีิแล้วถูกคนนำไปแขวนไว้ที่คานห้องภายในที่ว่าการอำเภอ อำพรางว่าเป็นการฆ่าตัวตาย คนตายไม่อาจเอ่ยปากแก้ตัวให้แก่ตนเ เขาเป็นแพะรับบาปที่ถูกผู้อื่นเลือกในคดียักยอกเงินช่วยเหลือผู้ปะสบภัยพิบัติเมืองเหอไถ”
การคาดการณ์ี้เฉิงชิงก็เคยคิดา่อน!!
แต่ไม่เคยมีผู้ใด่าเห็นด้วยอย่างตรงไปตรงมาา่อน ั้ยัง่าอย่างมั่นใเช่นี้ แม้แต่สาเหตุการตายที่แท้จริงของเฉิงจือหย่วนก็่าออกมาจนหมดสิ้น
“เหตุใดท่านผู้สูงศักดิ์จึง้าที่จะมั่นใ? ขออภัยด้วย ข้าไม่ได้สงสัยท่าน เพียงแต่เกี่ยวข้องกับเื่ี้ใญ่หลวงนัก ข้าต้องการความมั่นใเต็มร้อย——“
น้ำเสียงของบุคคลด้านัฉากกันลมเย็นชา ราวกับกำลังเอ่ยเื่เล็กไม่ควรค่าแก่การ่าถึง
“โลงศพของบิดาเจ้าที่เอาไว้อยู่ที่บ้านโลงศพ ข้าได้สั่งให้คนไปตรวจสอบศพแล้ว”
แม้นั่นจะไม่ใช่บิดาที่แท้จริงของเฉิงชิง แต่เลืในาของนางก็เดืพล่านทันที
ได้ชื่อว่าศพขุนนางก็ต้องขอความเห็นชอบจากคนในครอบครัว คนผู้ี้ปฏิบัติตามอำเภอใกับศพของเฉิงจือหย่วน ถือว่าไม่เห็นคนตระกูลเฉิงอยู่ในสายตา!
อีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงความไม่พอใของเฉิงชิงแต่ก็ไม่ได้สนใ
ไม่ตรวจสอบศพแล้วจะรู้สาเหตุการตายที่แท้จริงของเฉิงจือหย่วนได้อย่างไร?
เฉิงชิงคิดอย่างไรไม่สำคัญ หากสามารถพลิกคดีให้เฉิงจือหย่วนได้ การสอบตรวจสอบศพก็ถือเป็นเพียงการล่วงเกินเล็กน้อยเท่าั้ คนตระกูลเฉิงย่อมให้อภัย!
เฉิงชิงหดหู่ อีกฝ่ายไม่ได้เห็นว่าเื่ี้สำคัญเลย ัถามนางว่ามีอะไรที่ต้องการจะเพิ่มเติมหรือไม่?
“หากมีความผิดปกติอะไรก็สามารถบอกข้าได้ เื่ี้กระำอย่างะเีอ่อน ย่อมไม่ใช่ความคิดชั่ววูบแน่”
ภายในความทรงจำของ ‘เฉิงชิง’ คือความวุ่นวาย ัจากศพของเฉิงจือหย่วนถูกพบ ‘เฉิงชิง’ ก็ล้มป่วยลงทันที ในภาวะบ้านแตกสาแหรกขาด เด็กาตัวน้อยวัยสิบสามปีแม้แต่จะปะคับปะคองสติยังำไม่ได้ แล้วจะให้ไปตรวจสอบสาเหตุการตายของบิดาหรือ?
เฉิงชิงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ข้าไม่รู้ว่าใครให้บิดาที่ล่วงลับของข้าเป็นแพะรับบาป แต่ใต้เท้าข้าหลวงใญ่จางที่ราชสำนักส่งาลับยากที่จะตัดสินว่าจงรักภักดีหรือทรยศ ในเื่การกระำของเขาราวกับมีเจตนาดีที่จะรักษาพวกเราครอบครัวแม่ม่ายบุตรกำพร้า ให้พวกเรารีบไปจากอำเภอเจียงหนิง ราวกับต้องการักข้อ่าหาั้หมดไปไว้ที่บิดาผู้ล่วงลับ วิธีการจัดการที่คลุมเครือี้ำให้พวกเราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจแก้ตัวได้ หากไม่ใช่ว่ายามั้ข้าป่วยั ไม่มีทางที่จะอัญเชิญดวงวิญญาณับ้านเกิดตามคำสั่งของข้าหลวงใญ่จางเด็ดขาด!”
ด้านัของฉากกันลมเงียบสนิท
คล้ายกับอีกฝ่ายกำลังครุ่นคิดว่าควรจะพูดอย่างไร หรือไม่ก็กำลังพิจารณา ใคร่ครวญว่านอกจากเป็นบุตราของเฉิงจือหย่วนแล้ว เด็กหนุ่มวัยสิบสามปีผู้ี้ยังมีคุณบัติที่จะเข้าใเื่ราวภายในากว่าี้หรือไม่?
ในฐานะบุตรแล้ว รีบร้อนจะพลิกคดีให้บิดาเป็นถือเื่ธรรมดา แต่แม้แต่ข้าหลวงใญ่ที่ถูกราชสำนักส่งมาตรวจสอบคดีเฉิงชิงก็ยังไม่เชื่อถือ ยิ่งปิดบังเท่าไร เฉิงชิงก็จะยิ่งใช้วิธีการที่รุนแรงในการเสาะหาข้อเท็จจริงาเท่าั้กระมัง!
บุคคลด้านัฉากกันลมลุกึ้ยืน เงาร่างของเขาที่ถูกแเทียนสะท้อนบนฉากกันลมดูสูงใญ่า
ัจากี้เขาจะไม่ำตัวลับๆ ่ๆ อีกแล้ว ยกขาึ้แล้วหันออกมาจากฉากกันลมทันที
เฉิงชิงปะหลาดใ
เจ้าของน้ำเสียงาุน้อยตามที่นางเดาดังคาด เป็นคนหนุ่มที่ร่างาผอมสูงผู้ึ่ คิ้วสองข้างโก่งเข้าจอน ดวงตาเรียวยาว ุการเคลื่อนไหวล้วนมีความน่าเกรงขามที่ไม่อาจเอ่ยออกมาได้
อ่อนวัยกว่าเื่เทียบกับเมิ่งไหวจิ่น เื่รูปลักษณ์แล้วาุเพียงสิบเจ็ดสิบแปดปีเท่าั้ ทว่าอุปนิสัยั้จะ่าว่าาุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปีก็ไม่ผิดนัก
ตัวคนสูงาและยังผอมาด้วย เฉิงชิงบอบบางใบหน้าซีดเหลืองตัวผอมซูบ แต่ใบหน้าของคนผู้ี้ขาวา ริมฝีปากไร้สีเลื สองแก้มตอบ ที่แท้ก็เป็นเจ้าขี้โรคที่ดำดั่งนกกา ผิวขาวดุจหิมะผู้ึ่——
ขนาดป่วยยังมีใบหน้าเช่นั้ หากร่างาแข็งแรงย่อมต้องเป็นโฉมสะคราญในโลกมนุษย์!
เฉิงชิงตัดสินได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้าขี้โรคน่ะหรือ?
ในท้องเรือี้ปิดแน่นสนิทจนรู้สึกอึดอัด แต่คนผู้ี้ท่าทางเหมือนไม่รู้สึกว่าร้อนแม้แต่น้อย สวมเสื้อคลุมแซมขนสัตว์บริเวณปกคอเสื้อในเดือนเ้า ราวกับเฉิงชิงอยู่ในฤดูใบไม้ร่วงแต่อีกฝ่ายอยู่ในฤดูหนาว าร่างาเช่นี้ไม่มีทางเป็นคนปกติ
เฉิงชิงให้เต็มตาาึ้ เจ้าขี้โรคยินดีหรือโกรธเกรี้ยวยากที่จะตัดสินได้
“เมิ่งไหวจิ่น่าไม่ผิด ความ้าของเจ้าช่างานัก ตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋เื่เทียบกับทั่วั้แคว้นเว่ยแล้วไม่นับว่าเป็นอันใด ุรอบหลายปีย่อมให้กำเนิดผู้มีความสามารถึ่ถึงสองคน”
ตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋ไม่นับว่าเป็นอันใดหรือ?
เฉิงชิงไม่เกรงัวแม้แต่น้อย “เช่นั้ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าท่านมีสถานะใด? เื่ที่ท่านผู้สูงศักดิ์ตรวจสอบศพของบิดาข้าในโลงตามอำเภอใ ข้าไม่เอาความก็ได้ ิ์พี่เมิ่ง่าว่าทุ่มเทไปจึงจะได้ัคืนมา ข้าได้จัดแจงรายการบัญชีที่ติดลบสองแสนหกหมื่นตำลึงเงินให้ท่านแล้ว ข้าคิดว่าตนเมีคุณบัติที่จะรู้สถานะของท่านผู้สูงศักดิ์!”
หากไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แล้วจะแน่ใได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายมีความสามารถที่จะช่วยนางพลิกคดีให้เฉิงจือหย่วนได้?
ท่าทีของเฉิงชิงเปลี่ยนจากต่อต้านเป็นกระตือรือร้น ีิก็เป็นเช่นี้ หากไม่อาจต้านทานได้ นางก็ำได้เพียงเรียนรู้ที่จะเพลิดเพลินไปกับการแสวงหาปะโยชน์สูงสุด!
พ
“บังอาจ!”
หญิงรับใช้ที่ดูแลปะตูท้องเรือตำหนิเฉิงชิง ท่าทีเปลี่ยนไปอย่างาราวกับต้องการจะมาโจมตีควบคุมตัวเฉิงชิงในทันที
—— เฉิงชิงเอ่ยถามสถานะของนายท่านตามอำเภอใ ถือเป็นการล่วงเกินไม่แบ่งแยกนายบ่าว ไหนเลยหญิงรับใช้จะทนได้!
[1] จินสือ คือเครื่องดนตรีชนิดึ่ที่มีเสียงกังวานไพเราะ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา