0.00
0.00
ผลงานที่ติดตาม ผลงานที่ดูล่าสุด ผลงานที่ให้กำลังใจ จัดการงานเขียน อีบุ๊คของฉัน ถอนอั่งเปา ตั้งค่า
BLOG
 3 ตำนานนิยายแฟนตาซี

เห็นปุ๊บรู้ปั๊บ! 3 นิยายแฟนตาซีไทยในตำนาน อ่านสนุกจนวางไม่ลง

3 นิยายแฟนตาซีฝีมือนักเขียนไทย อ่านเพลิน แถมได้แรงบันดาลใจ


    ถ้าพูดถึงนิยายแฟนตาซีในดวงใจ หลายคนอาจนึกคำตอบที่ตรงใจได้ไม่ยาก แต่หากลองเปลี่ยนคำถามเป็นการให้เลือกนิยายแนวแฟนตาซีฝีมือคนไทยที่ชอบแทนล่ะ เราจะนึกถึงนิยายเรื่องไหนกันบ้างเมื่อเจอกับคำถามนี้ บรรดาคออ่านนิยายแฟนตาซีก็อาจจะพยายามนึกถึงนิยายในตำนานที่มาจากนักเขียนรุ่นเก๋า แต่รู้หรือไม่? ในช่วงระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมานี้ นักเขียนนิยายรุ่นใหม่ หลายคนได้ฝากผลงานนิยายแฟนตาซีคุณภาพดีเอาไว้มากมายเช่นกัน ซึ่งบางเล่มได้กลายเป็นงานขึ้นหิ้งที่ทั้งสนุกจนหาตัวจับยาก แถมยังสามารถส่งต่อแรงบันดาลใจให้นักเขียนไทยหันมาเขียนงานแนวแฟนตาซีกันมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น เพื่อเป็นการพานักอ่านและนักเขียนชาวไทยกลับไปสู่จุดเริ่มต้นของโลกแฟนตาซีในประเทศไทยอีกครั้ง วันนี้เราจะขอย้อนเวลาพาทุกคนไปดู 3 นิยายแฟนตาซีฝีมือคนไทยที่ทั้งสนุกและเป็นอีกหนึ่งความทรงจำของใครหลายคน ว่าแต่จะมีเรื่องไหนบ้าง ลองทายแล้วไปดูเฉลยพร้อมกันได้เลย!




ตำนานแฟนตาซีเรื่องที่ 1: หัวขโมยแห่งบารามอส


    หากเปรียบการอ่าน Harry Potter คือ การเปิดประตูสู่โลกเวทมนตร์ การอ่านหัวขโมยแห่งบารามอสก็เหมือนเป็นการไขกุญแจสู่จุดเริ่มต้นของนิยายแฟนตาซีไทยของใครหลายคนเช่นกัน โดยหัวขโมยแห่งบารามอสจะบอกเล่าถึงเรื่องราวของหัวขโมยอย่างเฟริน เดอเบอโรว์ที่ต้องเข้ามาเรียนในโรงเรียนพระราชาแห่งเอดินเบิร์กเพื่อลักพาตัวเจ้าชายสักคนในโรงเรียน แต่แล้วเมื่อเจอกับคาโล วาเนบลีและคิลมัส ฟีลมัสเรื่องราววุ่น ของมิตรภาพ การผจญภัย และภารกิจต่าง ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งการเดินทางของทั้งเฟริน คาโล และคิลมัสนี้จะดำเนินต่อไปถึง 4 ภาค ซึ่งประกอบไปด้วย

  1. มงกุฎแห่งใจ
  2. คทาแห่งพลัง
  3. แหวนแห่งปราชญ์
  4. ดาบแห่งกษัตริย์


ทำไมนิยายเรื่องนี้ถึงฮอตฮิตมาก


    ย้อนกลับไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน หัวขโมยแห่งบารามอสกลายเป็นนิยาย Talk of the Town อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนอกจากจะสนุกแล้ว นิยายแนวแฟนตาซีเล่มนี้ยังผสมผสานขนบการเล่าเรื่องของไทยและต่างประเทศได้อย่างลงตัว แถมนักเขียนอย่างแรบบิทเองก็ได้สร้างวิธีการเล่าเรื่องแบบใหม่ ซึ่งทำให้ทั้งพล็อตและตัวละครดูน่าสนใจและน่าติดตามมากขึ้นเรื่อย  โดยจากผลสำรวจจากสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยในปี .. 2553 ที่ผ่านมา นิยายแฟนตาซีอย่างหัวขโมยแห่งบารามอสสามารถคว้าอันดับ 10 จากการคัดเลือกวรรณกรรมในดวงใจของนักอ่านและนักเขียนจำนวน 101 เล่มเลยทีเดียว ที่สำคัญ ถึงแม้เรื่องราวการเดินทางของเฟรินและผองเพื่อนจะจบลงไปนานกว่า 10 ปีแล้ว หัวขโมยแห่งบารามอสนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมในหมู่นักอ่านนิยายแฟนตาซีอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งนิยายเล่มนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้หลายคนผันตัวเองมาเขียนนิยายเกี่ยวกับโลกแฟนตาซีมากขึ้นอีกด้วย นับได้ว่าเป็นนิยายอีกหนึ่งเล่มที่สร้างประวัติศาสตร์นิยายแฟนตาซียุคใหม่ในไทยเลยก็ว่าได้


ตำนานแฟนตาซีเรื่องที่ 2: เซวีน่า มหานครแห่งมนตรา

    หากพูดถึงนิยายแฟนตาซีอย่างหัวขโมยแห่งบารามอสโดยปราศจากผจญภัยในเซวีน่า มหานครแห่งมนตราก็ดูเหมือนจะทำให้การเดินทางในโลกแฟนตาซีฝีมือคนไทยขาดอะไรไป ซึ่งถึงแม้ว่าจะถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มวรรณกรรมสำหรับเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี แต่เซวีน่าก็ยังเป็นนิยายอีกหนึ่งเล่มที่ช่วยเปิดโลกการอ่านให้ใครหลายคนเลยทีเดียว เซวีน่าบอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาวอย่างเฟมีลล่าที่เติบโตอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่โดยไร้วี่แววของบิดาและมารดา และแล้วการผจญภัยของเฟมีลล่าก็ได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อเธอได้รับหนังสือจากคนแปลกหน้าที่ทำให้เธอหลุดเข้ามาอยู่ในมิติของมหานครแห่งมนตรา ซึ่งการเดินทางของเฟมีลล่าและผองเพื่อนนี้จะเล่าเรียงผ่านหนังสือด้วยกันทั้งหมด 5 เล่ม คือ

  1. การกลับมาของบุคคลแห่งชะตากรรม
  2. บทพิสูจน์ความสามารถ
  3. นคราเซวีน่าคือหนึ่งเดียว
  4. พันธสัญญาแห่งอาณาจักร
  5. ปริศนาทรายสีดำ


ทำไมนิยายเรื่องนี้ถึงฮอตฮิตมาก

    ถึงบรรดานักอ่านนิยายแฟนตาซีจะมองว่า ช่วงต้นของเซวีน่านั้นจะมีการบรรยายที่ยืดเยื้อ แต่หากได้ลองเปิดใจและเรียนรู้เรื่องราวต่าง ผ่านคำบรรยายในช่วงต้น ทุกคนก็จะได้พบเจอกับความสนุก และความคมคายในการเล่าเรื่องที่จะเด็กก็ไม่ใช่ จะผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง ซึ่งทำให้ผู้อ่านรู้สึกสนุกกับการตีความได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยพล็อตที่ซับซ้อนและน่าตื่นเต้นขึ้นเรื่อย ในทุกบรรทัด จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเซวีน่านั้นเป็นนิยายแนวแฟนตาซีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หากนึกภาพไม่ออกว่านิยายเล่มนี้ฮอตแค่ไหน ก็ลองคิดดูง่าย ว่า จริง แล้วนิยายเล่มนี้ตั้งใจจะจบที่เล่ม 3 แต่แฟนคลับเรียกร้องจนทำให้คุณกัลฐิดาต้องเขียนเล่ม 4 และ 5 ออกมาเพื่อสานต่อการเดินทางของเฟมีลล่าเลยทีเดียว 





ตำนานแฟนตาซีเรื่องที่ 3: Pride Origin : สงครามออนไลน์อลเวง

    หลังจากยุคของหัวขโมยแห่งบารามอสและเซวีน่าไม่นาน “Pride Origin : สงครามออนไลน์อลเวง” ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น และเป็นอีกหนึ่งนิยายโลกแฟนตาซีบนโลกออนไลน์ที่หลายคนจับตามอง ซึ่งในขณะนี้ Pride Origin ก็เป็นอีกหนึ่งนิยายแฟนตาซีที่มีคนอ่านมากถึง 3,000 ครั้งใน 1 ปี โดย Pride Origin ได้เล่าเรื่องราวของ “วิศนะ” เด็กหนุ่มผู้มีฝีมือเล่นเกมห่วยขั้นเทพในจักรวาล Pride ที่ใคร ๆ ต่างก็ร้องยี๋ให้ แต่ในตอนนี้ ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเมื่อ “วิศนะ” ได้ค่อย ๆ พัฒนาฝีมือจนกลายเป็นผู้เล่นระดับพระกาฬเพียงเพราะแอบชอบสาวคนหนึ่งในเกมขึ้นมา 


ทำไมนิยายเรื่องนี้ถึงฮอตฮิตมาก


    การผจญภัยของนิยายแฟนตาซีหลาย เรื่องอาจเริ่มต้นจากตัวละครที่มีสกิลติดตัว หรือความสามารถพิเศษที่ทำให้ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ไปได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับ Pride Origin แล้ว นิยายแนวแฟนตาซีเรื่องนี้กลับสร้างความแตกต่างออกไป โดยตัวเรื่องจะเริ่มต้นที่พระเอกอย่างวิศนะที่มีฝีมือการเล่นเกมที่ไม่ได้เรื่อง แต่มีความพยายามในการฟันฟ่าอุปสรรคต่าง ซึ่งในจุดนี้เองกลับทำให้นิยายเรื่องนี้มีเสน่ห์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังทำให้นักอ่านหลาย คนได้เป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของตัวละคร แถมยังได้มีโมเมนต์ลุ้นระทึกไปพร้อมกับทุกอุปสรรคที่หนุ่มน้อยวิศนะต้องเจออีกด้วย 


อย่างไรก็ดี โลกของนิยายแฟนตาซีจากฝีมือคนไทยยังไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ ซึ่งสำหรับใครที่อยากผจญภัยไปในโลกแฟนตาซีแห่งใหม่ที่เต็มไปด้วยความสนุกที่ไม่เหมือนใครล่ะก็ อย่าลืมแวะเข้ามาเลือกอ่านนิยายแฟนตาซีจากฝีมือนักเขียนไทยได้ที่กวีบุ๊ค ไม่ว่าจะเป็นพล็อตแบบไหน มีกลิ่นอายความเป็นไทย ต่างประเทศ จะอยู่ในโลกเวทมนตร์ หรือจักรวาลไหน ก็มีให้เลือกอ่านครบทุกแนว แถมพูดคุยกับนักเขียนได้อีกด้วย!



เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา