เรื่อง ปกรณัมของเหล่านักเรียน ม.ปลาย ผู้ปฏิวัติโลก (Midnight High-School)
ตอนที่ 69:มังกรหนุ่ม อย่างไรก็เป็นมังกร
ริว...
หลงเผลอรำพึงถึงเด็กหนุ่มสวมหน้ากากหนุมานเบื้องหน้า หากไม่ขบปากไว้เขาอาจเผลอหลุดเสียงตะลึง
ก็จะให้สงบใจได้อย่างไร... ในเมื่อเขาเพิ่งรู้ตัวจริงของศัตรู ว่าคือน้องชายที่ควรจะตายไปแล้วเมื่อสามปีก่อน
อีกฝ่ายเองก็คงรู้ความจริงข้อนี้เหมือนกันถึงได้เรียกเขาว่า ‘พี่’
แต่นั่นก็ยิ่งนำมาซึ่งคำถาม... ว่าทำไมน้องชายของเขาถึงเลือกจะเผชิญหน้ากันในการต่อสู้ถึงตาย ทั้งที่เขาเองยังทำใจไม่ได้แท้ ๆ
“ทำไมถึงกลับมาที่สนามรบอีก”
หลงเก็บซ่อนความลำบากใจภายใต้น้ำเสียงสงบนิ่ง เขาเอ่ยถามแม้ไม่อยากได้ยินคำตอบ เพราะน้องชายเขาอาจไม่คิดแบบเดียวกันแล้วก็ได้ แต่ว่า...
“ทำไมเหรอ? ก็เหตุผลเดียวกับพี่นั่นแหละ” แต่ริวกลับตอบอย่างไม่หวั่นไหว ราวกับประเด็นเรื่องพี่น้องไม่อยู่ในหัว
หรือไม่ก็ตรงข้าม... ริวชี้กระบองขึ้นใส่หน้าหลงอย่างแน่นิ่ง และเป็นความสงบที่ออกมาจากภายใน
ราวกับการเตรียมใจของเขามันชัดแจ้งไร้ซึ่งการลังเล
“ไม่ว่าเรื่องระหว่างเราจะเป็นยังไง แต่เราทั้งคู่ก็มีเรื่องที่ต้องทำอยู่ดีไม่ใช่เหรอ?”
“...”
ริวส่งน้ำเสียงขึงขังมาทำเอาหลงนิ่งไป แทบจะทำเอาพี่ชายคนนี้ตื้นตันกับการเติบโต
เอาหน้าที่มาก่อนสินะ
ไม่เจอกันแปปเดียวโตเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้เชียว
แต่ว่า... สุดท้ายก็ยังมีส่วนที่อ่อนหัดอยู่
หลงชื่นชมน้องชายได้เพียงครึ่ง เพราะได้สังเกตริวตั้งแต่หัวจรดเท้าจึงเพิ่งสังเกตเห็นสิ่งที่แตกต่างไปจากหนก่อน
นั่นคืออาวุธที่ริวกำลังชี้มาทางเขา... มันคือกระบอง ไม่ใช่หอกเหมือนกับก่อนหน้านี้
ก็จริงที่อาวุธแบบไหนก็สามรถใช้ฆ่าคนได้ แต่การเปลี่ยมเอาของมีคมออกไปมันก็ทำให้คิดได้อย่างเดียว
“ลงมาในสนามรบด้วยความรู้สึกครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนั้น เดี๋ยวก็ตายหรอก”
“ช่างกล้าพูดนะ คนที่ไว้ชีวิตศัตรูอย่างพี่น่ะไม่มีสิทธิพูดหรอก”
ทั้งสองคนเริ่มตั้งการ์ดขึ้นราวกับเป็นสัญญาณเริ่ม แม้จะยังมีความขุ่นมัวในใจ อันเกิดแต่ปณิธานในอดีตและปัจจุบันทับซ้อนกันจนเลือกไม่ได้ คนที่หาจุดลงตัวได้ก่อนจึงจะเป็นผู้กุมชัย
และคนที่จะทำเช่นนั้นได้ ก็มีแต่คนที่ซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเอง
“แต่ว่านะ...” ริวเอ่ยขึ้นเหมือนยังสื่อไม่หมด แม้กระบองจะชี้ที่หลงไปแล้ว
ราวกับนี่เป็นเรื่องสำคัญที่จะให้พี่ชายเข้าใจผิดไม่ได้
“ฉันไม่ได้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบที่พี่ว่าหรอกนะรู้ไว้ด้วย... เพราะฉันกับหมิงเซียนตัดสินใจแล้ว ว่าจะอัดพี่ให้เละโดยที่ไม่ต้องฆ่า” ริวยั้งเท้ากับพื้นแน่น ดังเช่นหัวใจอันไม่สั่นคลอนของเขา
“พวกเราจะชนะ! โดยที่ไม่ฆ่าพี่ให้ดู!!!!”
ริวตะโกนส่งจิตวิญญาณอันแน่วแน่สู่เท้า และถีบเร่งทะยานเข้าใส่หลงในพริบตา
กระบองเหล็กของเขาฟาดเข้าใส่หลงผู้เป็นพี่เต็มแรง หลงจึงรีบยกแขนขึ้นป้องกัน
แรงอัดกระแทกระดับที่ไม่ต่างจากศึกหนก่อน ทำให้รู้เลยว่าริวใส่เข้ามาเต็มแรงจริง
พอหลงนึกดู... เมื่อสมัยเด็กริวก็เป็นพวกคุมแรงตัวเองไม่เก่งอยู่แล้ว ถึงจะมีส่วนที่ยั้งมือบ้าง แต่นั่นก็แทบไม่ต่างจากตอนเอาจริงเท่าไหร่
คิดไปแล้ว ฝ่ายที่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ และเอาแต่ออมมืออาจมีแต่เขาก็ได้
ไอ้น้องตัวแสบเอ้ย!
หลงเปลี่ยนความคิด และเพิ่มระดับของตัวเองให้เท่ากับริว
เขาใช้มืออีกข้างจับกระบองของริวแล้วเหวี่ยงข้ามหัว หวังจะปลดอาวุธออกจากมือของริว
“ไม่ยอมหรอก ไอ้พี่เฮงซวย!”
แต่ริวไม่ยอมปล่อยมือจากกระบองจนโดนหลงเหวี่ยงข้ามหัว
ทว่าในจังหวะที่เท้ากระแทกพื้น ริวก็อาบออร่าสีแดงโลหิตจากตราอัศวินที่เท้าเพื่อรับแรงกระแทก แล้วจัดการเหวี่ยงหลงข้ามหัวเป็นการเอาคืนแบบเดียวกัน
หลงไม่อยากเอาชนะกับเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ จึงได้ปล่อยมือจากกระบองและร่อนลงพื้นในจุดที่ห่างออกไปตามแรงเหวี่ยงแทน
แน่นอนว่าเขาหันกลับมาเผชิญหน้ากับริวอีกครั้งอย่างสบาย ๆ
“นิสัยเกลียดความพ่ายแพ้นี่ยังเหมือนเดิมเลยนะ”
“ไอ้นิสัยที่ชอบออมมือเพราะคิดว่าไม่มีทางแพ้ของพี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ! น่าหงุดหงิดชะมัด!!!”
ริวปล่อยความหงุดหงิดให้โลดแล่น แต่ไม่ปล่อยให้มันควบคุม เขาย่นระยะเข้าหาหลงและกระหน่ำฟาดปลายกระบองเข้าใส่
หลงพยายามมองวิถีการโจมตีล่วงหน้าและปัดออกไปจนหมด พร้อมกันนั้นก็เตะขาริวสวนกลับไปให้เขาเสียหลักด้วย
เกือบไป!
แต่ริวเองก็อ่านทางออกเพราะมองมือเท้าหลงอยู่ตลอดอย่างไม่ประมาท ทำเอาหลงอยากชมอยู่เหมือนกันที่ริวรู้จักใช้หัวขึ้นกว่าเมื่อก่อน
ทว่าหน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่... อย่างที่น้องชายอย่างริวพูดเอง
“พี่ไม่เวลามาเล่นกับนายหรอกนะ เพราะงั้นขอปิดฉากเลยละกัน”
“หา?”
ริวตกใจกับความจริงจังที่เพิ่มขึ้นของหลง พริบตานั้นหมัดตรงก็พุ่งเฉียดใบหน้าเขาไป
เกือบไป!
แต่พี่เนี่ยนะจะพลาด?
ริวเริ่มสับสน เพราะหมัดระยะหนึ่งนิ้วของหลงไม่น่าพลาดได้ แถมหมัดเมื่อกี้เขาตอบสนองไม่ทันด้วยซ้ำ
ความจริงจึงเหลือแค่อย่างเดียว... นั่นคือหลงจงใจพลาด
แย่แล้ว!?
แต่กว่าริวจะรู้ตัวก็สาย หลงชักหมัดนั้นกลับในชั่วพริบตาด้วยความเร็วพอกับตอนออกหมัด
พริบตานั้นมวลอากาศก็ถูกผลักใส่ด้านหลังของริว ราวกับลมถูกผลักตามแรงชักหมัดกลับของหลง ทำเอาริวถึงกับเซเสียหลัก
และการเสียจังหวะในระยะประชิด มันไม่ใช่เรื่องดีเลย
“ไว้เจอกันใหม่ ไอ้น้องชาย”
“!!!?”
หลงกล่าวลาพร้อมกับเหวี่ยงแขน หลังแหวนใส่กระบองของริวจนเขากระเด็นลอยขึ้นฟ้าตีลังกากลางอากาศ ทำเอาร่างกายปวดร้าวไปทั้งตัวจากแรงกระแทกหมัดเดียวนั่น
แม้ความรุนแรงไม่มากพอจนถึงตายเหมือนกับหนก่อน แต่พอคิดว่าจะเสียโอกาสสู้เพราะการโจมตีแค่นี้มันก็ยิ่งเจ็บใจหนัก
ทางหลงก็กำลังจะถีบพื้นกลับไปสู้กับเซอร์เคย์ แผ่นหลังของหลง... ของฮุ่ยซิ่วที่กำลังเดินจากริวไปช่างคล้ายกับวันที่ลาจากกัน
แม้จะไม่ใช่ด้วยสถานการณ์เดียวกัน แต่ก็ยังด้วยเหตุผลเดียวกัน ...นั่นคือริวอ่อนแอเกินกว่าจะตามพี่ชายได้ทัน
เวรเอ้ย! นี่เราจะแพ้ง่าย ๆ อย่างนี้เหรอวะเนี่ย!?
บ้าเอ้ย... บ้าเอ้ย!!!
ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ หากริวไม่ทำอะไรสักอย่าง เขาก็จะไม่มีวันเปลี่ยนไปจากครั้งอดีตได้เลย
ไม่ว่าแผ่นหลังนั่นจะไปที่ไหนหรือจะทำอะไร หากริวไม่ทำอะไรสักอย่างเขาก็จะไม่มีวันตามทัน
เหมือนกับวันนั้นที่ฮุ่ยซิ่วเสียสละตัวเองเพื่อให้เขากับหมิงเซียนหนี... เขาไม่อยากจะเสียใจทีหลังเพราะอ่อนแอจนตามใครไม่ทันอีกแล้ว
ใครมันจะไปยอมง่าย ๆ กันวะ!!!
ริวใช้แรงที่เหลือพลิกตัวให้เท้าลงพื้นแทนที่จะเป็นหลัง ก่อนจะผสานจิตทั่วทั้งร่างเพื่อเพิ่มความสามารถทางกายให้ถึงขีดสุดแล้วย่อตัว
ความรุนแรงของการผสานจิตส่งมาถึงหลงที่กำลังจะออกวิ่งหันหลัง เป็นพริบตาเดียวที่รู้สึกขนลุกขึ้นมา
กะแล้ว... ริวมีความสามารถซ่อนเร้นที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ ด้วย
หลงไม่ประมาทต่อประสาทสัมผัสที่แจ้งเตือน แต่ริวพุ่งเข้ามาในจังหวะที่เขากำลังหันไปมองพอดี
หลงทำอะไรไม่ได้นอกจากรีบอาบออร่าสีแดงเพลิงด้วยการผสานจิตเพื่อป้องกันการโจมตี เขามองเห็นมาแต่ไกลเลยว่าริวง้างกระบองเข้ามาสู้ซึ่งหน้า
หลงจึงยกมือทั้งสองตั้งการ์ดอย่างง่ายดาย คิดแต่เพียงว่านี่เป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของน้องชาย
...เว้นเสียแต่ริวตั้งใจให้เขา ‘เห็น’ แบบนั้น
“อะไรกัน!?”
ร่างของริวที่พุ่งเข้ามาหายไปจากสายตา ทำเอาหลงถึงกับหลุดตกใจ
พริบตาถัดมา ริวกลับปรากฏตัวอยู่ฝั่งซ้ายของหลงราวกับริวที่เข้ามาก่อนหน้านี้เป็นภาพมายา ทำหลงตกตะลึงกับเทคนิคการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเห็น
...หารู้ไม่ว่าริวยังฝึกไม่สำเร็จด้วยซ้ำ แต่เพราะเขาถูกเทคนิคนี้เล่นงานมาหลายครั้งจึงได้รู้อานุภาพของมันดี
อย่างเช่นตอนนี้... ที่เขาใช้‘ลวงล่อไร้ทิศ’ของชินเข้าประชิดหลงได้แบบไม่ทันตั้งตัวเป็นครั้งแรกในชีวิต
เอานี่ไปกิน!
ริวฟาดกระบองเข้าใส่แก้มของหลงสุดแรงจนหน้าหัน ถึงกับทำเอาหลงต้องผละทิ้งระยะห่าง
หลงโดนโจมตีเข้าที่ศีรษะเต็ม ๆ หากเป็นคนอื่นอาจน็อคไปแล้ว แต่ที่เขาทำกลับแค่ยกมือขึ้นเช็ดแก้มตรงรอยที่ถูกน้องชายฟาด ราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่ภายในใจใครหนอจะรู้... ว่าหลงกำลังใจเต้นแรงระดับเดียวกับที่เผชิญหน้ากับแองกริคราวน์หรือเซอร์เคย์เลยทีเดียว
และมันจะเป็นเช่นนี้ไม่ได้เลย หากคู่ต่อสู้ไม่คู่ควร
“ไม่เลว” หลงถุยเลือดในปากทิ้ง ไม่คิดว่าจะมีวันที่น้องชายทำให้เขาหลั่งเลือดได้
ริวที่เห็นผลงานตัวเองก็ถึงกับยิ้มร่าใต้หน้ากาก
“เลิกดูถูกฉันได้รึยังล่ะพี่”
“อย่าได้ใจนัก กับอีแค่การโจมตีครั้งเดียวเอง”
หลงตักเตือนไม่ให้ท้ายน้องชายใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ก็กลับมาตั้งการ์ดอีกครั้งอย่างสุขุม ริวเห็นก็ยกกระบองขึ้นอีกครั้งตาม
เพราะมันหมายความว่าหลงจะไม่ดูถูกเขาอีกต่อไปแล้ว
“แต่จะดีเหรอ! มัวแต่ติดแหงกอยู่นี่ เดี๋ยวก็ถูกราชาของฉันแย่งดินแดนเอาหรอก!” ริวได้ทีเลยเกทับใหญ่ทำเอาหลงถอนหายใจ เพราะนิสัยตรงนี้ริวไม่ได้เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่ตอนเด็ก
ทว่า... หลงกลับไม่ได้ร้อนรนที่จะถูกขโมยเหยื่อแต่อย่างใด เขายังคงท่าทีสบาย ๆ ไว้อยู่เลยด้วยซ้ำ
“ดูถูกพวกฉันก็แย่สิ... ฉันไม่ใช่คนเดียวที่พึ่งได้หรอกนะ”
❖❖❖❖❖
ในขณะที่หลงกับริวปะทะกัน ทางเซอร์เคย์กับอัลเฟรดเองก็กำลังประมือกันอยู่
ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้งัด ‘ไนท์’ ที่เป็นไพ่เด็ดออกมาทั้งคู่ พวกเขาแค่ทำการผสานจิตและโจมตีทางกายภาพใส่อีกฝ่ายเพราะอยากดูท่าที นั่นเลยทำให้มีแต่การแลกฝีหมัดกันเกิดขึ้น
รวมถึงฝีปากก็เช่นกัน
“มีปัญญาแค่นี้ แต่เจ้าเรียกตัวเองว่าราชางั้นเรอะ!”
“แหม ๆ แล้วเก่งขนาดนั้น ทำไมไม่ชนะผมสักทีล่ะครับ!”
ทั้งสองเชือดเฉือนอีกฝ่ายด้วยวาจาและหมัด แต่อีกฝ่ายก็ชกกลับเข้ามาได้หมด เป็นการปะทะกันซึ่งหน้าโดยใช้กำลังล้วน ๆ
และจุดนั้นแหละที่ทำอัลเฟรดเริ่มขมวดคิ้ว ...ไม่ใช่เพราะกังวล แต่เพราะมีบางอย่างไม่สมเหตุสมผล
แปลกจริงแฮะ... เรากับหมอนี่ผสานจิตกันทั้งคู่ เราที่มีตราราชันย์ควรจะมีพลังกายมากกว่าไม่ใช่เหรอ?
อัลเฟรดคิดไปก็ออกแรงต่อยใส่หมัดที่อีกฝ่ายปล่อยมาเสียทุกครั้งเพื่อทดสอบ
และผลลัพธ์ก็เหมือนกันทุกครั้ง หมัดของอีกฝ่ายไม่ถูกซัดปลิวหรือแหลกเละคามือของเขา นั่นแปลว่าการผสานจิตของเซอร์เคย์มีระดับสูงพอที่จะกลบช่องว่างจนพลังเท่ากับอัลเฟรดได้
หรือนี่จะเป็นสาเหตุที่พวกฉินเอาชนะอัศวินนี่ไม่ได้ทันที?
ไม่สิ... เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนละกัน
อัลเฟรดย้ำเตือนตัวเอง เพราะเขามาที่นี่เพื่อเป้าหมายที่จะเอาชนะ ไม่งั้นความเชื่อใจที่ชินมีต่อเขาจะเสียไปมากกว่านี้จนอาจทำลายแผนในอนาคตได้
ชัยชนะอันแน่นอนเลยเป็นตัวเลือกเดียวที่มี
“เมื่อกี้คุณบอกว่าผมไม่คู่ควรสินะ” อัลเฟรดได้ทีจึงถือโอกาสนี้แสดงให้เห็นพลังที่แท้จริง
เขาถอดถุงมือออกเผยรอยแผลที่เกิดจากถูกของมีคมฟัน เลือดถึงกับไหลอาบแขนของเขาเลยทีเดียว
แต่เซอร์เคย์เห็นกลับรีบถีบพื้นถอยด้วยสัญชาตญาณ ...เพราะเขารู้ว่านั่นไม่ใช่แผลที่ตัวเองสร้างขึ้น
“งั้นจัดให้ตามคำขอ... ผมจะฆ่าคุณให้เดี๋ยวนี้แหละ!!!”
สิ้นคำประกาศ โลหิตที่ไหลอาบแขนอัลเฟรดก็ลอยแยกตัวออกมาหลายส่วนคล้ายกับรยางค์ปลาหมึกจนเซอร์เคย์ขนลุก
และยิ่งขนลุกในอีกความหมาย เมื่อรยางค์ทั้งหมดเริ่มแข็งตัวเป็นหนามแหลม
ภาพที่เซอร์เคย์เห็น... คือแขนขวาทั้งข้างของอัลเฟรดแปรเปลี่ยนเป็นกระบองหนาม
“น่าขนลุกเป็นบ้า” เซอร์เคย์สบถไม่เก็บงำอารมณ์ตัวเอง
อัลเฟรดจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเก็บความหงุดหงิดที่โดนด่าเหมือนกัน
“อ๋อเหรอครับ!!!”
อัลเฟรดถีบพื้นเข้าหาเซอร์เคย์แล้วเหวี่ยงแขนหนามใส่ ความเร็วของอัลเฟรดมากขึ้นกว่าเดิมจนเซอร์เคย์กะจังหวะหนีพลาด เขาเลยทำได้แค่เอี้ยวตัวหลบแต่ก็พ้นอย่างฉิวเฉียด
...หากว่าอัลเฟรดไม่ได้มองเรื่องนั้นออก เซอร์เคย์ก็ควรจะหลบพ้นไปแล้ว
“!!!?”
หนามที่แขนของอัลเฟรดยืดออกเกินระยะหลบหลีกที่คำนวณไว้ หนามโลหิตเลยเฉือนเข้าทั้งเกราะและหมวกเหล็กของเซอร์เคย์จนเป็นรอยราวกับโดนหมีตะปบ
เซอร์เคย์รีบตั้งสติแล้วกระโดดหลบออกมา แต่หมวกเกราะนั้นเสียรูปจนบดบังสายตา ทำให้เขาต้องถอดโยนทิ้ง เผยให้เห็นใบหน้าของชายวัยกลางคนไว้หนวดเคราพอประมาณ
ผมสีบลอนด์ทองทำให้รู้ว่าเป็นคนในพื้นที่ และในเมื่อเผยสีหน้าออกมา เขาก็ไม่อาจเป็นอัศวินของดินแดนนี้ได้อีก
“ยังไม่จบหรอกนะครับ!”
อัลเฟรดไม่ปราณีแล้วพุ่งเข้าไปโจมตีต่อ เพราะถึงจะรู้ตัวจริงของศัตรูแล้วมันก็ไม่มีความหมาย เพราะเขาคิดจะสังหารเซอร์เคย์ให้ตายที่นี้เดี๋ยวนี้อยู่แล้ว
ระยะถูกร่นในพริบตาจนเซอร์เคย์หน้าเหวอ อย่างไรเสียตราราชันย์ก็ยังมีพลังมากกว่าอยู่ดี
แต่... นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่เซอร์เคย์ต้องยอมพ่าย
“อย่ามาดูถูกกันนะโว้ย!”
เซอร์เคย์ผายมือขึ้นฟ้า เค้นความโกรธเป็นพลัง ออร่าสีทองอร่ามเองก็พวยพุ่งจากร่างและอาบหนากว่าที่เคยเพื่อฝืนโชคชะตา
ทันใดนั้น แสงจันทร์ที่ส่องลงมาจากฟากฟ้าก็เริ่มบิดเบือน และแปรเปลี่ยนเป็นเส้นลำแสงพุ่งลงสู่พื้นเป็นจำนวนกว่าร้อยเส้น ราวกับ-่าฝนดาวตกร่วงลงสู่พสุธา
อัลเฟรดมองตามการเคลื่อนไหวของลำแสงอันที่พุ่งลงมาก่อน เขาสังเกตเห็นว่ามันพุ่งลงมาทะลุพื้น จึงคาดเดาพลังของเซอร์เคย์ได้ในทันที
ควบคุมแสง ไม่สิ... แปลงสภาพแสงได้งั้นเหรอ?
เป็นความสามารถที่ยุ่งยากซะจริง!
อัลเฟรดยิ้มแหย เพราะหลังจากนั้นห่าฝนก็ตกลงมาไล่จากด้านหน้าของเซอร์เคย์เข้าใส่เขาที่กำลังพุ่งไปหา
อัลเฟรดไม่อยากเสี่ยงจึงถีบพื้นออกไปด้านข้าง วิ่งวนรอบเซอร์เคย์จนกว่าจะหาทางเข้าประชิดได้
เพราะด้วยเรี่ยวแรงที่เหลือ เซอร์เคย์ไม่อาจสู้กับเขาในระยะยาวได้ อัลเฟรดแค่ต้องวิ่งถ่วงเวลาไปจนกว่าเซอร์เคย์จะหมดแรง เพียงเท่านั้นก็สามารถเข้าไปปิดฉากได้อย่างปลอดภัย
ทางด้านของกลุ่มหนิวถูกไดอากับมิวรับมืออยู่ หลงเองก็กำลังสู้กับริว... อีกฝ่ายไม่มีกำลังพลที่จะมาเสริมให้สถานการณ์พลิกได้เลย
อัลเฟรดจึงฉีกยิ้มซ่อนใต้หน้ากาก ให้กับชัยชนะที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่นาน
“!!!?”
แต่ชั่วพริบตาที่คิดว่าทุกอย่างจะราบรื่น อัลเฟรดกลับสัมผัสได้ถึงอะไรแปลก ๆ จนเผลอเอี้ยวตัวหลบโดยสัญชาติญาณ
พริบตานั้นจุดที่เขาเคยอยู่ก็ถูกตัดแบ่ง จนพื้นบริเวณนั้นแยกเป็นสองส่วน
“ได้ทีล่ะ!!!”
เซอร์เคย์เห็นอัลเฟรดเสียจังหวะก็ไม่พลาดโอกาสทอง เขารวบรวมลำแสงบางส่วนเป็นหอกขนาดใหญ่แล้วยิงใส่อัลเฟรด ราวกับเป็นหมุดเพื่อแทงสังหารแวมไพร์อย่างวลาด
หอกแสงยักษ์ฝ่าสายลมเข้าหาอัลเฟรดกลางอากาศ เขาไม่สามารถหลบได้เลย
ช่วยไม่ได้!
อัลเฟรดไม่มีทางเลือกนอกจากใช้ไพ่ตาย เขารอจังหวะให้หอกแสงเข้ามาประชิดตัวเขามากที่สุด แล้วใช้ฝ่ามือเปล่าสัมผัสหอกแสงนั้นตรง ๆ จนมันสลายหายไปด้วย‘ไนท์’ อีกอย่างนึงที่เขามี
แต่อัลเฟรดก็ยังทำทีเป็นสะบัดมือหลังจากที่ทำลายหอกแสงไปแล้ว ก่อนจะกระโดดทิ้งระยะไปตั้งหลัก
จากมุมของเซอร์เคย์... เขาเลยเห็นว่าอัลเฟรดทำลายหอกแสงอันภาคภูมิใจด้วยพละกำลังล้วน ๆ
ทำเอาเซอร์เคย์ถึงกับยิ้มแหยหน้าเหวอไปอีกรอบ
“เฮ้ย ๆ ไหงทำลายได้ง่ายขนาดนั้นกันวะเนี่ย”
“แหม ๆ ก็ไม่รู้สินะครับ”
อัลเฟรดเล่นลิ้นไม่คิดเปิดเผยพลังให้ใครรู้
กับคนที่กำลังจะตายอย่างเซอร์เคย์ก็เรื่องนึง แต่ที่จำต้องปิดบังพลังไว้ นั่นเป็นเพราะอัลเฟรดสัมผัสได้ถึงตัวตนอีกหนึ่งที่เข้ามาขัดจังหวะก่อนหน้านี้
“แอบมาไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลยนะครับเนี่ย”
อัลเฟรดไม่รีรอที่จะป่าวประกาศตัวตนนั้นเพราะรู้ตำแหน่งแล้ว ทางเซอร์เคย์ก็หันข้างไปมองตามอัลเฟรด ด้วยพลังของผู้ปกครองทำให้เขารู้ตัวตนที่เข้ามาแทรกแซงเช่นกัน
มือที่สามนั้นจึงกระโดดลงจากตึกแห่งเดียวกับที่ทั้งสองมอง ลงสู่พื้นจนทอแสงจันทร์เปิดเผยตัวตน
ปรากฏเป็นชายผู้สวมหน้ากากเสือโคร่งวาดด้วยพู่กันจีน อันเป็นตัวตนที่รู้จักกันในนามว่า...
“คุณเองสินะครับหู่... นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว”
อัลเฟรดแสยะยิ้มรู้ตัวตนของอีกฝ่าย อันที่จริงก็รู้ไปถึงขนาดที่เขาน่าจะกำลังร่วมงานเต้นรำกับพวกชินเสียด้วยซ้ำ
“พูดเหมือนรู้อยู่แล้วเลยนะ” หู่ถามไปทั้งที่รู้ เพราะถ้าอัลเฟรดรู้จริง นั่นก็เป็นการยืนยันว่าเขากับชินเกี่ยวข้องกัน
แต่แน่นอนว่าอัลเฟรดไม่มีทางหลุดปากเรื่องนั้น เขาไม่ได้เปิดปากอะไรต่อด้วยซ้ำ
เหลือเพียงเซอร์เคย์ที่ยังจด ๆ จ้อง ๆ หู่เพราะไม่เคยเห็นกันมาก่อน
“ขอเดานะ นี่แกเป็นพวกเดียวกับท่านมังกรล่ะสิ”
“...ถ้าหมายถึงหลงล่ะก็ ใช่”
“ตอบตรง ๆ ซะด้วย! ข้าชอบพวกเจ้าก็ตรงนี้แหละ!”
...อะไรของหมอนี่เนี่ย
หู่แอบรู้สึกแหยงในใจแบบแปลก ๆ
ถึงจะได้ยินมาแล้ว แต่บุคลิกของเซอร์เคย์ไม่ใช่คนแบบที่เขาจะรับมือได้เลย
แม้นพอคิดแบบนั้นได้จะสบายใจหน่อย เพราะเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อเจริญไมตรีอยู่แล้ว
หู่จึงได้กระชับเท้ากับพื้นพร้อมจะพุ่งเข้าหาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ทุกเมื่อ
อัลเฟรดเห็นก็จำต้องระวังตาม เพราะพลังของหู่นั้นค่อนข้างอันตรายหากประมาท
เฉกเช่นเดียวกับเซอร์เคย์ที่เห็นพลังทำลายจากไนท์ของหู่ไปแล้ว รอยยิ้มจึงได้หายไปเพราะรู้กันอยู่ว่าเขามาเพื่อล่าหัวตน
นักล่าที่ยังแข็งแรงสองคนกับเหยื่อที่ใกล้ตาย... ทั้งสามรู้ดีว่าการปรากฏตัวของหู่คือจุดพลิกผันทำลายสมดุล ตอนนี้ไม่ว่าฝ่ายไหนก็สามารถเด็ดหัวของเซอร์เคย์และคว้าชัยได้ทุกเมื่อ
ไม่ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้... ผลลัพธ์ของศึกก็กำลังเข้าสู่บทสุดท้ายอย่างแท้จริงแล้ว
❖❖❖❖❖
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??