เรื่อง ถึงจะมีแต่คนไม่เต็มเต็ง แต่ก็เป็นกิลด์นักผจญภัยที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนะเออ! (Crystal Cloud)
บทนำ
ึจะะััไป่ แต่ัมีคำาที่าจะให้คิดกันเล่น ๆ
‘คนเราเนี่ยมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรกันนะ?’
ร่างกายของคนเราน่ะ แค่กินข้าวกับนอนหลับก็มีชีวิตอยู่ต่อไปได้แล้ว
แต่ทำไมการทำแค่นั้นึไม่เรียกว่ามีชีวิตอยู่กันล่ะ?
ส่วนคำตอบของัน่ะเหรอ? เพราะแค่นั้นมันไม่ตื่นเต้นน่ะสิ!
คิดภาพที่ต้องกินอาหารรสชาติเดิมทุกวัน
นอนหลับที่เดิม
ไม่มีการ์ตูนใหม่ ๆ อ่าน
ไม่มีเหล้าอร่อย ๆ
ไม่มีผู้หญิงสวย ๆ น่ารัก ๆ อยู่ในชีวิต
ท้องฟ้าที่เห็นก็เป็นแบบเดิมทุกวัน
...ชีวิตแบบนั้นมันน่าเบื่อจะตายไป!!!
ใช่! ความเบื่อหน่ายน่ะมันไม่ต่างจากความตายเลย
เพราะงั้นึต้องหาเรื่องสนุก ๆ ทำเพื่อให้รู้สึกึการมีชีวิตยังไงล่ะ!
ชีวิตของัต้องการความสนุกมาเติมเต็ม!
ทำเลือดให้เดือดพล่าน!
เรื่องคาดไม่ึที่ทำเอาหงุดหงิด!
รางวัลอันโอชะที่ทำเอาน้ำลายสอ!
นั่นแหละคือชีวิตที่ัาได้!!!
เพราะงั้นแหละน้า ัเลยมาเป็นนักผจญภัย
การได้ออกผจญภัยเพื่อหาเรื่องใหม่ ๆ ทำ ได้เจออะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลานี่แหละคือความฝันของคนแบบัล่ะ!
เด็กหนุ่มคิดราวกับหวนนึกไปึสาเหตุที่ตัวเองกับเด็กสาวอีกคนที่มาทำภารกิจด้วยกัน เพราะนั่นทำให้เขาตกอยู่ในความตื่นเต้น?ดังที่หวังเอาไว้
ใช่ ๆ คนเรามันต้องมีเรื่องให้หัวใจสูบฉีดเต้นตึกตักสิึจะได้ชื่อว่ามีชีวิตอยู่
แต่ก็... บางครั้งมันก็ทำให้ใจเต้นแรงเกินไป่อ่ะนะ
เต้นแรงจนหัวใจจะวายเลยว้อยยยยย!!!!!!!
เด็กหนุ่มตะโกนลั่นในใจกับความคาดหวังที่พลิกไปเป็นอีกอย่าง อย่างน้อยตอนแรกเขาก็คิดว่าถ้ำที่กำลังสำรวจเป็นแค่ถ้ำธรรมดา
แต่อนิจจา... เมื่อไม่กี่สิบนาทีที่แล้ว เขาและเด็กสาวกำลังเดินอยู่ในถ้ำดี ๆ ก็ดันมีก้อนหินยักษ์กลิ้งเข้ามาหา
เพื่อไม่ให้ตัวเองแบนกลายเป็นกล้วยปิ้ง ทั้งสองคนเลยกำลังสับตีนแตกมาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว
“แฮ่ก! แฮ่ก! นี่มันไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่คะคุณเดลล์!”
“แล้วัจะไปรู้ไหมฮะว่ามังกรมันจะใช้ดันเจี้ยนเก่าเป็นรังน่ะหา! อย่ามาโทษันะ!!!!”
เด็กสาวกับเด็กหนุ่มยังอุตส่าห์มีแรงโยนความผิดให้กันไปมาแทนที่จะเอาแรงไปวิ่ง
“อะไรอีกคะเนี่ย!!!?”
“กับดักไงจะอะไรเล่า!!!”
สิ่งเดียวที่หยุดปากทั้งสองคนได้คือกับดักที่โผล่ขึ้นมาข้างหน้า
พื้นดินอยู่ดี ๆ ก็แยกออกเป็นเหว ทั้งสองรีบกระโดดข้ามไปอย่างฉิวเฉียด พอมองลงไปข้างล่างแล้วเห็นหนามเป็นพุ่มยิ่งรู้สึกหวาดเสียว
พอข้ามไปได้ อยู่ดี ๆ ก็มีใบมีดโผล่ออกมาจากกำแพงทั้งสองฝั่งวิ่งเข้าหาอีก ทั้งสองรีบกระโดดหลบผ่านช่องว่างนั้นไปอย่างฉิวเฉียดอีกครั้ง
เท่านั้นไม่พอ อยู่ดี ๆ ด้านหน้าก็มีลูกธนูพุ่งเข้ามาเป็น-่าฝน ทั้งสองคนเลยต้องทำท่าแปลก ๆ หลบลูกธนูไปอีก
...จนกระทั่งเด็กสาวเริ่มหมดความอดทน
“อะไรกันนักกันหนาคะเนี่ย! ทนไม่ไหวแล้วนะคะ!!!”
เด็กสาวขมวดคิ้วจนเส้นเลือดปูนโปน พลิกตัวกลับไปเผชิญหน้ากับก้อนหินยักษ์ที่กลิ้งไล่หลังมา
เธอเอื้อมมือไปคว้าดาบยักษ์ที่สะพายอยู่ข้างหลัง ฟาดฟันเข้าใส่ก้อนหินยักษ์ขนาดใหญ่กว่าเธอสามเท่านับครั้งไม่ถ้วน
ก้อนหินยักษ์กลายเป็นเศษฝุ่นในพริบตา
“ทำไมไม่รีบทำให้เร็วกว่านี้ฟะ” เด็กหนุ่ม... เดลล์บ่นอุบแล้วก็ถอนหายใจ รู้สึกเหมือนเหนื่อยฟรีที่วิ่งมาตั้งไกลทั้งที่ทำลายหินได้แต่แรก
สีหน้าเขาดูเบื่อหน่ายเฉื่อยชาเหลือหลายจนกลบความหล่อเหลาไปหมด เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีผมสีบลอนด์ทองถูกแซมด้วยผมบางส่วนที่เป็นสีดำอย่างเป็นเอกลักษณ์ การสวมทับด้วยเสื้อคลุมจนดูรุ่มร่ามยิ่งทำให้รู้สึกน่าค้นหา
จุดที่น่าสงสัยอีกอย่าง... คือึจะบ่นไปแบบนั้น แต่เดลล์ไม่ได้เหนื่อยหอบเลยแม้แต่น้อย
“มูววว... คุณเดลล์เองก็ทำได้ยังไม่เห็นทำเลยค่ะ”
เด็กสาว... เรกะมองเดลล์ออกึเป็นฝ่ายบ่นอุบบ้าง
เธอเก็บดาบยักษ์ที่มีความยาวเท่ากับส่วนสูงของตัวเองใส่ฝักดาบที่หลังด้วยมือเดียว เห็นชัดว่าไม่ใช่เด็กสาวธรรมดาทั่วไป
เรือนผมสีแดงไว้ทรงโพนี่เทลของเธอดูโดดเด่นในชุดเกราะหนาสีน้ำเงิน
ถ้านั่นว่าไม่ปกติแล้ว ...บนหัวเธอยังมีใบหูของสุนัขที่มีขนสีแดงโทนเดียวกับผม กระโปรงของเธอเองก็ยังมีหางสุนัขแลบออกมาอีกด้วย
นั่นแหละหลักฐานความไม่ธรรมดาของเด็กสาวเผ่ามนุษย์สัตว์นามเรกะคนนี้
เพราะเรกะแกร่งกว่าที่เห็นภายนอกอย่างนั้น เดลล์จึงไม่จำเป็นต้องลงมือเอง
เขายักไหล่ไม่สนใจคำบ่นของเรกะ
“บอกแล้วไงว่าัมาเป็นเพื่อนแก้เบื่อเฉย ๆ อายุแค่นี้ก็เป็นอัลไซเมอร์แล้วรึไงฮะหล่อน” เดลล์บ่นสวนเรกะไปอีกหนึ่งฉาด แล้วก็เริ่มเดินต่อ
“ึจะไม่รู้ว่าอัลไซเมอร์คืออะไร แต่น่าจะกำลังด่าัอยู่ใช่ไหมคะเนี่ย ฮึ่ม!”
ทำสาวเจ้าแก้มป่องเดินตามไปติด ๆ
ท่าทางเธอน่ารักน่าชังเอาเรื่องแต่ก็ดูป้ำ ๆ เป๋อ ๆ ในเวลาเดียวกัน
“แล้วโดนโกงแบบนี้จะเอายังไงดีล่ะคะ”
“หืม?”
เดลล์เอียงคอใส่เรกะที่าขึ้นมา เธอวิ่งเตาะแตะจนนำหน้าเดลล์ชี้มือชี้ไม้ไปมาไม่สบอารมณ์
“จะอะไรซะอีกคะคุณเดลล์ ก็เควสบอกให้สังหารมังกรเงินในถ้ำนี่คะ! นี่มังกรเงินก็ไม่มีแถมถ้ำยังกลายเป็นดันเจี้ยนไปแล้วอีก ...ไม่คุ้มค่าเงินรางวัลเลยไม่ใช่เหรอคะ?”
เรกะบ่นไป หูหางเธอก็ตกผลอยลงไปเหมือนกับสุนัขสมรูปลักษณ์
“อย่าบ่นไป่เลยน่าเรกะ! ถ้ามันเป็นดันเจี้ยนข้างในสุดก็ต้องมีสมบัติสิ แบบนั้นไม่ดีรึไง?”
“สมบัติเหรอ!? ถ้าอย่างนั้นก็ชักจะสนุกขึ้นมาแล้วสิคะ!”
เรกะทำตาเป็นประกายใส่เดลล์ที่ทำหน้าเบื่อ ๆ หางเธอกลับมากระดุกกระดิกอีกครั้งอย่างร่าเริง
หลอกง่ายชะมัด
เดลล์ได้แต่ยิ้มแหย ๆ
เขาไม่คิดว่าข้างในจะมีสมบัติอยู่หรอก แต่อย่างน้อย ๆ ก็ต้องทำเควสให้เสร็จไม่งั้นคนที่จะโดนลงโทษหนักที่สุดก็คือตัวเขา
...แต่หลังจากที่ทั้งสองคนเดินไปจนสุดทาง ดูเหมือนโชคจะยังเข้าข้างเดลล์กับเรกะอยู่
“ดูเหมือนว่า ผู้ว่าจ้างจะไม่ได้หลอกเราไปซะทีเดียวแฮะ”
เดลล์มองเข้าไปยังจุดลึกสุดของถ้ำแล้วทำหน้าเบื่อ ส่วนเรกะนั้นอ้าปากค้างไปแล้ว
มันเป็นพื้นที่ลานกว้างภายในถ้ำขนาดใหญ่ ...ซึ่งมีมังกรผิวสีเงินที่เป็นเป้าหมายอาศัยอยู่
ขนาดของมันสูงสามเมตร ประสาทสัมผัสว่องไวและมีเขี้ยวเล็บแหลมคม
...แต่ที่น่ากลัวก็คือ มันมีจำนวนมากกว่าสิบตัว
ใช่... นี่ไม่ใช่แค่มังกรเงินที่เป็นมังกรสายพันธุ์ที่แกร่งที่สุด แต่เป็นฝูงของมันเลยต่างหาก
เรกะเห็นจึงชักดาบจากข้างหลังขึ้นเตรียมพร้อมรบในบัดดล
ในดวงตาของเธอสั่นระรัวด้วยความคึกคะนอง รอยยิ้มกลับฉีกขึ้นอย่างนึกสนุกไร้ซึ่งความหวาดกลัว
“แบบนี้ดูท่าจะตึงไม่น้อยเลยนะคะเนี่ย———เดี๋ยวนะ!ทำอะไรอยู่น่ะคุณเดลล์!”
เลือดลมเธอกำลังสูบฉีดได้ที่แต่เป็นอันต้องเหลวเป๋ว เมื่อเห็นเดลล์นั่งลงกับพื้นแล้วหยิบขนมออกมากินอย่างสบายใจเฉิบ
ช่างขัดกับบรรยากาศที่กำลังจะซัดกันนัว พวกมังกรยังึกับมองหน้ากันด้วยความงงงวย
ส่วนเจ้าตัวอย่างเดลล์ก็เริ่มเคี้ยวขนมแก้มตุ่ยไม่สนสี่สนแปด
“ไม่ต้องมาาเลย ง่ำ ๆ! ัมาที่นี่เพื่อดูเท่านั้นนะ นี่ย้ำสองรอบแล้วนะเนี่ย ง่ำ ๆ!จำไม่ได้รึไง” เดลล์พูดไปหยิบขนมเข้าปากไปด้วยความเพลิดเพลินยังกับมาดูหนัง
หากจะมีใครที่เหมาะสมกับสำนวนทองไม่รู้ร้อนที่สุด เห็นทีก็คงเป็นเขานี่แหละ
“นะ หนอย... แบบนี้ก็สวยสิคะ!”
เรกะยิ้มแหยช่วยไม่ได้ ความตื่นเต้นของเธอพุ่งสูงขึ้นเมื่อสถานการณ์บีบคั้น
ก๊าซซซซซซซซซ!!!!!!
มังกรเงินตัวหน้าสุดเริ่มส่งเสียงคำราม มันบินเลียบเข้าหาเธอด้วยความเร็วอันน่ากลัว
มันเงื้อกรงเล็บพุ่งเข้าใส่เรกะหวังฉีกกระชากเธอให้เป็นชิ้น ๆ
แต่เรกะพลิกดาบขึ้นมาตั้งรับแล้วฟันสวนกลับคืนไป ฝากแผลใหญ่ไว้ตรงท้องของมันจนร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บปวดแทน
เสียงร้องโหยหวนของมันทำให้มังกรเงินอีกหลายสิบตัวหันมาสนใจ
จากตอนแรกที่คิดว่าเด็กสาวเป็นเหยื่อที่เดินหลงมาติดกับ
พวกมันรู้แล้วว่าเด็กสาวนี่แหละที่เป็นนักล่า
“เข้ามากันให้หมดเลยสิคะ! ัคนนี้จะเป็นคู่มือให้เอง!”
เรกะตะโกนลั่นเผยยิ้มอย่างห้าวหาญ ชี้ดาบไปยังกึ่งกลางของฝูงมังกรเงินที่มีจำนวนมากกว่า
เธอเลียริมฝีปากตัวเอง หิวกระหายราวกับหมาล่าเนื้อ แล้วถีบพื้นกระโจนเข้าใส่ฝูงมังกรอย่างหาญกล้าสมกับที่ได้ลั่นวาจา
❖❖❖❖❖
“แฮ่ก... แฮ่ก...”
การต่อสู้อันดุเดือดจบลง
ปรากฏเป็นภาพของเรกะที่ใช้ดาบยักษ์ปักพื้นแทนไม้เท้าหายใจหอบ โดยมีซากศพมังกรเงินจำนวนมากกระจายอยู่ตามพื้นถ้ำเป็นฉากหลัง
...โดยใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมง มังกรเงินจำนวน 34 ตัวก็ถูกเรกะจัดการลงไปได้จนหมด
เดลล์ที่นั่งดูมาตลอดอมยิ้มพอใจกับผลลัพธ์ เขายันตัวลุกขึ้นหลังเลียขนมที่ติดนิ้วไปหมดแล้ว
“เอาเรื่องเหมือนกันนี่... เก่งมาก ๆ” เดลล์เดินเข้าไปหาเรกะ วางมือบนศีรษะของเธอแล้วลูบไปมาเหมือนกับให้รางวัล
“ใช่ไหมล่ะค่ะ”
เรกะยิ้มตอบ ใบหน้ายังเต็มไปด้วยเหงื่อจำนวนมากจากความเหนื่อยล้า แต่ความรู้สึกเหนือกว่าแทบจะทำให้ตัวลอย เพราะไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยที่จะจัดการฝูงมังกรเงินลงได้ด้วยตัวคนเดียว
เฮะเฮะ... คุณเดลล์ชมด้วย...
แต่ที่ทำให้เรกะดีใจมากกว่าการกำจัดศัตรูได้ ก็คงเป็นการได้รับคำชมจากเดลล์มากกว่า
“ไหน ๆ สมบัติจ๋า”
ส่วนเดลล์ที่เห็นว่าทางสะดวกแล้วก็เริ่มสังเกตรอบ ๆ ถ้ำด้วยรอยยิ้มแสบสัน
“เฮ้ย! ตรงนั้นมีกล่องสมบัติด้วยล่ะ!” เดลล์ชี้ไปยังจุดลึกสุดที่มีกล่องสมบัติไม้วางอยู่ แล้วก็รีบวิ่งปลี่เข้าไปอย่างไว
“เดี๋ยวก่อนสิคะคุณเดลล์! ัเป็นคนจัดการพวกนั้นได้ ัต้องเป็นคนได้เปิดสิคะ!”
เรกะเห็นแล้วตื่นเต้นจนวิ่งตาม พร้อมเรียกร้องว่านั่นเป็นสิทธิที่เธอพึงจะได้รับ
...ึสุดท้ายทั้งสองคนก็เข้าไปเปิดกล่องสมบัติพร้อมกันอยู่ดีนั่นแล
แล้วก็พบว่าสิ่งที่อยู่ข้างในคือ
“กระดาษ... หรือว่าจะเป็นแผนที่ขุมทรัพย์กันคะเนี่ย!” เรกะทำตาเป็นประกายอีกครั้ง
“ไม่เปิดดูก็ไม่รู้หรอกน่า ฮิฮิ!” เดลล์ยิ้มแป้นใหญ่ ความลุ้นระทึกทำเอาใจเขาเต้นรัว ความรู้สึกนี้แหละคือสาเหตุที่เขามาเป็นนักผจญภัย
“รีบ ๆ เปิดสิคะคุณเดลล์!!!”
“รู้แล้วน่า”
เดลล์เร่งมือตัวเอง เพราะเรกะเขย่าไหล่ของเดลล์ไปมากระตุ้นให้เขาเปิดม้วนกระดาษออกมาเร็ว ๆ
ทว่า... สิ่งที่ถูกเขียนอยู่บนกระดาษแผ่นนั้นกลับไม่ใช่แผนที่ขุมทรัพย์ หากแต่เป็นประโยคหนึ่งถูกเขียนไว้ด้วยอักษรอันวิจิตรงดงาม เห็นได้ชัดเลยว่าคนเขียนตั้งใจบรรจงขนาดไหน
...ส่วนเนื้อหาสั้น ๆ ของมันนั้นมีอยู่ว่า
‘ตูนึกแล้ว เอ็งต้องอ่าน’
“ “...” ”
ทั้งสองคนใบ้รับประทานเหมือนถูกช็อตไปแวบนึง
ทั้งสองพยายามอ่านอีกรอบ
พอมั่นใจว่าตัวเองอ่านไม่ผิดแน่ เดลล์ก็ปากระดาษแผ่นนั้นลงพื้นแล้วเหยียบซ้ำเข้าให้อีกที
“มันอะไรกันวะเนี่ย!!!”
“มันอะไรกันวะคะเนี่ย!!!”
ทั้งสองคนตะโกนลั่นด้วยความหงุดหงิดเหลือหลาย ได้แต่น้ำตาตกในเพราะนอกจากจะโดนผู้ว่าจ้างหลอกแล้ว ของแถมก็ดันเป็นแค่มุกกวนประสาทอีก
ฮืออออ... นี่แหละครับท่านผู้อ่าน
บางครั้งการผจญภัยมันก็จบลงด้วยความล้มเหลวแบบนี้แหละ
...แต่ก็นะ เรื่องที่คาดเดาผลลัพธ์ไม่ได้เองก็นับว่าทำให้ตื่นเต้นได้เหมือนกัน
ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าส่วนที่สนุกที่สุดของการเดินทางไม่ใช่จุดหมายแต่เป็นระหว่างทางต่างหาก
นี่แหละึสมกับเป็นชีวิตนักผจญภัย
...ล่ะมั้งนะ
เดลล์พยายามปลอบใจตัวเองอย่างนั้น
❖❖❖❖❖
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??