เรื่อง คู่มือเศรษฐีนีชาวนาฉบับสาวน้อยทะลุมิติ
...หูอู้ซีถูกความเ็ปลุกให้ตื่นึ้
ทั่วสรรพางค์กายเ็ปวดปานถูกรถบดทับแตะเอียดมา
หน้าผากปวดเสียจนใ้แตกออก ในลำคอแห้งผากจนแทบมีเขม่าควันลอยออกมาได้
เธอพยายามลืมตา แต่เปลือกตาับเหมือนมีทองคำหนักพันชั่งทับไว้ ไม่ใช่ว่าตนแค่เป็นไข้หลับไปเท่านั้นหรือ ทำไมึเ็ได้ขนาดนี้
“ฉัน…นี่มันเกิดอะไรึ้ ตัวร้อนจนสมองไหม้แ้หรือ โอ้ย ทำไมเ็หัวขนาดนี้?”
หูอู้ซีปวดศีรษะแปลบๆ เหมือนถูกเข็มแทงอยู่พักหนึ่ง วิงเวียนศีรษะเกินรับไหว เธอพยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้ง หลังจากนั้นไม่นาน แสงจางๆ จึงสะท้อนผ่านม่านตาเข้ามา
เธอกะพริบตาอย่างยาำบาก ทัศนียภาพเบื้องหน้าค่อยๆ ชัดึ้ ผนังิตัดกับแสงสลัวๆ หลังคาบ้านต่ำเตี้ยเก่าๆ ส่งิ่นอายความเสื่อมโทรม แมงมุมตรงซอกกำแพงสร้างใยอย่างแข็งขัน
สติเธอลางเลือนจึงค่อยๆ ขยับศีรษะ ทนอาการวิงเวียนแ้มองสำรวจไปยังด้านล่าง พื้นไม่สม่ำเสมอ เครื่องเรือนเก่าๆ ที่ทำึ้อย่างเรียบง่าย ผนังยังมีรอยแตกทำให้มีแสงลอดผ่าน
หูอู้ซีตกตะลึง นี่…ที่ไหนกัน!?
หรือเธอกำลังฝันไป?…
ครั้นมองลอดออกไปที่แสงสว่างนอกประตู เห็นบ้านที่ก่อสร้างึ้ด้วยิ มุงหลังคาด้วยวัชพืชอย่างลวกๆ อยู่ตรงข้าม ปล่องไฟบนหลังคายังคงปล่อยควันดำออกมา บนภูเขาที่ไออกไปมีต้นไม้ใบหญ้างอกงามเขียวชอุ่มอยู่บนยอดเขาเป็นชั้นๆ
หูอู้ซีทอดมองอย่างใจลอย แ้ตั้งสติดึงสายตาับมา มองดูผ้าห่มปะลวดลายดอกไม้ที่คลุมอยู่บนร่างกาย
ความปั่นป่วนภายในใจเธอรุนแรงึ้เรื่อยๆ หญิงสาวพยายามยกมือึ้อย่างช้าๆ จนึเบื้องหน้า
“อา...” เสียงตื่นตระหนกแหบแห้งทุ้มต่ำเปล่งออกมา มือดำๆ ลีบและหยาบตรงหน้า เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่มือเรียวขาวผ่องตน เธอรู้สึกเบ้าตาร้อนผ่าวึ้มา หน้าซีดลงทันที สุดท้ายก็หายใจติดๆ ขัดๆ แ้เป็นลมไป
หูอู้ซีเป็นลมไปไม่นาน นอกประตูเกิดเสียงฝีเท้าจังหวะถี่ๆ ดังึ้อยู่สักพักก่อนที่เ็ชายผอมลีบคนหนึ่งจะรีบวิ่งเข้ามาในห้อง โผตัวมายังหน้าเตียง เสียงเล็กตะโกนอย่างลนลานอยู่สองครั้ง “ท่านพี่...ท่านพี่” เมื่อเห็นคนบนเตียงไม่ตอบสนอง เ็ชายรู้สึกัวเล็กน้อยจึงดึงมือหูอู้ซีึ้แ้คิดจะเขย่าเธอให้ตื่น
ขณะเดียวกันนั้นปรากฏฟู่เหริน [1] คนหนึ่งเิเข้ามาในห้อง ในมือประคองถ้วยยาที่มีไอร้อน เ็ชายหันับมาเห็นฟู่เหรินจึงส่งเสียงสะอื้นไห้ทันที
“ท่านแม่ ท่านพี่เป็นอะไรไป?”
ฟู่เหรินนำถ้วยในมือวางไว้บนโต๊ะ แ้ยิ้มอบอุ่นให้แก่เ็ชาย พร้อมกับตบหลังปลอบขวัญเบาๆ ชี้ถ้วยบนโต๊ะแ้ค่อยชี้ไปทางหูอู้ซี เ็ชายพยักหน้าอย่างวิตกกังวลและเอ่ยตอบรับเสียงเบา
“ท่านแม่ เอ้อร์หนิวบอกว่าท่านพี่ตงมาจากไหล่เขาใช่หรือไม่? นี่คือยาท่านพี่หรือ?”
ฟู่เหรินถอนหายใจที่เต็มไปด้วยความทุกข์ พยักหน้าอย่างทำอะไรไม่ได้ นางยื่นมือออกไปจัดเสื้อผ้าให้เ็ชาย เห็นว่าอีกคนยังไม่ตื่นเลยชี้ไปที่ห้องครัว เห็นเ็ชายพยักหน้าเข้าใจ ฟู่เหรินจึงหมุนกายไปห้องครัว
“ท่านพี่ ท่านพี่…ลุกึ้มาดื่มยาเถิด ยาจวนจะเย็นแ้”
หูอู้ซีสะลึมสะลือ เธอได้ยินเสียงเรียกตะโกนอยู่พักหนึ่ง เมื่อเปิดเปลือกตาึ้ ศีรษะเ็ชายก็พรวดพราดยื่นเข้ามา สายตาเขาปรากฏความดีใจและประหลาดใจออกมาชั่วครู่ พร้อม่าวอย่างตื่นเต้น
“ท่านพี่ ท่านฟื้นแ้ ยังเ็อยู่หรือไม่? หน้าผากท่านได้รับบาดเ็ เป็นแผลรูใหญ่มาก ทำไมท่านึไม่ระวังิ้งตกจากไหล่เขาลงมาได้? ทำเอาพวกข้าตกใจแทบตาย ฮือ…” เ็ชายพูดแ้ก็ค่อยๆ สะอึกสะอื้นึ้
“ข้า…แค่ก…แค่ก…” พอจะพูดอะไรสักอย่าง ลำคอแห้งเหือดก็ไอออกมา!
“ท่านพี่…ท่านเป็นอะไรหรือ? ข้า...ข้าจะไปเรียกท่านแม่” เ็ชายหมุนกายวิ่งออกจากห้องไปอย่างรีบร้อน
หูอู้ซีผ่อนคลายลมหายใจ อาการไอจึงค่อยๆ หยุด มองดูตนเองที่ยังคงอยู่ในสภาพแวดล้อมแปลกประหลาดเช่นเดิมนี้ เธอรู้สึกยอมจำนนและขมไปทั่วปาก เมื่อครู่ตอนที่เธอไม่ได้สติ ความทรงจำที่ไม่ใช่เธอต่างก็ทยอยปรากฏอยู่ในหัว ปีนี้เ็สาวาุสิบขวบ แซ่หูเหมือนเธอ นามว่าหูเจินจู เ็ชายผอมแห้งเมื่อครู่คนนั้นคือน้องชายหูเจินจูชื่อหูผิงอัน ส่วนเธอหูอู้ซีเป็นคนหนึ่งที่ได้รับเกียรติในการทะลุมิติ ดูสภาพแ้ยังมาอยู่ในร่างตระกูลคนจนอีกด้วย
ครั้นกวาดตามองแวบหนึ่ง วัชพืชมุงหลังคาห้อง โคลนสีเหลืองลายพร้อยบนกําแพงิ ชี้ให้เห็นึความยากจนครอบครัวนี้
หูอู้ซีขมวดคิ้ว รู้สึกอีกาฝูงหนึ่งร้อง “กา...กา” บินผ่านไป ทำไมึทะลุมิติมาได้เล่า?
“ฉันไม่อยากทะลุมิติ!” ในใจหูอู้ซีร้องโหยหวนพักหนึ่ง แม้ยุคปัจจุบันเธอจะเป็น “สาวสามไม่” ที่ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีแฟน แต่เธอมีหน้าที่การงานพอใช้ได้ ทุกเดือนเมื่อหักค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวันต่างๆ ออกไปยังมีเงินเก็บเล็กน้อย ที่ผ่านมาใช้ชีวิตคนเดียวก็ค่อนข้างสบายดี อีกอย่างใช้ชีวิตในสังคมยุคปัจจุบันที่ึ้ชื่อว่าชายหญิงเท่าเทียมกันมาเกือบสามสิบปีแ้ ให้ย้อนับมาในสังคมศักิาที่ผู้ชายเหนือกว่าผู้หญิง จะให้เธอปรับตัวได้อย่างไร แค่คิดก็ทำให้เธอรู้สึกหวาดัวแ้
ที่น่าเศร้ายิ่งกว่าคือเ็สาวตัวเล็กนามว่าหูเจินจูคนนี้ อยู่ในสถานการณ์ที่ยาำบาก เธอมีท่านพ่อที่เสียโฉม ท่านแม่ที่เป็นใบ้ และยังมีน้องชายอ่อนแอที่คลอดก่อนกำหนด…
ร่างกายหูอู้ซีอดสั่นเทาไม่ได้ ในใจกรีดร้องสบถมารดามันเถอะออกมานับครั้งไม่ถ้วน คุณน้อง อย่าทำร้ายเจ้แบบนี้ได้ไหม เธอเป็นคนหนึ่งที่เติบโตมาในเมือง ไม่เอาการเอางาน โ่เขลาขาดความรู้ จะสามารถอยู่ในหมู่บ้านบนภูเขาเล็กๆ ที่ยากจนและล้าหลังเช่นนี้ได้อย่างไร ยิ่งไม่ต้องเอ่ยึหนทางสู่ความร่ำรวยมีอันจะกินเลย
ความคิดสับสนปนเปที่ปรากฏในหัวหายไป หูอู้ซีหยุดความรู้สึกซับซ้อน อาการเ็ปวดที่หน้าผากทวีความรุนแรงมากึ้
“โอ๊ย!…เ็จะตายแ้” ขณะที่เธอยื่นมือจะไปสัมผัสบาดแผลบนศีรษะ ก็มีเสียงฝีเท้าเล็กๆ ดังสะท้อนอยู่นอกประตู
“ท่านแม่ เร็วเข้าๆ ท่านพี่ตื่นแ้” หูผิงอันจูงมือฟู่เหรินก้าวมาด้วยความเร่งรีบ
หูอู้ซีเงยหน้าึ้มองไปยังสองแม่ลูกที่เิมาตรงหน้า บนกายฟู่เหรินสวมเสื้อคลุมสองชั้นสีฟ้าอมเขียว ส่วนหน้าเสื้อเปิดออก ะโปรงยาวสีชมพูอมเทาที่ถูกซักจนซีด ผมยุ่งเ้าไว้หลวมๆ สีหน้าอมทุกข์ แก้มตอบ ตาแดงบวมเล็กน้อยปรากฏให้เห็นว่ามีเรื่องรบกวนใจ นี่คือหลี่ซื่อท่านแม่หูเจินจู
“ท่านพี่ ท่านดีึ้บ้างหรือไม่?” หูผิงอันก้าวมาด้านหน้าถามด้วยความร้อนรน
หูอู้ซีมองน้องชายแปลกหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา หูผิงอันน่าจะเจ็ดขวบแ้ หน้าตางดงาม สีหน้าับมีสีเหลืองเล็กน้อย รูปร่างผอมแห้งกว่าเ็วัยเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะคลอดก่อนกำหนดร่างกายจึงเ็ออดๆ แอดๆ ตั้งชื่อว่าผิงอันก็เพื่อหวังให้เขาเติบโตได้อย่างแข็งแรงมีความสุข
หลี่ซื่อลูบหน้าผากหูอู้ซีเบาๆ แ้หมุนกายับไปประคองยาบนโต๊ะมานั่งลงข้างเตียง หยิบช้อนึ้มาป้อนยาให้แก่หูอู้ซี เธอเองก็ไม่ปฏิเสธ เปิดปากรับยาแต่โดยดี ลำคอเธอแห้งผากเกินกว่าจะรับไหว แม้ยาจะขมแต่ก็ดับความะหายได้บ้าง
เธอขมวดคิ้วแ้ดื่มยาจนหมด รู้สึกขมปร่าไปทั้งปาก ก็เลยพูดประหนึ่งคนลิ้นใหญ่ “น้ำ…ข้าอยากดื่มน้ำ”
หลี่ซื่อรีบหมุนกายไปเอาน้ำที่ห้องครัว
“ท่านพี่ ขมมากหรือ? ขมจึงจะมีประโยชน์นะ ท่านหมอหลินบอกว่าขมปากจะเป็นยาดี ตั้งใจดื่มอาการป่วยก็จะหาย” หูผิงอันที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดด้วยใบหน้าจริงจัง เพราะเขามักจะป่วยและดื่มยาขมบ่อยๆ
หูอู้ซีมองใบหน้าเล็กๆ ที่ผอมเหลืองตรงหน้า ร่องรอยความทุกข์ระทมก็เกิดึ้ในใจ เธอฝืนยิ้มให้เขาและพูดด้วยเสียงแหบแห้งที่ฟังไม่ชัด “อื้ม ตั้งใจดื่มอาการป่วยก็จะหาย”
หูผิงอันยิ้มึ้มาทันที
หลี่ซื่อประคองถ้วยสองใบเข้ามา หูอู้ซีเห็นดังนั้นก็อดั้นความเ็หยัดกายลุกึ้นั่ง ยื่นมือไปรับถ้วยน้ำมาดื่ม “อึก...อึก” น้ำหมดในรวดเดียว ฟื้นคืนน้ำเสียงแ้รู้สึกดีึ้มาก
หลี่ซื่อรับถ้วยเปล่าไว้ แ้เอาอีกชามหนึ่งส่งให้ หูอู้ซีรับมาจึงเห็นว่าเป็นถ้วยโจ๊กผักกวางตุ้ง มีน้ำมันเล็กๆ ะจายอยู่บนผิวหน้าโจ๊ก เธอหิวจนท้องร้องโครกครากมานานแ้ จึงรีบลงมือทานโจ๊กจนหมดอย่างรวดเร็ว
หลี่ซื่อมองเธอด้วยความสงสาร หลังหยิบถ้วยเปล่าไปก็ทำท่าทางให้เธอนอนลงและห่มผ้าให้
แม้หูอู้ซีจะไม่ง่วงแต่ก็ถือโอกาสหลับตาลง เธอไม่รู้ว่าควรปฏิบัติตัวกับพวกเขาอย่างไร และยังัวเผยอะไรออกมาให้คนสงสัย จึงทำได้เพียงแ้งหลับไป
“ท่านพี่” หูผิงอันมองเธอแ้พูดอึกๆ อักๆ พอคิดจะถาม หลี่ซื่อก็โบกไม้โบกมือใส่เขา ท่าทางห้ามเขาพูด ผิงอันพยักหน้ารับอย่างฝืนใจ หลี่ซื่อยิ้มปลอบขวัญ พอหมุนกายไปหยิบถ้วยแ้จึงจูงมือเขาออกจากห้อง
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าห่างออกไป หูอู้ซีแอบเปิดตามองเล็กน้อย เห็นหลี่ซื่อดึงผิงอันที่ไม่เต็มใจเท่าไรไออกไปช้าๆ เธอถอนหายใจโล่งอกออกมา เผชิญหน้ากับญาติที่ยังไม่ค่อยคุ้นเคย จึงรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก เธออยากหลบหลีกความจริงนี้เสียจริงๆ
หูอู้ซีรู้สึกว่าตนเองเหมือนฝันอยู่ แต่ความเ็เป็นพักๆ บนร่างกายับย้ำเตือนทุกชั่วขณะว่านี่ไม่ใช่ความฝัน “ไอ๊หยา!” เธอลูบไหล่ซ้ายที่เ็หนัก บวมเป็นก้อนใหญ่อย่างเห็นได้ชัด คิดย้อนไปน่าจะเป็นตอนิ้งตกเขาปะทะเข้ากับก้อนหิน พอลองขยับขาต่อ ขาขวายังรู้สึกปกติดี พอึคราขาซ้ายขยับบ้างก็เ็น่องึ้มาอย่างฉับพลัน คาดว่าน่าจะถูกะแทก โชคดีที่ะูไม่หัก มิเช่นนั้นต้องทนกับการปวด้ามเนื้อ ะูร้าวไปอีกร้อยวัน และทำได้เพียงนอนนิ่งนานสามเดือน สำหรับครอบครัวที่ยากจนเช่นนี้แ้ ถือเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
พลิกกายเลี่ยงไม่ให้โดนบาดแผลอย่างยาำบาก หันหน้าไปทางผนังสีขาวเทาเก่าๆ คิดมากมายสารพัดปนเปกัน
หวนนึกึตัวเองในยุคปัจจุบันึ้มา หูอู้ซีรู้สึกเป็นคนสองชาติภพ เพราะตอนเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยคะแนนสุดแสนจะธรรมดา เลยต้องเรียนคณะบริหารธุรกิจการตลาดที่ทำงานได้ทุกอย่างแต่ไม่เก่งอะไรเป็นพิเศษอย่างว่าง่าย เพราะว่าสาขานี้ “ทำทุกสิ่งได้อย่างละนิด แต่ไม่ชำนาญอะไรสักอย่าง” ทำงานไปวันๆ อยู่สามสี่ปีก็ยังไม่มั่นคง สุดท้ายพี่สาวเธอก็รู้สึกว่า เธอใช้ชีวิตทำงานอย่างไร้ความสามารถไปวันๆ จึงบากหน้าไปหาคนรู้จัก เอาเธอยัดเข้าหน่วยงานแห่งหนึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศ แม้เงินเดือนไม่สูงแต่มั่นคงกว่า อีกทั้งงานก็ง่าย สำหรับเธอที่ไม่มีความทะเยอทะยานอะไรแ้นับว่าพอใจเป็นอย่างมาก
นึกึพี่สาวก็อดนึกึพ่อกับแม่ไม่ได้ สามวันก่อนยังับบ้านไปทานข้าวเย็นกันอย่างมีความสุขอยู่เลย ไม่นึกไม่ฝันว่าเพียงหมุนกายจากมาจะเปลี่ยนเป็นจากไปอย่างไม่มีวันหวนคืน
นึกึเรื่องอ่อนไหวจึงถือโอกาสปล่อยหยดน้ำตาไหลริน ึแม้พ่อกับแม่จะรำพันึการแต่งงานเธอมาตลอด แต่หูอู้ซีไม่เคยคิดว่าตัวเองจะหลุดพ้นจากความห่วงใยรักใคร่เอ็นดูท่านด้วยวิธีนี้ นึกึความเศร้าโศกที่พ่อกับแม่ผมขาวแ้ต้องมาส่งคนผมดำ น้ำตายิ่งไหลพรากไม่หยุดพ
โชคดีที่บุพการีทั้งสองสุขภาพร่างกายไม่แย่ พี่ชายพี่สาวปกติก็เชื่อฟังพวกท่าน เธอนึกปลอบตัวเองว่าอดทนให้ผ่านไปสักพักก็คงดีึ้ได้ แม้จะคิดแบบนั้น แต่ความโศกเศร้าในใจับควบคุมไว้ไม่อยู่ เธอยื่นมือที่ไม่ได้รับบาดเ็มาดึงผ้าห่มึ้คลุมตนเอง ปล่อยให้น้ำตาเม็ดโตหยดแ้หยดเล่าล่วงหล่นลงมา
เชิงอรรถ
[1] ฟู่เหริน หมายึ ผู้หญิงที่แต่งงานแ้
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา