เรื่อง คู่มือเศรษฐีนีชาวนาฉบับสาวน้อยทะลุมิติ
สองึ่งูคุมเชิงกันอยู่เช่นั้ ผ่านไปครู่ึ่ จนงูเหมือนรู้สึ่าไม่มีัตรายจึงเลื้อย่าลังเลไปทางด้าน้า เจินจูที่อยู่ด้านึ่จึงฉวยโอกาสในั้ะโดดออกไป้าใหญ่ เล็งไปที่ลำคองูแ้กัดฟันแทงไม้กดลงไป่าเต็มแทันที
เย้! โดนแ้! เจินจูเบิกบานใจในทันที แม้ที่กดงูจะเลื้อยไปข้าง้าเล็กน้อย แ่ก็ยังคงสามารถขังไว้ได้
“เร็วเ้าๆ ผิงั ลงมือเร็ว!” เจินจูตะโกนร้อง่าตื่นเต้น
ผิงัรีบวิ่งเ้าไป่ารวดเร็ว แ่ในั้เอง งูดำลายพาดกลอนกลับเอาหัวและหางพันไปตามง่ามไม้ ทำให้ใช้ก้อนหินทุบลงไปไม่ได้ ผิงัหมุนาไปมา่าร้อนใจ “่าพี่ นี่ควรทำเช่นไร? มันขดตัวมั่วไปหมดแ้?”
ที่งูเอาตัวม้วนขดไปบนไม้ง่าม เจินจูตกใจจน้าซีดขาว อีกิก็จะเอาไม้ง่ามในมือโยนทิ้งไปแ้ โชคดีที่ไม้ง่ามยาวพอ หัวงูจึงไม่ถึงมือของนาง [1] นางข่มอารมณ์ตื่นเต้นจากความกังวลไว้ แ้ใช้แในมือกดลงไปให้แขึ้น ๆ ครั้งึ่แ้กล่าวว่า “ผิงั ไปเอาไม้ตะบองมาสองท่อน ใช้ท่อนึ่กดมันไว้ แ้ใช้อีกท่อนตีหัวของมัน”
เมื่อผิงัได้ฟังก็เ้าใจความหมายของนางได้ทันที สองเสียเวลาอยู่ครู่ึ่้าที่สุดก็ตีงูจนตายได้สำเร็จ
“ไ๊า ุพระุเจ้า พี่าเจ้าเหนื่อยจะตายแ้” เจินจูปล่อยไม้ง่ามในมือลง ช่วงเาั้ๆ นางรู้สึ่าเซลล์ตนเอง้ตกใจตายไปร้อยแปดพันเก้าเซลล์แ้
“่าพี่ ่าฉลาดจริงๆ เช่นี้ยังสามารถกดงูได้ นี่เป็สิ่งที่่าปู่เผิงบอก่าหรือ?” ผิงัตาเป็ประา รู้สึ่า่าพี่ของตนไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้จริงๆ
“เอ่อ…ไม่ใช่หรอก นี่เป็ข้าคิดขึ้นได้เอง... ผิงั เจ้านีู่ ง่ามกิ่งนี่กักงูได้พีใช่หรือไม่ แค่งูขยับไม่ได้มันก็ไม่เป็ัตรายแ้” เจินจูไม่ได้ปัดวิธีเอาไม้ง่ามกดงูไปให้เผิงต้าเฉียง ในใจนางคิดเพื่อประโยชน์่ตน ้่ๆ สร้างภาพลักษณ์ให้ตนเองว่าค่อนข้างฉลาด รู้จักพลิกแพลง ต่อไปสิทธิ์ใน้านางจะได้มีเพิ่มขึ้น สามารถมีสิทธิมีเสียง
ผิงัเก็บง่ามไม้ขึ้นมา่าละเอียดหลายรอบ เล็งไปยังงูที่ไม่ขยับเขยื้อนและลองกดงูอยู่สองสามครั้ง ัจากั้ใบ้าเล็กก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมา “่าพี่ฉลาดจริงๆ สามารถคิดได้เช่นี้ หากเป็ข้าคงคิดวิธีเช่นี้ไม่ได้”
เจินจูยิ้มไม่ได้กล่าวอะไร ในใจแ่่า อายุสามสิบปีของเจ้ไม่ได้ใช้ชีวิตมาเสียเปล่าๆปลีๆ
นางเก็บเห็ดในตะกร้าไผ่ของผิงัใส่ไว้ในตะกร้าของตนเอง แ้ให้เขาเป็แบกงู จากั้ค่อยตัดหญ้ามาคลุมงูไว้ ไม่นานทั้งสองก็มุ่ง้าไปยังฝั่งป่าสน
เาะใต้ป่าสนมีใบไม้อุดมสมบูรณ์ ชิของเห็ดจึงมีหลากหลายสายพันธุ์ ทุกครั้งัฝนตกหนัก เ็และผู้ใหญ่ในหมู่้าที่ว่าง้ขึ้นเขาไปเก็บั้แ่เช้าตรู่ มีูเามากมายบริเวณหมู่้าวั้งหลิน จำนวนึ่รวมกันเป็กลุ่มเล็กๆ พากันขึ้นไปเก็บ พวกที่ขยันมักจะลำเลียงจนเต็มแ้ค่อยกลับลงมา แน่นอนว่าครอบครัวที่ร่ำรวยมั่งคั่งจะไม่ขึ้นเขาไปเก็บ เาะใกลู้เา ราคาของเห็ดั้ไมู่ สามารถหาซื้อได้ ่ใหญ่จึง้ผึ่งให้แห้งแ้เก็บไว้ทาน้าหนาว
ใต้ป่าสนมีเห็ดที่ทานได้ไม่น้อย เช่น เ็ เห็ดแ หงหนิวกาน [2] เป็ต้น ที่จริงเจินจูจำได้ไม่แม่นนัก แ่ได้รับการชี้แนะจากผิงัมา ใไ่้า ชิเห็ดที่ทานได้ นาง้สามารถแยกแยะออก ัจากั้ทั้งสองก็ไม่กล่าวอะไรมาก ้ก้ม้าก้มตาเก็บเห็ด
ครั้นผ่านมาได้สักพัก เจินจูลุกขึ้นยืนขยับ่าา ใบ้าเหยเกร้องออกมา “ไ๊า เอวข้า เหนื่อยจะตายแ้ ...ผิงั พัก่เถิด นั่งจนขาเป็เหน็บชาแ้”
“่าพี่ ข้าไม่เหนื่อย ข้าจะเก็บพวกี้ให้หมด่ ฟ้าเริ่มมืดครึ้มแ้ พวกเรา้รีบกลับ เดี๋ยว่าแม่จะกังวลเอาได้” ผิงัเก็บไปพลางตอบไปพลาง
“…อื้ม” เจินจูอับอายเล็กน้อย เจ้าเ็นี่เป็เ็กตัญญู ทุกะ้จำได้เสมอว่าที่้ามีมารดารออยู่ นางเกาศีรษะไม่ได้กล่าวอะไร วัฒนธรรมจาก้าเกิดเมืองนอนเดิมกับที่ทะลุมิติมายังคงมีความแตกต่างกันจริงด้วย
สีของท้องฟ้ามีเมฆครึ้มบดบังเล็กน้อย ลมฤูใบไม้ร่วงพัดโชยเบาๆ แสงในป่าต้นสนะจายความมืดสลัวลงมาเรื่อยๆ
เจินจูรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศจึงรู้ตัวขึ้นทันที นางเร่งรัดขึ้นโดยมิรอช้า “ผิงั เหมือนว่าฝนั้เค้าจะตกแ้ พวกเรารีบลงเขาเถิด”
สองแบกตะกร้าไผ่เสร็จ่ารีบร้อน ตลทางก้ม้าก้มตารีบเร่ง พอใกล้ถึงปากทางแยกตีนเขาก็พบเ้ากับพี่น้องสกุลจ้าวเป็จ้าวไฉ่สยากับจ้าวไฉ่เฟิงที่ลงเขามาเช่นเดียวกัน
ทั้งสองเห็นพวกนาง ก็พากันตกตะลึงพร้อมกัน จ้าวไฉ่เฟิงยังถอยัไปสอง้า หลบอยู่เบื้องัจ้าวไฉ่สยา
จ้าวไฉ่สยาใบ้ากลมดวงตายาวรี รูปโฉมนับได้ว่าค่อนข้างโดดเด่นในหมู่้าวั้งหลิน เวลาี้คิ้วเชิดูของนางทำใหู้หยิ่งผยองเล็กน้อย นางขึ้นลงประเมินเจินจู ในแววตาเผยความประหลาดใจออกมาให้เห็นครู่ึ่ “ูเิู บาดแของเจ้าหายเร็วถึงเพียงี้เลยหรือ? ดวงดีจริงๆ วันั้มิใช่ว่ากลิ้งตกลงไป่ารุนแหรอกหรือ?”!
เจินจูทสายตาไปพวกนางแวบึ่ เป็สองาพี่น้องที่พบรังนกที่มีไข่ของไก่ป่าในวันั้ ัจากั้ก็ยุยงใหู้เิูลงเนินไปเก็บมา สรุปคือเ็าแสนทึ่มั้ก็ม่องเท่งลงไปเช่นั้ จนเหลือเพียงนางในปัจจุบันนี่
แม้เอาความรับผิดชอบทั้งหมดโยนไปไว้ที่พวกนางไม่ได้ แ่่าไรก็เป็เาะพวกนางที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ั้ขึ้น เจินจูไม่อยากพัวพันกับพวกนางมาก จึงดึงผิงัหลบไป รีบผ่าน้าพวกนางประึ่ว่ามีลมพัดอยู่ใต้ฝ่าเท้า วิ่งตรงไปทาง้าทันที
จ้าวไฉ่สยาไปที่สองพี่น้องสกุลหูที่วิ่งไกลออกไป แ้หายวับไปกับตา่าตกตะลึงจนตาค้าง ขมวดคิ้วขุ่นเคือง่กล่าว “พวกเขาสองวิ่งทำไมกัน? ช่างเป็เ็ชั้นต่ำที่มีมารดาคลไม่มีมารดาสั่งสอนเสียจริง พูดคุยกันอยู่แท้ๆ ไม่นึกเลยว่าจะไม่สนใจกันขนาดี้”
“่าพี่ พวกเรารีบกลับกันเถิด ่าแม่บอกแ้ไม่ใช่หรือ ให้พวกเราอยู่ห่างจากพวกนางหน่อย ้านางจะได้ไม่เอาเรื่องที่เจินจูตกลงจากเนินเขาโยนเป็ความผิดของพวกเราได้” จ้าวไฉ่เฟิงคล้ายจ้าวไฉ่สยาอยู่ห้า่ แ่รูป่าเตี้ยและ่าา่แอเล็กน้อย นิสัยไม่รุนแเท่าจ้าวไฉ่สยา
“เฮ้ย นางตกลงจากเนินเขาแ้มาโทษพวกเราได้่าไร พวกเราเพียงบอกตำแหน่งไข่ไก่ป่าให้นางเท่าั้ รู้อยู่ว่าเนินลาดูและชันยังกล้าลงไป แ้ยังกล้ามาโทษพวกเราอีกหรือ อีก่า มารดาที่เป็ใบ้ครอบครัวนางจะพูดัใดได้ บิดาของนางก็เป็โง่ึ่ตะบองตีไม่ผายลม [3] ัพวกเขาทำไมกัน” จ้าวไฉ่สยาพ่นวาจาออกจากปาก่าไม่ใส่ใจมากนัก
“แ่ ่าย่านางร้ายกาจมาก ใบ้านิ่งงันเช่นั้ แม้แ่่าแม่ยังัเลย” ญิชราแห่งสกุลหูนามหวังซื่อใบ้าเคร่งขรึมตลทั้งปี เ็ในหมู่้าไม่มีไหนไม่ันาง
“่าย่านางร้ายกาจแ้่าไรเ่า มิใช่ว่าพวกเราทำร้ายนางเสียหน่อย” จ้าวไฉ่สยาน้ำเสียง่ลง แ่ในปากกลับยังคงไม่ยอมตกไปเป็เบี้ยล่าง “ไปเิ ใส่ใจพวกนางทำไมกัน ครอบครัวยากจนคร่ำครึ”
ครอบครัวจ้าวนับเป็เพื่อน้าที่อยู่ใกล้ของครอบครัวหู อาศัยอยู่แถวจุดิ้สุดของหมู่้าเช่นกัน แ่การไปมาหาสู่ของสองครอบครัวไม่ได้เป็มิตรที่ดีต่อกันนัก
เถียนซื่อหรือเถียนกุ้ยจือมารดาของสองพี่น้องสกุลจ้าวเป็ปากไม่มีหูรูด ในทุกวันชอบซุบซิบนินทาว่านั่นดีนี่ไม่ดี นั่นถูกนี่ผิดเสมอ ชอบเห็นความเจ็บปวดของผู้อื่นโดยเฉพาะ เพื่อตัวนางเองจะได้รู้สึกเหนือ่า พี่น้องสกุลจ้าวจึงมีนิสัยตามเถียนซื่อ มักยั่วเย้าและเหน็บแนมครอบครัวหูเป็นิจ ชิที่ว่ากำลังูเรื่องตลกสนุกสนานอยู่เป็ประจำ แ่แม่ลูกสามี้ในสายตาของครอบครัวหูแ้ เป็แค่ที่กวนโมโหจน่าเบื่อก็เท่าั้
เจินจูในีตนิ่งเงียบพูดน้อย ทุกครั้งพวกนางมักจะถากถางเจินจูว่า "ใบ้ให้กำเิกึ่งใบ้" แ่นางในี้มีจิตวิญญาณเป็ผู้ใหญ่ึ่ นางคร้านเกิน่าจะโต้เถียงกับพวกนาง พบเจอกันหนีได้ก็หนี ไม่สบายใจที่จะโต้เถียงกับสองพี่น้องนี่จริงๆ
“ที่ชอบทำตัว่ารำคาญสอง” เจินจูบ่นพึมพำ หมู่ี้หูตาเฉลียวฉลาด แม้ห่างกันั้ไกลยังได้ยินเสียงของจ้าวไฉ่สยาและจ้าวไฉ่เฟิงเลย
“่าพี่ พวกนาง่ารำคาญจริงๆ ครั้ง่ข้ากับเอ้อร์หนิวขึ้นเขาปะกับพวกนางเ้า ระหว่างทางมีผักป่ามากมายแ่ดึงดันจะมาขุดผักป่ากองเดียวกับพวกเราให้ได้ ่ารำคาญแทบตาย” ผิงัมีสี้าโมโห เ็ชายวัยเจ็ดแปดปีแบ่งอารมณ์ชอบและเกลียดได้ชัดเจน ี้้าผาแทบมีคำว่าเบื่อเขียนอยู่
“อย่าสนใจพวกนางเลย คิดเสียว่าพวกนางเป็เพียงลมตดผายึ่ ต่อไปเห็นพวกนางก็อยู่ให้ห่างเสียหน่อย มีบางชอบเอาความสุขของตนเองั้ไว้บนความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของผู้อื่น วิธีรับมือกับประเภที้คือ ไม่้สนใจการมีอยู่ของพวกนาง” เจินจูตบัเขาเบาๆ บางยิ่งโกรธ อีกฝ่ายยิ่งดีใจ เหมือนตาชั่งบนคานไม้ ดึงกันไปมาทั้งสองฝั่งไม่จบิ้ หากไม่สนใจเสีย คานไม้ก็จะเอียงหนักอยู่ข้างเดียว ไม่มีแกดดึงอีกข้างให้ขึ้นมา อีกฝ่ายก็จะเลิกลาไปเอง
“อื้ม ต่อไปพวกข้าจะหนีไปขุดผักป่าที่อื่น ่าพี่ ่ามิรู้หรอก จ้าวไฉ่สยาั้หัวเราะเอ้อร์หนิว บอ่า้าตาทั้งดำทั้ง่าเกลียด ต่อไปเขาจะแ่งภรรยาไม่ได้ ทั้งยังบอ่าข้าทั้งผอมทั้งเตี้ยเป็ผีขี้โรค และยังบอ่า้าพวกเราเป็เาะข้าเอาแ่ป่วยจึงทำให้จนเี่ี้ … ่าพี่ ่าว่าจริงหรือไม่? แ่ช่วงี้ข้าไม่ได้ป่วยเลยนะ” ผิงัสะอื้นไห้เล็กน้อยะพูด
เจินจูหยุดฝีเท้าลง ดึงมือเขามาด้วยความเจ็บปวดใจ แ้กล่าวปลอบ “ผิงั ที่นางกล่าวย่อมไม่เป็จริง่าแน่นอน ้าพวกเราี้แม้ยากลำบากเล็กน้อย แ่พวกเราก็ไม่ได้ขโมยและไม่ได้แย่งชิงใคร อาศัยแงานของตนเองดำรงชีวิต ไม่้ัว่าผู้อื่นจะว่ากล่าวัใด ความจนมิใช่ความผิดใคร แค่พวกเราั้ใจพยายามให้ดี ้มีสักวันที่จะได้ใช้ชีวิตดีๆ เจ้าู ี้ขอเพียงพวกเราเลี้ยงะต่ายให้ดี ที่้าก็จะมีรายได้ ต่อไปชีวิตนับวัน้ดียิ่งขึ้นแน่ พวกเราไม่้ไปสนใจนาง ครอบครัวนางไม่กี่ั้ แ่ไหนแ่ไรมาก็ดีแ่พูดจา่ารำคาญ” นางปลอบใจคลายอารมณ์โมโหเขา่ารอบคอบ วัยที่บริสุทธิ์ร่าเริงไม่ควรแบกรับภาระกดดันชีวิตเช่นี้
“อื้ม ่าพี่ ้าาแ้ ข้าจะเลี้ยงะต่ายให้อ้วนพลุ้ย่าแน่นอน ัจากขายไปก็สามารถหารายได้ได้แ้” ผิงัพยัก้าด้วยท่าทางแน่วแน่
พี่าน้องชาย้ากันแ้หัวเราะ สีท้องฟ้าที่มืดครึ้ม ก็ยิ่งพากันเร่งฝีเท้ากลับ้า
เป็ไปดังคาด ถึง้าไม่นานฝนก็ตกลงมา สองพี่น้องยืนอยู่ใต้ชายคา้ทุกข์ใจเล็กน้อย ฝนตกตลเช่นี้ ะต่ายไม่สามารถออกมาเคลื่อนไหวได้ เมื่อะต่ายะโดดโลดเต้นไม่ได้ ความร่าเริงก็จะลดลง
เมื่อทั้งสองกลับถึง้าก็เลยเวลาอาหาริหน่อย หลี่ซื่อจึงรีบเรียกทั้งสองมาทานข้าวทันที มีฟักทองต้ม ผักดองอบถั่วเหลือง ผักกวางตุ้งต้ม เจินจูกวาดตาบนโต๊ะแ้รู้สึกขมปากขึ้นมาทันที
นางูออก ผู้เป็มารดาี้เป็ที่ไม่ได้เก่งด้านการทำอาหารนัก แม้ทาง้าจะยากจน และรูปแบบอาหารทำได้จำกัด แ่กับข้าวที่ทำออกมาทุกวัน้เป็แบบพื้นฐาน ต้มน้ำร้อนแ้เติมเกลือใส่น้ำมัน แ่ไม่เคยปรุงอาหารอื่นๆ เลย ะเทียมมีในสวนผัก แ่ไม่เห็นว่าเคยใช้ทำอะไรมา่ ต้นหอมมีในสวนผักเช่นกัน ทำบะหมี่เคยใช้ครั้งึ่ พริกก็มีในสวนผัก แ่ไม่เคยเห็นว่านำมาใช้เลย…
เจินจูเ้ดำเ็ั [4] ูท่า้ปรับปรุงอาหาร แ้ยัง้พึ่งพาตนเองอีก แม้ฝีมือการทำอาหารของนางไม่แน่ว่าจะดีเท่าไหร่ แ่จะดีหรือร้าย่าไรก็้ทำเป็เสียสักสองสาม่า
เจินจูใช้ตะเกียบคีบผักดองเ้าไปในปาก อื้ม ผักดองที่หวังซื่อหมักนับว่าไม่เลว ูเหมือนว่าอาหารการกินของ้าเก่าตระกูลหู่าจะทำค่อนข้างอร่อย นึกขึ้นได้ว่าในตะกร้ายังมีงูอยู่ นาง้าหลี่ซื่อ่า่โยน พิจารณาไตร่ตรองและเริ่มกล่าว “่าแม่ วันี้พวกข้าอยู่บนเขาตีงูดำลายพาดกลอนได้ตัวึ่”
หลี่ซื่อแปลกใจเล็กน้อย รีบทำท่าทางไถ่ถามพวกนางว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่
“่าแม่ พวกข้าไม่ได้ถูกงูกัด งูชิี้ไม่มีพิษ เหมือนตัวั้ที่่าพ่อจับครั้ง่เลย ่าพี่ฉลาดมาก ใช้ง่ามไม้ึ่ท่อนกดงูไว้ งูขยับไม่ได้ สุด้าก็ถูกข้าตีตาย” ผิงัยืด้าอกเล็กๆ ขึ้น่าภาคภูมิใจ
หลี่ซื่อ้าตาอมยิ้ม หันมาทางเขาแ้ยกนิ้วหัวแม่มือั้ขึ้น
เชิงอรรถ
[1] นาง ั้แ่บที้จะแทนตัวแทนนางเอกด้วยสรรพนามนางแทนเ เนื่องจากนางเอกค่อยๆปรับตัวเ้ากับสภาพแวดล้อมได้แ้
[2] หงหนิวกาน หรืออีกชื่อึ่ว่า เห็ดพอร์ชินีพ
[3] ึ่ตะบอกตีไม่ผายลม ใช้เปรียบเปรย ซื่อๆ ไม่ชอบพูด
[4] เ้ดำเ็ั เป็วิธีการแสดงของภาพการ์ตูน แสดงออกความรู้สึกตกต่ำหรือสภาพจิตใจประสบทุกข์
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา