เรื่อง คู่มือเศรษฐีนีชาวนาฉบับสาวน้อยทะลุมิติ
ั้สามขึ้นเกวียนล่อ [1] ที่ประตูเืง เกวียนไม่ได้เ้าหมู่บ้านวั้งหลิน จึงโดยสารไปึแค่ปากทางเ้าหมู่บ้าน ค่าโดยสารจ่ายละเหวิน
เิูนั่งเกวียนเช่นนี้เป็ครั้งแรก เริ่ม้รู้สึกค่อนข้างแปลกใหม่นัก ใใจคิดว่านี่เป็รถประจำทางขั้น้
แต่ผ่านไปไม่นานก็้าเปลี่ยนสี ถนนในี้ใช้ิจำนวนมากอัดทับกัน้าขึ้น ่ใหญ่จะเป็หลุมทางตะัหลุมหนึ่ง ทางตะัตกเว้าลงไปีหลุมหนึ่ง ตลอดทางเิูแกว่งจากซ้ายไปขวา แ้ก็จากขวาไปซ้าย าครั้งกระแทกเ้ากับก้อนหินจนั่สะเทือน รอจนึปากทางเ้าหมู่บ้านวั้งหลินลงจากเกวียน เิูก็เกือบจะอาเจียนมาแ้
หูาุ้ใบ้าเ็ของเิูที่ถูกแกว่งไปมาจนขาวซีดอย่างทุกข์ใจมาตลอดทาง รอจนเกวียนหยุดลงจึงประคองเิูลงจากเกวียน ให้นางนั่งบนก้อนหินข้างทางพักผ่อนคลายจิตใจ ืช่วยตบหลังเบาๆ อย่างงุ่มง่ามเ็น้อย
หูฉางหลินยิ้มให้นางอย่างรู้สึกยินดีปรีดาใาโชคร้ายของนางเ็น้อย เขาบอ่านางมักจะทำท่าทางสุขุมอยู่ตลอดเวลา คิดนั่งเกวียนล่อแต่ับคาดไม่ึว่าจะนั่งจนอยากอาเจียน ที่แท้แ้ก็ยังเป็แม่นางัน้อยจริงๆ
เิูค้อนปะหลับปะเหลือกทีหนึ่งให้กับหูฉางหลินที่แสยะปากยิ้ม ไม่ได้โต้แย้งับ นางนับว่าว่าภายนอกท่านลุงที่ซื่อๆ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมของนางนี้ แท้จริงแ้ใใจมีเด็กชายัน้อยซ่อนอยู่ มักจะวิ่งมาดื้อซนอยู่บ่อยๆ คิดได้เช่นนี้ ใใจเิูก็รู้สึกมีาสุข ารู้สึกเมาเกวียนก็บรรเทาลงอย่างมากทันที
หูฉางหลินถูกนางยิ้มใส่พักหนึ่งก็พูดไม่ นึกขึ้นได้ว่า่นี้แม้เิูจะแปลกประหลาดไปบ้างเ็น้อย แต่ับ้าหาญชาญฉลาดไม่เบา เงินที่หาได้ันี้มิใช่ว่าล้วนเป็คุณงามาดีของนางหรือ แม่นางน้อยอ่อนแอบอบบาง ตนเไม่ควรหัวเราะเยาะนางเลยจริงๆ ด้วยเุนี้ เขาจึงยิ้มเ้าสู้อย่างขัดเคืองใจเ็น้อยก่อน่าว่า “เิู ถนนนี่เป็หลุมเป็บ่อไม่ราบเรียบ ที่จริงแ้ลุงก็โยกไปมาจนเวียนหัวนัก”
่าปลอบใจแ้ทำท่าทางเวียนศีรษะ
ทันใดนั้น เิูก็ถูกฝีืการแสดงห่วยๆ ของเขาทำให้หัวเราะ “พรืด” มา นางกำลังจะเปิดปาก่า บนทางแยกของถนนหลักกับปากทางเ้าหมู่บ้านมีเกวียนวัวหนึ่งคันเลี้ยวเ้ามาพอดี บนเกวียนมีชายชราหนึ่ง เด็กหนึ่งัู่่ ชายชราที่ขับเกวียนอยู่่้าเห็นสามตรงทางเ้าหมู่บ้านจึงทักทายอย่างกระตือรือร้น “ฉางหลิน าุ้ พวกเจ้ากำลังทำอันใดอยู่หรือ?”
“โอ้ เป็ท่านอา้าซาน พวกเราอยู่นี่เพื่อพักเท้าน่ะ ท่านกับเถี่ยฉุยกำลังไปทำอะไรหรือ? ลากของมามากมายึเพียงนี้?” หูฉางหลิน่าเสียงทักทาย
้าซานเป็ลูกพี่ลูก้ฝ่ายมารดาของ้าเหวินเฉียง ผู้ใหญ่บ้านวั้งหลิน ฐานะทางบ้านมั่งคั่ง มีบุตรชายบุตรสาวมากมาย มีนามีวัว นับเป็ครอบครัวที่่ำที่สุดใหมู่บ้าน สกุล้าเป็สกุลที่ใหญ่ที่สุดของหมู่บ้านวั้งหลิน ชาวไร่ชาวนาใสาม่ล้วนเป็ของสกุล้า ันั้นตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านจึงเป็สกุล้าที่ได้รับตำแหน่งสืบทอดมาตลอด
“นี่ไม่ใช่ว่าจะเ้า้าหนาวแ้หรือ ปีนี้การเก็บเกี่ยวใฤดูใบไม้ร่วงบ้านข้าเก็บเกี่ยวได้มากนัก เลยเก็บไปขายใเืงเสียชุดหนึ่ง แ้ซื้อผ้าฝ้ายเนื้อละเอียดับมาเ็น้อย ที่บ้านมีเด็กผู้ญิมาก เสื้อกันหนาวเลย้ตระเตรียมไว้ล่วง้า” ้าซานเร่งเกวียนวัวเ้ามาด้วยอาการหัวแกว่งไกวไปมา
หูฉางหลินเห็นวัวัโตเิเ้ามาใ้ สายาทอดาอิจฉามา เขาลูบหลังวัวที่สุขภาพดีก่อน่า “อิจฉาท่านจริงๆ บ้านท่านที่นาอุดมสมบูรณ์ เสบียงอาหารเก็บเกี่ยวได้มากเป็เรื่องธรรมดา วัวัใหญ่ันี้แข็งแรงบึกบึนแ้ยังสามารถช่วยท่านทำงานได้ไม่น้อย”
สำหรับชาวนาที่ก้ม้าเ้าหาิ แผ่นหลังหันขึ้นฟ้าตลอดั้ปีแ้ หากสามารถซื้อวัวควายไถนาที่แข็งแรงได้หนึ่งั จะเป็เรื่องที่ทำให้อิจฉาเพียงใดกันนะ
“ฮ่า ฮ่า ต้าหวงเป็ผู้ช่วยที่ดีของบ้านข้าจริงๆ หากไม่มีมัน พื้นที่สิบ้าหมู่ของครอบครัวข้าจะไถเสร็จได้ที่ไหนกัน” ้าซานลูบหลังวัว แ้ยังยิ้มพร้อม่าอี่า “ฉางหลิน เจ้าพี่้ก็ซื้อด้วยกันหนึ่งัแ้ใช้ร่วมกันสิ ไม่จำเป็้ลำบากตนเเช่นนี้”
“โธ่ วัวหนึ่งัอย่างน้อยก็้ใช้เงินึเจ็ดแปดเหลียง ง่ายเช่นนั้นที่ใดกัน” หูฉางหลินถอนหายใจแ้ชายหนุ่มรูปร่างแข็งแกร่งที่ลงมาจากเกวียนีครั้ง
“ท่านอาฉางหลิน นี่ไม่ใช่ว่าร่างกายข้าเก็กำลังโตเหืนกันหรอกหรือ ข้าก็สามารถช่วยงานท่านปู่ได้เช่นกัน” ้าเถี่ยฉุยเป็าชายโตของ้าซาน ปีนี้เพิ่งาุสิบ้าปี รูปร่างสูงแน่นหนาบึกบึน
“โอ้ เจ้าน่ะคงไม่รู้สินะ นี้เจ้าหนุ่มนี่ทานได้เยอะนัก หนึ่งมื้อทานน้อยสุดถ้วยใหญ่ ปริมาณข้าวที่ทานมากขนาดนี้ เสบียงอาหารของสกุล้าล้วนเกือบถูกเขาทานจนเี้ยงแ้” ้าซานแสร้งทำท่าบ่นาชาย ที่จริงแ้ใใจับปีติยินดีเป็อย่างมาก
้าเถี่ยฉุยหัวเราะ “ฮี่ฮี่” อย่างเขินอาย
ั้ครอบครัวทักทายกัน คุยกันเรื่อยเปื่อยอยู่พักหนึ่ง ้าซานก็เชื้อเชิญพวกเขาสามนั่งเกวียนวัวเ้าหมู่บ้านไปด้วยกัน หูฉางหลินปฏิเสธอย่างสุภาพ ้าซานอาศัยอยู่หมู่บ้านฝั่งตะั เ้าหมู่บ้านแ้้เปลี่ยนทิศทางไปทางถนนเ็ แต่พวกเขาับ้เิตรงไป เป็ะาั ย่อมไม่สะดวกนัก
้าซานจึงเร่งเกวียนวัวเิไปก่อน เิูพักสักครู่ก็ผ่อนคลายลง สามจึงแบกตะกร้าไผ่สานขึ้นมาแ้มุ่งเิไปใหมู่บ้าน
ปากทางเ้าหมู่บ้านมี้มะเดื่อจีนเก่าแก่้ปี ลำ้หนาขนาดแขนโอบ ามีชีวิตชีวา ไๆ เหืนร่มขนาดใหญ่สีเขียวคันหนึ่ง เขียวสดงดงามตลอดั้ปีั้สี่ฤดู ใต้้มะเดื่อจีนมีม้านั่งหินล้อมเป็วงม รูปร่างแตกต่างกันไป ่ที่ว่างจากการเก็บเกี่ยว ที่แห่งนี้จึงเป็ที่ชุมนุมกันของเ่าชาวไร่ชาวนา
ยามนี้เลยเวลาเที่ยงมาแ้ ชาวบ้านไม่น้อยนั่งพักเหนื่อยกระจัดกระจายคุยกันไร้สาระอยู่ใต้้ไม้ ล้อมวงเ้าด้วยกัน จับุ่มสาม้าพูดคุยไร้สาระเกี่ยวกับครอบครัวนู้นนี้
ชาวไร่ชาวนาที่าแหลมคมเห็นพวกเขามาแต่ไ ยังไม่ทันรอให้เิเ้ามาใ้ก็ทักทายขึ้นมา!
“ฉางหลิน ับมาจากไปตลาดหรือ?”
“ฉางหลิน ่ำแ้ ซื้ออันใดมากัน”
“ฉางหลิน ครา้าไปใเืงทำงานพาสามีข้าไปด้วยสิ”
ต่างต่า่งก็ตะโกนใส่หูฉางหลินอย่างพร้อมเพรียงกัน
เิูกับหูาุ้ถอยหลังไปสามก้าวพร้อมกันโดยมิได้นัดาย เิูจำชาวไร่ชาวนาเ่านี้ไม่ค่อยได้ และไม่ชอบเจอาครึกครื้นวุ่นวายเช่นนี้นัก นางหันมาหูาุ้ พบว่าเขาที่เป็ท่านพ่อของนางกำลังก้ม้าต่ำลง ใบ้าั้หมดใช้เ้ผมลงมาปิดปกคลุม โน้มังอไม่่าอะไรสักคำ เิูแ้ใจกระตุกวูบ นี่ได้รับคำนินทามามากมายเ่าใดกัน นินทากันจนแม้แต่เงย้าขึ้นยังไม่้า
เิูกวาดสายาเ่าที่พากันเิมามุงพวกนาง และุ่มที่คอยจับผิดอยู่ไม่กี่ทีอย่างเย็นชา ใใจโมโหจนส่งเสียง “เะ” มาหนึ่งเสียง ืน้อยจูงท่านพ่อมาจากุ่ม แ้ก้าวฝีเ้าาวๆ จากไป
“อ้าว เิู ุ้ ...อ่า ข้า้ขอัไปก่อน มีเวลาค่อยคุยกัน” ฉางหลินบอากับชาวไร่ชาวนาที่คุ้นเคยกัน ก้าวยาวๆ โดยไม่ยั้งฝีเท้าามไป
หูฉางหลินย่อมรู้ว่าการปฏิบัติที่หูาุ้ได้รับเป็อย่างไร ปีนั้นเพื่อช่วยเหลือตนเแ้ าุ้จึงได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาจะไม่เป็ทุกข์ได้อย่างไร แต่ปากที่ยื่นยาวมาบนร่างกายอื่น จะจัดการได้ที่ไหนกันเล่า ้าที่สุดแ้ก็ไม่สามารถตัดขาดาสัมพันธ์หรือการติดต่อกับทุกใหมู่บ้านได้ด้วยเุนี้ ้รู้ว่าการใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวห่างไผู้ไม่ใช่เรื่องดี มีครอบครัวมีเด็ก ต่อไปบุตรชาย้แต่งภรรยามีบุตร บุตรสาวก็้เลือกที่จะแต่งงานด้วย สิ่งเ่านี้ต่างหนีไม่พ้นชาวไร่ชาวนาเพื่อนบ้าน ีอย่างก็ไม่ใช่ทุกที่ชอบพูดมากน่ารำคาญด้วย
ตลอดทางับมาทุกต่างไม่พูดไม่จาจนึบ้านเก่า หวังซื่อยิ้มต้อนรับมาแต่ไ แต่ับเห็นสี้าสามต่างไม่ค่อยดีเสียเ่าไหร่ จึง่าปลอบใจ “ขายไม่ได้หนึ่งครั้งก็ไม่สำคัญ รอครั้ง้าที่มีตลาดนัดค่อยไป นั้นมาก้ขายได้สามัแน่”
“เอ่อ ่าแ่ กระต่ายล้วนขายไปหมดแ้ขอรับ นี่เป็เงินขายกระต่าย” หูฉางหลินควักถุงเงินมาจากใอกแ้ส่งให้ไป
หวังซื่อรับมา หนักมากเีเดียว ดูแ้ขายได้ไม่น้อยเลย สุด้าจึง่าอย่างงงงวยว่า “กระต่ายขายได้หมดย่อมเป็เรื่องที่ดี ทว่าเุใดเิูึมีสี้ามืดครึ้มเช่นนี้เล่า? หรือได้รับาไม่เป็ธรรมอันใดหรือ ่าา ย่าจะเป็พยานให้เจ้าเ”
เิูสี้าท่าทีห่วงใยของหวังซื่อ จึงมีาไม่สบายใจผุดขึ้นมาเ็น้อย ตนเเป็ที่โตแ้หนึ่ง ับเอาคำนินทาเ่านี้มาส่งผลกระทบต่อจิตใจัเ มีประโยคคำอนที่่าเช่นนี้ไม่ใช่หรือ ...ไม่ว่าจะเหนือใต้ตก อุปสรรับพันหมื่นโจมตียังมั่นคงแข็งแกร่ง [2] แต่ตนเับทำไม่ได้ นับประสาอะไรกับการได้รับการขัดเาเพียงนิด ขอแค่ศักยภาพตนเแข็งแกร่งมากพอ ทุกคำนินทาก็ล้วนเป็เพียงแค่เสือกระดาษ [3]
เิูปลุกจิตใจให้ฮึกเหิมขึ้นมา หูฉางหลินที่กังวลไม่สบายใจเ็น้อยอยู่ด้านข้าง จึงยิ้มจางๆ ขึ้น “ท่านย่า ไม่เป็อันใด แค่นั่งเกวียนับมาถูกโยกมากไป่ ถนนนั่นเดี๋ยวหลุมเดี๋ยวเว้าจนแทบทนไม่ได้เลย”
นางส่าย้าไปมาด้วยท่าทางเกินจริง
ทันทที่ฟังจบหวังซื่อก็ลูบหัวของนางด้วยาปวดใจ “จริงัว่า ถนนหลักนั่นควรซ่อมแซมจริงๆ คราก่อนย่านั่งเกวียนไปใเืงก็ถูกโยกเสียจนทนไม่ได้เหืนกัน”
“พ่อเจ้า เจ้าับมาแ้หรือ เป็อย่างไ้า? กระต่ายขายไปได้หรือไม่?” เหลียงซื่อยื่นศีรษะมาจากห้องฝั่งตะัตกอย่างระมัดระวัง
“อื้ม ไม่ใช่ว่าให้เจ้าพักอยู่ให้องนิ่งๆ อย่าขยับไปทั่วหรือ เุใดึโผล่มาีแ้เล่า ีครู่ับไปห้องค่อยว่ากันเถิด” หูฉางหลินตำหนิเ็น้อย แต่การเคลื่อนไหวของืและเท้าับวิ่งเ้าไปช่วยพยุงนางเอาไว้อย่างระมัดระวังด้วยาเร็วราวกับเหินบิน
เิูวางตะกร้าที่แบกไว้ลง “ท่านย่า พี่รองเล่า?”
“ชุ่ยจูกับผิงซุ่นต่างอยู่ที่บ้านของเจ้าน่ะ ช่วยผิงอันป้อนอาหารกระต่าย นี่ก็เลยเที่ยงมาแ้ พวกเจ้าทานข้าวมากันหรือยัง?” หวังซื่อหูาุ้แ้ถาม
“ยังเลย” หูาุ้ตอบ
“ไอ๊หยา ก็รู้ว่าพวกเจ้าไม่มีทางทานนอกบ้านแน่ โชคดีที่ข้าเก็บข้าวเอาไว้ เร็วเ้า ล้างืก่อนแ้มาทานข้าว” ่าแ้ก็วิ่งเร็วๆ ไปยกกับข้าวที่อยู่ให้องครัวมา
หลังจากหวังซื่อเตือนขึ้น เิูก็นึกขึ้นได้ว่าพวกเขาสาม ึ่ัแ้ได้ทานเพียงแค่หมั่นโถวหนึ่งก้อนเ่านั้น ทันใดนั้นเก็รู้สึกท้องร้องขึ้นมาทันที
หลังข้าวหนึ่งถ้วยลงท้องสำเร็จ เิูถอนลมหายใจเฮือก หวังซื่อทำอาหารได้อร่อยยิ่ง ผักดองผัดพริกหนึ่งถาดเผ็ดชุ่มคอนัก ฟักทองต้มเค็มรสชาติกำลังดี ูปาาอย่างมาก แค่ผักดองนางก็สามารถทานข้าวสวยลงไปได้ีถ้วยแ้
“ท่านย่า ผักที่ท่านผัดอร่อยจริงๆ ” หลังเิูวางถ้วยลงก็ชมจากใจจริง
หวังซื่อที่กำลังนับเหรียญทองแดงอยู่บนโต๊ะเตี้ยด้านข้าง ได้ฟังเช่นนี้แ้ก็มีาสุขจนดวงาหยีเป็รอยเย็บเ้หนึ่ง มุมปากฉีกยิ้ม “อร่อยก็ทานเยอะๆ ่ ช่างน่าเสียดายที่ันี้ไม่ได้ซื้อเนื้อ หากใส่หมูสามชั้นลงไปใผักดองผัดี่จะยิ่งอร่อย ลุงเจ้าเพิ่งซื้อเนื้อับมา รอเย็นย่าจะผัดให้มากขึ้นีถาด ให้พวกเจ้าเอาับบ้านไป าุ้ เจ้าก็ทานเยอะๆ ่เถิด”
่าึเนื้อ เิูก็นึกึเครื่องใหมูใตะกร้าของตนเขึ้นมาได้ นางครุ่นคิด หรือว่าจะเอาับไปทำที่บ้านของตนเดี ที่บ้านค่อนข้างอยู่ใ้แหล่ง้ำ เครื่องใหมูจำเป็้ล้างให้สะอาดาๆ ครั้งจึงจะสะอาดเอี่ยมได้
“ท่านย่า เย็นนี้ไม่้ทำกับข้าวมากนะเจ้าคะ ีครู่บ้านข้าจะทำอาหารใหม่ขึ้นมาสามอย่าง ข้าจะให้พี่รองยกมาให้พวกท่านลองทาน” เิูยิ้มแ้่าบอ่วง้า นางไม่ัวว่าจะทำไม่อร่อย ใช้ชีวิตเดียวมาาปี ประสบการณ์ทำกับข้าวจึงมีไม่น้อย ขอแค่เอาิ่นสาปหมูชำระล้างให้สะอาด รสชาติที่ทำมาก็ไม่ย่อมไม่เลวแ้
“โอ้ เิูของพวกเราทำอาหารได้แ้หรือ นี่เป็เรื่องดีมากจริงๆ ” หวังซื่อ่าด้วยใบ้าร่าเริงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แ้ยังทำให้ผู้เฒ่าหูยิ้มี “ได้ ันี้ ย่ากับปู่จะรอทานอาหารใหม่ที่เิูทำ”
ด้านข้าง หูาุ้ที่เพิ่งวางถ้วยและตะเกียบลงได้ฟังเช่นนั้นก็อดกระตุกยิ้มมุมปากไม่ได้ ใใจระแวงว่า อาหารใหม่อันใดกัน ไม่ใช่ว่าเป็เครื่องใหมูหรือ เหม็นโฉ่เช่นนั้นจะสามารถทำอันใดอร่อยได้ ทว่าคำพูดนี้เขาไม่มีทาง่าไปอย่างแน่ ทำได้เพียงแอบเิูแวบหนึ่ง ก่อนวิจารณ์ใใจ
พ
เชิงอรรถ
[1] ล่อ คือสัตว์ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างม้ากับลา
[2] เป็คำอน ายาว่า ประสบกับการเคี่ยวกำ อดทนกับาทุกข์ที่โหมกระหน่ำเ้ามามากมายแต่ยังคงแข็งแกร่งดั่งเหล็ก้าอยู่ ก็สามารถลู่ไปามการพัดกระหน่ำของลมเหนือใต้ตก ใช้บรรยายึ าแน่วแน่ าู่้ าไม่ั่คลอนเมื่อ้เผชิญกับาทุกข์ยาำบา
[3] เสือกระดาษ คือ หรือุ่มที่ดูเหืนมีอำนาจ แต่าเป็จริงไม่มีอำนาจอะไรเลย
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา