เรื่อง มอบแด่เจ้า ภูผา ธาราหมื่นลี้ (แปลจบแล้ว)
สิ่งที่กู้หาเฟิงคิดไม่ถึงก็คือ จวนเก่าของฮ่องเต้จะเก่าและทรุดโทรมถึงเพียงี้ิๆ.
ในจวนที่ทรุดโทรมึ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเมืองี้ กำแพงจวนมีรอยด่างเล็กน้อย ้าต่างกระดาษหลายแห่งผุพังอย่างเห็นได้ชัด เครื่องเรือนมีน้อยนิดทั้งยังล้วนแต่เป็นเครื่องเรือนพื้นฐานที่ทุกเรือน้มี เขาเห็นฮ่องเต้ยืนอยู่ข้าง้าต่าง เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง บริเวณโดยรอบนั้นไร้ึ่เสียงใดๆ แม้แต่การทำความสะอาดของเหล่าขันทีก็ยังมีเสียงเบาและเชื่องช้าา เพราะปัญหาเื่แสว่าง จึงความเป็นจริงได้ไม่ชัดเจน เห็นเพียงความรู้สึกที่โดดเดี่ยวอย่างบอกไม่ถูก
บางทีอาจเป็นเพราะได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว เขาจึงหันไปกู้หาเฟิง และเอ่ยถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“มาแล้วหรือ?”
กู้หาเฟิงก้าวึ้มา
“ฮ่องเต้ทรงพระเจริญ!”
เขาพยัก้า เพื่อบอกให้กู้หาเฟิงนั่งลง
ักงกงรีบก้าวไปข้าง้า ยืนอยู่ข้างกายฮ่องเต้เพื่อคอยรับใช้ ไม่าอาาก็ถูกยกมา บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด กู้หาเฟิงแอบคาดเดาจุดปะสงค์ของฮ่องเต้ที่เชิญเขามาร่วมทานอาาเย็นในวันี้ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ขุนนางในราชำั แต่เพราะบิดาของเขาเป็นมหาเสนาบดี และน้องสาวของเขาเป็นพระสนมที่ฮ่องเต้ทรงโปรดปราน เขาและฮ่องเต้ได้พบกันหลายครั้ง แต่ับไม่ได้พูดคุยกันเท่าไรนัก
อาาทุกอย่างที่ักงกงยกมา เขาจะแนะนำจุดเด่นของอาา ส่วนผสมที่ใช้และผลปะโยชน์ัทานไปแล้วอย่างะเีทุกอย่าง กู้หาเฟิงมาที่เมืองตั้งหยางระยะหนึ่งแล้ว ัๆ กินแต่โจ๊กผัก เื่มีอาาน่าอร่อยอยู่ตรง้าจึงไม่ได้เกรงใา เื่ฮ่องเต้ยกตะเกียบคีบอาากิน เขาก็คีบอาาึ้าินทันที ในหัวับคิดว่าน่าเสียดายที่หลิวเยว่ไม่ได้มาด้วย ที่ผ่านมานางลำบากไม่น้อย เื่คิดถึงรูป่าที่ผ่ายผอมลงของนาง เขาก็ปวดใทันทีและคิดว่าก่อนจะับไป เขาจะขอให้ักงกงห่ออาาให้สักเล็กน้อยเพื่อนำไปฝากหลิวเยว่ด้วย
เื่กินไปได้พอปะมาณแล้ว ฮ่องเต้ที่นั่งเงียบมาตลก็เอ่ยึ้
“พรุ่งี้ข้าจะับเมืองเทียนเฉิงแล้ว เ้าก็ับด้วยกันพรุ่งี้สิ”`
กู้หาเฟิงตะลึงงัน เขาปฏิเสธทันทีโดยแทบไม่ได้คิด``
“ขอบพระทัยสำหรับความหวังดีของฝ่าบาท แต่้าที่บรรเทาภัยพิบัติยังไม่เสร็จิ้ พวกกระหม่อมอาจจะเลื่อนเวลาับเมืองหลไปอีกสองสามวันพ่ะย่ะค่ะ” กู้หาเฟิงคิดว่าด้วยนิสัยของหลิวเยว่ เกรงว่านางคงไม่จากเมืองตั้งหยางง่ายดายเพียงนั้น
ัจากที่เขาเอ่ยปฏิเสธแล้ว เขาก็แอบสังเกตพระพักตร์ของฮ่องเต้ ึ่ยังคงไร้ความรู้สึกเช่นเคย ไม่ออ่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกอย่างไร ักงกงที่อยู่ด้านข้างจึงเอ่ยเี้ย่อม
“ใต้เท้ากู้ ท่านจะอยู่ที่เมืองตั้งหยางาไม่ได้ โรคระาเริ่มแพร่กระจายแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้โรคระาแพร่กระจายไปยังเมืองอื่น ฮ่องเต้ได้่าพระราชโองการให้ปิดปะตูเมืองตั้งหยางตั้งแต่พรุ่งี้ไป เมืองี้จะถูกปิดาย ที่อยู่ในเมืองี้ย่อมจะไปที่ใดไม่ได้ พวกท่านจะไม่สามารถจากเมืองได้ และผู้เมืองก็ไม่สามารถเข้ามาได้เช่นกัน ันั้นพวกท่าน้ับเมืองเทียนเฉิงกับพวกเราในวันพรุ่งี้เท่านั้น ฮ่องเต้จึงจะได้วางพระทัย พระสนมซินเก็จะได้วางใเช่นกัน”
ปิดปะตูเมือง? เื่ได้ยินปะโยคี้กู้หาเฟิงพลันใสั่นทันที ้รู้ว่าถ้าปะตูเมืองตั้งหยางถูกปิดายิๆ เช่นนั้นชาวบ้านทั้งเมืองตั้งหยางจะาย และไม่มีโอกาสร
เขาอยากจะพูดบางอย่างเพื่อต่อสู้แทนชาวเมืองตั้งหยาง เผื่อว่าจะมีวิธีอื่นที่ดี่าี้ แต่ฮ่องเต้ับยืนึ้แล้วตอบอย่างไม่แยแส
“เ้าับไปคิดเถอะ”
ก่อนจะหมุนัเดินจากไป ักงกงจึงรีบเดินาัไปเช่นกัน
กู้หาเฟิงกินอาาต่อ และัจากกินเสร็จเขาก็เก็บอาาที่เหลือบนโต๊ะนำับไปให้หลิวเยว่ ส่วนเื่จะับเมืองเทียนเฉิงหรือไม่ เขายังไม่ได้คิดเกี่ยวกับเื่ี้
เื่เดินจากเรือนัเก่า เขาหันับไปัเรือนโดยไม่รู้ั เื่จากระยะไ เขาเห็นฮ่องเต้และักงกงยืนอยู่ใต้้สาลี่ ี้เป็นเวลาางคืนแล้ว อาศัยเพียงแจันทร์เท่านั้น จึงทำให้เห็นเป็นเงา่าที่เลือนราง
เขาไม่รู้ว่าเรือนเก่าัี้มีความสัมพันธ์แบบใดกับฮ่องเต้ ถึงได้มีผลต่อความรู้สึกพระ์เช่นี้ คืนี้อารมณ์ของฮ่องเต้ดูเหมือนจะหดหู่ายามอยู่ในเรือนัเก่าัี้
กู้หาเฟิงไม่ผิด อวิ๋นซู่ในเวลาี้รู้สึกหดหู่ใิๆ ักงกงเดินาัเขาและพูดจาอย่างระมัดระวัง
“ฝ่าบาท นี่ก็ดึกแล้ว เสด็จไปพักผ่อนเถอะพ่ะย่ะค่ะ พรุ่งี้้เสด็จับเมืองหลเทียนเฉิง เดี๋ยวจะทรงเหน็ดเหนื่อยเกินไป”
ดูเหมือนอวิ๋นซู่จะไม่ได้ยินคำพูดของักงกง มือหนาของเขาสัมผัสกับ้สาลี่เบาๆ พลางเอ่ยถาม
“เ้ารู้หรือไม่ว่ามันถูกปลูกมาแล้วกี่ปี?”
ักงกงดู้สาลี่้นั้น ดูมบน้ไม้อย่างน้อยก็ิปี แต่เขาไม่้าตอบ เขาแค่พูดว่า
“กระหม่อมไม่”
เสียงของอวิ๋นซู่นั้นเย็นเยียบา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะจมอยู่ในความทรงจำในีต ก่อนจะเอ่ยมาเนิบช้า
“ก่อนที่เสด็จพ่อข้าจะสวรรคต ข้าได้รับราชโองการให้มาดูแลเมืองตั้งหยาง ในเวลานั้น เรือนัี้ยังใหม่เอี่ยมและลานบ้านก็กว้างขวาง นั้นลานยังว่างเป่า ้สาลี่้ี้ถูกปลูกึ้มาในเวลานั้น ก็คืออาซี...”
เื่เขาเอ่ยชื่อของอาซี เสียงของเขาับหยุดลงทันที มือของเขาที่สัมผัส้สาลี่ก็กำหมัดแน่นทันที ใต้้สาลี่ภายใต้แจันทร์ สามารถเห็นมือซีดขาวของเขาได้!
ักงกงเหงื่อไหลกมาเต็มั คุกเข่าลงกับพื้นทันใด เอา้าผากแตะพื้นแล้วพูดด้วยเสียงสั่นเทา
“ฝ่าบาทเื่ราวก็ผ่านพ้นไปแล้ว กระหม่อมขอร้องพระ์อย่าทรงคิดถึงอีกเลย รักษาพระวรกายด้วยเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
ักงกงรับใช้ฮ่องเต้ตั้งแต่เขายังเป็นเพียง์ชายสาม หลายปีมาี้ นับแต่เขาเป็น์ชายสามที่ถูกจำกัดทุกอย่าง ทุกย่างก้าวจนมาถึงวันที่ายเป็นฮ่องเต้ในวันี้ เขารับรู้ถึงความลำบาก ตั้งแต่ฮ่องเต้เป็นชายหนุ่มผู้มีความรู้สึกค่อยๆ ก้าวึ้ไปสู่การเป็นที่เลืเย็น ายเป็นฮ่องเต้ที่ทุกได้ยินชื่อแล้วล้วน้สี้าเปลี่ยน เขาเห็นที่ฮ่องเต้ยืนอยู่บน้าผากับสตรีที่ชื่ออาซีผู้นั้น และเห็นที่สตรีผู้นั้นกระโดดลง้าผาด้วยาของัเ
ในนั้น ฮ่องเต้กำลังนำทัพเข้าบุกโจมตียึดเมือง กำลังต่อสู้กับศัตรูอย่างเอาเป็นเอาาย ัจากรีิในสงครามและนำชัยชนะับไปแย่งชิงตำแหน่งฮ่องเต้ได้แล้ว เขาจึง้การับเมืองเทียนเฉิง แบ่งปันช่เวลาแห่งเกียรติยศี้กับสตรีที่ชื่ออาซีผู้นั้น แต่สิ่งที่เขา้เจอับเป็นนางที่กระโดดลง้าผาฆ่าัายต่อ้าต่อาเขา
นั้นฮ่องเต้ร้องตะโกนไปยังสตรีที่อยู่บน้าผา
“ถ้าเ้าาย ข้าจะทำให้ใต้หล้าี้ายเป็นขุมนรกบนดิน”
ในเวลานั้น ท่าทางของฮ่องเต้ ักงกงยังคงจดจำได้จนมาถึงวันี้ ่ากายที่สั่นเทาไม่หยุด ความมั่นใในัเพังทลายลง ความรู้สึกที่แสลาย ะั่สูญเสียเุผลทุกอย่าง พระ์วิ่งไปทาง้าผาหมายจะจับสตรีที่ชื่ออาซีผู้นั้น
เขาพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อรั้งฮ่องเต้เอาไว้ ฝืนบังคับพาพระ์ับวังหล อารมณ์ความรู้สึกของเขาถึงได้ค่อยๆ ฟื้นฟูับมา ในพิธีึ้ครองบัลลังก์ ฮ่องเต้จึงได้ายเป็นที่ทุกหวาดัว
แต่ปะโยั้น
“ถ้าเ้าาย ข้าจะทำให้ใต้หล้าี้ายเป็นขุมนรกบนดิน” ับไม่ได้เกิดึ้จริง ด้วยเุนั้นแผ่นดินของราชศ์ทง ราษฎรส่วนใหญ่จึงใช้ีิ ทำงานอย่างสงบสุขและเป็นที่พอใ หากจะบอ่าขุมนรกบนดิน คงมีแต่ีิความเป็นอยู่ของฮ่องเต้เท่านั้นที่เหมือนอยู่ในขุมนรก ไ่เ่นั้น ในโลกี้ จะมีที่ยิ้มไม่เป็นได้อย่างไร?
คำพูดี้ ักงกงก็ได้แต่คิดเท่านั้น ทว่าเขาไม่้าพูดอะไร โดยเฉพาะทุกปีที่ฮ่องเต้ไปที่้าผา ปะทับอยู่ตรงนั้นทั้งวัน ไม่พูดอะไร ไม่กินไม่ดื่ม ัจากับา็ปะชวร
หลายปีที่ผ่านมา ความทุกข์ของฮ่องเต้ เขาจะไม่รู้เลยได้อย่างไร? เวลาี้เื่ได้เห็นฮ่องเต้ทรงเป็นเช่นี้ แน่นอนว่าเขารู้ว่าฮ่องเต้ทรงกำลังคิดถึงสตรีที่ชื่อลิ่วซีผู้นั้น
เื่ได้ยินักงกงเอ่ยเี้ย่อม อวิ๋นซู่จึงเก็บสายาแล้ว่าว
“ักงกง เ้าว่าข้ารู้สึกไปเหรือไม่? บนถนนวันนั้นข้าคล้ายกับเห็นอาซียืนอยู่ตรงนั้น”
ักงกงปะหลาดใและหวาดัว
“ฝ่าบาท?”
“ในใต้หล้าี้หากมีผีิๆ เุใดนางจึงไม่มาหาข้า? ต่อให้จะเป็นครั้งเดียวก็ยังดี”
“ฝ่าบาท” ักงกงไม่้าพูดสิ่งใดอีก ุึ้เดินาัฮ่องเต้
เงา่าของเขาที่เกิดจากแจันทร์ มันช่างดูโดดเดี่ยว ในขณะี้ักงกงับรู้สึ่า ต่อให้ได้ครอบครองทั้งแม่น้ำและภูเขาหลายพันลี้แล้วจะมีปะโยชน์ัใด? เพราะมันไม่อาจเอาชนะคำว่าความสุขที่อยู่ข้างในได้
ความโศกเศร้าใต้้สาลี่เื่วานนั้น ักงกงแทบจะคิดว่ามันเป็นเพียงความฝันของเขาเ และความโศกเศร้าของฮ่องเต้ก็อยู่ในความฝันเช่นกัน เพราะฮ่องเต้ในเวลาี้ับมาเย่อหยิ่งและดูแคลนใต้หล้าเหมือนก่อน้าี้เช่นเคย พวกเขาจากเมืองตั้งหยางและเดินทางับเมืองเทียนเฉิง ฮ่องเต้ปะทับอยู่บนัม้า และกำลังควบม้าไปข้าง้าอย่างองอาจ ราวกับว่าทั่วทั้งใต้หล้าี้อยู่ในฝ่ามือของพระ์ และเขาก็เป็นฮ่องเต้ที่มีความสามารถและมีอำนาจาที่สุดในราชศ์ ักงกงบอากู้หาเฟิง และยังเี้ย่อมให้เขาจากเมืองตั้งหยางโดยเร็วที่สุดก่อนจะจากไป
จนะั่พวกเขาจากไปแล้ว หลิวเยว่ที่ซ่อนัอยู่ถึงได้โผล่มา เรือนเก่าที่กู้หาเฟิงไปเื่คืนนั้น นางเก็ไปดูมาแล้วตั้งแต่วันที่มาถึงเมืองตั้งหยางในวันที่สอง มันคือเรือนัเก่าที่อวิ๋นซู่มาพักอยู่ยามที่ถูกส่งมายังเมืองตั้งหยางในนั้น ี่ั่ นางกับอวิ๋นซู่ได้มีช่เวลาแห่งความสุขของการเป็นชาวบ้านธรรมดาที่บุรุษไปทำงานบ้าน และสตรีก็เฝ้าอยู่ในเรือน ไม่คิดเลยว่าแม้เขาจะได้เป็นฮ่องเต้แล้ว ก็ยังไม่ลืมเรือนัเก่าี้
กู้หาเฟิง่าวว่า
“หลิวเยว่ ฮ่องเต้ทรงสั่งปิดเมืองเื่เช้าี้ ้าู้ใเข้า” เขาไม่เคยพูดถึงเื่จะจากเมืองตั้งหยาง เพราะเขารู้จักหลิวเยว่ดีเกินไป นางจะไม่เพิกเฉยต่อความปลภัยของผู้ในเมืองตั้งหยาง
แม้ว่าหลิวเยว่ไม่อาจทนอยู่นิ่งเฉยได้ แต่นางก็เข้าใการตัดสินใที่ถูกบังคับในสถานการณ์ในี้ นางรู้ดีถึงความรู้สึกของอวิ๋นซู่ที่มีต่อเมืองตั้งหยางดี ไ่เ่นั้นเขาคงจะไม่เดินทางหลายพันลี้มาที่นี่ แต่เพื่อปะโยชน์ของใต้หล้าและความปลภัยของราษฎรในเมืองอื่นๆ นี่คือสิ่งที่เขาจำเป็น้ทำ
“กู้หาเฟิง เ้าก็จากเมืองตั้งหยางไปกับเตี๋ยเย่เถอะ เ้าทำมาาพอแล้ว ไม่จำเป็น้มาเี่ยงอยู่ที่นี่อีก”
หลิวเยว่เตือนกู้หาเฟิงให้ไปจากเมืองด้วยความหวังดี แต่ับคิดไม่ถึงว่าเขาจะหัวเราะ
“หลิวเยว่ ในสายาของเ้า ข้ากู้หาเฟิงเป็นเพียงไอ้ขี้ขลาดหวาดัวแม้แต่เื่เล็กน้อยอย่างนั้นหรือ?”
“ไม่ แต่เ้ามี้าที่ที่้รับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่่าี้ ะั่เมืองเทียนเฉิง ปะชาชนหลายหมื่นต่าง้การความช่วยเหลือจากเ้า แต่ี้สถานการณ์ในเมืองตั้งหยาง การที่เ้าอยู่ที่นี่ก็ไม่มีปะโยชน์อะไร โรคระาได้แพร่กระจายมาถึงั้ี้แล้ว ที่ป่วยจะอยู่ได้ไม่กี่วัน และโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาย่อมจะายที่นี่”
“แล้วเ้าล่ะ?” กู้หาเฟิงเอ่ยถามเพียงสามคำ
หลิวเยว่ตะลึงงัน นางไม่เคยคิดจะจากเมืองตั้งหยาง นางเต็มใากู้หาเฟิงมาที่นี่ ิๆ แล้วนางวางแผนเอาไว้ว่าจะอยู่ที่นี่อีกา ที่นี่ไจากเมืองหล ัา้่า รองลงา็คือความคุ้นเคยและความทรงจำ จากี้นางก็ไม่เคยคิดว่าถ้านางายแล้วจะทำอย่างไร? นางไม่เคยัวความาย หากายเพื่อปะชาชนเมืองตั้งหยาง เช่นนั้นก็นับว่าเป็นการายที่คุ้มค่า
“ข้าไม่เหมือนกับพวกเ้า ีิข้าไม่ได้มีค่าาเพียงนั้น เ้าพาเตี๋ยเย่ับไปด้วย”
นางหันับไปพูดกับเตี๋ยเย่
“ขอบคุณที่เ้าปกป้องข้ามาตล ้าที่ของเ้าจบลงแล้ว จะไม่มีใครตำหนิเ้า เ้าับไปยังที่ที่เ้าควรจะับเถอะ”
นางคิดว่าเตี๋ยเย่เข้าใความหมายของนาง และรู้ว่าเหย่เลี่ยจะเข้าใความหมายของนาง
ทว่าเตี๋ยเย่ับส่ายศีรษะ
“เ้าอยู่ที่ไหน ข้าจะอยู่ี่ั่ ดอกไม้อยู่ที่ใด ข้าก็อยู่ี่ั่”
หลิวเยว่เข้าใความหมายของนาง ปะโยคแรกคือความมุ่งมั่นของนาง ส่วนปะโยคัคือพูดแทนเหย่เลี่ย และนี่คือ้าที่ของนาง นางจะไม่หักัความปรารถนาของนายน้อยของพวกนาง
เห็นกู้หาเฟิงที่ดื้อรั้น และเตี๋ยเย่ที่ภักดี หัวใของนางพลันอบอุ่นและดาแดงก่ำ กู้หาเฟิงก้าวไปข้าง้าและกนางเอาไว้พลางเอ่ยว่า
“เอาล่ะ จะไปก็ไปด้วยกัน จะอยู่ก็อยู่ด้วยกัน ข้าไม่เชื่อว่าพวกเราจะไม่สามารถต้านทานภัยพิบัติครั้งี้ได้ ข้ากู้หาเฟิงมีความโชคดีเ และเ้าหลิวเยว่ เ้าก็เป็นที่โชคดีเช่นกัน พวกเรามาพยายามไปด้วยกันเถอะ”พ
ท่าทางที่มั่นใและไม่ทุกข์ร้อนของเขาทำให้หลิวเยว่รู้สึกสบายใึ้เล็กน้อย กู้หาเฟิงก็เป็นเช่นี้ ต่อให้ภูเขาไท่ซานจะล้มลงตรง้า สี้าของเขาก็ไม่เปลี่ยนสี เื่เห็นว่าพวกเขายืนกรานเช่นี้ หลิวเยว่จึงไม่เี้ย่อมให้พวกเขาจากไปอีก
“ในเื่ฮ่องเต้มีราชโองการให้ปิดปะตูเมืองแล้ว ย่อมไม่อาจคืนคำได้ สิ่งที่พวกเราทำได้คือลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด” เื่นางพูดจบ กู้หาเฟิงก็เข้าใความคิดของนาง ก่อนจะเอ่ยต่อว่า
“ในเมืองตั้งหยางี้ าจำนวนที่รายงานา่อน้า ผู้ติดโรคระาคิดเป็นี่ส่วน และที่สัมผัสกับพวกเขาก็คิดเป็นสองส่วน ่าวคือ ที่ยังเป็นปกติดีคิดเป็นี่ส่วน ันั้นจึง้แยกชาวบ้านี่ส่วนี้ไปในที่ปลภัย เพื่อหลีกเลี่ยงโรคระา ข้าจะจัดการต่อโดยแยกทางใต้จากทางเหนือของเมืองตั้งหยาง ปะชาชนที่ติดโรคระาจะอยู่ทางใต้ของเมือง ทางนั้นจะเป็นศูนย์รวมของสถานพยาบาล ส่วนที่มีสุขภาพดีจะอาศัยอยู่ทางเหนือของเมืองเพื่อป้องกัน ส่วนปะชาชนอีกสองส่วนก็ให้อยู่ตำแหน่งางเมืองเพื่อเฝ้าดูอาการตลเวลา หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ พวกเขาจะถูกแยกทันที"
คิดไม่ถึงว่ากู้หาเฟิงจะคำนวณเอาไว้ล่้าอย่างรอบคอบเช่นี้โดยที่หลิวเยว่ไม่รู้ นี่ทำให้หลิวเยว่คิดไม่ได้ ยุคปัจจุบันในปีสองพันสาม โรคซาร์สได้ระาทั่วกรุงปักกิ่ง ทั้งเมืองได้รับการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และสื่อก็ได้กระจายข่าวไปทั่วในเวลานั้น ทั้งยังมีการรักษาพยาบาลั้สูงและการเฝ้าระวังโดยเทคโนโลยีั้สูง และในยามี้เกิดภัยพิบัติรุนแรงา ับไม่สามารถเฝ้าระวังได้แม้แต่น้อย อาจ่าวได้ว่าไม่มีทางเลยด้วยซ้ำ คำแนะนำี้ของกู้หาเฟิง ถือว่าดีที่สุด และเป็นไปได้าที่สุด
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??