เรื่อง มอบแด่เจ้า ภูผา ธาราหมื่นลี้ (แปลจบแล้ว)
จริงๆ แล้ว ไม่ว่าหลิวเยว่จะใส่ใดูแลฉีเจิ่งาเพียงใด แต่เาะตลเวลาที่ผ่านมายังไม่มียาที่ได้ จนถึงี้ก็ยังไม่มีวิธีาสั่งยาใหู้ต้อง นางจึงรู้ว่าฉีเจิ่งไม่มีทางดีขึ้น เขาเหืนกับผู้ป่วยติดเชื้อทางใต้ของเืง เหืนกับบิดามารดาของเขา ไม่มีทางรได้
บางครั้ง นางื่ขึ้นมาใความฝั เสียงร้องของฉีเจิ่งยังอยู่ใหัวของนาง บางครั้งนางก็จะได้ยินเสียงร้องของทารกัขึ้นเป็นระยะๆ เสียงร้องนั้นมันส่งไปยัง้ามเนื้อแขนขาของนาง ทำให้นางรู้สึกวิตกกังวลและปใยิ่งนัก
เสียงร้องของทารกอยู่ไม่ใ้ไม่ไ จากนั้นเสียงร้องก็หายไปไม่ได้ยินแล้ว
ใช่เช้าตรู่นางก็ได้ยินเสียงของเตี๋ยเย่
“ฉีเจิ่งไปั้แต่เมื่อคืนวานแล้ว”
เมื่อนางได้ยินข่าวนั้น นางก็ไม่อาจขยับตัวบนเตียงได้เลยกว่าครึ่งวัน ร่างาของนางเบาหวิว รู้สึกวูบไหวขึ้นลง นางไร้เรี่ยวแรง อยากจะไปดูฉีเจิ่งเป็นครั้งสุด้า แต่ที่นางุขึ้น นางก็เวียนศีรษะจนหมดสติไป
ใขณะที่อยู่ใภวังค์ ราวกับมีืนับไม่ถ้วนดึงนางเอาไว้ และใบ้าจำนวนาก็มาปรากฏขึ้นตรง้าของนาง มีกู้หนานเฟิงที่ดูกังวล เตี๋ยเย่ที่ดูเป็นห่ ยังมีเหย่เลี่ยที่มีใบ้าเปื้อนรอยยิ้ม อวิ๋นู่ที่ท่าทางเดืดาล และโจวเฉิงหมิงที่ดุด่าด้วยรอยยิ้ม
“หลิวเยว่ เไปายที่ไหน”
ดูเหืนนางจะเห็นโจวเฉิงหมิงกำลังดุนางด้วยรอยยิ้ม
“หลิวเยว่ เไปายที่ไหน” นี่นางับไปยังยุคปัจจุบันแล้วหรือ? นางื่ขึ้นมาด้วยความตกใ เมื่อลืมาขึ้นก็ุขึ้นนั่ง ก่อนจะมองไปรอบๆ
มีเตียงหลังใญ่ บนโต๊ะไม้มสีแดงเข้มปักดอกไม้สีม่อยู่ตรง้านาง รองเท้าปักของนาง เสื้อผ้าของนาง โ้ นางยังคงอยู่ใราชศ์ทง ยังอยู่ใเืงั้หยาง ข้างานางก็คือกู้หนานเฟิงที่ยืนอยู่สี้าเคร่งขรึม และเตี๋ยเย่ที่นิ่งเงียบ
นางอยากจะพูด แต่คอของนางับร้อนผ่าว แน่น้าอก และปศีรษะตุบๆ จู่ๆ นางก็รู้ว่ามีบาง่าผิดปกติกับนาง นางติดเชื้อโรคระบาดแล้ว
มิ่าเล่า สี้าของกู้หนานเฟิงใเวลาี้ไม่เพียงเคร่งขรึมเท่านั้น แต่ยังเศร้า แม้เตี๋ยเย่จะเงียบสงบ แต่นางมีความกังวลปรากฏใสายาของนาง แม้หลิวเยว่จะคิดว่าไม่ใช่เรื่องใญ่อะไร แต่เมื่อเห็นพวกเขาเป็นแบบี้ก็ทำให้ใของนางอ่อนลง พยายามยิ้มให้พวกเขา และพยายามพูดออกไป
“ข้าไม่เป็นไร ไ่้่” เสียงของนางแหบแห้งราวกับูถ่านเผา
กู้หนานเฟิงนั่งข้างเตียงของนาง ก่อนจะห้ามนางไม่ให้พูด
“ไม่ต้องพูด ั่ก่อน เดี๋ยวยาก็เสร็จแล้ว”
เตี๋ยเย่หันหลังออกไปยกยา กู้หนานเฟิงนั่งอยู่ข้างเตียงของนาง เขาเอนตัวเข้าใ้นางโดยไม่ลังเล สัมผัส้าผากของนางบ่อยๆ พลางขมวดคิ้วราวกับสัมผัสได้ถึงความร้อนใตัวนาง
หลิวเยว่เหยียดืออกไปักเขาออก
“เ้าออกไป อย่ามารับเชื้อโรคจากข้า ออกไป”
ขณะที่นางักเขา ดาของกู้หนานเฟิงก็เริ่มแดงก่ำ เขาไม่เพียงไม่จากไป แต่ยังโน้มตัวกหลิวเยว่เอาไว้่าอ่อนโยนและกระซิบที่หูของนาง
“ข้าจะอยู่กับเ้า เ้าป่วย ข้าก็จะป่วย เ้าสบายดี ข้าก็จะสบายดีด้วย พวกเราจะร่วมเดินไปด้วยกัน”
เสียงของเขาไม่ัและไม่เบาาเกินไป แต่เมื่อหลิวเยว่ได้ยิน มันเหืนกับก้อนหินหนักอึ้งที่กดทับลงมาบน้าอกของนางโดยตรง ทั้งตกใและเจ็บป คน่ากู้หนานเฟิงเป็นคนหยิ่งยโส ุคนรู้ว่าเขาไร้หัวใและโหดเหี้ยม แต่พวกเขาไม่รู้ว่าหัวใของเขานั้นลึกซึ้งเพียงใด
หลิวเยว่บังคับตัวเองให้สงบลง ก่อนจะตอบเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแส
“ข้าไม่ต้องาให้เ้าเสียสละอะไรที่ไร้ประโยชน์เหล่าี้ กู้หนานเฟิง เ้าลองคิดดู สถานะและความรับผิดชอบของเ้าใเืงเทียนเฉิง เ้าต้องแบกรับชีวิตคนนับหมื่น ยังต้องคอยสนับสนุนอัครมหาเสนาบดีกู้และพระสนมซิน สำหรับข้า ีที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเ้า มันคุ้มค่ากันหรือ อย่าโง่ไปหน่อยเลย รีบออกไปเถอะ”
คำพูดจากใของหลิวเยว่ ไม่เพียงแต่ไม่ทำให้กู้หนานเฟิงขยับ ับทำให้เขาหัวเราะและุขึ้นนั่งอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงปกติ
“หลิวเยว่ ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าเ้าเป็นีแบบใดกัน ไม่ัวความายก็ช่างเถอะ แต่เ้า? ต่อให้ายต่อ้าเทพเซียนก็ยังไร้ึ่ความหวาดัว และยังสามารถวิเคราะห์สถานาณ์ของข้าได้่าใเย็น ข้าอยากให้เ้าร้องไห้ใอ้อมแขนของข้าเหืนีคนอื่นๆ แล้วบอกกับข้าว่าได้โปรดอย่าจากข้าไป มันควรต้องเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรือ?”
เมื่อเห็นเขาเป็นเช่นี้ หลิวเยว่ก็ตกตะลึง เขาไม่ใช่คนธรรมดา แม้ว่าจะเผชิญ้ากับความาย เขาับสามารถพูดและหัวเราะไปด้วยได้โดยไม่เกรงัวสิ่งใด
“กู้หนานเฟิง เ้าทำแบบี้ไปก็ไม่ได้อะไรจากข้าหรอกนะ ไม่ว่าข้าจะายหรือมีชีวิตอยู่ ข้าก็อยู่กับเ้าไม่ได้ ถ้าเ้าาย มันย่อมเป็นาพลีชีพโดยเปล่าประโยชน์ ข้าจะไม่นึกถึงความดีของเ้า” เวลาี้หลิวเยว่รู้สึกเหนื่อยล้าเืเกิน ทว่านางยังคงกัดฟันและพูดใสิ่งที่นางต้องพูด มิใช่ว่ากู้หนานเฟิงไม่ดีพอ แต่ฐานะของเขาและฐานะของนาง มันูกำหนดไว้แล้ว!
“จุ๊ๆ เ้า ีใร้าย ข้าไม่หวังให้เ้ามามองเห็นความเมตาของข้า เอาล่ะ อย่าพูดอีกเลย นอนั่เถอะ เดี๋ยวยาก็มาแล้ว”
ใเวลาี้เตี๋ยเย่ักประตูพร้อมกับยาที่อยู่ใื เดิมทีนางคิดจะป้อนยาให้หลิวเยว่ แต่ับูกู้หนานเฟิงแย่งไป
“เ้าออกไป อยู่ให้ห่าง ต่อไปี้ข้าจะรับผิดชอบ้าที่ี้เอง เพื่อไม่ให้พวกเ้าสองคนใ้ชิดกันาเกินไป” เขาบอกคนอื่นได้ แต่เขาไม่อาจทำได้
เตี๋ยเย่ย่อมไม่ฟัง เอาแต่ยืนอยู่ด้านข้าง เฝ้าดูเขาป้อนยาให้หลิวเยว่ทีละจิบ
มาคิดๆ ดูแล้ว กู้หนานเฟิงก็ไม่เลวเลย เพียงแต่ฐานะของพวกเขา...
ข่าวอาาป่วยของหลิวเยวู่ปิดเอาไว้่าสมบูรณ์ กู้หนานเฟิงและเตี๋ยเย่ไม่เปิเผยให้ใครรู้
ุวันนางอยู่ใอาาเซื่องซึม บางครั้งก็นอนเกียจคร้านอยู่บนเตียง บางครั้งก็ื่ขึ้นมา บางครั้งก็เจ็บปไปทั่วทั้งตัว บางครั้งก็กระปรี้กระเปร่า เมื่อความเจ็บปเริ่มขึ้น นางับไม่ยอมปริปากส่งเสียงร้องออกมา นางกัดฟันทน่าเงียบๆ ใบ้าซีดเผืและเหงื่อแตกพลั่กออกมาจำนวนา
เวลาแบบีุ้ครั้ง กู้หนานเฟิงจะคว้าตัวนางมาไว้ใอ้อมกและปลอบโยนนางตลเวลา นางไม่มีเรี่ยวแรงที่จะปฏิเสธความอบอุ่นของเขา ใช่เวลาที่เจ็บปที่สุด สติของนางเริ่มเลอะเลือน และใความมืดนั้น นางเห็นโจวเฉิงหมิงโบกืให้นางด้วยรอยยิ้มและพูดกับนาง
“หลิวเยว่ ับาเ็ๆ นะ ฉันเหนื่อยแทบาย ไม่มีเอยู่ใสตูดิโอ”
ใยุคปัจจุบันนั้น ความสัมพันธ์ของนางกับโจวเฉิงหมิงช่างจืดชืด แต่ี้เมื่อับมาใยุคโบราณ เงาร่างของโจวเฉิงหมิงมักจะปรากฏออกมาุครั้งที่นางเศร้าโศก จริงๆ แล้วโจวเฉิงหมิงเป็นเพียงข้ออ้าง นางต้องาหวนคืนสู่ยุคปัจจุบัน
ท่ามางภาพเลือนรางนั้น เงาที่พร่ามัวของโจวเฉิงหมิง หลิวเยว่ก็ร้องไห้ออกมา่าไม่ได้ ใแววาพร่าเลือนนางก็มองเห็นอวิ๋นู่ เหืนว่าเขาจะยังเป็นเพียงชายหนุ่ม และกำลังยิ้มมาที่นาง
ใต้ต้นสาลี่นั้น เขากนางและหมุนไปรอบๆ
ทว่าจู่ๆ ับเห็นเขาอยู่บนถนน มองลงมาด้วยความภาคภูมิใ และเสียงเขาก็ัขึ้นที่ข้างหู
“ถ้าเ้าาย ข้าจะทำให้ใต้หล้าี้ายเป็นขุมนรกบนดิน”
ทันใดนั้นนางก็ื่ขึ้นมาจากภวังค์ และเมื่อนางื่ขึ้นมาับพบว่าตัวนางอยู่ใอ้อมแขนของกู้หนานเฟิง และกำลังกำเสื้อที่้าอกของเขาแน่น เสื้อผ้าผืนใญ่บน้าอกของเขาชุ่มไปด้วยน้ำาของนาง นางไม่รู้ว่าตนเองเอเรียกชื่อโจวเฉิงหมิงหรือชื่ออวิ๋นู่ออกไปหรือไม่ กู้หนานเฟิงก้มศีรษะและถามนาง่าอ่อนโยน
“รู้สึกดีขึ้นหรือไม่?”
“อืม” นางพยัก้าเล็กน้อย
กู้หนานเฟิงวางนางับลงไปบนเตียงเบาๆ
ที่จริงแล้ว ใช่างวัน่ใญ่เตี๋ยเย่จะอยู่เป็นเพื่อนนาง เมื่อเรี่ยวแรงของนางเต็มเปี่ยม หลิวเยว่ก็มักจะถามเรื่องของเหย่เลี่ยกับนางเบาๆ และได้รับรู้ว่าเหย่เลี่ยยังเป็นนายน้อยของแคว้นเสวียน และยังคงปรารถนาจะท่องเที่ยวรอบใต้หล้า ไม่ได้มุ่งมั่นไปใเส้นทางของขุนนางใราชสำนัก เขายังคงค้นคว้าวิธีาและเคล็ดลับต่างๆ เกี่ยวกับโรคที่รักษาไม่หายุประเภท เตี๋ยเย่มักจะพูดน้อย แต่เมื่อนางพูดถึงนายน้อยของตนเอง นางับไม่อาจซ่อนความภาคภูมิใเอาไว้ได้ และเอเปิเผยข้อมูลหลาย่าให้หลิวเยว่ฟัง ่หลิวเยว่ก็มีความสุข เาะนี่ทำให้นางได้รู้จักเหย่เลี่ยาขึ้น
ใเย็น หลังจากที่กู้หนานเฟิงจัดากับเรื่องยุ่งๆ ใวันี้เสร็จแล้ว เขาก็มาดูแลนางแทนเตี๋ยเย่ เาะอาาของหลิวเยว่รุนแรงาขึ้นเรื่อยๆ กู้หนานเฟิงจึงวิตกกังวลไม่น้อย เขามักจะนั่งอยู่ใต้ตะเกียงน้ำมันตลทั้งคืน หลิวเยว่ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรใแ แต่ภายหลังนางก็เห็นว่าเขากำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับาแพทย์ เปิดูบันทึกอาาป่วยต่างๆ ีะำ ทีละ้า ทีละเล่ม อ่านและจดบันทึก่าั้ใ
ตะเกียงน้ำมันสะท้อนเงาของเขา จนปกคลุมหลิวเยว่ที่อยู่บนเตียง กู้หนานเฟิงที่เป็นเช่นี้ไม่ใช่คุณชายเ้าสำราญไร้หัวใที่นางรู้จักใแ ใครบอกว่าเขาไร้หัวใ?
เขามักจะนอนอ่านหนังสือเกี่ยวกับาแพทย์และาพัฒนายาใหม่ๆ ื เาะไม่ได้นอนัมาื ันั้นบางครั้งเขาจึง็อยัไปที่้าโต๊ะม หลังจากัไปสักพัก เขาก็ุขึ้นมาและเปิหนังสืออ่านต่อ
“หลิวเยว่ ข้าจะพยายาม่เ้า่าเต็มที่”
เขาคิดว่าหลิวเยว่กำลังัอยู่จึงกระซิบข้างหูของนางเบาๆ บางครั้งเขาก็จะเขียนเกี่ยวกับุสิ่งด้วยเาะหวาดัวจนเกินไป และเมื่อใดก็ามที่เขาเห็นว่าหลิวเยว่ไม่ขยับ เขามักจะนั่งอยู่ข้างๆ นางด้วยความตึงเครียด ค่อยๆ สำรวจลมหายใของนางด้วยืของเขา เมื่อมั่นใว่านางยังมีชีวิตอยู่ จึงับมานั่งที่โต๊ะม
แต่หลิวเยว่ไม่ได้ัไปจริงๆ เาะนางไม่ต้องารบกวนเขา จึงแสร้งทำเป็นนอนั ทำให้นางพบว่าจริงๆ แล้วามองโลกใแง่ดีและความเข้มแข็งของกู้หนานเฟิงใยามางวันนั้นเป็นเพียงาแสดงออกให้นางเห็น เพื่อไม่ให้นางเป็นกังวลเท่านั้น
สิ่งที่กู้หนานเฟิงทำาที่สุดใช่สองสามวันที่ผ่านมาคือาต้มยา ต้มยาด้วยตัวเองต่อไปไม่ยอมหยุด และทดสอบยาด้วยตัวเองุครั้ง หลังจากพบว่าไม่มีข้างเคียง เขาจึงนำยาี้มาให้หลิวเยว่ดื่ม
หลิวเยว่มีอาาไอ ไข้ขึ้นและปไปทั้งตัว บางครั้งนางก็จะมีสติ บางครั้งก็เลื่อนลอย หลังจากดื่มยาของกู้หนานเฟิงเข้าไปก็ไม่เห็นว่าจะมีอาาดีขึ้น วันเวลาผ่านไป่าสิ้นหวัง
และกู้หนานเฟิงที่ยุ่งใเวลาางวัน ยามางคืนก็ไม่ค่อยได้นอน ใบ้าของเขาจึงซีดจางลง และเนื่องจากความกังวลจิตวิญญาณของเขาจึงแห้งเหี่ยว
หลิวเยว่ทนไม่ไหวจึงต้องพูดกับเตี๋ยเย่
“เ้าคิดหาวิธีทำให้เขาัสบายสักื่ หากเขาเป็นแบบี้ต่อไป ความทนของร่างาจะอ่อนแอลง และเขาอาจจะติดโรคระบาดจากข้า ี้เขาไม่ติดเชื้อเาะร่างาเขายังแข็งแรงดี เ้า่คิดหาวิธีสักหน่อยนะ”
“เ้าค่ะ” เตี๋ยเย่เห็นด้วย
สิ่งที่ทำให้หลิวเยว่พูดไม่ออกคือวิธีาของเตี๋ยเย่นั้นเรียบง่ายและหยาบคายา
กู้หนานเฟิงทำามกิจวัตรประจำวันของตัวเอง หลังจากเสร็จงานที่ยุ่งเหยิงใางวัน เย็นเขาก็เปิประตูห้องของหลิวเยว่ ขณะที่กำลังเปิปากถามหลิวเยว่
“วันี้เ้ารู้สึกดีขึ้นหรือไม่?” หลิวเยว่ยังไม่ทันจะตอบ เตี๋ยเย่ที่อยู่้าประตูก็ทุบไปที่คอของเขาโดยตรง ก่อนที่ร่างาเขาจะโอนเอนและหมดสติไป
าลงืของเตี๋ยเย่นั้นรวดเ็ โหดเหี้ยมและแม่นยำ แม้แต่หลิวเยว่ผู้ึ่เตรียมใไว้แล้วก็ยังตกตะลึงและเป็นกังวลพ
“เขาจะไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”
“ไม่เป็นไร ปล่อยให้เขาั่สักคืนเถอะ”
หลิวเยว่ถึงได้วางใลง คิดว่าเตี๋ยเยู่เหย่เลี่ยส่งมาเพื่อปกป้องนาง ฝีืของเตี๋ยเย่ย่อมต้องไม่เลว ครั้งแที่พวกนางพบกันใหอเฟยชุ่ย นางเต้นรำและหมุนไปรอบๆ ใผ้าม่านบนเวที นั้นยังรู้สึกว่าวิชาตัวเบาของนางนั้นดีา ครั้งที่สองที่ได้พบกันก็คือใโรงเตี๊ยมเืงั้หยางแ่นั้น นางสังหารนักฆ่าทั้งสามคนใั่พริบา เมื่อเห็นจุดฝังเข็มที่นางกดลงบนร่างาของกู้หนานเฟิงใครั้งี้ แม้แต่กู้หนานเฟิงที่มีไหวพริบยังไม่อาจรับืทัน เมื่อมีนางอยู่ หลิวเยว่จึงรู้สึกสบายใยิ่งนัก
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??