เรื่อง มอบแด่เจ้า ภูผา ธาราหมื่นลี้ (แปลจบแล้ว)
ทั่วทั้งตระกูลเฟิงรอดพ้นจากหายนะนี้ไปได้ กู้หาเฟิงก็พาหลานอวี้ไปยังห้องที่เตรียมไว้พิเศษสำหรับนาง และเชิญหมอที่ดีที่สุดมาดูแลนาง ก่อนจะพูดกับนางเบาๆ.
“ขอโทษ”
หลานอวี้ตอบกลับมาด้วยน้ำา
“ตราบใดที่คุณชายเฟิงขอให้ข้าทำ ไม่ว่าจะต้องบุกน้ำลุยไฟข้าก็ิดี”
“ใจ ข้าสัญญากับเจ้าแ้ ข้าก็ต้องทำได้ ใจวนตระกูลเฟิงแ่นี้ เจ้าใญ่ที่สุด”
อันที่จริง วิธีาใวันนี้ถือเป็ชัยชนะสั้นๆ เท่าั้ แม้ว่าจะเกือบาย ั้แต่วันแรกที่หลิวเยว่ได้รับาเจ็บ และฮ่องเต้ก็ออกคำสั่งให้ค้นหาคนจนทั่วจวน เขาก็คิดวิธีนี้ได้แ้
เขาแอบขังหลานอวี้เอาไว้ให้องนี้ แ้ใช้ลูกธนูกับนาง แม้ว่าลูกธนูนี้จะไม่ึเท่ากับของหลิวเยว่ แต่ก็ทำให้ร่างาของนางาเจ็บ ัั้เขาจึงสัญญาว่าจะมอบสิ่งที่นางต้องาตอบแทน
เขาไม่กล้าบอกแผนานี้กับหลิวเยว่ เขารู้ว่านางไม่ยอมให้เขาทำร้ายใครเพราะนาง เขาจึงพาหลานอวี้ออกมาใตอนสุดท้าย
เมื่อพูดถึงาแสดง ีาจำเป็ต้องแสดงให้สมจริง และตอนนี้ก็เป็เรื่องดีที่ประสบาสำเร็จ
แต่าแสดงออกของฮ่องเต้ใวันนี้ มันยังคงลอยวนอยู่ใาทรงจำของเขา ตอนที่องครักษ์บอกว่าพบตัวสตรีที่ถูกธนูยิงได้แ้ ดวงาของเขาเป็ประา แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงออกมา แต่ก็ออกว่าเขากำลังคาดหวังและกระตือรือร้น บวกกับาตึงเครียดจางๆ และเมื่อเขาเห็นว่าสตรีที่ได้รับาเจ็บคือหลานอวี้ สายาของเขาพลันหมดหวังใทันที
กู้หาเฟิงเป็คนที่ฉลาดและีไหวพริบ เขาสังเกตอาาของฮ่องเต้ได้่าแม่นยำไม่ีพลาด าสิ้นหวังั้ฉุดรั้งฮ่องเต้เอาไว้ แต่เมื่อเขาก้าวเ้าไปใวัง และก้าวเ้าไปให้องทรงอักษร เขากลับไม่ได้เผยออกมาให้เห็น อันกงกงรู้สึกตึงเครียดตลอดเวลา ขณะที่เดินามอีกฝ่ายไปทีละก้าว เขาแทบไม่กล้าหายใจ เขารับใช้ฮ่องเต้มาาปีแ้ จะบอกว่าเ้าใจพระองค์ทุกเรื่องก็คงเป็ไปไม่ได้ แต่คราวนี้ าเงียบบเช่นนี้ต้องเป็ลางสังหรณ์ของเค้าพายุที่กำลังจะมา่าแน่นอน`
ให้องทรงอักษรเต็มไปด้วยฎีกาของขุนนาง นอกเหนือจากเรื่องประจำวัน สิ่งที่พบเจอบ่อยที่สุดคือาเอาชนะแคว้นเสวียนที่ชายแได้ใปีหลังๆ มานี้``
แคว้นเสวียนั้อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของแคว้นทง ีเพียงแม่น้ำกั้นกลางที่กำหนดเขตแ เมื่อสามปีก่อนตอนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนยังอยู่ แม้ว่าจะีครามระหว่างทั้งแคว้น แต่เพราะไม่ีาขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่ชัดเจน พวกเขาจึงอยู่ร่วมกัน่าสันติ แต่ใ่ไม่กี่ปีี่่าา เนื่องจากผลผลิตทางประมงที่อุดมสมบูรณ์จากกลางแม่น้ำ ชาวประมงทั้งฝั่งจึงมักีข้อพิพาทเรื่องาครอบครองพื้นที่แม่น้ำสายั้ ถ้าราชสำนักไม่ออกหน้าทำคราม เกรงว่าเหตุาณ์จะรุนแมากึ้
แต่ามนิสัยของอวิ๋นซู่ ถ้าเขาไม่เคลื่อนไหว ทุก่าก็ แต่ถ้าเขาเคลื่อนไหว แคว้นเสวียนเล็กๆ ต่อให้ีาสามารถคับฟ้า เขาก็สามารถเหยียบลงพื้นได้
ใบรรดาฎีกาเหล่านี้ ่ใญ่คือาแนะนำให้ส่งแม่ทัพเจินออกไปทำคราม เขาเผชิญหน้ากับแคว้นเสวียนั้แต่ครั้งฮ่องเต้องค์ก่อนยังอยู่ ส่งเขาไปรับหน้าที่นี้นับเป็เรื่องที่เหมาะสมที่สุด
อวิ๋นซู่ไม่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจน ไม่ได้เปิดเผยว่าจะบุกแคว้นเสวียนเมื่อไรหรือส่งใครไป
แสว่างให้องทรงอักษรเิ่มืดลง อันกงกงจุดตะเกียงและวางไว้ด้านหน้าโต๊ะทรงงาน่าระมัดระวัง หลังจากที่อวิ๋นซู่อ่านฎีกาฉบับสุดท้ายเสร็จแ้ เขานวดหัวคิ้วที่ปวดตุบๆ หลังจากวันที่ยุ่งวุ่นวายลง อารมณ์ของเขาก็บลง่ามาก
อันกงกงเอ่ยเกลี้ยกล่อม
“ฝ่าบาท พระองค์ทรงพักผ่อนสักหน่อยเถอะพ่ะย่ะค่ะ เดี๋ยวกระหม่อมจะนำพระกระยาหารเย็นมาให้พระองค์”
“ไม่ ข้าจะไปเดินเล่นที่ตำหนักลิ่วฉือ”
หลังจากอวิ๋นซู่พูด เขาก็เิ่เดินไปที่ตำหนักลิ่วฉือ ระหว่างทางแจันทร์ได้ส่องประาแ้ ทั่วทั้งวังก็เงียบบไม่เหมือนใยามกลางวัน
อันกงกงเดินถือตะเกียงามอยู่ด้านหลัง ขณะที่อวิ๋นซู่เดินไปข้างหน้า ฝีเท้าเร็วเล็กน้อย จนกระทั่งถึงตำหนักลิ่วฉืออันเย็นะเื เขาหยุดยืนอยู่หน้าประูตำหนักลิ่วฉือ สามคำบนป้ายแขวน่าเงียบๆ
ทุกคนใวังต่างคิดว่าตำหนักลิ่วฉือที่ประสบกับหายนะนี้คือตำหนักเย็นที่ใช้กักขังสตรีที่ถูกฝ่าบาทลงโทษ แม้แต่สนมซิน และชางรั่วอวี้ ต่างยังไม่รู้ว่านี่คือสถานที่ที่ฮ่องเต้มาประทับอยู่บ่อยที่สุดนอกเหนือจากห้องทรงอักษร
อันกงกงก้าวไปข้างหน้า เปิดประูตำหนักลิ่วฉือ ด้านใีกลิ่นเครื่องหอม ธูปและหมึกลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ
“บ่าวจะเฝ้าอยู่นอกประูเ หากฝ่าบาทีสิ่งใดจะรับสั่งก็เรียกกระหม่อมได้ทุกเมื่อ” อันกงกงก้าวถอยหลังไป่ารู้งานเหมือนกับี่่าา ป่ให้ฮ่องเต้เ้าไปใตำหนักลิ่วฉือเพียงลำพัง ใ่หกปีี่่าา เขาได้ติดามฮ่องเต้มาที่นี่นับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาไม่รู้ว่าฮ่องเต้ทำสิ่งใดอยู่ภายใ เขาเพียงทำหน้าที่เฝ้าหน้าประูให้ดี
แม้ว่าทุกสิ่งที่เกิดึ้ใตระกูลเฟิงใวันนี้ ฮ่องเต้จะไม่ได้เผยสิ่งใดออกมา แต่เขารู้ว่าใพระทัยของฮ่องเต้ั้จะต้องเจ็บปวดอีกครั้ง
ณ เวลานี้ ดวงจันทร์ได้วาดผ่านกิ่งก้านของต้นไม้ ราวกับว่ามันอยู่ไม่ไกลนัก แจันทร์่ว่าง ใสวนของตำหนักึแ่นี้ ไม่ว่าใครที่เ้ามาย่อมรู้สึกว่าหัวใจด้านชาและเย็นะเื
ใตำหนักลิ่วฉือ ไม่ีาเคลื่อนไหวใดๆ จนกระทั่งกลางดึกได้ิเสียงัลอยมาจากด้านใ ัใจ เงี่ยหูฟัง ได้ิคล้ายเสียงของบุรุษที่อู้อี้ เสียงั้เบามาก แต่ก็เหมือนกับค้อนหนักๆ ทุบมาที่ศีรษะของอันกงกง่ารุนแ ท่ามกลางแจันทร์เช่นนี้ ได้ิเสียงของาเจ็บปวดไม่รู้ของฮ่องเต้ัลอยมา อันกงกงปวดใจยิ่งนักที่ตนช่วยอะไรไม่ได้
ผ่านไปา เสียงั้ค่อยๆ าไป จากั้ก็กลายเป็เสียงที่หนักแน่นและทรงพลัง
“อันกงกง เ้ามา”
เมื่ออันกงกงได้ิัั้ เขาแทบจะล้มลุกคลุกคลานเ้าไปใตำหนักลิ่วฉือทันที เมื่อเขาผลักประูเ้าไป เขาก็ตกใจจนทรุดตัวลงกับพื้น
ที่แท้บนผนังทั้งสี่ด้าน ้ถูกแขวนด้วยภาพเหมือนของสตรีที่ชื่ออาซีคนั้ ีทั้งตอนเป็เ็หญิง ตอนที่โตเป็หญิงสาวเต็มวัย รวมถึงตอนก่อนเ้าวัง และหลังจากเ้าวัง
ีทั้งตอนหัวเราะ ร้องไห้ หรือตอนที่ีเสน่ห์ ภาพแบบต่างๆ า้แผ่นถูกแขวนอยู่เต็มห้อง
ขาของอันกงกงอ่อนลง คุกเข่าลงกับพื้น!
อวิ๋นซู่ไม่สนใจท่าทีที่น่าเกลียดของอันกงกง เอาแต่จ้องภาพใ่ตรงหน้าโต๊ะทรงงานแ้กล่าว
“เจ้ามาดูสิว่าเหมือนหรือไม่? ข้าใกล้จะจำลักษณะของนางไม่ได้แ้”
ขาของอันกงกงยังอ่อนแเพราะรูปวาดเสมือนนี้อยู่ เขาโค้งาเดินไปที่ด้านข้างของฮ่องเต้ ดูภาพวาดบนโต๊ะ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งวาดเมื่อคืนนี้
หญิงสาวสวมชุดสีขาวคนั้ า้ผมึ้ เหมือนว่ากำลังยืนยิ้มอยู่ใต้ต้นสาลี่ และภาพวาดก็ดูเหมือนจริง ราวกับว่าสตรีนางั้กำลังจะกระโดดออกมาจากภาพวาดก็ไม่ปาน
ีคำสั้นๆ เขียนอยู่บนภาพวาดั้ “ารักของข้า”
ดูเหมือนอวิ๋นซู่กำลังพูดกับตัวเ และยังดูคล้ายว่ากำลังถามอันกงกงด้วย
“เหมือนหรือไม่?”
าทรงจำของอันกงกงที่ีต่อสตรีที่ชื่อลิ่วซีนี้ค่อนข้างคลุมเครือ จำได้เพียงว่านางชอบหัวเราะ ชอบสร้างปัญหา และมักจะแสดงอำนาจควบคุมเมื่อครั้งที่ฮ่องเต้ยังเป็เพียงองค์ชายสาม เมื่อได้มาเห็นภาพวาดนี้ าทรงจำเกี่ยวกับสตรีนางั้ก็ลอยึ้มาราวกับขนนก เขาจึงรีบตอบไปว่า
“เหมือน เหมือนมากพ่ะย่ะค่ะ”
อันกงกงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย เมื่อเขาตอบคำถามนี้ไปก็แทบจะร้องไห้ โชคดีที่อวิ๋นซู่ไม่ถามอะไรอีก เา่ๆ ม้วนภาพวาด่าระมัดระวัง
ม้วนไป ก็พูดคุยไป
“กี่ปีแ้? นางจากไปกี่ปีแ้?”
อันกงกงเิ่ีเหงื่อแตกพลั่ก นี่เป็ครั้งแรกที่ฮ่องเต้ได้ตรัสกับเขาเกี่ยวกับสตรีที่ชื่ออาซี เป็ครั้งแรกที่ฮ่องเต้ยอมตรัสถึงาจากไปของนาง
เขาตกใจกลัว ก่อนจะตอบกลับไปด้วยหัวใจที่สั่นสะท้าน
“ั้แต่ปีที่ฮ่องเต้เสด็จึ้ครองบัลลังก์ ตอนนี้ก็เป็เวลาหกปีแ้พ่ะย่ะค่ะ”
หลังจากที่เขาพูด ฮ่องเต้ก็ไม่ตอบ ภายให้องพลันเงียบัด หัวใจราวกับกำลังจะกระโดดออกมา ผ่านไปเิ่า เขาถึงได้ิฮ่องเต้ตรัสด้วยเสียงเบา
“หกปี ี่็หกปีแ้ ไม่รู้ว่าหกปีนี้ลงโทษข้าพอหรือยัง”
“อันกงกง ข้าควรได้สติแ้หรือยัง?”
“ฝ่าบาท พระองค์ีพระสติอยู่เสมอ” อันกงกงไม่รู้จะตอบ่าไรดี จึงได้แต่พูดเช่นั้
“าปีมานี้ ข้าไม่ยอมบอกว่านางจากโลกนี้ไปแ้ แม้แต่แม่ทัพเจิน ข้าแค่บอกว่านางทำผิด และถูกขังอยู่ใตำหนักลิ่วฉือ ข้าแค่กลัว ข้านึกว่าาไม่ยอมรับว่านางจากไปแ้ จะหมายถึงนางยังไม่าย ยังไม่จากข้าไปไหน นางแค่โกรธข้า เลยออกไปวิ่งเล่นข้างนอก เดี๋ยวพอนางเล่นจนพอใจแ้ นางก็จะกลับมา”
“แต่นางไม่ีวันกลับมา แม้แต่ใาฝันนางก็ไม่ยอมกลับมา”
“ได้เวลาตื่นแ้”
หลังจากที่เขาพูดกับตัวเเสร็จแ้ เขาก็เงยหน้าึ้อันกงกง ดวงาของเขาเปลี่ยนจากาอ่อนแอเป็าเย่อหยิ่งที่เยือกเย็นามปกติ
“เผาทุก่า รวมทั้งตำหนังลิ่วฉือด้วย อย่าเหลือสิ่งใดทิ้งไว้”
น้ำเสียงและท่าทางของเขาไร้าปรานีและเด็ดขาด ไม่ีช่องว่างให้เจรจาแม้แต่น้อย
อันกงกงต้องาเกลี้ยกล่อมเขาอีกครั้ง กลัวว่าหากต้องเผาจริงๆ โดยไม่หลงเหลือารู้สึกใด ภายหลังหากเขารู้สึกเสียใจึ้มาจะทำเช่นไร?
แต่ฮ่องเต้เป็คนที่ตรัสคำไหนคำั้ และเมื่อเขาตัดสินใจแ้ ย่อมจะไม่ีวันเปลี่ยนแปลง ช่างเถอะๆ เผาแ้ เิ่ต้นใ่ ลืมตำหนักลิ่วฉือและลืมสตรีที่ชื่ออาซี
อวิ๋นซู่เอ่ยเสียงเย็นชา
“จัดาตอนนี้เลย”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท”
ตำหนักลิ่วฉือแ่นี้ เป็ตำหนักที่ทุกคนใวังหลัง้หลีกเลี่ยง กำลังจะเปลี่ยนเป็เถ้าถ่านใค่ำคืนนี้ และาคับข้องใจทั้งหมด้จะกลายเป็เถ้าถ่าน
เมื่อไฟไหม้ที่ตำหนักลิ่วฉือ่ว่างไปทั่วท้องฟ้าเหนือพระราชวัง ใวังหลังก็เิ่วุ่นวาย
ชางรั่วอวี้รีบเร่งมาใตอนดึก กู้ซินและสนมคนอื่นๆ ต่างมายืนอยู่หน้ากองเพลิงขนาดใญ่
ชางรั่วอวี้ ถามด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา
“ีใครอยู่ใั้หรือไม่”
“เหตุใดไม่ีคนไปช่วยดับไฟเล่า?”
ทุกคนต่างหน้ากัน และไปยังฮ่องเต้ที่ประทับอยู่ตรงหน้า ท่ามกลางกองเพลิงที่โหมกระหน่ำ ใบหน้าของทุกคนมืดมนและไม่ชัดเจน ีเพียงฮ่องเต้เท่าั้ที่จ้องกองเพลิงโดยไม่ีาเคลื่อนไหว สีหน้าของเขาเยือกเย็นและโหดเหี้ยมจนไม่รู้จะหาคำใดมาอธิบาย
ใที่สุดชางรั่วอวี้ก็อดไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่อดไม่ได้เสียทีเี เพราะนี่เป็าถามหยั่งเชิง
“ฝ่าบาท น้องหญิงยังอยู่ข้างใ”
ทันทีที่นางพูด ก็เห็นฮ่องเต้หันกลับมาทุกคน ก่อนจะรับสั่งอันกงกง
“ไปจัดงานศพที่ตระกูลเจิน”พ
หลังจากที่เขาพูด ไฟที่โหมกระหน่ำเบื้องหลังของเขาก็ค่อยๆ เผาไหม้ทุกสิ่งจนกลายเป็เถ้าถ่าน และท้องฟ้าที่เป็สีแดงก็เิ่กลับมาเป็ปกติ
กลางดึก ีคนมาเคาะประูใญ่จวนตระกูลเจิน พ่อบ้านสวีตื่นึ้มาเปิดประูด้วยอาางัวเงีย าที่เฝ้าประูอยู่ก็พูดว่า
“ีข่าวมาจากวังขอรับ”
ข่าวจากวังนี้ทำให้พ่อบ้านสวีสร่างจากอาางัวเงีย่าสมบูรณ์ เมื่อเปิดประูก็เห็นกงกงที่ใวังให้มาส่งข่าวยืนอยู่ข้างนอกจริงๆ ก่อนจะโค้งคำนับและเชิญเ้ามาทันที าเคลื่อนไหวที่นี่ได้ปลุกแม่ทัพเจิน เจินฮูหิและเจินลิ่วเจิ้ง พวกเขาทั้งหมดออกมาคุกเข่าที่ลานบ้านเพื่อรับราชโองา พวกเขาไม่รู้ว่าฮ่องเต้ต้องาจะรับสั่งเรื่องใดใเวลากลางคืนเช่นนี้
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??