เรื่อง ครอบครัวของข้า นอกจากข้า ล้วนข้ามมิติมาทั้งครอบครัว
สวี่เหราสอบซูจี๋ซื่อ [1] ไม่่า จึงทำได้เพียงรอให้ฝ่ายจัดสรรบุคลากรเป็นผู้จัดสรรตำแหน่งต่างๆ ใราชสำนักให้ าเลือกตำแหน่งนี้ก็มีนักปราชญ์อยู่ใหน่วยงานั้ๆ ามายเช่นกัน
หลังจากาสอบเข้าขุนนางเสร็จิ้แล้ว สามคนแรกที่ทำคะแนนสอบได้ดีก็จะเข้าไปอยู่ที่สำนักฮั่นหลิน่ าเข้าไปเรียนที่สำนักฮั่นหลินเป็นเวลาสามปีหลังจากั้ก็จะจัดาสอบจบบัณฑิตศึกษา ส่วนผู้เข้าสอบที่เหลือยังจำเป็นต้องทำาสอบขั้นต่อไป ซึ่งเรีย่า “เฉาข่าว” หรือาสอบใเพระราชฐานอีกครั้ง ซึ่งจะทำาคัดเลือกคนที่ยอดเยี่ยมทีุ่ออกมา ซึ่งเรีย่า “ซู่จี๋ซื่อ” หากสอบ่าก็จะเข้าไปอยู่ใสำนักฮั่นหลิน คนที่สอบไม่่าก็จะต้องไปรับตำแหน่งอื่นๆ ราชวงศ์ต้าเหลียงยังคงเหมือนกับราชวงศ์่้านี้ ที่หากไม่ได้เข้าสำนักฮั่นหลินจะไม่สามารถรับราชาได้
สวี่เหราสอบซู่จี๋ซื่อไม่่า ดังั้จำเป็นต้องไปที่ฝ่ายจัดสรรบุคลากรเพื่อให้เ้า้าที่ทำาเลือกตำแหน่งที่ต้องเข้าปะจำาให้
สกุลสวี่ได้ไปจ่ายเงินใต้โต๊ะให้สวี่เหราแล้ว เดิมทีจะให้อาศัยอยู่ใเมืองหลวง เลือกสักตำแหน่งของหนึ่งใหกหน่วย แต่ต่อมาสวี่เหราจากเกิดอุบัติเุ หลังจากั้าต้องาของเขาก็เปลี่ยนเป็นอยากจะออกไปปะจำาเมืองหลวง หย่งหนิงโหวเย่สวี่เจินหลังจากขบคิดมาตลอดทั้งคืน ก็รู้สึ่าาไปปะจำาเมืองหลวงเก็มีข้อดีอยู่ ใคืนั้จึงไปที่ฝ่ายบุคลากรเพื่อหาคน่เหลือ ุท้ายก็เลือกเเหอซี ดำรงตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นเจ็ดแทน
สวี่เหราเื่รับหนังสือรับรองจากฝ่ายจัดสรรบุคลากรเรียบ้แล้วก็ไปหาซื้อของให้บุตราหญิงของตน
พูดกันตามาจริงแล้ว สวี่เหราไม่ได้กำหนดว่าตนเจะต้องไปปะจำาที่ใด ขอเพียงสามารถออกห่างจากเมืองหลวงให้ไกล ยื้อเวลาให้คนใครอบครัวของเขาได้หายใหายคอ ให้คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมในี้่ จากั้ค่อยตามหาคนที่ลอบฆ่าครอบครัวตนเ เช่นนี้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
ที่ไปที่ฝ่ายจัดสรรบุคลากรเื่ครู่ ข้าราชาระดับล่างคนหนึ่งที่คุ้นเคยกับเขาที่มาเอาหนังสือรับรองยังพูดกับเขาว่าต่อไปหากเจริญรุ่งเรืองแล้วก็ขอให้อย่าลืมสหายคนนี้ ใหัวของสวี่เหรามึนเบลอไปหมด ัเขาเป็นเพียงขุนนางขั้นเจ็ดของเเล็กๆ จะสามารถเจริญรุ่งเรืองได้่าไร
ถนนใเมืองครึกครื้นเป็น่าา สวี่เหราให้คนขับรถม้าของจวนขับกลับไป่ ัเขาลงมาเิริมถนนพร้อมมองข้างทางไปด้วย
ณ หน่วยงานจัดสรรบุคลากร สวี่เหราพบนักธุราผู้หนึ่ง เเหอซีอยู่แถบาแดน เป็นสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมเลวร้ายเป็น่ายิ่ง หลังจากสวี่เหรารับทราบตำแหน่ง้าที่แล้ว จึงถามเ้า้าที่ผู้ั้ว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ที่ใด หลังจากได้รับคำตอบแล้วก็พอจะคิดภาพออ่าอยู่ที่ใด หากเป็นยุคปัจจุบัน คงจะอยู่ใกล้ๆ กับซานซีเยียนเหมิน ั้เพื่อที่จะศึกษาค้นคว้า สวี่เหราจึงเิทางไปทั่วปะเทศจีน ถึงแม้ภูมิศาสตร์รูปร่างในี้จะไม่เหมือนกับที่ตนเเคยเห็นั้ แต่ว่าพอคิด่าะเีแล้ว ก็ยังสามารถระบุตำแหน่งได้
สวี่เหราเิไป ใใก็คิดถึงตำแหน่งที่ตั้งของเหอซีไป บวกกับที่อยู่ใฝ่ายจัดสรรบุคลากร ข้าราชาระดับล่างคนั้ไดู้แที่ของเเหอซีให้แล้ว หากต้องาจะเิทางจากเมืองหลวงไปถึงที่นั่นจำเป็นต้องใช้เวลากี่วันหรือตลอดทางจะต้องเิทาง่าที่ใดบ้าง
เื่เิ่าร้านขายผ้าร้านหนึ่ง สวี่เหราเิไปเิมารอบๆ จนเ้าของร้านขายผ้ารู้ว่าสวี่เหราต้องาจะซื้อผ้าไปทำชุดให้กับบุตราอายุสี่หนาวของตน จึงแนะนำผ้าลายบุปผาหลากหลายแบบให้ ซึ่งสวี่เหราเก็มิได้เข้าใเื่ผ้าาเท่าใดนัก คิดไปคิดมานี้ก็มิได้ขาดแคลนเงินทอง จึงซื้อไปหลายแบบ จากั้ก็ฉุกคิดได้ว่าครอบครัวตนเทั้งสี่คนจะเิทางไปยังที่ห่างไกล จางจ้าวฉือไม่สามารถออกจากเรือนได้ตามใชอบ เห็นว่าซื้อมาได้พอสมควรแล้ว สวี่เหราเป็นคนฉลาด ไม่ได้จ่ายเงินเ แต่ให้ทางร้านนำไปส่งที่จวน หลังจากเอามาส่งให้ที่จวนแล้ว ก็ใหุ้นายสามที่อยู่ใจวนเป็นผู้รับของและจ่ายเงิน
จากั้ก็ซื้อของกินเล่นามายตามท้องถนน ขนมหวานจากร้านเล็กๆ สวี่เหราซื้อมาหลาย่า ่จะถือมันกลับจวน
หย่งหนิงโหวเย่รอสวี่เหราอยู่ใเรือนมาทั้งวัน ปรากฏว่าเจอเพียงรถม้าว่างเปล่าที่กลับมา คนขับรถม้ารายงานว่าุาสามให้ตนกลับา่อน เขาจะไปเิเล่นซื้อของ หย่งหนิงโหวเย่ได้ยินดังั้ก็โกรธา นี่มันยามใดแล้ว ยังมีแก่ใมาเิซื้อของอีกหรือ ปรากฏว่าอีกครู่เดียวทางนายทวารเข้ามาแจ้งว่าุาสามซื้อผ้ามา ให้คนของทางร้านมาเก็บเงินที่เรือนของุนายสาม หย่งหนิงโหวเย่มองตากับื่ื่ พวกเขาไม่เข้าใจริงๆ ุาสามที่ปกติไม่พูดไม่จาไปกินสิ่งใดผิดปกติมาหรือไม่
หลังจากเรือนหลังได้รับข่าวก็ส่งคนมาู เด็กของร้านขายผ้านำผ้าหลายสิบพับมารอตรงปะตูของโถงรับแขกเล็ก เห็นตรงปะตูมีคนมาแอบูแล้วมาแอบูอีก คนแล้วคนเ่า จนกระทั่งสตรีทีู่แล้วท่าทางกล้าหาญผู้หนึ่งพาเด็กหญิงัน้อยอายุสามสี่หนาวเิเข้ามา าใช้ใเรือนแนะนำว่าเป็นุนายสามของจวน คนงานคนั้ถึงได้ถอนหายใออกมา
จางจ้าวฉือรับาจากนายทวารก็รู้ว่าสวี่เหราั้หมายาว่า่าไร ซึ่งก็คือจะให้จ่ายเงินตรงนี้ จึงให้คนผู้นี้นำของมาส่งถึงเรือน หากรอจนของมาถึงมือตนเก็มิรู้ว่าของจะเหลือเท่าใด ซึ่งใครเป็นผู้รับของคนผู้ั้ย่อมเป็นผู้จ่ายเงิน นี้ครอบครัวมิได้ขาดแคลนเงิน สวี่เหราเก็ไม่ใช่คนที่ชอบซื้อของแพง ผ้าที่เขาซื้อกลับมาจะมีราคาแพงสักเท่าใดกันเชียว?
จางจ้าวฉือมองผ้าสิบ่าผืน เป็นผ้าฝ้ายเสียเยอะ เป็นผ้าไหมน้อยา ก็รู้แล้วว่าหมายาว่า่าไร นี่คงวางแจะนำไปใช้ใพื้นที่เมืองที่ทุรกันดารจริงๆ สินะ เื่เช้า่ที่สวี่เหราจะออกไปข้างก็ได้ปรึกษากับจางจ้าวฉือแล้ว หากได้ไปปะจำาอยู่เมืองจริงๆ ทั้งยังเป็นสถานที่ทุรกันดารสักหน่อยก็จะซื้อผ้าที่ใช้ได้จริงเอากลับมาทำเสื้อผ้า ถ้าหากไปสถานที่ขาดแคลนอาหาร่าเจียงหา เช่นั้ก็ไม่ซื้อผ้าแล้ว รอจนถึงที่นั่นค่อยซื้อเพิ่มก็ยังมิสาย ูจากผ้าจำนวนาที่สวี่เหราซื้อมาแล้ว จางจ้าวฉือก็รู้ว่าคงจะเป็นพื้นที่ที่าเป็นอยู่ไม่ค่อยดีนัก
เื่จ่ายเงินเสร็จแล้วจึงให้คนมาขนผ้ากลับไป ่ที่จางจ้าวฉือจะเริ่มจัดข้าวของของครับครัวชิ้นต่างๆ ที่จะนำติดัไปด้วย
ทางด้านสวี่เหราพอเข้าปะตูจวนา็ถูกคนพาไปพบกับโหวเย่ที่ห้องตำรา
โหวเย่เห็นของที่สวี่เหราถือมาเต็มมือ าโกรธใใก็กดเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป แต่ไม่รู้จะระบายมันออกมา่าไร โดยเฉพาะที่ื่ื่เอ่ยปากถามว่าเุใดถึงซื้อของพวกนี้มาามายนัก สวี่เหราก็เอ่ยว่าซื้อกลับมาให้กับจือเอ๋อร์ทาน ่้านี้จือเอ๋อร์ได้รับเื่สะเทือนใมา กลางคืนก็จะร้องไห้จนตื่น ตนจึงซื้อของกินามายมาปลอบใลูก
โหวเย่จึงทำได้แค่โบกมือ ผู้คนใจวนต่างรู้ว่าุาสามและฮูหยินสามไม่ค่อยจะใส่ใกับของ่าอื่นเท่าไหร่ แต่กลับใส่ใลูกตนเา ่าหลายปี่ที่โรงครัวใญ่ทำไข่ตุ๋นให้สวี่ตี้แล้วตัดของที่ควรได้ออกไปุนายสามถึงกับมีเื่กับโรงครัวใญ่เพื่อลูกๆ เลยมิใช่หรือ?
โหวเย่วางเื่หงุดหงิดใเอาไว้ แล้วถามเื่ที่ไปฝ่ายจัดสรรบุคลากร่าะเี หลังจากอ่านหนังสือรับรองตำแหน่งของสวี่เหรา เขาก็หยิบกล่องไม้ยาวๆ ออกมาจากให้องตำรา
สวี่เหราเห็นท่าทางให้าสำคัญกับสิ่งนี้าของโหวเย่ ก็อยากรู้ว่าเป็นสิ่งใด พอโหวเย่หยิบของสิ่งั้ออกมาแล้ววางมันลงบนโต๊ะ่าระมัดระวัง เื่สวี่เหราเิเข้าไปู ที่แท้ก็เป็นแที่แผ่นหนัง เรีย่าอวี๋ถู แต่เป็นแที่ที่สวี่เหราไม่ค่อยจะเข้าใสักเท่าใด
ื่ื่มองแที่แล้วก็พูดออกมาด้วยาตกใ “่า่ นี่เป็นแที่ทางาทหารมิใช่หรือขอรับ นี่เป็นของที่ท่านเก็บเอาไว้เื่ครั้งติดตามองค์ฮ่องเต้ไปรบที่าแดนมิใช่หรือขอรับ?”
โหวเย่ตอบรับ “ใช่แล้ว เื่ครั้งั้พวกเราติดตามองค์ฮ่องเต้ไป ที่กลับมาพระองค์ก็ให้พวกข้าเก็บเอาไว้ชุดหนึ่ง ถือเป็นของที่เอาไว้ให้ระลึกถึง เ้าาู เเหอซีอยู่ตรงนี้ ตรงที่เเหอซีอยู่เป็นาแดน บนภูเขาเป็นช่องแคบซึ่งเป็นที่ที่ป้องกันได้ง่ายและยากที่จะโจมตี ปะตูตะวันตกของราชวงศ์นี้ก็ใกล้กับแม่น้ำสายนี้ ซึ่งอยู่ใกล้กับแม่น้ำสายนี้”
โหวเย่ชี้เส้นบนแที่ ซึ่งสวี่เหรามอง่าไรก็ไม่เข้าใว่าเส้นๆ พวกั้เุใดถึงเป็นภูเขาลูกหนึ่งกับแม่น้ำสายหนึ่งได้ แต่สวี่เหราก็นับถือาฉลาดของคนยุคโบราณา ยุคปัจจุบันพัฒนาไปไม่หยุด เทคโนโลยีเก็ค่อยๆ ้า้าทีละน้อย นั่นก็เพราะว่ามีาสำเร็จเล็กๆ พวกนี้ ถึงได้มีคนยุคโบราณที่เปล่งปะกาย และยิ่งทำให้คนยุคปัจจุบันเจิดจรัส
ื่ื่หลังจากมองแที่ตามแล้วก็เอ่ยออกมาด้วยากังวล “่า่ขอรับ ได้ยินมาว่าปะชาชนทางเหอซีแข็งกร้าวา ทางเั้ยังมีคำสั่งให้ชาวบ้านไปเป็นทหาร ตำแหน่งขุนนางที่นี่ถือว่ารับมือยากอยู่ขอรับ”!
โหวเย่มองสวี่เหรา่จะกล่าว “างานมันอยู่ที่าสามารถของคน ผู้อื่นทำได้ไม่ดีแล้วเ้าจะทำไม่ดีด้วยหรือ? เ้าา ที่เ้าไปก็พาผู้่ไปด้วยคนเพื่อเป็นกุนซือของเ้า แล้วก็องครักษ์ใจวนเ้าก็พาไปด้วยอีกคน ที่จะไปก็จ้างทหารรับจ้างของสำนักรับจ้างไปด้วยหลายคนหน่อย”
สวี่เหรารับคำ “่า่ขอรับ ข้าอยากจะพาจางจ้าวฉือและลูกคนไปด้วยขอรับ”
โหวเย่ครุ่นคิด “เื่นี้จะต้องปรึกษากัน่”
สวี่เหราฟังแล้วก็รู้สึ่าใจวนจะมีผู้ใดไม่เห็นด้วยที่ครอบครัวพวกเขาเิทางออกไปอยู่เมืองทั้งสี่คนหรือไม่ ่จะเอ่ย “่า่ขอรับ ครั้งนี้ที่ข้ากับจางจ้าวฉือและตี้เอ๋อร์ปะสบอุบัติเุ เป็นฝีมือคนทำขอรับ หากต้องทิ้งภรรยาเอาไว้ใเรือนข้าไม่วางใ ข้าคิดมาดีแล้ว พวกเราจะออกไปจากที่นี่สักพัก ไม่แน่คนผู้ั้จะต้องโผล่หางออกมาเแน่ขอรับ”
โหวเย่กล่าว “เช่นั้ข้าจะไปปรึกษากับมารดาของเ้า”
สวี่เหรามิได้เอ่ยคำใดต่ออีก หลังจากกล่าวลากับโหวเย่แล้วก็ถือขนมรีบกลับไปใเรือนของตนเ เิไปก็คิดไปว่าจะนำทิวทัศน์ระหว่างทางมาทำเป็นแที่ ูแที่เื่ครู่แล้วเปลืองกำลังเกินไป อีกทั้งยังไม่ค่อยชัดเจนนัก
สวี่จือกำลังเล่นอยู่กับสวี่ตี้ใเรือน พอเห็นสวี่เหราถือของกลับา็ร้องเรียก่า่ด้วยาดีใแล้ววิ่งไปที่ปะตูใญ่ สวี่เหราเห็นแล้วก็รีบวางของลงบนพื้น่จะอุ้มสวี่จือที่วิ่งมาถึงตนเขึ้นมา
สวี่ตี้เิเข้ามาหยิบของบนพื้นที่สวี่เหราวางเอาไว้่จะเอ่ย “ไ๊า ่า่ ท่านซื้อของกินมาามายเลยนะขอรับ”
สวี่เหรากล่าว “ก็ไม่ได้าเท่าไหร่หรอก ข้าเห็นริมถนนมีโรงเตี๊ยมามาย หากพวกเรามีเวลาว่างไปลองชิมกันดีหรือไม่ อีกไม่กี่วันพวกเ้าก็ต้องตามพ่อไปปะจำาที่าแดนแล้ว หากอยากกินสิ่งใดพ่อไม่สามารถทำมาให้พวกเ้าได้หรอกหนา”
สวี่ตี้ได้ยินแล้วก็เอ่ยออกมาด้วยาดีใเป็น่ายิ่ง “าแดน? ่า่ ท่านจะไปปะจำาที่ใดหรือขอรับ?”
สวี่เหราเอ่ยตอบ “เเหอซี พ่อคิดว่าคงจะอยู่ใกล้ๆ กับด่านเยี่ยนเหมิน”
สวี่เหราอุ้มสวี่จือ สวี่ตี้ถือของ ทั้งสามคนเข้าไปใเรือน เิไปพูดคุยกันไป
สวี่ตี้ครุ่นคิด่จะเอ่ย “จะว่าไป พวกเราจะได้ไปอยู่าแดนแล้วหรือขอรับ มิรู้ว่านี้ทางั้ปลอดภัยแล้วหรือไม่นะขอรับ”
สวี่เหราตอบ “ได้ยินจิ้งเป่ยโหวื่ื่บอ่าคุ้มครองอยู่ทางั้ มีเขาอยู่จะไม่ปลอดภัยได้่าไร?”
จางจ้าวฉือที่กำลังจัดของได้ยินพ่อลูกพูดคุยกันาแล้ว รอจนกระทั่งพวกเขาเข้ามาใเรือน เื่เห็นของใมือของสวี่ตี้ก็พูดออกมาด้วยาตกใ “ท่านพี่นี่รักลูกจริงๆ นะเ้าคะ ถึงได้ซื้อของกลับมาามายขนาดนี้?”
สวี่เหราเอ่ยตอบ “ใช่สิ ข้าเห็นของ่านี้ดี อีกเดี๋ยวจะเอาไปให้กับฮูหยินผู้เฒ่าด้วย เื่ครู่โหวเย่บอกกับข้าว่ามื้อเย็นให้พวกเราสี่คนไปทานข้าวที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่า พอดีเลยจะได้เอาติดมือไปด้วย พวกเราเก็จะได้บอกกล่าวกับฮูหยินผู้เฒ่าว่าพวกเราจะไปกันทั้งครอบครัว เื่ครู่ข้าพูดกับโหวเย่แล้ว ฟังจากคำพูดของโหวเย่แล้วเหมือนเขาจะไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะให้พวกเ้าาคนติดตามไปด้วย”
จางจ้าวฉือฟังแล้วก็อดสงสัยมิได้ “เุใดกัน ไม่ให้ข้าที่เป็นภรรยาหลวงตามไป อยากจะให้เ้ามีอนุมาูแลหรือ่าไร? ถึงแม้พวกเราจะ้าไม่อายแต่ข้าก็ยังมียางอายนะ สวี่เหรา ข้าจะบอกเ้าให้ หากเ้ามีาคิดที่จะเ้าชู้ ข้าจะพาลูกคนออกทะเลไปเลย ต่อไปพวกเราจะไม่กลับมาอีก”
สวี่เหรารีบท้วง “ูเ้าสิ ต่อ้าลูกๆ เุใดถึงได้พูดอะไรเช่นนี้ หลายปีมานี้ข้าคิด่าไรเ้าไม่เข้าใเลยหรือ? นั่นเป็นต้นเุที่จะทำให้บ้านล่มจมนะ ครอบครัวพวกเรายังต้องใช้ชีวิตกัน่าดี จะหาอนุกลับมาทำไมกัน เ้าว่าใช่หรือไม่?”
จางจ้าวฉือเอ่ย “เ้าคิดเช่นนี้ได้ก็ดีทีุ่แล้ว”
สวี่จือฟังคำพูดของบิดามารดาด้วยาตกใ นางไม่เคยคิดเลยว่ามารดาของตนเจะดุเช่นนี้ สตรีที่เป็นเช่นนี้มันไม่ดีมิใช่หรือ แต่ว่าปะชากรใเรือนยิ่งน้อยยิ่งดี หากมีอนุขึ้นมาจริงๆ อย่าพูดถึงมารดาของตนเลย คาดว่าตนเก็คงไม่ค่อยจะสบายใเท่าไหร่นัก
ภายใจวนได้พูดกันออกไปแล้วว่า ุาสามเลือกรับตำแหน่งที่เเหอซี อีกไม่กี่วันจะต้องไปปะจำาแล้ว
ตกเย็นสวี่เหรากับจางจ้าวฉือก็พาลูกๆ ทั้งคนไปที่เรือนของฮูหยินผู้เฒ่า ห้องรับแขกหลักของเรือนหลักด้านใได้จุดไฟเอาไว้แล้ว าใช้ยกสำรับอาหารมาจากโรงครัวใญ่ ด้านใโรงครัวเล็กก็ส่งกลิ่นอาหารหอมยั่วน้ำลายเช่นกัน
ทางด้านฮูหยินผู้เฒ่าจัดเตรียมเอาไว้โต๊ะ หนึ่งโต๊ะเป็นฮูหยินผู้เฒ่า โฮูยิน ฮูหยินของื่ื่และจางจ้าวฉือที่พาสวี่จือมาด้วย อีกโต๊ะเป็นโหวเย่ ื่ื่ สวี่เหราและสวี่ตี้
เพราะว่าุคนใที่นี้ต่างเป็นครอบครัวเดียวกัน ระหว่างโต๊ะัจึงไม่ได้ใช้ฉากกั้น ฮูหยินผู้เฒ่าหัวเราะแล้วกล่าวว่า “ต่อไปุาสามของพวกเราก็จะเป็นขุนนางแล้ว อาศัยใช่วงทีุ่าสามยังไม่ไป คนแก่เช่นข้าก็อยากจะเลี้ยงอาหารุาสามสักมื้อ ต่อไปออกไปอยู่ด้าน หวังว่าุ่าจะราบรื่นนะ”
สวี่เหรากับสวี่ตี้รวมถึงจางจ้าวฉือต่างุขึ้น สวี่เหราคำนับขอบุฮูหยินผู้เฒ่า จากั้หญิงชราก็เรียกใหุ้คนนั่งทานข้าว
หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบ้แล้ว สวี่เหราก็บอกกล่าวเื่ที่ตนเวางแเอาไว้ มือที่ถือตะเกียบของโฮูยินชะงักไป ่จะเอ่ยขึ้นมาว่า “ฮูหยินของคนที่ออกไปรับ้าที่ด้านปกติแล้วจะต้องอยูู่แลแม่สามีมิใช่หรือ?”
จางจ้าวฉือยิ้ม่จะกล่าว “ท่านแม่เ้าคะ ใเรือนก็ยังมีพี่สะใภ้ใญ่ไม่ใช่หรือ พี่สะใภ้ใญ่ ต่อไปเื่ราวใเรือนก็ต้องรบกวนท่านูแลแล้วเ้าค่ะ”
เื่มีคำพูดของจางจ้าวฉือมาดักเช่นนี้ โฮูยินก็มิรู้ว่าจะรับมือต่อไป่าไรดี ุคนต่างรู้ว่าจางจ้าวฉือั้เป็นคนยอมหักไม่ยอมงอ หลายปีมานี้โฮูยินกลัวว่าจะเจอเื่เช่นที่จางจ้าวฉือมาเอาเื่กับโรงครัวใญ่ใปีั้ โชคดีที่คนใจวนไม่่เื่ นางเก็ไม่หาเื่ใส่ั ่าั้นี้ นางคิดจะติดตามไปปะจำากับสามี ใใของโฮูยินจะ่าไรก็ไม่พอใ
ตระกูลใญ่ ็เะ ่าตระกูลหย่งหนิงโหวนี้ แม่สามีกับภรรยามีเยอะเป็นกองใญ่ ทำอะไรก็ตามแต่ เ้ามองข้า ข้าต่อยเ้า อยู่ใเรือนจะต้องเคารพกฎของเรือน ไม่พูดถึงเื่าให้าเคารพผู้อาวุโส่าใเรือน ปกติแล้วาสัมพันธ์ในี้ก็ทำให้ปวดหัวาพอแล้ว ใครๆ ต่างรู้ว่าาออกไปปะจำาเมืองหลวงั้ ถึงแม้สภาพแวดล้อมจะดีหรือไม่ดี แต่ก็ย่อมมีอิสระ คนสมัย่เพราะมีบุรุษที่น่ารังเกียจของตนเป็นขุนนางใพื้นที่ทุรกันดาร ถึงได้ไม่อยากจะตามไปด้วย แล้วปักธงจะอยูู่แลแม่สามีอยู่ใจวน าจริงแล้วคือไม่ยอมออกจากสถานที่สะดวกสบายของตนเต่างหาก มีเพียงคนฉลาดเท่าั้ถึงจะยอมตามไปจริงๆ ไปเป็นครอบครัวของขุนนาง หากตรองูให้ดีชีวิตเช่นั้ต่างหากที่มีอิสระ่าแท้จริง
ฮูหยินผู้เฒ่าเป็นคนชราที่าปะสบาณ์ จึงรู้ว่าเป็นเพราะเุใด นางถอนหายใ่จะกล่าว “หลายปีมานี้ ครอบครัวของุาสามล้วนเจอเื่ราวที่ไม่ง่ายเลย อีก่าตั้งแต่แต่งงานกันมาทั้งคนก็ไม่เคยแยกจากกัน ข้าเห็นสมควรว่าควรไปด้วยกัน ส่วนเด็กคนนี้ อ่านหนังสือพันเล่มก็ยังมิสู้เิทางหมื่นลี้ ตามไปเรียนรู้เก็บเกี่ยวปะสบาณ์ด้วย ย่อมเป็นเื่ที่ดี”
ฮูหยินผู้เฒ่าปกติแล้วมักไม่เอ่ยปาก แต่หากเอ่ยปากแล้ว เช่นั้ก็จะต้องเป็นเื่ที่สำคัญาพ
สวี่เหรากับจางจ้าวฉือพาลูกๆ ทั้งคนคุกเข่าอยู่ตรง้าของฮูหยินผู้เฒ่า แล้วคำนับให้สามครั้ง
เชิงอรรถ
[1] ซูจี๋ซื่อ (庶吉士 shù jí shì) าสอบเข้าตำแหน่งนักปราชญ์
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??