เรื่อง ครอบครัวของข้า นอกจากข้า ล้วนข้ามมิติมาทั้งครอบครัว
สวี่ตี้มองน้องาผู้่าสงา รู้สึกว่าหัวใจตนเากับูแช่ลงไปในธาราช่วงฤูใบไม้ิ่าไร่านั้น ึแม้จะทั้งสบายทั้งอบอุ่น จะ่าไรเขาก็รู้สึกว่าน้องาตนเนั้นเป็นน้องาที่ดีทีุ่ในโลกแล้ว
สวี่ตี้กล่าวกับน้องด้วยน้ำเีงอ่อนโยนว่า “พวกเราไม่ได้จะไปสอบจอหงวนเีหน่อย ัหนังสือพวกี้ึแม้จะสามารถท่องได้แล้วจะมีประโยชน์อันใด? ท่านพ่อท่านแม่และพี่ พวกเราสอนจือเอ๋อร์ให้รู้จักัหนังสือก็เพื่อให้จือเอ๋อร์เข้าใจเรื่องาต่างๆ ได้ ต่อไปัจากี้ขอแค่จือเอ๋อร์พวกเราสามารถมีชีวิตอยู่่าดีและมีความสุขก็เพียงพอแล้ว”
แม่นมลู่ที่กำลังนั่งเย็บปักอยู่บนตั่ง ในืทำเสื้อคลุมัใหม่สวี่จือไปด้วย พลางฟังพี่น้องสนทนากันไปด้วย ใจนางรู้สึกหมดเรี่ยวแรงลงทีละน้อย ตนเเป็นแม่นมมี้าที่คอยชี้แนะึ่เป็นผู้ที่มีชื่อเีงระดับป้ายทองเืงหลวง ุท้ายก็คงจะมาจบลงที่เ็น้อยที่เหืนกับก้อนแป้งผู้ี้เีแล้ว
ัจากหิมะแรกผ่านไป อากาศก็เริ่มหนาวมากึ้ ไม่ใช่แค่ทางด้านด่านเยี่ยนเหมินเ่านั้น อากาศที่ชายแดนก็เลวร้ายไม่ต่างกัน
แน่นอนว่าสวี่จือไม่ได้รับรู้ึเรื่องาพวกี้ ัๆ นางอาศัยอยู่แต่ในเรือน ตอนาัท่านพ่อกับท่านแม่มักจะไม่อยู่เรือน มีเพียงพี่ชายที่อยู่ พี่ชายพานางไปูต้นพืชที่งอกรากออกมาจนึขั้นเติบโตึ้มาเป็นผักแล้ว ตอนาคืนเมื่อท่านพ่อท่านแม่กลับมา ทั้งครอบครัวจึงมานั่งรวมักัน รับประทานอาาร่วมกัน่าครึกครื้น ัจากรับประทานอาาเย็นเสร็จแล้ว ก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำในห้อง จากนั้นท่านพ่อท่านแม่ก็จะพาอ่านหนังสือ ่จะูท่านพ่อสอนเขียนัอักษร ใช้ชีวิตผ่านไปัๆ ด้วยกิจกรรมเช่นี้
ัเกิดสวี่จือตรงกับัที่ยี่สิบสามเืสิบ เมื่อึัี้ จางจ้าวฉือก็ให้นางทานบะหมี่อายุยืนตั้งแต่ยามเช้าตรู่ สวี่ตี้หยิบขวัญัคล้ายัเกิดที่เตรียมเอาไว้ออกมามอบให้น้องา ส่วนสวี่เหรากลับให้หนังสือหนาๆ หนึ่งเล่ม ใน้าสี่ได้เขียนคำอวยพรัเกิดสวี่จือเอาไว้ ตอนที่มอบให้กับสวี่จือ เขาบอกกับนางว่าัเกิดทุกปีจะเขียนคำอวยพรลงไปในี้ สวี่จือให้ความสำคัญกับหนังสือเล่มี้มากจึงนำไปเก็บไว้ในกล่องเก็บมีค่าตนเ
ตอนเช้าจัดงานัคล้ายัเกิดอายุห้าขวบให้สวี่จือ ตอนาคืนก็เป็นเวลาการจุดธูปไหว้บูชา แต่ละครอบครัวต่างส่งองค์เทพึ้ไปบนสรวงสวรรค์กันในัี้ ท้องฟ้ายังไม่ทันมืด ก็ได้ยินเีงประทัดัมาจากทุกหนทุกแห่ง
สวี่จือามสวี่ตี้ไปจุดประทัดที่ด้าน้าเรือน ่จะกลับมาจุดธูปไหว้พร้อมคำนับ รอจนกระทั่งธูปตรง้ารูปปั้นองค์เทพหมดลง แม่นมลู่ก็นำอาาเซ่นไหว้ที่วางอยู่ตรง้ารูปปั้นออกมาแบ่งให้กับในครอบครัว
สวี่จือชอบทานน้ำาลที่ใช้ม่ายหยา [1] มาทำน้ำาลมาก สีขาว พอทานเข้าไปแล้วก็จะรับรู้ึรสชาติหวานหอม และยังมีไม้อีก่า รวมทั้งยังมีขนมหวานอีกา่าที่ใช้แป้งททำออกมา
เมื่อปีใหม่ใกล้จะมาึ บรรยากาศเทศกาลปีใหม่บนท้องถนนจึงยิ่งเพิ่มความเข้มข้นึ้ไปอีก ันั้นจางจ้าวฉือจึงพาสวี่จือมาเดินเล่นบนถนนโดยเฉพาะ ึ่หากเอาทั้งชาติสวี่จือมารวมกันแล้ว นี่เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ได้มาเดินเล่นบนถนนที่ครึกครื้นเช่นี้ นางดีใจเป็น่ายิ่ง ตอนที่สวี่เหรากลับมาึเรือนในเวลาค่ำ นางก็ลากเขามาเล่าให้ฟังอยู่เป็นเวลานาน จนทำให้สวี่เหราเอ็นูเป็น่ายิ่ง ไม่ว่าูใครก็ควรจะพาไปนู่นไปนี่ไปนั่นตั้งแต่ยังเยาว์วัย เาะกลัวว่าเ็จะรู้จักสิ่งต่างๆ น้อย ทว่าในสมัยี้เป็น่าไร บุตรชายก็ยังพอปล่อยผ่านได้ ส่วนบุตรากลับต้องเอาแต่หมกัอยู่แต่ในเรือน ไม่้าเท้าออกจากประตูเลยสัก้า บุตราเขาจะต้องอึดอัดสักเพียงใดกัน
ตอนาคืนสวี่จือนอนหลับไปแล้ว ในัี้นางร่าเริงสนุกสนานมากขนาดนั้น พอึตอนาคืนก็ฝืนความง่วงเอาไว้ไม่ไหวแล้ว
สวี่เหรามองแม่นางน้อยที่นอนอยู่บนตั่ง ่จะพูดกับจางจ้าวฉื้วยความเอ็นูว่า “แค่ไปเดินเล่นบนถนน ูก็ดีใจขนาดี้แล้ว ต่อไปพวกเราจะต้องพาูออกไปเจอโลกบ่อยๆ นะ”
จางจ้าวฉือกำลังจัดการบันทึกอาการผู้ป่วยทีู่อากาศหนาวทำให้ได้รับบาดเจ็บหนึ่งที่ัษาในจวนแม่ทัพเมื่อตอนาั ัจากได้ฟังคำสวี่เหราก็กล่าวว่า “ตอนี้ก็เป็นแบบที่เ้าว่ามิใช่หรือ หากพวกเราูแลดีมากเกินไปมันก็จะไม่ดีกับูนะ”
สวี่เหราตอบ “เรื่องี้้าู้ี ข้าก็แค่คิดว่าพวกเราแอบพาออกไป รอจือเอ๋อร์โตึ้อีกหน่อย พวกเราก็จับนางแต่งัเป็นบุรุษ เช่นี้พาออกไปก็ย่อมง่ายแล้ว ่าไรก็ไม่สามารถใหู้อยู่แต่ในเรือนได้ตลหรอก เ็ที่ฉลาดมากๆ อยู่แต่ในเรือนนานเกินไปก็จะกลายเป็นโง่ได้”
จางจ้าวฉือว่า “ได้ เอาามที่เ้าว่า”
สวี่เหรานอนอยู่บนตั่งอุ่นๆ ่จะเอ่ย “พอเห็นว่าจะึปีใหม่แล้ว เวลาึ่ปีี้ ข้ารู้สึกว่ามันผ่านไปไวมากเลยนะ รู้สึกว่ายังไม่ทันได้ทำอันใดเลย แค่ครู่เีก็จะผ่านพ้นปีี้ไปแล้ว รอฤูใบไม้ิปี้าพวกเรารีบปูข้าวโพดและมันเทศูว่าเป็น่าไร หากดีก็ขยายออกไปเป็นวง้า ในืมีอาาแล้ว ประชาชนก็จะรู้สึกว่าชีวิตมีจุดมุ่งหมายมากยิ่งึ้”
จางจ้าวฉือเอ่ย “ยังมีพืชที่สวี่ตี้ปูพวกนั้นด้วย ข้าเห็นว่าข้างในเหืนจะมีมะเขือเทศด้วยนะ ไอ๊หยา ข้าอยากกินมะเขือเทศผัดไข่มากจริงๆ”
สวี่เหรากล่าวตอบ “ไม่ใช่แค่เ้าที่อยากกินหรอกนะ ข้าเก็อยากเช่นกัน รวมึพริกพวกนั้น หากมีพริกแล้วพวกเราลองทำหม่าล่าหม้อไฟมาชิมกันสักหน่อยดีหรือไม่ มีเนื้อวัวเนื้อแพะสดๆ หั่นเป็นชิ้นบางๆ จุมลงไปในน้ำซุปหม่าล่า ไอ๊หยา พูดกับเ้าต่อไม่ได้แล้ว หากพูดกับเ้าอีกข้าคงนอนไม่หลับแล้ว”
จางจ้าวฉือหัวเราะแล้วเอ่ย “ก็ลำบากเ้าที่เป็นพ่อครัวยฝีื ต้องมาใช้ชีวิตที่ไร้สีสันไร้รสชาติอยู่ที่นี่เีึ่ปี”
สวี่เหราเอ่ย “รอจนปูพริกได้่ พวกเราก็ค่อยเผยแพร่วัฒธรรมน้ำแกงหม่าล่าหม้อไฟออกไป ข้าทำน้ำแกงได้รสชาติต้นตำรับมากเลยทีเีนะ ึตอนนั้นพวกเราก็เปิดร้านหม้อไฟกันเถิด จะต้องเปิดร้านสาขาให้ทั่วทุกเืงในต้าเหลียง แล้วค่อยไปเปิดที่นอกแคว้นกัน”
จางจ้าวฉือฟังแล้วก็หัวเราะลั่นออกมา นางหัวเราะออกมาได้ทีก็รีบปิดปากัเ กลัวว่าจะทำให้สวี่จือที่หลับไปแล้วตื่นึ้มา
เมล็ดพืชที่สวี่ตี้ปูลงในกล่องไม้พวกนั้นตอนี้เติบโตึ้มาแล้ว มีบางชนิดเป็นไม้เลื้อย สวี่ตี้จึงใช้ไม้เล็กๆ มาปักเป็นหลักเอาไว้ให้ แต่เาะว่าแสงที่ส่องเข้ามาไม่ค่อยทั่วึสักเ่าไหร่ ทำให้ตอนี้ที่ึเวลาดอกไม้บานแล้ว จึงบานออกมาได้ไม่เต็มที่
แต่ผักปวยเล้งกับผักชีกลับเติบโตได้ดี ัที่จะทานบะหมี่ในตอนเช้าก็ไปดึงเอาปวยเล้งมาต้น ล้างให้สะอาด ตอนที่จะนำบะหมี่ออกจากหม้อึจะโยนมันลงไป ผักสีเขียวๆ มองูแล้วช่วยให้อาา่ารับประทานมากเลยทีเี!
สวี่ตี้ทำใจไม่ได้ที่จะกินผักพวกี้บ่อยๆ เดิมทีก็ปูน้อยอยู่แล้ว ปูลงไปหนึ่งต้นก็เพื่อให้สามารถรู้ว่าเป็นต้นอะไร แล้วค่อยคิดเอาเมล็ดพวกี้มาใช้จำนวนมากในาั ที่ทำให้สวี่ตี้ดีใจมากก็คือ ด้านในยังมีเมล็ดพริกอยู่ด้วย อีกทั้งพวกเมล็ดที่ปูลงไปก็ล้วนงอกรากออกมา พริกหนึ่งเม็ดมีเมล็ดอยู่จำนวนไม่น้อย หากเก็บเมล็ดพวกี้ทั้งหมดไว้ คาดว่าคงจะสามารถปูได้อีกมากเลยทีเี
จะปีใหม่แล้ว แม่นมลู่ทำชุดกับกางเกงผ้าฝ้ายัใหม่ให้กับสวี่จือ ทั้งชุดล้วนเป็นสีแดง ทำเสร็จแล้วก็เอามาให้ลองสวมใส่ สวี่จือมองัเที่ัอ้วนกลมใส่ชุดสีแดงแล้วก็รู้สึกลำบากใจ เาะว่านางเห็นรูปร่างตนเก็คิดึประทัดที่จุดตอนปีใหม่ พวกมันมีสีแดงๆ ้ๆ กลมๆ เหืนกับนางในตอนี้เลย
กลับเป็นสวี่เหรา จางจ้าวฉือและสวี่ตี้ที่ชมว่าสวี่จือใส่แล้ว่าั ทั้งยังชมว่าแม่นมลู่ฝีืดี ึ่นั่นทำให้แม่นมลู่กลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง รู้สึกว่าต่อไปตนเจะค่อยๆ สั่งสอนสวี่จือให้ได้ดี ไม่แน่ว่าจะสามารถทำให้สวี่จือกลายเป็นแม่นางที่มีชื่อเีงได้
จะปีใหม่แล้วที่ต้องเตรียมก็มีมากมายา่า จางจ้าวฉือูแล้ว่าจะรับืไม่ไหว งานเล็กงานใหญ่ในเรือนจึงมอบให้สวี่ตี้กับแม่นมลูู่แล ึ่แม่นมลู่รู้สึกว่าจางจ้าวฉือเป็นนายหญิงเรือน นี่คือความรับผิดชอบนาง แต่ตอนี้จางจ้าวฉือที่ตื่นมาทุกเช้าก็จะูรถม้าจวนแม่ทัพรับัไปและอยู่ที่นั่นทั้งั อย่าพูดึเรื่องูแลาในเรือนเลย แม้แต่ตนเก็ไม่ได้รู้จักูแลตนเเ่าที่ควร แม่นมลู่เห็นจางจ้าวฉือผ่ายผอมลงทุกัๆ
สวี่ตี้นั้นรู้อยู่แล้วว่าบิดามารดาตนเนั้นเป็นทำงานเก่ง ไม่เช่นนั้นหนึ่งคงไม่ได้เป็นหมอศัลยแพทย์ืหนึ่งโรงพยาบาลที่ดีทีุ่เืงหลวง ส่วนอีกหนึ่งคงไม่ได้กลายเป็นศาสตราจารย์ที่มีชื่อเีงหรอกใช่หรือไม่? ที่ัการทำงาน ไปที่ใดก็ยังคิดหาวิธีที่จะทำเรื่องตนเให้ออกมาดีทีุ่
สวี่ตี้รู้ว่าึแม้จะมาอยู่ในสังคมแบบเก่าแก่คร่ำครึที่เลวร้ายนี่ เรือนสี่เหลี่ยมเล็กๆ นี่ก็ไม่สามารถกักขังจิตวิญญาณมารดาตนเได้ ึแม้ตอนี้จะไม่มีจิ้งเป่ยโหวซื่อจื่อมอบโอกาสให้ มารดาเขาก็จะมีโอกาสที่ดีกว่าในัข้าง้า่าแน่นอน
สวี่ตี้ปรึกษากับแม่นมลู่ สั่งให้ป้าจ้าวพาเหล่าาใช้ในเรือนทำความสะอาด เตรียมสำหรับัึ้ปีใหม่ ันั้นทุกัรอบๆ เรือนัเล็กจะปกคลุมไปด้วยกลิ่นอาาหอมๆ
าปีที่สวี่ตี้ออกนอกประเทศไปทำโปรเจค ด้วยความที่ไม่คุ้นชินกับอาาต่างประเทศ เขาจึงทำอาาทานด้วยัเ ตอนที่อยู่ในประเทศก็มักจะทำอาาอยู่ในบ้าน หากเปรียบเทียบระหว่างสามพ่อแมู่ จากความคิดสวี่เหราและจางจ้าวฉือ ที่มีเวลามากทีุ่ย่อมเป็นูชายัเ นอกจากเรียนแล้วเขาก็คือไปเรียน่าเี เลิกเรียนกลับมาก็มีเวลาว่างมากมาย ึ่แค่ี้ยังไม่เพียงพอสำหรับทำอาาหนึ่งมื้ออีกหรือ? ันั้นจางจ้าวฉือกับสวี่เหราจึงสอนให้สวี่ตี้ทำอาา และเาะสวี่ตี้เป็นผู้ที่มีความสามารถด้านการเรียนรู้สูง เขาฝึกปรือฝีืการทำอาาจนกลายเป็นที่ทำอาาอร่อยทีุ่ในบ้าน ต่อมาัจากไปต่างประเทศ ปกติแล้วหากเขาอยากจะกินอะไรที่บนท้องถนนหาซื้อไม่ได้ ก็จะหาซื้อวัตถุดิบทางอินเทอร์เน็ตเพื่อนำมาทำกับข้าวทานเ
หาได้ยากมากที่จะมีโอกาสเช่นี้ สวี่ตี้คิดึอาาึ้ชื่อแต่ละพื้นที่ ัจากเขียนวิธีการทำลงไปแล้ว ก็พาป้าเหอึ่เป็นแม่ครัวมาทำอาาร่วมกัน ทดลองทำสูตรนู้นสูตรี้ ทำอาาอร่อยๆ ออกมาา่า
ไม่เพียงแค่ขนมทานเล่นทางภาคใต้ ยังมีซาฉือหม่า [2] ทางภาคเหนือ สวี่ตี้ก็ทำมันออกมาได้ดีทั้งหมด แต่เาะว่าจะต้องซื้อวัตถุดิบา่า เบ็ดเสร็จุท้ายจึงจ่ายเงินไปจำนวนมากพอสมควร
แม่นมลู่มองบัญชีในื ในใจก็รู้สึกเจ็บช้ำ กลับเป็นจางจ้าวฉือกับสวี่เหราที่ยังคอยพูดโน้มน้าวแม่นมลู่ สิ้นปีทั้งทีก็แค่ครั้งี้ครั้งเีเ่านั้น ถ้าูพอใจก็ใหู้ทำไปเถิด จือเอ๋อร์พวกเรานี่กินจนาหยีไปหมดแล้วท่านไม่เห็นหรือไร?
เป็นเช่นนั้นจริงๆ สวี่จือไม่เคยเห็นกินมากมายขนาดี้ ทุก่าล้วนเอร็ดอร่อยจนวางไม่ลง นึ่งเอย เ ต้มเอย ั้เ ทุก่าเอามาชิมสักหนึ่งรอบ ทุกัก็กินจนท้องน้อยๆ กลมเหืนกับหนูที่ตกลงไปในถังข้าวา ตอนเช้าตื่นึ้มาก็เริ่มเดินามัสวี่ตี้ ถามว่าัี้ตนจะได้รับประทานอะไร
จะปีใหม่แล้ว ไม่ว่าที่ใดๆ ต่างก็ครึกครื้น นอกเีจากพวกทาที่คอยเฝ้าัษาการณ์พวกนั้น และที่ทำงานอยู่ที่หยาเหมิน ในใจก็คิดอยากจะเลิกงานอยู่ตลเวลา ยิ่งใกล้ช่วงเทศกาลเช่นี้ ก็ยิ่งจะต้องเบิกาเฝ้าสถานที่ตนเให้ดีทีุ่
จางจ้าวฉือพาเหล่าแพทย์ทานำสมุนไพรที่ใช้ทำยาัษาบาดแในืทั้งหมดมาปรุงยา จนได้ยาชุดใหญ่ออกมา เมื่อทำยาเสร็จแล้วก็ึช่วงสิ้นปีพิบพี จางจ้าวฉือมิได้้าขาออกจากเรือน เพียงอยู่เตรียมาในเรือนเ่านั้น
ขวัญปีใหม่ที่จะต้องส่งกลับไปที่จวนใหญ่ก็ส่งไปนานแล้ว คาดว่าตอนี้คงึที่จวนสกุลสวี่แล้วเป็นแน่แท้ สำหรับงานัปีใหม่ที่จะต้องเตรียมไว้ใช้าในเรือนก็ตระเตรียมเอาไว้หมดแล้ว สวี่ตี้ซื้อโอ่งใบใหญ่มาใบ ัจากล้างจนสะอาดแล้วก็วางไว้ที่กำแพงทางทิศใต้เรือน ่จะนำอาาที่ทำเสร็จแล้ว หมั่นโถวข้าวธัญพืช หมั่นโถวที่ใช้แป้งข้าวสาลีทำ แป้งม้วน แะุา รวมึขนมเข่งนึ่งที่เอาไปากแดดจนเย็น จากนั้นนำทั้งหมดที่กล่าวมาไปวางไว้ด้านในโอ่ง พวกี้มีแม่นมลู่คอยช่วยทำ บาง่าก็เป็นสวี่ตี้ทำเ ึ่แม่นมลู่ตกใจกับความสามารถสวี่ตี้ที่อายุน้อยเพียงเ่าี้เป็น่ามาก สวี่ตี้บอกว่าตอนที่ตนเออกไปด้านนอกก็เรียนกับที่นั่นไปด้วย แต่ว่าเ็ผู้ชายหนึ่ง สามารถเรียนการทำอาาและขนมพวกี้ได้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ทำให้ตกใจมากแล้ว
ความรู้สึกแม่นมลู่ยุ่งเหยิงมาตล นางรู้สึกว่าครอบครัวคุณชายสามไม่เหืนกับครอบครัวอื่น ครอบครัวอื่นก็มีบุตรา แต่ครอบครัวสวี่นั้นไม่เหืนกัน ครอบครัวสวี่ทั้งสามปฏิบัติกับบุตราในเรือนเป็น่าดี นั่นไม่จำเป็นต้องพูด แต่แค่มันดีมากเกินไปหน่อย บุตราไม่อยากเรียนเช่นนั้นก็ไม่ต้องเรียน บุตราทำงานออกมาดีเล็กน้อย แค่นั้นก็ยกยอเีจนมากมาย ชื่นชมเีจนแม่นมลู่ยังรู้สึกอายแทนสวี่จือ
มากล่าวึบุตรชาย สิ่งใดก็ล้วนทำได้ดี บาง่าไม่ใช่สิ่งที่เ็ผู้ชายจะต้องเรียน ก็ยังคงใหู้เรียน มีเ็ชายอายุสิบกว่าปีไหนบ้างที่ัๆ เอาแต่สาละวนอยู่ในโรงครัว ึแม้ในโรงครัวจะทำที่ตนเต้องการไม่ได้ เ้าัก็ไม่จำเป็นต้องลงืทำมันด้วยตนเ บุรุษควรอยู่ห่างจากโรงครัว หากเรื่องี้เผยแพร่ออกไป ้าาสกุลสวี่ี้คงัษาเอาไว้ไม่ได้แล้วมิใช่หรือ?
แม่นมลู่ทนไม่ไหวแล้ว ตอนที่ส่งสมุดบัญชีให้กับจางจ้าวฉือในตอนาััสิ้นปี จึงพูดเรื่องที่ตนเงุ่นง่านใจและกังวลออกไปทั้งหมด
จางจ้าวฉือฟังแล้วก็เอ่ยยิ้มๆ ว่า “แม่นมลู่เ้าคะ มิเป็นอันใดหรอกเ้าค่ะ พวกเราเรียนทำอาาได้แล้วก็ไม่ได้เอามาเลี้ยงูครอบครัว พวกเราเรียนเอาไว้ก็เพื่อสนองความต้องการปากท้องที่อยากจะกิน ท่านว่าูหรือไม่เ้าคะ?”
แม่นมลู่เอ่ยตอบ “เหตุมันก็ใช่อยู่หรอก ฮูิา เ้าไม่สามารถปล่อยให้บุรุษเป็นเช่นี้ต่อไปได้นะ ต่อไปบุรุษจะต้องสอบขุนนาง เป็นขุนนาง หากให้อื่นรู้ว่าบุรุษในจวนเานเวียนอยู่้าเาเช่นี้ จะไมู่หัวเราะเยาะเอาหรือ?”
จางจ้าวฉือไม่ค่อยสนใจสักเ่าไหร่ แต่เห็นแม่นมลู่วางแผนแทนูตนเเช่นี้ ในใจก็ยังรู้สึกซาบซึ้ง “แม่นมลู่เ้าคะ เช่นนั้นต่อไปไม่ทำเช่นี้แล้วดีหรือไม่? ข้าจะจัดการบุรุษในจวนพวกเราให้ดีๆ ให้พวกเขาตั้งใจเรียนหนังสือฝึกศิลปะการต่อสู้ ไม่เรียนทำอาาพวกี้แล้ว ท่านว่า่าไรเ้าคะ?”
แม่นมลู่ถอนหายใจ “ฮูิา หากให้ข้าพูด เ็ทั้งเรือนล้วนเป็นเ็ดี เข้าใจเรื่องา เชื่อฟัง ข้าไปูแลมาาครอบครัว ก็ไม่เคยเห็นเ็ไหนดีเหืนกับคุณหนูคุณชายครอบครัวี้ แต่ว่าการเลี้ยงูเ็ๆ พวกเราจะต้องใส่ใจ เลี้ยงูออกมาให้ดี ในาภาค้าเ็ๆ มีอนาคตที่ดีก็ย่อมดีไป แต่หากเ็ๆ ูอื่นว่าร้ายเาะว่างานิเรกเล็กๆ ตนเ ึตอนนั้นเ็ๆ จะมาโกรธว่าพวกเราไมู่แลให้ดีเอาได้นะ”
จางจ้าวฉือกล่าวขอบคุณแม่นมลู่ด้วยท่าทางจริงจังและจริงใจมากจนทำให้แม่นมลู่รู้สึกเขินอายเล็กน้อย
จางจ้าวฉือให้อั่งเปาถุงใหญ่กับเหล่าาใช้ในเรือน และให้ขวัญปีใหม่อีกเล็กน้อย ตอนาัในัสิ้นปีพวกเราหยุดทำงานกันแล้ว แต่ว่าป้าจ้าวก็ยังรออยู่ตรงประตูเรือน สามีนางทำอาาอยู่ในสำนักงานเขต ทุกปียิ่งึเวลาี้ งานก็ยิ่งั ไม่เพียงแค่อาาทั้งสามมื้อ ยังมีตอนค่ำแล้วก็ตอนดึกอีก
จางจ้าวฉือพาแม่นมลู่และสวี่ตี้ทำอาามื้ึกด้วยกัน ความจริงแล้วก็คือนำอาาที่ทำในตอนปีใหม่ที่ทำเสร็จแล้วมาอุ่น อะไรที่ควรทก็ทซ้ำอีก อะไรที่ควรตุ๋นก็ตุ๋นอีกครั้ง ่จะนำมาวางทำให้โต๊ะอาาเต็มไปด้วยอาาหลาการายการ
สวี่เหรารีบเดินทางกลับมา ่จะกลับไปที่ที่ทำงานอีกครั้ง มีจดหมายด่วนส่งมา ได้ความว่าหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ห่างจากเขตเหอซีประมาณหนึ่งร้อยเมตรูทาจากนอกด่านล้อมเอาไว้ มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บล้มายจำนวนมาก ัจากพวกี้ปล้นฆ่าเสร็จแล้วก็หนีไป เาะเหตุเช่นี้บรรยากาศชายแดนึได้ยิ่งเคร่งเครียด แม้แต่สวี่จือที่นั่งอยู่บนตั่งใหญ่ในห้องหลักก็ยังรู้สึกกลัว
จางจ้าวฉือให้ชิงเหมี่ยวและชิงซุยแบ่งอาาัสิ้นปีที่ทำเสร็จแล้วออกมาจำนวนมาก ่จะใช้กล่องอาากล่องใหญ่ส่งไปที่สำนักงานเขต นี่ก็ัสิ้นปีแล้ว ึช่วงคืนสิ้นปีทั้งทีอาายังไม่ตกึท้องสักมื้อนับว่าใช้ได้หรือ?พ
เชิงอรรถ
[1] มอลต์ หรือข้าวบาเล่ย์
[2] เป็นขนมหวานในอาาจีนที่ทำจากแป้งทนุ่มๆ ราดกับน้ำเชื่อมที่แข็งึ่ค่อนข้างคล้ายกับ American Rice Krispies Treats มีต้นกำเนิดในแมนจูเรียและปัจจุบันเป็นที่นิยมทั่วประเทศจีน
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??