เรื่อง ครอบครัวของข้า นอกจากข้า ล้วนข้ามมิติมาทั้งครอบครัว
นี่เป็ครั้งแรกที่สวี่จือติดามมารดาของตนเองเ้าร่วมงานเี้
ใอดีติ่ที่สวี่จืออิจฉาที่สุดก็คือการที่เหล่าี่สาวน้องสาวใเรือนสามารถติดามผู้ใหญ่ใเรือนไปเ้าร่วมงานเี้ชมบุปผาได้ ท่องเที่ยวที่ตลาดต่างๆ จากั้ก็รู้จักสหายวัยเดียวกัน สักสามคนได้ เหล่าี่สาวใจวนุคนต่างมีสหายที่รู้ใจกัน ุครั้งมักจะแลกเปลี่ยนของขวัญเ็ๆ ้ๆ ให้แก่กัน หรือที่ส่งหนังสือเทียบเชิญ พวกบ่าวรับใช้ใจวนก็จะแอบไปพูดคุยกัน ุครั้งที่สวี่จือได้ยินก็จะรู้สึกอิจฉามาก
พรุ่งี้ตนจะได้ติดามท่านแม่ไปรู้จักุูเหล่าั้แล้ว
สวี่จือดีใจมากจนนอนไม่หลับได้แต่พลิกัไปมา
แ่ลู่กับสวี่จือนอนบนตั่งัเดียวกัน นางได้ยินการเคลื่อนไหวของสวี่จือก็ถอนหายใจ “ุูเก้า เุใดถึงยังไม่นอนอีก?”
สวี่จือพูดมาด้วยารู้สึกผิดเ็น้อย “แ่ ข้าทำให้ท่านตื่นใช่หรือไม่ พอข้าคิดว่าพรุ่งี้จะได้ไปกับท่านแม่ ใใจของข้าก็ดีใจมากเ้าค่ะ”
แ่ลู่นอนตะแคงข้าง่จะเอ่ย “มิใช่ว่าแค่ไปเ้าร่วมงานเี้ชมบุปผาหรอกหรือ บอกกับข้าามตรงมาเถิด ว่าเุใดถึงได้ดีใจถึงเพียงั้”
สวี่จืตอบมาด้วยาดีใจ “ใงานเช่นี้สามารถทำารู้จักกับสหายที่าุเท่ากับข้าได้เป็จำนวนมาก แ่ ท่านว่าพรุ่งี้ข้าจะมีสหายหรือไม่?”
แ่ลู่ครุ่นคิด “ุูเก้า เุใดพรุ่งี้จะต้องหาสหายด้วยหรือ? พรุ่งี้เป็แค่งานเี้ชมบุปผาธรรมดาๆ เท่าั้ อีกั้เด็กที่ไปก็ล้วนเป็เด็กที่มีระดับต่ำจนถึงั้ไม่มีระดับ ครอบครัวพวกเราถึงแมุ้ชายสามจะเป็ผู้ปกเขตซึ่งเป็ขุนนางั้เจ็ด แต่ว่ารากเดิมของพวกเราเป็คนของจวนหย่งหนิงโหวนะ ถึงแม้ี้ท่านจะเล่นกับแม่นางน้อยพวกี้ได้ แล้วต่อไปเล่า?”
สวี่จือฟังแล้วก็เงียบไป แ่ลู่มองแล้วก็รู้สึกทนไม่ได้ “ุูเก้า อย่าได้โกรธที่ข้าพูดจาไม่ดี นี่ล้วนเป็เรื่องที่เป็าิ”
สวี่จือรีบเอ่ย “แ่ลู่ ที่ท่านพูดมาั้ไม่ได้ไม่น่าฟังเลยเ้าค่ะ าิแล้วเรื่องี้ ข้าก็แค่อยากจะมีสหายที่รู้ใจกันเท่าั้”
แ่ลู่่า “ข้าเ้าใจาคิดของุู ุูเก้า พวกเราคบหามิตรสหายั้ก็เพื่อหาคนที่มีทัศนคติไปใทางเดียวกัน แล้วอย่างไรที่เรีย่ามีทัศนคติเดียวกันน่ะหรือ? อย่างน้อยที่สุดคือเรื่องาคิดาอ่าน ิ่ที่พวกเ้าคิดอย่างน้อยต้องไปใทิศทางเดียวกัน เื่ไขที่สำคัญคือประวัติของพวกเ้าจะต้องใกล้เคียงกัน ุูมาจากจวนโหว แม้ใจวนโหวพวกเ้าไม่ได้มีตำแหน่งที่สูงศักดิ์นัก แต่ว่าอย่างน้อยก็ถูกคนูแลมาั้แต่เด็กจนโต เหล่าแม่นางที่จะได้เจอใวันพรุ่งี้ั้ บางคนอย่าคิดว่าเป็ุูแล้วจะวางัดีนะ บางคนงานบ้านงานเรือนยังทำแบบหยาบๆ เลย เ้าสามารถรับประกันได้หรือไม่ว่าจะสามารถพูดเรื่องเดียวกันกับพวกนางได้?”
สวี่จือฟังคำพูดของแ่ลู่ก็เงียบไป เป็เช่นั้จริงๆ ี้ถึงแม้นางจะอยู่ใเมืองเ็ๆ ไม่ว่าจะเป็บิดามารดาหรือี่ชายก็ต่างมอบารักาเอ็นูให้ตนเองมากมาย ไม่ว่าจะของกิน เสื้อผ้าอาภรณ์ก็ต่างเลือกของที่ดีที่สุด กฎมารยาทก็เชิญให้แ่ลู่มาสั่งสอน หลังจากสวี่จือเรียนรู้เรื่องกฎระเบียบกับแ่ลู่ก็เ้าใจเุผลมากึ้
สวี่จือเอ่ย “แ่ ข้าเ้าใจที่ท่านพูดมาั้หมดแล้วเ้าค่ะ”
แ่ลู่่า “ข้าพูดเรื่องพวกี้กับุูไม่ใช่เพื่อให้เ้าูถูกคนอื่นนะ แต่เพื่อให้เ้าใจ ตำแหน่งฐานะของแต่ละคนไม่เหมือนกัน าคิดาอ่านเองก็ไม่เหมือนกัน ถึงแม้แรกจะรู้สึ่าพูดคุยเ้ากันได้ดี แต่ต่อไปจะอย่างไรใอนาคตก็ย่อมเกิดาขัดแย้งึ้เาะาเห็นไม่ตรงกัน ัั้สหายที่จะคบหาใี้จะต้องระวังให้มากึ้ แน่นอนว่ามีลูกของคนที่ยากจนมากมายที่เป็ประึ่หินที่ส่องส่า คุ้มค่าที่จะคบหาเป็สหาย แต่ว่าสหายที่สนิทกันจนรู้ใจมีสามถึงห้าคนก็เพียงพอแล้ว”
ใหัวสมองของสวี่จือคิดถึงคำพูดของแ่ลู่อยู่ตลอด และไม่รู้ว่าหลับไปเมื่อใด ตื่นึ้มาอีกครั้งด้านก็ส่าแล้ว จึงรีบลุกึ้มานั่งและเห็นว่าบนตั่งเหลือตนเองแค่คนเดียว
แ่เดินเ้ามาจากด้าน เมื่อเห็นว่าสวี่จือตื่นแล้วจึง่าว่า “ุูเก้าตื่นแล้วหรือ พวกเราไปสวมเสื้อคลุมแล้วไปอาบน้ำกันเถิด มื้อเช้าข้าทำบะหมี่ทำมือที่เ้าชอบทานมาให้ด้วย ั้โต๊ะเรียบ้แล้ว กินเสร็จแล้วพวกเรายังจะต้องามฮูหยินสามไปด้าน”
สวี่จือเอ่ยมาอย่างเขินอายว่า “แ่ ข้าตื่นสายเ้าค่ะ”
แ่ลู่หัวเราะแล้ว่าว่า “ีุู้ยังเ็ เป็ช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังเติบโต จะขาดการนอนไม่ได้เด็ดขาด ี้พวกเราอยู่ด้าน กฎระเบียบจะหย่อนยานหน่อยก็มิเป็ไรหรอก รอกลับไปที่จวนใหญ่แล้ว จะต้องรักษากฎระเบียบให้ดีนะ”
สวี่จือตอบรับเีงเบา “แ่เ้าคะ อยู่ใจวนโหวมิสู้อยู่ด้านเ้าค่ะ ใจวนโหวมีแค่พวกท่านทวดเท่าั้ที่ดีกับพวกเรา”
แ่ลู่ฟังแล้วก็หัวเราะมา “ต่อไปคำพูดเช่นี้ไม่สามารถพูดมาได้นะ หากุคนฟังแล้วจะหัวเราะทีุู่เก้ามิรู้าเอาได้”
สวี่จือย่นจมูก ดึงแขนแ่ลู่แล้วทำท่าทางออดอ้อน “ไอ๊หยา แ่ ข้าแค่พูดกับท่านเท่าั้เ้าค่ะ กับท่านแม่ข้ายังไม่เคยพูดเลยนะเ้าคะ”
แ่ลู่ติดกับท่าทางดึงแขนออดอ้อนของสวี่จือเ้าแล้ว นางรู้สึ่าหัวใจกำลังจะละลาย ี้นางเ้าใจารู้สึกของครอบครัวสวี่ั้สามคนที่มอบารักให้กับเด็กน้อยผู้ี้แบบสุดๆ แล้ว
แ่ลู่่า “เอาล่ะๆ ้าาแล้ว พวกเรารีบไปสวมเสื้อผ้ากันเถิด แต่งัเสร็จแล้วพวกเราก็ไปทานข้าวกัน”
เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว คนขับรถม้าก็นำรถม้ามาจอดรอรับจางจ้าวฉือ สวี่จือ แ่ลู่ ชิงเหมี่ยวและชิงซุย ส่วนสวี่ตี้ขี่ม้าประกบอยู่้า้า จากัุ้คนก็เดินทางไปยังเรือนของอาลักษณ์หลี่!
อาลักษณ์หลี่อาศัยอยู่ที่เหอซีมาได้สิบ่าปีแล้วจึงสร้างเรือนหลังึ่เอาไว้ทางทิศตะวันของเมือง เป็เรือนใหญ่ที่มีสามทางเ้าสร้างด้วยอิฐดำ
ประตูเรือนของอาลักษณ์หลี่มีรถม้าหลายคันมาจอดอยู่ ที่เชิญมาวันี้จากครอบครัวของผู้ปกเขต และครอบครัวของผู้ช่วยเฉียนแล้ว ยังมีครอบครัวของผู้มีฐานะดีอีกหลายคนใเขตเมืองี้
ฮูหยินหลี่ที่เดิมทียืนต้อนรับแขกที่ซุ้มประตูดอกไม้ก็รีบเ้ามาต้อนรับที่หน้าประตูจวน
จางจ้าวฉือยิ้มแล้วจับมือกับฮูหยินหลี่ ่จะ่าว่า “วันี้ต้องรบกวนแล้วเ้าค่ะ”
ฮูหยินหลี่พูดยิ้มๆ “ท่านอุตส่าห์มาเป็แขกที่เรือนข้าถือว่าเป็เกียรติยิ่งนักเ้าค่ะ นี่คือบุตรชายกับบุตรสาวใช่หรือไม่เ้าคะ หน้าางดงามกันเีจริง”
เนื่องจากสภาพแวดล้อมแถบชานเมืองไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ ฤูใบไม้ผลิของุปีมักจะมีลมทะเลทราย ัั้ผิวของเด็กๆ แถบี้จึงแห้งกร้าน เพื่อไม่ให้แก้มกลมของสวี่จือถูกลมพัดจนแห้งแตก จางจ้าวฉือจึงให้จางจ้าวจื่อซื้อน้ำมันทาหน้าที่ดีที่สุดจากทางใต้มาให้
จางจ้าวฉือยิ้มอย่างพอใจ “ุสำหรับคำชมเ้าค่ะ”
ฮูหยินหลี่เอ่ย “รีบเ้าไปข้างใเถิด พวกเราไปพูดคุยกันใเรือนดี่า”
แขกสำคัญมากันหมดแล้ว ฮูหยินหลี่จึงเดินไปูแลแขกด้านหลังเรือนด้วยกัน
งานเี้ชมบุปผาของสกุลหลี่ใครั้งี้ จัดอยู่ด้านให้องโถงของเรือนหลัง โถงรับแขกขนาดไม่ใหญ่มากมีโต๊ะวางอยู่ตรงกลาง ั้ฝั่งของโต๊ะมีเก้าอี้ไท่ซือวางเอาไว้อย่างละั ซึ่งั้ด้านของโต๊ะก็มีโต๊ะเ็ๆ สูงพอประมาณหลายัวางอยู่ ุัจะวางเก้าอี้เหม่ยกุ้ยเอาไว้้า้า
ฮูหยินหลี่พาคนเ้ามาใโถง ซึ่งใโถงั้มีคนนั่งอยู่หลายคนด้วยกัน ุคนต่างจับกลุ่มกัน พูดจากันอย่างสนุกสนาน เมื่อเห็นฮูหยินหลี่พาฮูหยินของผู้ปกเขตเ้ามาจึงต่างก็รีบลุกึ้ใทันที
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ตำแหน่งของบุรุษใครอบครัวก็เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของสตรียามอยู่ด้านเช่นกัน หลังจากจางจ้าวฉือพาลูกั้คน แ่ลู่และชิงเหมี่ยวกับชิงซุยเ้ามาแล้ว ุคนก็ต่างยืนึ้่าทักทายจางจ้าวฉือ ซึ่งนางเองก็ยิ้มตอบรับ จากั้ก็ถูกฮูหยินหลี่พาไปที่เก้าอี้ไท่ซือ ถึงได้ยิ้มมาอีกครั้งแล้วบอกใหุ้คนนั่งลง
ข้างห้องโถงจัดงานยังมีโถงเ็ๆ อยู่อีกด้วย คงจะเป็สถานที่ที่จัดเอาไว้ให้กับเด็กๆ ที่ฮูหยินแต่ละท่านพามา แต่ี้บรรดาบุตรธิดาของเหล่าฮูหยินต่างยืนอยู่ด้านหลังของมารดาตนเอง เพื่อที่หลังจากทีุ่คนมาถึงกันครบแล้วจะได้แนะนำัซึ่งกันและกัน
หลังจากแต่ละคนแนะนำบุตรของตนเองแล้ว ฮูหยินหลี่ก็ให้สาวใช้ใเรือนพาพวกเด็กๆ ไปเล่นที่โถง้า้า ทางั้ได้เตรียมอาหารและเครื่องดื่มเอาไว้แล้ว ขนาดห้องเองก็ใหญ่พอสมควร ั้ยังเตรียมของเล่นหลากหลายแบบเอาไว้ให้อีกด้วย
เพื่องานเี้ชมบุปผาใครั้งี้ ฮูหยินหลี่ซื้อดอกไม้ที่เพาะเี้ใเรือนเพาะชำด้วยราคาที่สูงมาก าิแล้วใใจุคนต่างรู้ดี ปากบอ่าเป็งานเี้ชมบุปผา แต่าิแล้วก็เพื่อมารวมัพูดสนทนากันแล้วสานสัมพันธ์เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันั้ั้
จางจ้าวฉือไม่ใช่คนที่ถนัดด้านการพูดคุยสักเท่าใดนัก หลังจากนั่งลงก็เห็นหลายคนพูดกันไปมา
ฮูหยินหลี่พาลูกสะใภ้ใหญ่ที่ตนเองแต่งเ้ามาได้ปี่ามานั่งกับฮูหยินคนอื่นๆ ้า้า จางจ้าวฉือรู้สึ่าลูกสะใภ้ใหญ่ของฮูหยินหลี่เองก็เป็คนที่ทำงานเก่ง นิสัยก็คล้ายกับฮูหยินหลี่ เหมือนอย่างที่เขาว่าหากไม่ใช่คนใครอบเดียวกันคงจะเ้ากับคนใครอบครัวไม่ได้ จางจ้าวฉือฉุกคิดถึงลูกชายตนเอง สวี่ตี้าุสิบปีแล้ว ผู้คนใที่ี้ต่างแต่งงานไว ูท่าว่าจะต้องพูดคุยเรื่องลูกสะใภ้เีแล้ว ถึงั้นางจะต้องหาลูกสะใภ้ที่เก่งเรื่องการพูดคุย เมื่อถึงที่จำเป็จะต้องสนทนาึ้มาจริงๆ ก็จะได้ให้ลูกสะใภ้หน้า
จางจ้าวฉือคิดเรื่องของตนเองใใจ บนใบหน้าก็มีรอยยิ้มแย้มพลางมองฮูหยินเหล่าี้สนทนากัน
หลังจากฮูหยินเฉียนทักทายกับุคนง่ายๆ แล้ว นางก็นั่งัตรงอยู่ตลอด จางจ้าวฉือแอบพิจารณาชุดที่นางสวมก็พบว่าเป็วัตถุดิบที่เป็ที่นิยมที่สุด รูปแบบก็เป็แบบที่นิยมที่สุด แค่เห็นก็รู้ว่าครอบครัวไม่ขาดแคลนเงิน ที่พามาครั้งี้ก็เป็บุตรสาวคนของตนเอง บุตรสาวอนุกลับมิได้พามาด้วย จางจ้าวฉือรู้สึ่าสายาที่นางมามองที่ตนเองแอบแฝงไปด้วยาูถูกเ็น้อย คาดว่าเป็เาะรู้แล้วว่าใต้เท้าจือโจวาเห็นว่าสวี่เหราั้ใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ได้ตำแหน่งมา
คนอื่นๆ ที่นั่งอยู่มีคนที่สามีของตนเองมีชื่อเีงเป็ถึงซิ่วไฉ และอีกคนที่ครอบครัวเป็คนร่ำรวยของเหอซี พวกเขาถูกฮูหยินหลี่เชิญมางานชมบุปผาใครั้งี้โดยใช้สถานะพ่อค้าที่ร่ำรวยของตนเอง เงินใมือคงจะหนามากเช่นกัน
ยามที่เหล่าฮูหยินรวมักัน หากไม่พูดถึงเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่ ก็พูดถึงเรื่องลูกๆ ใครอบครัว เาะว่าฮูหยินหลี่ได้แต่งลูกสะใภ้ใหญ่เ้ามาแล้ว ต่อมายังมีบุตรสาวที่ถึงเวลาต้องหาสามีมาเรือนด้วยอีก เรื่องที่พูดคุยกับุคนส่วนมากก็คือเรื่องเหล่าบุตรหลานใเรือนนั่นเอง
ฮูหยินของซิ่วไฉผู้ึ่เอ่ยึ้ว่า “ฮูหยินหลี่เ้าคะ บุตรสาวงดงามขนาดี้แต่กลับมาหาสามีใเมืองเ็ๆ เช่นี้ก็น่าน้อยใจอยู่นะเ้าคะ ครอบครัวท่านแม่ของข้าอยู่ที่ก่านโจว บุตรชายของี่สาวที่เป็ญาติกันคนึ่มีาุพอๆ กับบุตรสาวของท่าน เอาไว้เราค่อยหาเวลามาเจอกันดีหรือไม่เ้าคะ”
สตรีที่ชายเมืองั้ยามทำิ่ใดก็ตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม คิดิ่ใดก็พูดอย่างั้ พูดจาไม่ได้ระวังมาก ได้ก็คือได้ ไม่ได้ก็คือไม่ได้ หากพูดจาอ้อมค้อมมากๆ คาดว่าคงจะมีหลายคนที่ฟังไม่เ้าใจ
ฮูหยินหลี่ยิ้มแล้วตอบ “ไอ๊หยา ก่านโจวอยู่ไกลไปหน่อยนะเ้าคะ บุตรสาวของครอบครัวพวกเราน่ะ ั้แต่เด็กก็เี้มาอย่างเอาใจใส่ นางบอก่ากับข้าไว้ั้แต่แร่า หากจะหาครอบครัวสามีให้นาง ก็ไม่อยากให้หาไกลไป บอ่าที่คิดถึงท่านแม่จะเดินทางกลับบ้านก็ย่อมไม่สะดวกน่ะเ้าค่ะ”
ฮูหยินครอบครัวมีฐานะอีกคนเอ่ยึ้ว่า “ฮูหยินหลี่ าโของเรือนของครอบครัวเรา ท่านก็เคยเจอ หากท่านคิดว่าเหมาะสม ข้าจะช่วยท่านเชื่อมสัมพันธ์เองเ้าค่ะ”
ฮูหยินหลี่โบกมือ ่จะ่าอย่างรักษาน้ำใจว่า “าโคนั้ของเ้า ข้าเองก็เคยเจอมา่ าุยังน้อย่าบุตรสาวของข้า ที่สำคัญที่บุตรสาวของข้ายังเ็ได้เชิญคนมาทำนายแล้ว าว่าจะต้องหาคนที่แก่่าเป็สามีถึงจะดี”
ฮูหยินที่นั่งฟังอยู่้า้าเริ่มรำคาญแล้ว นางจึงเอ่ยึ้มาว่า “ฮูหยินหลี่ ูท่านพูดสิเ้าคะ นี่ก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่ได้ ท่านพูดเื่ไขที่ท่านต้องการมาเองเถิดเ้าค่ะ”
ฮูหยินหลี่ฟังแล้วก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเป็อย่างมาก ใใจอยากจะพูดตอกกลับไป แต่เาะว่าวันี้ตนเองเป็แม่งาน หากพูดไม่ดีไปจะทำให้แขกเีหน้าเอาได้ แต่หากไม่พูดใใจก็รู้สึกแปลกพิกล
สะใภ้ใหญ่ของฮูหยินหลี่อยากจะช่วยดึงสถานการณ์กลับมา จึงดึงฮูหยินหลี่มา้า้า ลูกสะใภ้ของฮูหยินหลี่หน้าแดงไปหมดแล้ว
จางจ้าวฉือหยิบถ้วยชาึ้มา่จิบไปอึกึ่ แล้ว่าว่า “หากครอบครัวมีบุตรสาวก็จะมี้่าครอบครัวมาสู่ขอ หาครอบครัวสามีไม่ใช่หากันเช่นี้หรือ? บุตรสาวเป็ลูกที่พวกเราผู้เป็แม่เี้มาจนโต จะแต่งไปเช่นี้ มีผู้ใดวางใจง่ายๆ บ้าง? จะต้องสอบถามนิสัยใจคอของลูกเขยให้ดี และยังต้องสอบถามครอบครัวของแม่สามีว่าเป็คนเช่นไรด้วย นิสัยใจคอของแม่สามีั้เป็แบบใด บุตรสาวของฮูหยินหลี่โตจนถึงวัยที่จะต้องหาสามีให้แล้วก็จริง บุตรสาวของข้าเพิ่งจะหกขวบเอง เพียงแค่คิดว่าต่อไปบุตรสาวของข้าจะต้องแต่งไปอยู่กับคนอื่น ั้ั้ไปคลอดลูก เี้ลูก ูแลงานใเรือน ใใจของข้าก็ร้อนรุ่มดั่งไฟแล้ว”พ
ฮูหยินหลายคนใที่ี้ต่างเป็ฮูหยินเอก เรื่องาสูงต่ำยังจะมองไม่กันอีกหรือ ต่อมาก็มีฮูหยินผู้ึ่รับคำึ้มา “คำพูดของฮูหยินสวี่ั้พูดตรงกับใใจของข้าเลยเ้าค่ะ บางครั้งข้าเองก็คิดว่า บุตรสาวของข้าเีู้มาข้างกายอย่างดี ั้ถนอมั้ให้ารัก พอไปอยู่ครอบครัวแม่สามีก็ถูกเขาเรียกใช้เหมือนวัวเหมือนม้า คิดๆ ไปแล้วใใจของข้าก็คงไม่สงบเ้าค่ะ”
ฮูหยินอีกคนยิ้มแล้ว่า “พวกเราเองก็เป็เช่นี้มิใช่หรือ? อยู่ข้างกายท่านพ่อท่านแม่ อยากจะทำิ่ใดก็ได้ทำ เมื่อจากครอบครัวไป เพียงครู่เดียวก็ต้องโตเป็ผู้ใหญ่ ที่ข้าเพิ่งจะแต่งงาน เรื่องัใดก็ล้วนไม่เ้าใจ เรื่องราวใเรือนก็ูแลไม่ดี ถูกแม่สามีดุด่าอยู่นานทีเดียว ต่อมาจึงค่อยๆ เรียนรู้ จนี้ถึงจะได้าเ้าค่ะ”
นี่กลายเป็การเอาาใใจของแต่ละคนมาคุยกันแล้ว ต่อมาก็มีอีกคนพูดึ้มาอี่า “สามีของข้าคือคนใหมู่บ้าน หลังจากแต่งงานไปแล้วท่านพ่อกลัวว่าอยู่ใหมู่บ้านจะไม่เคยชิน จึงซื้อเรือนหลังเ็ๆ ใเมืองเอาไว้ให้ ที่ข้ากลัวที่สุดก็คือยามมีเทศกาลแล้วต้องกลับไปที่เรือนของแม่สามีด้วยกัน ที่เพิ่งจะแต่งงาน ไปฉลองเทศกาลไหว้พระั์ แม่สามารถยังให้ข้าลงไปทำนา ์ ข้ามีหรือจะทำงานเกษตรเป็ สุด้าก็เป็ท่านแม่ของข้าที่บอ่าวันเวลาของข้ายังไม่มาถึง ข้าก็ชิงกระโดดลงไปในรกเี่แล้ว”
มีหัวข้อึ้มาใหม่อีกแล้ว ุคนก็รับคำพูดขำขันี้ึ้มา ุครั้งที่ใกล้จะเงียบลง จางจ้าวฉือก็จะพูดถึงหัวข้อใหม่ึ้มา ตลอดช่วงสายุคนต่างั้พูดั้หัวเราะ เวลาผ่านไปอย่างมีาสุขมาก
อาหารกลางวันทำมาได้สมบูรณ์แบบยิ่ง เหล่าฮูหยินพาเหล่าบุตรสาวนั่งโต๊ะึ่ อีกโต๊ะก็เป็เหล่าบุตรชายที่ติดามมานั่งแยกไปอีกโต๊ะ ถึงแม้ที่เมืองชายแดนจะเปิด้า แต่เด็กชายหญิงาุเจ็ดขวบก็ยังจำเป็ต้องรักษากฎกันอยู่
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??