เรื่อง ยอดหมอหญิงเทพโอสถ
ความลับ?
คุณหนูสามตระกูลหานมาพร้อมกับท่านชายูชัดๆ เห็นได้ชัดว่าางยืนอยู่ข้างท่านชายู ในี้ไม่ไปสนใจ้ืท่านชายู แต่ิ่มาบความลับ? ราวกับว่าเรื่องราวเมื่อสักครู่นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน?
แม้ว่าท่านชายูจะน่ารังเกียจ แต่หญิงสาวคนนี้จะไม่ใจกว้างไปหน่อยหรือ?
างถึงขาดมีความลับกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย? ดูท่าว่าางกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยคงไม่ใช่เพื่อนกันธรรมดา พวกเขามีความสนิทสนมกัน!
จิตใจของกูเฟยเยี่ยนเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและแค้นเคืองใจเล็กน้อย เพราะในใจของางคิดว่าหญิงสาวที่มีความสนิทสนมกับจิ้งหวางเตี้ยนต้องเป็นหญิงาที่สร้างความโปรดปราน มันไม่สมควรที่จะเป็นหานอวี๋เอ๋อร์ที่าเพริศพริ้ง แต่ีำพูดิ้ากับื่อยู่นี่า?
อย่างไรก็ตามต่อให้างอยากรู้อยากเห็นและรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม แต่างก็ไม่สามารถทักถามได้ว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงต้องการเพื่อนแบบไหน างก็ขี้เกียจจะสนใจเช่นกัน
ใบหน้าของกูเฟยเยี่ยนเผยถึงรอยยิ้มบางเบาแล้วโน้มกายเอ่ยรับคำ “เพคะ” พร้อมกับยื่นมือไปรับบัตรสีดำจากนั้นหันหลังเดินอไป ฝีเท้าของางเรียกได้ว่ากระฉับกระเฉงมาก!
ภายในบัตรสีดำใบนี้มีหลายหมื่นเหรียญทองที่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยได้มอบให้าง มันเพียงพอที่จะทำให้างตามหาสมุนไพรล้ำค่ามากมายในสามประมูลแล้วนำไปป้อนหวางเป่าติงน้อยได้ หากว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยคอยอยู่เคียงข้างางก็ต้องพะว้าพะวังและต้องคอยระมัดระวังคำพูดกับการกระทำของตนเอง แต่เมื่อจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่อยู่างก็สามารถทำทุกอย่างได้ตามอำเภอใจ! " เพราะถึงอย่างไรที่นี่ก็ไม่ใช่เมืองจิ้นหยาง ไม่มีใครรู้จักาง
กูเฟยเยี่ยนยิ่งคิดฝีเท้าก็ยิ่งกระฉับกระเฉงมากขึ้น ผ่านไปไม่านก็ได้แยกตัวอมาไกลแล้ว
หานอวี๋เอ๋อร์เกิดความประหลาดใจมาก างมองไปที่แผ่นหลังของกูเฟยเยี่ยน ภายในใจเกิดความรู้สึกถึงหมัดกระทบกับปุยฝ้าย มีแรงแต่ไม่อาจใช้ได้ น่าอึดอัดเสียจริง!
างมาเพื่อแสดงอำาจและยั่วยุ กูเฟยเยี่ยนมองไม่อหรือ?
ไม่ างไม่เชื่อ!
างคิดว่ากูเฟยเยี่ยนแสร้งทำเป็นแน่ กูเฟยเยี่ยนแสร้งทำเป็นปล่อยเพื่อที่จะจับ างมองออย่างทะลุปรุโปร่งในพริบตา!
หานอวี๋เอ๋อร์สงบสติอารมณ์อย่างรวดเร็วแล้วกระซิบแผ่วเบา “จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย อวี๋เอ๋อร์ได้จองที่นั่งไว้ที่ศาลาน้ำชา พวกเราจิบชาไปพร้อมกับพูดคุยกัน ดีหรือไม่? ”
ในขณะนี้จวินจิ่วเฉินกำลังจ้องมองไปที่แผ่นหลังของกูเฟยเยี่ยนราวกับใจลอยจึงไม่ได้ยินคำพูดของหานอวี๋เอ๋อร์
เมื่อหานอวี๋เอ๋อร์เห็นเช่นนี้างก็อดไม่ได้ที่จะเกิดโทสะขึ้นมา
างตั้งใจเดินไปหยุดตรงหน้าจวินจิ่วเฉินเพื่อบดบังสายตาของเขาแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “เตี้ยนเซี่ย ท่านนั้นคืูเฟยเยี่ยนแพทย์หญิงในจวนของท่าน? มีข่าวลือมาว่าทักษะสมุนไพรของางยอดเยี่ยมจนเหนืว่าศาสตราจารย์แพทย์ห้องยาสำนักหมอหลวง ข่าวลือนี้จะไม่พูดเกินจริงไปหน่อยหรือ? ”
จวินจิ่วเฉินไม่ได้ใส่ใจในคำถามของาง สายตาของเขาจับจ้องไปที่พืชมหัศจรรย์ที่ห้อยอยู่บนเอวาง เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าหาเจอแล้วหรือยัง? ”
หานอวี๋เอ๋อร์ยิ้มแต่ไม่ตอบ างเพียงแค่เอ่ยว่า “เตี้ยนเซี่ย ไปคุยรายละเอียดที่ศาลาน้ำชากันเถอะ”
สิ่งที่ห้อยอยู่บนเอวของหานอวี๋เอ๋อร์มีามว่าคงชี่เฟิ่งหลี โดยปกติมักจะถูกเรียกว่าต้นหญ้าเฟิ่งหลี นี่เป็นพืชที่ไม่มีราก ไม่จำเป็นต้องใช้ดินในการเพาะปลูก และเป็นพืชมหัศจรรย์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำในการเพาะเลี้ยง ปล่อยวางเอาไว้โดยมารดน้ำเล็กน้อยานๆ ครั้ง ก็สามารถอยู่รอดได้แล้ว พืชนี้มีหลากหลายพันธุ์และมีขาดที่แตกต่างกัน ในมือของหานอวี๋เอ๋อร์เป็นต้นที่ค่อนข้างเล็ก ไม่มีด ใบไม้สีเหลืองสดใสม้วนตัวอด้านน เมื่อมองดูแล้วราวกับดไม้สีเหลืองดเล็กที่มีความงดามาก
หานอวี๋เอ๋อร์ใช้เชืเล็กสีแดงผูกมันเอาไว้แล้วห้อยไว้ที่เอวเคียงคู่กับจี้หยกและถุงหอม เมื่อมองดูแล้วไม่โดดเด่นแต่ก็ให้ความรู้สึกขี้เล่น
ราวสามปีก่อนางได้รับคำสั่งมาจากมารดาบุญธรรมให้ไปถวายของขวัญในวันคล้ายวันประสูติของเทียนอู่ฮ่องเต้ ภายในพระราชวังางได้พบกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยที่เพิ่งจะกลับมาที่เมืองจิ้นหยางได้ไม่กี่วัน และจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยก็ได้สังเกตถึงต้นหญ้าเฟิ่งหลีบนเอวของาง
พวกเขาได้อจากพระราชวังพร้อมกัน จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยชื่นชอบต้นหญ้าเฟิ่งหลีเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่เพียงแต่ถามถึงที่มาที่ไป แต่ยังได้เอ่ยขออีกด้วย ในตอนนั้นางระมัดระวังตัวโดยพูดแค่ว่านี่คือต้นเฟิ่งหลี ตนเองได้พบโดยบังเอิญที่ตลาดในหมู่บ้านทางใต้ างไม่ต้องการตัดขาดแล้วมอบให้เขา แต่เต็มใจช่วยเขาตามหาอีกหนึ่งต้น
ด้วยเหตุนี้ระยะเวลาสามปีางจึงเป็นเพื่อนกันกับจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยและติดต่ัน
างไม่ได้อตามหาดเฟิ่งหลีและพยายามถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ
เมื่อมาถึงที่ศาลาน้ำชาจวินจิ่วเฉินก็ได้เอ่ยถามอีกครั้ง “มีข่าวคราวอะไรหรือ? ”
หานอวี๋เอ๋อร์ยังคงไม่พูดอะไรโดยคงความลึกลับเอาไว้ างตั้งใจแกะต้นเฟิ่งหลีอมาแล้วยื่นไปให้จวินจิ่วเฉิน “เตี้ยนเซี่ย ท่านไม่ได้พบมันมาปีกว่าแล้วใช่หรือไม่? ท่านลองดู มันเปลี่ยนแปลงไปใช่หรือไม่? ”
จวินจิ่วเฉินรับมาด้วยความระมัดระวังแล้วพิจารณาอย่างจริงจัง
ในตอนนั้นการที่เขาสังเกตได้ถึงต้นเฟิ่งหลีในชั่วพริบตาเป็นเพราะในตอนที่เห็นมันแวบแรกเขาก็สัมผัสได้ถึงความคุ้นเคยและความสนิทสนมที่ไม่อาจพรรณาได้ ราวกับว่าตนเองเคยเพาะเลี้ยงและชื่นชอบสิ่งนี้มาก่อน
เช่นเดียวกันกับดเหลียนเฉียวมากมายในสวนดไม้ด้านหลังจวนของเขา สิ่งเหล่านี้มีทั้งความคุ้นเคยและความสนิทสนมที่ไม่อาจบรรยายได้ แต่ไม่ว่าจะนึกอย่างไรก็นึกไม่อถึงเหตุผล นึกไม่อว่าตนเองเคยพบเจอที่ไหน
เขาทราบดีว่าสิ่งเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับความทรงจำสิบปีที่หายไปของเขา เขาสงสัยแม้กระทั่งในวัยเด็กของตนเองได้เติบโตที่เรือนสวนดเหลียนเฉียว
เขาได้ส่งคนไปค้นหาสถานที่หลายแห่งที่มีทุ่งดเหลียนเฉียว และไร่ดเหลียนเฉียว จากนั้นเขาจึงไปดูด้วยตนเองในทุกที่ น่าเสียดายที่ไม่พบอะไรเลย
ในอดีตเขาเคยลองใช้ดเหลียนเฉียวมาหยั่งเชิงต้าหวงูกับฟู่หวง ทว่าพวกเขากลับไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ สัญชาตญาณบเขาว่าเขาไม่ได้ถูกเลี้ยงดูและโตมากับต้าหวงู
สำหรับต้นหญ้าเฟิ่งหลีเขาก็ได้ส่งคนไปตามหาอย่างลับๆ เช่นกัน น่าเสียดายที่สามปีมานี้ล้วนหาต้นที่สองไม่พบ จวบจนกระทั่งในี้หานอวี๋เอ๋อร์คือเบาะแสเดียวที่เขามี…
เมื่อมองไปที่ต้นหญ้าเฟิ่งหลีเล็กๆ บนมือ ความรู้สึกคุ้นเคยที่ไม่อาจอธิบายได้ก็ได้มากระทบจิตใจเขาอีกครั้ง จวินจิ่วเฉินไม่ได้พูดอะไรแต่ดวงตาคู่นั้นที่มักจะมีความเย็นชาได้อ่อนโยนลงโดยไม่รู้ตัว
สิ่งที่หานอวี๋เอ๋อร์หลงใหลมากที่สุดก็คือความอ่อนโยนในดวงตาของจวินจิ่วเฉินที่พบเจอได้ยาก ความอ่อนโยนเช่นนี้ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกเขาจ้องมองล้วนจะได้รับการปฏิบัติอย่างอ่อนโยนและดูแลด้วยความระมัดระวัง
ในช่วงเวลาสามปีมานี้างได้สอบถามอ้อมๆ อยู่หลายครั้ง และได้ให้คนไปลอบสืบข่าวอยู่หลายรอบ ทว่าท้ายที่สุดก็ยังไม่ทราบว่าเหตุใดเขาจึงชื่นชอบต้นหญ้าเฟิ่งหลี างยังเคยสงสัยว่าเขาอาจจะเคยมีความรักและต้นหญ้าเฟิ่งหลีก็คือของแทนใจจากคนรักของเขา?
หานอวี๋เอ๋อร์มองจวินจิ่วเฉินด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหลงใหลโดยไม่รู้ตัว างคาดหวังไว้ว่าในี้างได้อยู่ในสายตาของเขา ไม่ใช่ต้นหญ้าเฟิ่งหลี
จวินจิ่วเฉินได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะตัดใจไม่ลงแต่เขาก็ได้คืนกลับไป “ดูเหมือนว่าจะใหญ่ขึ้นเล็กน้อย”
หานอวี๋เอ๋อร์ยิ้มแย้มด้วยความลึกลับมากยิ่งขึ้น “เตี้ยนเซี่ย ท่านดูสิ! ”
างได้ยื่นมืออมา บนฝ่ามือมีต้นหญ้าเฟิ่งหลีต้นใหม่อีกต้นวางไว้อยู่และเป็นพันธุ์พืชชนิดเดียวกันกับต้นแรก ต่างกันแค่เล็กกว่าหนึ่งเท่าเท่านั้น! จวินจิ่วเฉินประหลาดใจมาก “เจ้าหาเจอจากที่ไหน? ”
หานอวี๋เอ๋อร์เลิกแกล้งทำให้อยากรู้ างเอ่ยด้วยความจริงจังว่า “เตี้ยนเซี่ย ต้นนี้เกิดอมาจากต้นแรกเมื่อครึ่งปีที่แล้ว ข้าเพาะเลี้ยงจนโต เดิมทีต้องการไปพบท่านโดยไม่กล่าวที่เมืองจิ้นหยาง คิดไม่ถึงว่าจะได้พบท่านที่นี่ อะ ข้ามอบให้ท่าน”
โดยทั่วไปแล้วต้นเฟิ่งหลีจะขยายพันธุ์พืชโดยการแตกหน่อใหม่อมาจากต้นเก่า เมื่อหน่อใหม่เติบใหญ่แล้วก็สามารถแยกอมาเป็นอีกต้นหนึ่งได้ ครึ่งปีมานี้หานอวี๋เอ๋อร์ได้เพาะปลูกด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ในขณะนี้เองจวินจิ่วเฉินก็ได้รับรู้ว่าหานอวี๋เอ๋อร์ไม่ได้ตามหาคนขายต้นหญ้าเฟิ่งหลีในตอนนั้นเจอ เขาค่อนข้างผิดหวังเล็กน้อย
หานอวี๋เอ๋อร์หยิบเชืสีแดงอมาแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “เตี้ยนเซี่ย ข้าช่วยท่าน…”
างยังเอ่ยไม่จบหมางจ้งก็ได้ิ่เข้ามาด้วยความรีบร้อน “เตี้ยนเซี่ย เกิดเรื่องแล้ว แพทย์หญิงกู าง…”
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??