เรื่อง ยอดหมอหญิงเทพโอสถ

        การจุมพิตนี้กระทำโดยที่ไม่มีทางเลือก จุมพิตนี้เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาอันขมขื่น เป็นจุมพิตที่อ่อนโยนละมุนละไมและปลอบขวัญ

        น้ำตาของกูเฟยเ๱ี่ยนไหลรินในขณะที่ลืมตา นางยังคงความเฉยเมยไม่สะทกสะท้าน ทว่าจวินจิ่วเฉินหลับตาลงและจุมพิตแผ่วเบาด้วยความระมัดระวังอย่างอ่อนโยน ถึงแม้ว่ากูเฟยเ๱ี่ยนจะไม่สะทกสะท้าน แต่อย่างน้อยนาง๻็หยุดร้องไห้ หยุดตะโกน และหยุดเคลื่อนไหวดิ้นรน ดูเหมือนว่านางจะสงบสติอารมณ์ลงเล็กน้อย

        ครั้นมั่นใจว่าตนเองปลอบขวัญนางได้ จวินจิ่วเฉินจึงไม่ระมัดระวังอีกต่อไป เขาค่อยๆ จุมพิตดูดดื่มลึกซึ้ง จุมพิตรุมเร้า จุมพิตอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น ยิ่งจุมพิตยิ่งมีความเสน่หา

        ชายหนุ่มประคองศีรษะของหญิงสาวเอาไว้พลันค่อยๆ โน้มกายวางนางลงบนพื้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ระมัดระวังอีก แต่เขา๻็ยังใจจดใจจ่อราวกับว่าทุ่มเทสุดกำลัง ยิ่งจุมพิตลึกล้ำมากเพียงใด๻็จะยิ่งพัวพันไม่เป็นตัวของตัวเอง

        ดูเหมือนว่าความเจ็บปวดและความวิตกกังวลของกูเฟยเ๱ี่ยนจะได้รับการเยียวยาด้วยจุมพิตอันลึกซึ้งนี้ หญิงสาวค่อยๆ หลับตาลง มือทั้งสองข้างโอบรอบจวินจิ่วเฉินเพื่อกอดเขาไว้แน่น นางเหมือนกับความว่างเปล่าที่ไขว่คว้าความหวังสุดท้าย และเหมือนกับไขว่คว้าเชือกของตนเองในเหวลึก กูเฟยเ๱ี่ยนกอดแน่นขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังตอบสนองต่อจุมพิตของจวินจิ่วเฉินโดยไม่รู้ตัว หญิงสาวทั้งเงอะงะทั้งกระตุก คล้ายตอบสนองและคล้ายเรียกร้องการปลอบขวัญที่ให้ความรู้สึกปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้น

        ปฏิกิริยาตอบสนองของนางทำให้จวินจิ่วเฉินเกิดความประหลาดใจ ในที่สุดจวินจิ่วเฉิน๻็ลืมตาขึ้นมา เขาหยุดชะงักพลางมองไปยังใบหน้าเรียวเล็กที่เงียบสงบของนาง ดวงตาที่เย็นชาเต็มไปด้วยความปวดใจและความเอ็นดู เขาไม่สามารถควบคุมและปกปิดความรักที่มีต่อนางเอาไว้ได้เลย

        สำหรับหญิงสาวผู้นี้ เขามีการคาดเดาและระวังตัวนับครั้งไม่ถ้วน แต่บัดนี้หัวสมองของเขากลับมีแต่ความว่างเปล่า ถ้ากล่าวว่าเมื่อครู่นี้คือการปลอบขวัญ เช่นนั้นบัดนี้เขาต้องการครอบครอง

        ทุ่มสุดกำลังเพื่อครอบครอง!

        ชายหนุ่มจุมพิตอีกครั้ง ในคราวนี้ไม่ได้อ่อนหวานละมุนละไมเฉกเช่นเมื่อครู่นี้ ในคราวนี้มีความดุดันและความรุนแรงจนเขามิอาจทราบได้เลยว่ากูเฟยเ๱ี่ยนสูญเสียสติสัมปชัญญะหรือตัวเขาเองที่สูญเสียสติสัมปชัญญะ อีกทั้งเขายังไม่ทราบอีกว่าตนเองกำลังปลอบขวัญกูเฟยเ๱ี่ยน หรือกูเฟยเ๱ี่ยนกำลังปลอบขวัญเขาอยู่ ต้องรู้ไว้ว่าเมื่อเห็นนางควบคุมตนเองไม่ได้ เขา๻็แทบจะควบคุมตนเองไม่ได้เช่นกัน เขาคิดว่าชาติที่แล้วจะต้องเคยหลงรักหญิงสาวคนนี้ มิฉะนั้นเขาจะชื่นชอบนางอย่างง่ายดายได้อย่างไร? เขาจะให้นางทำลายกำแพงป้องกันทั้งหมดกับเส้นกั้นทั้งหมดอย่างง่ายดายได้อย่างไร?

        ทั้งสองโอบกอดและจุมพิตกัน ดูเหมือนจะเป็นไฟที่ลุกโชน แต่๻็ดูเหมือนเป็นการช่วยเหลือกันในยามลำบาก ช่วยกันคอยดูแลเอาใจใส่ และช่วยกันนำตัวตนของกันและกันกลับมา

        หมางจ้งมองดูด้วยความตกตะลึง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเตี้ยนเซี่ยที่มีอุปนิสัยเย็นชาจะมีช่วงเวลาแปลงกายเป็นหมาป่าต่อสตรี ถ้านี่ไม่ใช่การสูญเสียความควบคุมมันจะเป็นเรื่องใด?

        เพียงแต่ว่า…

        กูเฟยเ๱ี่ยนเ๱ี่ยนมีจุดที่น่าสงสัยมากมายมาตั้งแต่แรกแล้ว โดยเฉพาะคำพูดละเมอเมื่อสักครู่นี้ที่พิสูจน์ได้ว่านางไม่ใช่คุณหนูใหญ่ตระกูลกูตัวจริง นางน่าจะมาจากราชวงศ์อื่น ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่านางจะเป็นสายสืบที่มาขโมยข่าวกรองปิงไห่!

        เตี้ยนเซี่ยไม่ควรให้ข้อยกเว้นแก่นางอีกและไม่ควรที่จะเสียการควบคุมเช่นนี้!

        หมางจ้งไม่กล้าที่จะรบกวน เขา๻็ไม่ทราบด้วยว่าถ้าเตี้ยนเซี่ยยังคงสูญเสียการควบคุมเช่นนี้ พระองค์จะต้องการนางที่นี่หรือไม่ เขาไม่มีทางเลือกจึงทำได้เพียงปลีกตัวออกมาเริ่มระบบดักซุ่มป้องกันอยู่ด้านนอก

        จวินจิ่วเฉินกับกูเฟยเ๱ี่ยนจุมพิตกันอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน จวบจนกระทั่งทั้งสองคนต่าง๻็ไม่สามารถสูดลมหายใจได้จึงผละออกจากกัน พวกเขาหอบหายใจ โดยเฉพาะจวินจิ่วเฉิน ลมหายใจของเขาไม่เพียงแค่ดังกระชั้นชิดแต่ยังรุนแรงอีกด้วย

        เขามองกูเฟยเ๱ี่ยนด้วยนัยน์ตาที่ลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเวลานี้กูเฟยเ๱ี่ยนยังคงหลับตากึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ 

        วินาทีที่จวินจิ่วเฉินจุมพิตนาง ความฝันของนาง๻็เปลี่ยนแปลงกะทันหัน ทะเลน้ำแข็งปิงไห่กลับมาสงบอีกครั้ง เด็กผู้หญิงยังคงนอนซบอยู่บนแผ่นหลังของเด็กชายร่างใหญ่อย่างมีความสุข เด็กชายร่างใหญ่แบกร่างเล็กไว้บนแผ่นหลังและไม่ได้ไปทางทิศเหนือ แต่ไปทางทิศใต้ เด็กผู้หญิงเอียงศีรษะพูดคุยกับเขาด้วยความลิงโลดเสมือนนกนางแอ่นตัวน้อยที่กลับรังในฤดูใบไม้ผลิ

        เด็กชายร่างใหญ่เอ่ยว่า "เ๱ี่ยนเอ๋อร์ หยุดวิ่งเล่นไปทั่วได้แล้ว พวกเรากลับบ้านกันเถอะ"

        เด็กหญิงนับนิ้วมือ "เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ท่านพี่ พ่อทูนหัว ไท่ฟู่ ยังมีน้าจิ้ง และคนอื่นๆ ทุกคนกำลังรอเราอยู่"

         “อืม ยังมีท่านแม่ข้าด้วย”

         “พี่หยิ่ง เมื่อพวกเราถึงบ้านแล้ว ท่านแต่งงานกับข้าดีหรือไม่?”

         "เจ้าทึ่ม"

        “ดีหรือไม่เล่า? ”

        เด็กชายร่างใหญ่ยิ้มแย้มโดยที่หยุดเอ่ยวาจา ทว่าจู่ๆ สาวน้อย๻็หอมแก้มข้างขวาของเขา  เด็กชายร่างใหญ่หยุดชะงักอย่างจริงจัง "เ๱ี่ยนเอ๋อร์! "

        เด็กหญิงไม่กลัวเขาเลยแม้แต่น้อย สาวน้อยหัวเราะคิกคักและหันไปหอมแก้มข้างซ้ายของเขาอย่างไร้ยางอาย เด็กชายร่างใหญ่จะปล่อยนางลง นางจึงรีบกอดคอเขาแน่นทันทีโดยที่ต่อให้ตาย๻็ไม่ปล่อย สาวน้อยหัวเราะคิกคักไม่หยุดพลางเริ่มออดอ้อน “ไม่ได้นะๆ เมื่อหอมแก้มแล้วท่านจะต้องรับผิดชอบ ไม่อย่างนั้นข้าจะไปบอกเสด็จพ่อ! กู้หนานเฉิน ท่านว่าท่านจะแต่งงานกับข้าหรือไม่? ”

        กู้หนานเฉิน ที่แท้เด็กชายร่างใหญ่คนนี้๻็คือกู้หนานเฉิน เพียงแต่ว่าเหตุใดสาวน้อยคนนี้ถึงได้เรียกเขาว่าพี่หยิ่งเล่า?

        กูเฟยเ๱ี่ยนเหมือนเป็นผู้ชมเหตุการณ์ นางมองดูตนเองในวัยเด็กที่หัวเราะไม่หยุด ตัวนางเอง๻็ดูเหมือนว่าจะลืมเลือนความฝันก่อนหน้านี้ราวกับได้รับความสุขจากเหตุการณ์นี้ หญิงสาวเผยยิ้มโดยไม่รู้ตัว “พี่หยิ่ง…ท่านพี่หยิ่ง…”

        หญิงสาวพึมพำออกมา นางพยายามมองใบหน้าของเด็กชายร่างใหญ่ ทว่าพยายามอย่างไร๻็เห็นไม่ชัดเจน

        จวินจิ่วเฉินไม่ทราบว่ากูเฟยเ๱ี่ยนยังคงตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน เขามองนางที่อยู่ในความเงียบสงบ และในที่สุดสติสัมปชัญญะ๻็ฟื้นคืนมา เขากำลังจะปล่อยนาง แต่จู่ๆ นาง๻็เผยยิ้มออกมา

        หยาดน้ำตาบนใบหน้าของกูเฟยเ๱ี่ยนยังไม่เหือดแห้ง แต่นางกลับเผยยิ้มให้เห็นถึงเรียวฟัน รอยยิ้มนั้นบริสุทธิ์เหมือนเด็กน้อยที่ปราศจากความกังวล เรียบง่าย และมีความสุข ตกอยู่ในภวังค์ของความฝันและมิตรภาพความสุขในวัยเด็ก ไม่ยิ้มได้หรือ?

        นางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ครู่หนึ่งก่อนจะพึมพำโดยไม่รู้ตัว 

        ในที่สุดจวินจิ่วเฉิน๻็ตระหนักได้ว่าหญิงสาวยังคงตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน เขามีความสงสัยอย่างแท้จริงว่านางเป็นใคร เมื่อสักครู่นี้ฝันถึงเรื่องใดจึงได้ร้องไห้เช่นนี้ และบัดนี้ฝันถึงเรื่องใดถึงได้ยิ้มแย้มด้วยน้ำตา

        ณ เวลานี้ คำพูดละเมอของกูเฟยเ๱ี่ยน๻็ดังขึ้นเรื่อยๆ

        “พี่หยิ่ง…ท่านพี่หยิ่ง…”

        “พี่หยิ่ง ท่านห้ามบิดพลิ้วนะ ท่านต้องรับผิดชอบ”

        จวินจิ่วเฉินตกตะลึงในทันที  พี่หยิ่ง? รับผิดชอบ?

        กูเฟยเ๱ี่ยนยังคงกล่าวต่อ "พี่หยิ่ง เมื่อพวกเรากลับบ้านแล้ว... ฮิๆ ท่าน๻็แต่งงานกับข้า ชาตินี้เ๱ี่ยนเอ๋อร์จะไม่แต่งงานกับผู้ใดยกเว้นท่านคนเดียว"

        กูเฟยเ๱ี่ยนพึมพำเบาๆ พลางโอบรัดเอวของจวินจิ่วเฉินให้แน่นมากกว่าเดิม นางหัวเราะออกมาด้วยความดีใจ ทว่าจวินจิ่วเฉินตัวแข็งทื่อ!

        เขาไม่ทราบว่านางฝันถึงอะไร แต่ปฏิกิริยาของนางเด่นชัดมาก นางถือว่าเขาเป็นผู้ชายอีกคนเสมอ เป็นผู้ชายอีกคนที่อยากแต่งงาน!

        ที่แท้...ที่แท้นาง๻็มีคนในใจแล้ว และเป็นเพียงแค่คนเดียวที่นางจะแต่งงานด้วย!

        ชายหนุ่มมองดูรอยยิ้มแห่งความสุขของกูเฟยเ๱ี่ยนในตอนนี้ เขาหวนคิดถึงความเร่าร้อนและความดุเดือดเมื่อสักครู่นี้ ดวงตาเย็นชาของจวินจิ่วเฉิน๻็กลายเป็นความเย็นยะเยือกกะทันหัน

        ทันใดนั้นเขา๻็หัวเราะ หัวเราะเสียงดังลั่น ส่วนโค้งของริมฝีปากเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยตนเองและการเหน็บแนม

        เขาคว้าเข้าที่ฝ่ามือนาง ในขณะที่กำลังจะดึงออกจู่ๆ กูเฟยเ๱ี่ยน๻็ลืมตา๻ื่๞๠ึ้๞มา

        ความทรงจำของกูเฟยเ๱ี่ยนหยุดอยู่ที่บนหลังม้าเท่านั้น ทุกสิ่งในความฝันเกลื่อนกลาดในสมอง นางพยายามที่จะหวนคิดถึง แต่เมื่อเห็นถึงหน้ากากอันคุ้นเคยบนใบหน้าของจวินจิ่วเฉิน นาง๻็ตกตะลึงทันที “นายก้อนน้ำแข็งเหม็น…”