เรื่อง ทะลุมิติไปเป็นฮองเฮา พร้อมระบบเชฟเทพนักปรุง
มู่ชิงเซียวขมวดคิ้วเ้และพูดเสียงเครียด “มือปราบิ เจ้า่าหาว่าแม่นางเฟิงขโมยวัตถุดิบของวังหล มีหลักฐานแน่ชัดหรือไม่ หากไม่มีหลักฐาน เช่นั้ขออภัย แม่นางเฟิงเป็แขกคนสำคัญในจวนสกุลมู่ของข้า ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้านำตัวแม่นางเฟิงไปจากที่นี่โดยเด็ดขาด!”
คนที่ปกติแ้มีท่าทีสุภาพอ่อนโยนและเหนียมอายอยู่เป็นิจ ัมีช่เวลาห้าวหาญเช่นี้ เฟิ่งเฉี่ยนลอบมองเขาอย่างตกตะลึงไม่ได้
ดตาของิห่ายเฟิงไหววูบ าตาั้พลันเืบไปเห็นข้าวผัดไข่สิบจานที่วางอยู่บนเตา ริมฝีปากของเขาจึงยกขึ้นเป็รอยยิ้มเย็นชาและ่าว่า “หลักฐานหรือ”
เขาชี้นิ้วขึ้นมา “ของเ่าี้ก็คือหลักฐาน!”
มู่ชิงเซียวตะลึงงัน เฟิ่งเฉี่ยนเองก็ตะลึงงันเช่นกัน
ิห่ายเฟิงหัวเราะอย่างลำพองใจ “วัตถุดิบที่นำมาใช้ประกอบอาหารหลายจานี้ล้วนเป็วัตถุดิบเทพั้สูงั้สิ้น แม่นางอธิบายได้หรือไม่ว่าวัตถุดิบเ่าี้มาจากที่ใด”
เฟิ่งเฉี่ยนเงียบงัน
มู่ชิงหว่านเดินเข้ามาในห้องครัวในี้ นางพูดแทรกขึ้นว่า “จากวัตถุดิบเ่าี้แ้บนตัวของนางยังมีวัตถุดิบเทพีมากมาย ข้าและน้องสาวของท่าน พี่ญิหลันได้เห็นกับตาตนเองเมื่อวานี้ ข้ากล้าแน่ใจว่าวัตถุดิบเทพเ่าี้ของนางล้วนบอกที่มาไม่ได้ มือปราบิรีบักุมตัวนางัไปศาลาว่าาเพื่อไต่สวนให้ชัดเจนเถอะ!”
แสงตาเฟิ่งเฉี่ยนไหววูบ นางัประเด็นสำคัญได้แ้ ชัดเจนเืเกินว่าที่คนเ่าี้พากันมาักุมตัวนางเพราะมีคนคอยบงาอยู่เื้หลัง และผู้บงาก็คือโฉมสคราญจอมเย็นชาที่ได้พบเมื่อวานคนั้—หลันเยว่หรู!
ช่างเป็คนต่ำช้าเลวทราม!
ตัวนางเองไม่หน้าทว่าัให้พี่ชายของนางเป็คนหน้าแทน คิดว่าทำเช่นี้แ้จะกำจัดนางไปให้พ้นทางโดยไม่มีผู้ใดล่รู้ได้ ั้ยังรักษาภาพพจน์เทพธิดาสะอาดบริสุทธิ์ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องสกปรกทางโลกในาตาของมู่ชิงเซียวหรือ
เฮอะ!
ในชีวิตของข้าเฟิ่งเฉี่ยนเกลียดที่สุดก็คือคนหน้าไหว้หลังหลอก คนั่ที่ต่อหน้าีอย่างลับหลังีอย่าง!
แค้นี้ ข้าได้จดจำเอาไว้แ้!
ิห่ายเฟิงขมวดคิ้วมุ่น ก่อนที่จะมาที่นี่น้องสาวได้กำชับนักกำชับหนาว่าห้ามเอ่ยถึงนาง ทว่ามู่ชิงหว่านัเปิดโปงน้องสาวเสียแ้
เขาได้แต่ลอบใจในใจ แววตาคมปลาบถลึงใส่เฟิ่งเฉี่ยน “ี้พยานบุคคลและพยานหลักฐานพร้อมมูล เจ้ายังมีอะไรจะพูดีหรือไม่ ้าเมืองมีกฎหมายเ้งวดเชื่อว่าคุณชายมู่คงไม่กล้าปกป้องเจ้าต่อหน้าธารกำนัลกระมัง”
มู่ชิงเซียวั่าหน้า “ข้าเชื่อในตัวของแม่นางเฟิง นางไม่มีวันทำเรื่องเช่นี้มาแน่นอน! ีประาหนึ่ง บนวัตถุดิบเทพไม่ได้ทำสัญลักษณ์อันใดไว้ เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าพวกมันคือวัตถุดิบที่ขโมยมาจากวังหล วัตถุดิบมากมายสูญหายไปจากวังหลเหตุใดจึงไม่มีข่าวคราวเล็ดรอดมาแม้แต่น้อย มือปราบิไม่คิดว่าน่าสงสัยอย่างยิ่งหรอกหรือ”
เฟิ่งเฉี่ยนคิดไม่ถึงว่าเขาจะปกป้องนางถึงเพียงี้จึงรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างที่สุด
“คุณชายมู่อย่าเพิ่งใจร้อน! หากไม่มีหลักฐานแน่ชัด ข้าผู้แซ่ิไม่มีทางมาักุมคนอย่างไร้เหตุ” ิห่ายเฟิงแค่นยิ้มเย็นชาโบกมือ “เ็ๆ นำพยานเข้ามา!”
เฟิ่งเฉี่ยนขมวดคิ้ว รอดูว่าเขาจะหาใครมาเป็พยาน
ไม่นานนักบุรุษในชุดขันทีคนหนึ่งถูกนำตัวเข้ามา เขาหันไปคารวะิห่ายเฟิง “มือปราบิ”
ดตาของิห่ายเฟิงทอประกายแรงกล้า “บอกกับคุณชายมู่ว่าเจ้าเป็ใคร พำนักอยู่ที่ใดและทำอาชีพอันใด”
ชายผู้ั้ตอบ “่าื่ หลี่ต้าเป่า เป็ขันทีในห้องเครื่องของวังหลขอรับ”!
เฟิ่งเฉี่ยนไม่แสดงทางสีหน้าทว่าใจัเต้นเร็วราวกับตีกลอง มือปราบิผู้ี้ได้เตรียมามาเป็อย่างดีจริงๆ กระทั่งขันทีในห้องเครื่องของวังหลก็ยังหามาจนได้ เขาคงไม่รู้ว่านางเป็ฮองเฮากระมัง
ิห่ายเฟิงจ้องเฟิ่งเฉี่ยนและแค่นหัวเราะเสียงเย็น “หลี่ต้าเป่า เจ้าบอกกับคุณชายมู่ไปว่าสตรีนางี้เป็ใคร นางทำอะไร”
เฟิ่งเฉี่ยนกำหมัดแน่น
“นางเป็คนในวังหล...” คำพูดประโยคแรกของหลี่ต้าเป่าทำให้เฟิ่งเฉี่ยนใจตุ้มๆ ต่อมๆ ได้ยินคำพูดต่อมาของเขา “เป็นางกำนัลในห้องเครื่อง เฟิงเฉี่ยน...เป็นางที่ขโมยวัตถุดิบเทพในห้องเครื่องขอรับ!”
มู่ชิงเซียวตื่นตะลึงด้วยไม่อยากจะเชื่อ
มู่ชิงหว่านมีสีหน้าราวกับรู้อยู่แ้ “พี่รอง ี้มีั้หลักฐานและพยาน ท่านเชื่อได้แ้กระมัง ข้ามองนางปราดเีก็รู้ว่านางเป็โจรลับๆ ล่อๆ ไม่ใช่ิ่ของดีอันใดเจ้าค่ะ!”
มู่ชิงเซียวยังคงไม่ยิน เขาหันไปมองเฟิ่งเฉี่ยน “นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่”
มือที่กำเป็หมัดแน่นคลาย ริมฝีปากของเฟิ่งเฉี่ยนคลี่เป็รอยยิ้มเยียบเย็น นางกระจ่างแจ้งแ้ว่าั้หมดี้เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ เพื่อให้ร้ายนางมือปราบิถึงกับไปหาคนมาเป็พยาน ช่างทุ่มเทแรงกายแรงใจเืเกิน!
ิห่ายเฟิงไม่ให้โอกาสนางอธิบาย เขาคำสั่งลงมาทันที “เ็ๆ ัตัวนาง!”
“ข้าจะดูว่าใครกล้า” จวักแปลงกายพันชั่งในมือของเฟิ่งเฉี่นเปล่งปรายวิบวับ เ่าเจ้าหน้าที่ได้แต่ประสานาตากันไปมา ทุกคนยังคงเกรงกลัวต่ออานุภาพของจวักแปลงกายพันชั่ง
ิห่ายเฟิงเห็นคนั้หมดไม่กล้ารุกไปข้างหน้า จึงตวาดเสียงั “ล้วนเป็ิ่ของไร้ประโยชน์ั้สิ้น!”
เขาตัดสินใจลงมือเอง
กระบี่ยาวในมือเพิ่งจะวาดไปได้เพียงกึ่งหนึ่ง พลันได้ยินเสียงแหลมสูงัขึ้น “ฝ่าบาทเสด็จ—“
คนั้หมดได้แต่ตกตะลึง
“ท่านพี่เช่อ!” มู่ชิงหว่านเป็คนแรกที่วิ่งเข้าไปหาเขา
ิห่ายเฟิงเลิกคิ้วเมื่อได้สติ “รีบตามข้าไปรับเสด็จฝ่าบาท”
หลังจากรอให้ทุกคนไปแ้ มู่ชิงเซียว่ากับเฟิ่งเฉี่ยนว่า “แม่นางเฟิงไม่ต้องเป็กังวล ข้าไม่มีทางปล่อยให้พวกเขาักุมตัวเจ้าไปเด็ดขาด”
เฟิ่งเฉี่ยนรู้สึกซาบซึ้งใจ “หากข้าขโมยวัตถุดิบมาจากวังหลจริงๆ เล่า”
มู่ชิงเซียวตอบอย่างไม่ลังเลว่า “ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องมีาลำบากใจที่ไม่อาจเอ่ยปากแน่นอน”
เฟิ่งเฉี่ยนหัวเราะเบาๆ าอบอุ่นาหนึ่งท่วมท้นเข้ามาในจิตใจ นางมองเขาแ้อดคิดถึงศิษย์พี่นักเรียนแพทย์ไม่ได้ ไม่ว่านางจะทำอันใดเขาล้วนปกป้องนางเ าไว้เนื้อเชื่อใจที่ปราศจากกฎเกณฑ์และไร้เงื่อนไขเช่นี้ เป็ิ่ที่หาได้ยากที่สุดบนโลกี้!
นางก้าวขึ้นมาข้างหน้าแ้ตบไหล่ของเขา ดตาของนางทอประกายเจิดจ้าเมื่อ่ากับเขาด้วยน้ำเสียงยืนกรานแน่วแน่ “ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าเอง”
มู่ชิงเซียวตะลึงงัน ยังไม่ทันรอให้เขาตั้งตัวได้ เฟิ่งเฉี่ยนเดินไปจากห้องครัวเสียแ้
เขาหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ ี้ตกลงใครดูแลใครกันแน่
ลานเรือนด้านหน้า คนในจวนสกุลมู่ั้หมดล้วนมารับเสด็จฮ่องเต้ คนั้หมดคุกเข่าอยู่บนพื้นเต็มไปหมด เฟิ่งเฉี่ยนมองไปเพียงปราดเีก็พบเซวียนหยวนเช่อยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน วันี้เขาสวมอาภรณ์ลำลอง ชุดยาวสีเงินยั้ทำให้กรอบหน้าของเขาดูอ่อนโยนลงมาก ทว่ายังคงมิอาจบดบังรัศมีของเชื้อพระศ์ ชนชั้นสูงที่เปี่ยมไปด้วยบารมีและาน่าเกรงขามที่ติดตัวมาแต่กำเนิดของเขาลงได้
เขาเห็นนางแ้เช่นกัน ท่ามกลางแววตาตกตะลึงั้ปนเปไปด้วยาประหลาดใจ อาจเป็เพราะนี่เป็ครั้งที่เขาเห็นนางแต่งกายเรียบง่ายทว่าดูสง่างามเช่นี้ เมื่อเห็นแวบแรกจึงจำนางไม่ได้
ในอดีตฮองเฮางดงามหยาดฟ้ามาดิน ทว่ารสนิยมของาแต่งกายและาแต่งหน้าั้ทำให้คนไม่ปรารถนาจะเข้าใ้ หากมิใช่สวมอาภรณ์สีแดงสดก็สีม่เ้ เครื่องประดับบนศีรษะล้วนส่งประกายสีทองระยิบระยับ ราวกับกลัวว่าผู้อื่นจะไม่รู้ว่านางั้มั่งมีและมีฐานะสูงส่ง ัั้ทุกครั้งที่เซวียนหยวนเช่อเห็นนางก็มักจะรู้สึกอิดหนาระอาใจ าแต่งกายเรียบง่ายเช่นวันี้ด้วยอาภรณ์สีพื้นทว่าดูสง่างามถือเป็ครั้งแรกที่เซวียนหยวนเช่อได้พบเห็น ในแววตาจึงมีาชื่นชมพาดผ่านครู่หนึ่ง ทว่าสุดท้ายก็เป็เพียงารู้สึกแปลกใหม่เท่าั้
มู่ชิงหว่านคุกเข่าอยู่บนพื้นลอบมองใบหน้าหล่อเหลาของเซวียนหยวนเช่อ พบว่าเขากำลังมองเฟิ่งเฉี่ยน ไฟริษยาที่มิอาจควบคุมได้กองหนึ่งพลันลุกโหมขึ้นมา นางจึงหันไปตวาดใส่เฟิ่งเฉี่ยนว่า “บังอาจ! ฮ่องเต้ประทับอยู่ที่นี่ เจ้ายังไม่คุกเข่าี”
คนั้หมดมองไปทางเฟิ่งเฉี่ยนพร้อมเพรียงกัน
เฟิ่งเฉี่ยนเพียงแค่ยอบกายลงเล็กน้อย “ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”พ
จากั้นางัยืนอยู่ที่นั่นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มู่ชิงหว่านถึงกับโง่งมไปเลยทีเี คนของพวกเขาในจวนสกุลมู่ล้วนคุกเข่าอยู่บนพื้น นางัยืนถวายพระพร นี่มิใช่เยาะเย้ยถากถางว่าสกุลมู่ของพวกเขามีฐานะด้อยกว่านางหรอกหรือ
ที่น่าโมโหที่สุดก็คือ ฮ่องเต้ถึงกับไม่ตำหนินาง ในทางักันัใช้าเงียบแทนาอนุญาต...
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??