เรื่อง ทะลุมิติไปเป็นฮองเฮา พร้อมระบบเชฟเทพนักปรุง
คนพี่น้องได้ยินเสียงจึงหันไปมอง เห็นเพียงเฟิ่งเฉี่ยนที่ปาฏาขึ้นด้านนอกศาลารับลมตั้งแต่เื่ใดไม่มีใครรู้ นางกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา
“ุชายมู่ ุูู่ ข้าคงไม่ได้มารบกวนพวกท่านกระมัง”
ทันทีที่มู่ชิงหว่านเห็นนางก็มีโทสะจนดวงตาแดงก่ำ “เ้ามาทำอันใด มาแสดงอำนาจต่อหน้าข้าเช่นั้หรือ”
เฟิ่งเฉี่ยนตะลึงงัน “แสดงอำนาจ?แสดงอำนาจอันใดกัน”
นางยืดเอวแ้พูด่าเกียจคร้านว่า “ข้าเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน จนปวดเอวไปแ้ เหนื่อยแทบตาย ไหนเลยจะมีเรี่ยวแรงมาแสดงอำนาจกับเ้า”
มู่ชิงหว่านได้ยินเช่นั้ัให้หน้าตาหูแดง นางพูดเสียงสั่นด้วยโทสะ “เ้า...เ้า...คำพูดเช่นี้เ้าก็ยังพูดออกมาต่อหน้าผู้คนได้ เ้ามันช่างหน้าไม่อายนัก!”
พูดแ้นางก็กระทืบเท้า วิ่งออกไป
เฟิ่งเฉี่ยนเต็มไปด้วยความงุนงง นางขมวดคิ้วมุ่น่าครุ่นคิด “ข้าพูดอะไรผิดใช่หรือไม่ เหตุใดนางจึงได้มีโทสะเช่นี้”
หันมามองมู่ชิงเซียว พบว่าแก้มทั้งข้างของเขาออกจะแดงอยู่บ้าง สีหน้าเต็มไปด้วยท่าทีประดักประเดิด
"เ้าหน้าแดงอันใดกัน”
มู่ชิงเซียวกระแอมกระไอปิดบังท่าที “ไม่มีอันใด! อ้อ ูต้องแ้ ยังมิได้ขอบุแม่นางเฟิง ในมี่สุดท่านปู่ก็กินข้าวได้แ้”
“ท่านอย่าเพิ่งรีบร้อนกล่าวขอบุข้า! ข้ายังหาสาเหตุของอาการเจ็บป่วยของไท่ฟู่ไม่พบ!” แม้จะอ่านตำราแพทย์มาแ้ทั้งวัน แต่เฟิ่งเฉี่ยนกลับหาวิธีัษาไท่ฟู่ไม่ได้
ใบหน้าคมสันของมู่ชิงเซียวปาฏให้เห็นความกังวล “ท่านปู่กลับมาจากเมืองหลวงครั้งี้ เดิมทีได้รับปากกับฝ่าบาทว่าจะสอนไท่จื่อด้วยัเอง ใครเลยจะรู้ว่า...”
ที่แท้เซวียนหยวนเช่อได้เชิญไท่ฟู่มาทำหน้าที่สอนเย่เอ๋อร์หรือ ไท่ฟู่เป็อาจารย์ที่ไม่เลวคนหนึ่งทีเี เขาเป็คนถ่อมตน ่า สุภาพและหนักแน่นมั่นคง ที่สำคัญยิ่งไปกว่าั้ก็คือ เขาสามารถสอนเซวียนหยวนเช่อออกมาได้่าโดดเด่น ย่อมต้องเป็ัเลือกที่ดีที่สุดที่จะทำหน้าที่เป็คนสอนเย่เอ๋อร์!
เพื่อเย่เอ๋อร์ นางจะต้องัษาเขาเต็มกำลังเพื่อให้เขาหายดีให้ได้!
“ุชายมู่ ท่านรู้หรือไม่ว่าในแคว้นเป่ยเยียน นอกาัวงแ้ ยังมีที่ไหนีบ้างที่มีตำราแพทย์ค่อนข้างครบถ้วน”
มู่ชิงเซียวครุ่นคิดแ้ตอบว่า “ในแคว้นเป่ยเยียน ว่าด้วยเรื่องหอตำรา หากหอตำราของสำนักศึกษาเทียนหงถือเป็ที่ ก็ไม่มีผู้ใดกล้าเป็ที่หนึ่ง!”
“สำนักศึกษาเทียนหงหรือ” เฟิ่งเฉี่ยนตาเป็ประา “ข้าไปเยี่ยมชมหอตำราของสำนักศึกษาเทียนหงได้หรือไม่”
มู่ชิงเซียวประหาใจ “ท่านต้องการไปหาตำราแพทย์หรือ”
เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้า “ข้าต้องการอ่านตำราแพทย์ที่มีอยู่ทั้งสักเที่ยวหนึ่ง บางทีอาจจะหาวิธีการัษามู่ไท่ฟู่ได้”
ดวงตาของมู่ชิงเซียวทอประาวาบก่อนจะหม่นลงในภายั “ตำราแพทย์ในหอตำรา่าน้อยๆ มีนับร้อยเล่ม กว่าจะอ่านพวกมันคงต้องใช้เวลาหลายเดือนเป็่าน้อย”
เฟิ่งเฉี่ยนเข้าใจถึงความหนักใจของเขา แต่นางมีเครื่องมือศึกษาตำราแพทย์ เวลาเพียงชั่วคืนหนึ่งก็เพียงพอแ้! แน่ว่าคำพูดเหล่าี้นางมิอาจบอกแก่เขาได้! ต่อให้นางบอกเขา เขาก็ไม่มีทางเชื่อ!
“ทุกเรื่องขึ้นอยู่กับการกระทำของคน! หากไม่ลองู จะรู้ได้่าไรเล่า”!
เื่ได้ยินนางพูดเช่นี้ มู่ชิงเซียวซาบซึ้งใจ สายตาที่มองนางจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบุ “หากแม่นางเฟิงัษาอาการป่วยของท่านปู่ได้จริงๆ ข้าจะัษาสัญญาที่ให้ไว้แน่!”
“สัญญา?” เฟิ่งเฉี่ยนจำไม่ได้นานแ้ว่าเขาเคยให้สัญญาอะไรไว้
มู่ชิงเซียวหัวเราะเบาๆ ปาฏให้เห็นฟันขาวสะอาดเรียงเป็แถว ยิ้มั้อบอุ่นและสดใสผิดจากยามปกติ
เบื้องัผ้าม่านสีเขียวที่อำพรางได้ดีในยามค่ำคืน ท่ามาดาวดาวที่ดารดาษอยู่เต็มท้องฟ้า รถม้าคันหนึ่งฉวยโอกาสยามราตรีวิ่งฝ่าความมืดมิดออกไปบนถนนสายเล็กมุ่งหน้าออกนอกเมือง
มู่ชิงเซียวเป็ผู้บังคับรถม้าคันั้ด้วยตนเอง อาภรณ์สีเขียวและเส้นผมดำขลับของเขาปลิวไปกับสายลม
ผ้าม่านของรถม้าด้านัูเลิกขึ้นมุมหนึ่ง ปาฏให้เห็นใบหน้างดงาม นางก็คือเฟิ่งเฉี่ยนนั่นเอง
“ุชายมู่ พวกเรายังต้องใช้เวลาีนานเท่าใดจึงจะไปถึงสำนักศึกษาเทียนหง”
มู่ชิงเซียวหันกลับมาตอบว่า “่าน้อยต้องใช้เวลาีราวๆ ึ่ชั่วยาม!”
เฟิ่งเฉี่ยนพยักหน้า “ค่ำมืดดึกดื่นเช่นี้ยังต้องให้ท่านออกนอกเมืองเป็เพื่อนข้าี ข้ารู้สึกเกรงใจจริงๆ!”
มู่ชิงเซียวหัวเราะ “แม่นางเฟิงทำเพื่อัษาอาการท่านปู่ของข้า ไม่ใส่ใจว่าเป็าวันหรือาคืน ลำบากหรือไม่ เป็ข้ามากกว่าที่ควรจะรู้สึกเกรงใจ”
เฟิ่งเฉี่ยนละอายแก่ใจ นางเลือกเวลาาคืน ที่จริงเป็เพราะเซวียนหยวนเช่อมาพักในห้องของนาง าคืนนางไม่มีที่ จึงคิดว่าไปอ่านตำราแพทย์ที่สำนักศึกษาเทียนหงก็แ้กัน
ึ่ชั่วยามให้ั พวกเขามาถึงสำนักศึกษาเทียนหง
สำนักศึกษาเทียนหง สำนักศึกษาอันดับหนึ่งของแคว้นเป่ยเยียน!
ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองมูหยาง กินพื้นที่เทียบเท่ากับขนาดพื้นที่ของหัวเมืองหัวเมืองหนึ่ง อาณาเขตกว้างขวาง กฎระเบียบเข้มงวด หนึ่งร้อยปีก่อนสำนักศึกษาแห่งี้เคยเป็สำนักศึกษาอันดับหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของแคว้นต้าเยียน ต่อให้สำนักศึกษาทั้งของหลิงอวิ๋นต้าลู่จะมีชื่อเสียง เป็เป้าหมายของจอมยุทธ์ในใต้หล้าล้วนใฝ่ฝันที่จะเข้าไปเป็ศิษย์ ทว่าชื่อเสียงของสำนักศึกษาค่อยๆ เสื่อมถอยลงตามกาลเวลา มาบัดี้สำนักศึกษาเทียนหงอยู่ในอันดับสิบของสำนักศึกษาทั้งของต้าเยียน
ทว่าหากมองจากภายนอกแ้ยังคงมองเห็นร่องความเจริญรุ่งเรืองในอดีต อาคารก่อสร้างัหนึ่งสูงเทียมเมฆ ให้ความรู้สึกโอ่อ่าไม่สามัญ โดยเฉพาะ่ายิ่งประตูใญ่ของสำนักศึกษาที่สูงถึงสิบเมตร ต้องแหงนหน้าจนคอตั้งจึงจะมองเห็นัอักษรสี่ัที่เขียนว่า สำนักศึกษาเทียนหง บันไดหนึ่งร้อยขั้นตรงไปถึงอาคารหลักของสำนักศึกษา ทำให้จุดที่คนยืนอยู่รู้สึกว่าัเองัเล็กเหลือเกิน
ที่ทำให้เฟิ่งเฉี่ยนยิ่งประหาใจก็คือสำนักศึกษาเทียนหงมีภูเขาล้อมรอบถึงสามด้าน ภูเขาทุกลูกล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นอายเทพ เื่อยู่ท่ามากลิ่นอายเทพที่รายล้อมอยู่รอบๆ ทำให้สำนักศึกษาเทียนหงกลายเป็ดินแดนสวรรค์บนโลกมนุษย์ เป็สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติช่างเหมาะสมแก่การบำเพ็ญตน
กฎเกณฑ์ของสำนักศึกษาเทียนหงเข้มงวดกวดขัน หากว่ากันตามกฎระเบียบแ้เฟิ่งเฉี่ยนที่ไม่ได้เป็อาจารย์หรือศิษย์ของสำนักศึกษาไม่อาจเข้าไปในสำนักศึกษาได้ ทว่ามู่ชิงเซียวมีสถานะพิเ ท่านปู่ของเขาเป็สหายคนสนิทของอาจารย์ใญ่ในสำนักศึกษา บิดาของเขาเป็รองอาจารย์ใญ่ของสำนักศึกษา มารดาเป็อาจารย์ของสำนักศึกษา ่เขาเป็นักเรียนรุ่นเยาว์ที่มีความโดดเด่นของสำนักศึกษา ได้ยินว่าเขามาด้วยสาเหตุการเจ็บป่วยของมู่ไท่ฟู่ ีทั้งมู่ชิงเซียวมาด้วยตนเอง องคัษ์จึงปล่อยให้พวกเขาเข้ามา่าเกรงอกเกรงใจ!
ภายใต้การนำทางของมู่ชิงเซียว ทั้งจึงเข้ามาด้านในได้่าราบรื่น และมาถึงหอตำรา่ารวดเร็ว
หอตำราตั้งอยู่ในตำแหน่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสำนักศึกษาเทียนหง อยู่ใกล้ภูเขาและแม่น้ำ เื่อยู่ท่ามาราตรีอันมืดมิดจึงยิ่งเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขามและยิ่งใญ่
ยามี้ท้องฟ้ามืดสนิทแ้ แสงจากโคมไฟในหอตำรายังคงสว่างอยู่ ได้ยินมู่ชิงเซียวแนะนำว่า สำนักศึกษาส่งเสริมให้ศิษย์ขยันหมั่นเพียรศึกษาหาความรู้ ดังั้หอตำราของสำนักศึกษาจึงแทบจะเปิทั้งเวลาาวันและาคืน เปิประตูใญ่ต้อนรับผู้ใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ
"ศิษย์พี่ชิงเซียว!”
“ศิษย์พี่ชิงเซียว เหตุใดวันี้จึงกลับสำนักศึกษาเล่า”
“ศิษย์พี่ สุขภาพของไท่ฟู่ดีขึ้นบ้างหรือไม่”
“คารวะศิษย์พี่...”
ขณะที่เดินเข้าไปในหอตำรา มีคนเข้ามาทักทายมู่ชิงเซียวไม่หยุดหย่อนแสดงให้เห็นว่าเขาเป็ที่ชื่นชอบของคนทั่วไป มู่ชิงเซียวสนทนาตอบพวกเขาทีละคนด้วยท่าทีสุภาพและมีน้ำอดน้ำทน
เฟิ่งเฉี่ยนอดไม่ได้ที่จะหยอกเย้าว่า “ุชายมู่ มีสตรีจำนวนไม่น้อยในสำนักศึกษาที่หมายปองท่านกระมัง”
มู่ชิงเซียวตะลึงงัน เห็นนางพยักเพยิดปลายคางขึ้นไปีด้านหนึ่ง ทางั้กำลังมีสตรีหลายคนรวมักันอยู่ พวกนางกำลังสนทนา ลอบมองเขาและกล่าวถึงเขา เขาจึงอดที่จะหน้าแดงไม่ได้
“แม่นางเฟิงอย่าได้หัวเราะข้าเลย ข้าเป็คนน่าเบื่อหน่าย ไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าทำ่าไรจึงจะทำให้สตรีชมชอบได้!”
เฟิ่งเฉี่ยนยิ้มจนดวงตาโค้งลง “รอเื่ท่านได้พบกับคนที่ท่านชอบจริงๆ ท่านก็จะรู้ได้ด้วยัเอง เื่ัคนๆ หนึ่ง ก็จะทุ่มเทจิตใจเพื่อคนๆ ั้ทั้ง ชิงชังเหลือเกินที่ไม่อาจควักหัวใจทั้งดวงออกมามอบให้เขา”พ
มู่ชิงเซียวสังเกตใบหน้างดงามของนาง สายตาัหม่นวูบลงเล็กน้อย “ท่านรู้สึกต่อฝ่าบาทเช่นี้เหมือนกันใช่หรือไม่”
“ฝ่าบาทหรือ เรื่องอะไรจะมอบให้เขา ข้าไม่มีทางแบ่งปันความัของข้ากับหญิงอื่นเด็ดขาด!” เฟิ่งเฉี่ยนพูดราวกับนางไร้เยื่อใย แ้เดินไปข้างหน้า
มู่ชิงเซียวเดินตามนางอยู่ด้านั แววตาเปล่งประาขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหาใจ
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??