เรื่อง หงสาสีนิล
จากตำแหน่งที่ดูเหมือนปากน้ำเต้าั้ เมื่อมาจะเห็นเสาไม้ปักเรียงกันอยู่
นี่คือแห่งาพยายามนับสิบวันของอาลู่
เด็กหนุ่มตั้งใจทำงาน ซ้ำยังฉลาดเฉลียว
แม้อายุจะยังน้อย ทว่าาทนกลับไม่เลว
แต่เสาไม้ที่เขาปักไวุ้วัน วันต่อมาก็มักจะล้มลงอย่างไม่มีสาเหตุ ะั้อาลู่ก็ยังไม่ถใจ ยังคงหาทางซ่อมแซมอยู่เสมอ
รอบแรกเขาลองฝังหินลงไปด้วย แต่ก็พบว่าเสาไม้ยังล้มอยู่ดี จึงลองขุดหลุมให้ลึกกว่าเดิม ใส่หินให้มากกว่าเดิม ลัพธ์ในวันที่สองก็ยังเป็นดังเดิม เสาไม้ยังคงล้มกองดังวัน่ๆ
ต่อมาอาลู่จึงไม่ได้ขุดหลุมให้ลึกและใส่หินลงไปเช่นทีแรก แต่กลับไปหาหญ้าเหนียวๆ มาเพิ่ม เวลาฝังเสาไม้เขาก็ผสมหญ้า หินและดินฝังลงไปด้วยกัน
เช้าวันี้ก็พบว่าเสาไม้เ่าั้ไม่ล้มลงเช่นวันที่ผ่านๆ มา
เ่าปาเห็นดังั้ก็พยักหน้าด้วยาพอใจ
จึงหน้าเด็กหนุ่มแล้วเอ่ยึ้ว่า “นับตั้งแต่วันี้ เจ้าสามารถดูแลม้าได้แล้ว ุวันจากี้ข้าจะให้หมั่นโถวเจ้าเพิ่มลูกหนึ่ง”
ใบหน้าของเด็กหนุ่มพลันเปี่ยมไปด้วยาสุข
แม้ช่วงี้ทารกน้อยจะได้รับอาหารเพิ่มจากแม่นางหลัวเกือบุวัน แต่ก็ไม่อาจเป็นไปได้ในระยะยาว อารมณ์ของแม่นางหลัวั้ึ้ๆ ๆ ผิดปกติ เื่ี้ทำให้เด็กหนุ่มกลุ้มใจไม่น้อย
แต่เพียงได้หมั่นโถวเพิ่มมาหนึ่งลูกเช่นี้ ้สาวตนก็สามารถกินหมั่นโถวี้แทนได้
เ่าปารู้สึกชอบเจ้าเด็กหนุ่มคนี้ไม่น้อย เพราะเาั้ลาด ซ้ำยังไม่หาเื่ปวดหัวให้เขา
เขาหยิบขวดมาขวดหนึ่ง จากั้จึงเทของเหลวสีเหลืองกองหนึ่งมา จากั้จึงสาดใส่อาลู่ทีหนึ่ง
ะทั่งทารกน้อยก็พลอยถูกของเหลวั้ะเซ็นใส่เช่นกัน
เหม็นเหลือเกิน
“ม้าบนเขาที่นี่ส่วนใหญ่ที่เกิดมาก็เป็นม้าป่า พวกมันดุดันนัก คนปกติเข้าใกล้อาจโดนมันเหยียบตายได้ เจ้าราดฉี่ม้าใส่ตัวเสียหน่อยก็ได้แล้ว เจ้าอย่าไปบอกสูตรลับของข้ากับใครเล่า”
อาลู่พยายามทนกับกลิ่นเหม็น แล้วพยักหน้าตอบ
“ขอบใจท่านอาปามาก”
เ่าปาเก็บขวดลงะเป๋า าจริงแล้วเขาไม่กลัวเจ้าเด็กี้ไปบอกสูตรลับของเขากับคนอื่นหรอก หากเจ้าเด็กตรงหน้าเอาสูตรลับเขาไปบอกคนอื่นก็แล้วไปเถอะ บนเขาี้ คนอิจฉางานเลี้ยงม้าของเขาก็มีนับไม่ถ้วนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ะทั่งคนที่เคยคิดจะลองดี ราดฉี่ม้าไปั้ตัวก็ไม่ช่วยอะไร เิโซซัดโซเซเข้าไปในฝูงม้าไม่ทันไร เขาก็้เข้าฝูงม้าไปลากมาเสียแล้ว ซ้ำเมื่อมากะโหลกก็ถูกเหยียบจนแบนไม่มีชิ้นดี!
แม้จะเป็นฉี่ม้าเหมือนกัน แต่ฉี่ม้า้เป็นฉี่ราชาม้าจึงจะใช้ได้
เื่ฉี่ม้าธรรมดาพวกั้แท้จริงแล้วกลับใช้ไม่ได้เื่เลยสักิ เื่ี้จึงจะนับว่าเป็นาลับที่แท้จริงของเขา
อาลู่ที่เพิ่งโดนราดฉี่ม้าไปจนชุ่มั้ตัว รู้สึกว่าตนั้ตื่นเต้นเล็กน้อย
ุวันที่เขาซ่อมเสาไม้อยู่ั้ เขาได้แต่เฝ้าฝูงม้าห้อตะบึง ยามพวกมันหัวใจก็พลันเต้นโครมคราม เลืในกายล้วนสูบฉีดไปุอณู
เด็กหนุ่มไม่เคยขี่ม้ามา่
ตอนท่านพ่อท่านแม่ยังอยู่ เขาฝันว่าตนจะมีแกะสักฝูง ี้าัสี่ตัว เวลาต้อนแกะก็สามารถขี่ม้าต้อนมันได้ คุณาตระกูลต้าปาซือเองก็มีม้า ขนขาวผิวชมพูดูแล้วน่ารักน่าชัง แต่บัดี้เขาเหลือเพียงาฝันที่จะมีชีวิตรเท่าั้
ทารกน้อยราวกับรับรู้ว่าเด็กหนุ่มกำลังรู้สึกเศร้า เฉินโย่วจึงยื่นมือเล็กๆ มาดึงหูี่าตนทีหนึ่ง
เมื่อเด็กหนุ่มจึงได้แต่หันมายิ้มน้อยๆ ให้ทารกบนหลังตน
“ไปขี่ม้ากัน ี่าจะพาเจ้าขี่ม้าตัวใหญ่!” อาลู่เร่งฝีเท้าึ้ แล้ววิ่งทันที
เฉินโย่วน้อยก็ “ฮ่าๆๆ” หัวเราะเสียงดังึ้
นางชอบารู้สึกเวลาี่าวิ่งเป็นที่สุด
แค่ี่าวิ่งจนห่อผ้าอ้อมของนางแกว่งไปมา นางก็รู้สึกมีาสุขแล้ว
เ่าปาไม่ได้หันกลับมา ทว่าเมื่อได้ยินเสียงทารกน้อยหัวเราะ ก็ชะงักฝีเท้าลงครู่หนึ่ง่จะเิต่อไปด้านหน้า
การเฝ้าฝูงม้าจากไกลๆ กับการได้เข้ามาสัมผัสใกล้ชิดพวกมันั้ ให้ารู้สึกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
“ราชาม้าั้พยศที่สุด ม้าตัวอื่นเจ้าล้วนจับได้หมด แต่กับราชาม้าั้เจ้าอย่าไปยุ่งกับมันเชียว” เ่าปาปากเตือนอาลู่อีกครั้ง
อาลู่จึงพยักหน้าตอบอย่างว่าง่าย
ถึงะั้ในใจกลับรู้สึกกลัดกลุ้ม
เพราะเจ้าม้าที่เขาเห็นเมื่อคืน่ ดูแล้วมันคล้ายกับเจ้าราชาม้าเสียจนราวกับเป็นตัวเดียวกัน โดยเฉพาะก้อนนูนปูดบนหัวมัน แม้เขาจะพยายามหาว่าม้าในฝูงตัวอื่นก็มีเหมือนกันหรือไม่ กลับพบว่ามีเพียงเจ้าราชาม้าที่มีก้อนี้
“ทำไมเจ้าราชาม้าถึงมีก้อนบนหัวเช่นั้ละท่านอา” อาลู่ไม่ไหวที่จะถามด้วยาสงสัย
เ่าปาเองแท้จริงก็ไม่รู้ว่าเจ้าราชาม้าทำไมจึงมีก้อนบนหัวเช่นี้ได้ แต่ดูแล้วก็เหมือนว่ามันจะไปชนเข้ากับอะไรมา แต่มันเป็นถึงราชาม้า เหตุแค่ี้ก็ดูจะง่ายไปสักหน่อย าหนุ่มจึงะแอมึ้ครั้งหนึ่งแล้วตอบ “บนหัวมีเขาเช่นี้ เขาว่ามันเป็นลักษณะของั เจ้าม้านี่ก็มีก้อนบนหัว ย่อมหมายาว่ามันน่าจะมีสายเลืัเป็นแน่”
เมื่อได้ยินเช่นั้ ใบหน้าเด็กหนุ่มก็เต็มไปด้วยาตกใจ “ม้าั?”
ที่เ่าปาพูดั้ เขาเองก็ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไร จึงเอ่ยจึงตัดบทไม่ให้เด็กหนุ่มถามต่อ “อย่างไรเสียเจ้าก็จงจำไว้ว่าอย่าไปตอแยเจ้าราชาม้าเชียว ปีี้าาแปรป ลมหนาวก็มาไวกว่าปกติ เจ้าพวกม้ากลัวาหนาวนัก เพราะถ้ามันหนาวจนป่วยส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยรกันนักหรอก ประเดี๋ยวเจ้าก็ตั้งใจตาพวกมันให้ดี หากตัวไหนดวงตาไม่สดใส ก็แปลว่ามันป่วยเสียแล้ว ้รีบแยกมันจากม้าตัวอื่นให้ไว มิเช่นั้ตัวอื่นในฝูงก็จะพลอยป่วยไปด้วย”
อาลู่พยักหน้าแรงๆ สองสามที่จะตามเ่าปาเข้าไปท้ายฝูงม้า ดูาหนุ่มลูบม้าตัวี้ที ตบม้าตัวั้ที แล้วตรวจสอบดวงตาของพวกมันให้แน่ใจ
ในที่สุด เพียงครู่เดียวก็เลือกม้าที่ดูป่วยมาได้ตัวหนึ่ง เจ้าม้าขนเทาขมุกขมัว ดวงตามีแววขุ่นไม่สดใสเหมือนตัวอื่น
“เจ้าเทา เจ้าเองก็ป่วยแล้วสินะ” เ่าปาลูบเจ้าม้าตรงหน้าเบาๆ แววตาของาหนุ่มพลันฉายแววทรมานใจ
อาลู่ยืนเหตุการณ์ตรงหน้าก็รู้สึกปวดใจเช่นกัน ภาพตรงหน้าี้ช่างเหมือนกับตอนแรกที่เขาเห็นว่า้สาวแท้ๆ ของตนป่วยพ
เมื่อเด็กหนุ่มเริ่มเศร้า ทารกน้อยบนหลังก็ยื่นมือมาตีี่า จากั้มือน้อยจึงชี้ไปยังที่หนึ่ง อาลู่ตามก็ไม่รู้ทางั้มีอะไร จึงตัดสินใจเิไปตามทิศที่นางชี้
จากั้เด็กหนุ่มจึงได้พบกับเจ้าม้าที่มีก้อนปูดเป็นตุ่มโตบนหัวอีกครั้ง
ม้าุตัวเมื่อเห็นเจ้าม้าหัวปูดก็พากันหลีกทางให้ จึงปรากฏเป็นภาพเจ้าม้าหัวปูดยืนสูงสง่าอยู่ลำพัง กำลังมาทางเขาและ้สาว
เมื่ออาลู่ตามันก็พบว่า ตาของเจ้าม้าหัวปูดก็เริ่มจะเป็นสีเทาแล้วเช่นกัน
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??