เรื่อง หงสาสีนิล
ทางฟ้ากว้างกลางทุ่งหญ้าพร่างพราวไปด้วยแสงดาว.
ดวงดาวดารดาษกลางท้องฟ้าเบียดเีดกันจนดูคล้ายแม่น้ำสายึ่
บางทีอาจเป็นโชคชะาที่ทำให้ต้าโกวมาถ่ายทคำสั่งี้
บางทีอาจเป็นโชคชะาที่ทำให้เ้าม้าสีนิลหายป่วย
บางทีอาจเป็นโชคชะาที่ทำให้อาลู่ขี่ม้าเป็น
หรือบางทีอาจจะไม่มีโชคชะาอะไรเช่นนั้น
ครั้งี้เหล่าปาไม่เพียงใส่แต่หมั่นโถวใน้ำแกงเ่านั้น เขายังล้วงเนื้อแห้งใส่เพิ่มลงใน้ำแกง
เหล่าปาค่อยๆ ฉีกเนื้อที่ทั้งแห้งทั้งเค็มออกเป็นเ้ๆ ่จะใส่ลงไปใหม้อ
อาลู่ไม่เคยกินเนื้อแห้งเช่นี้มา่ ไม่เพียงแค่เนื้อแห้งธรรมดา เนื้อแห้งที่ทาเกลือไว้ด้านบนเช่นี้ก็ไม่เคย
กินแล้วคงจะมีเรี่ยวแรงไม่น้อย
อาลู่ใวัยที่แทบจะยังไม่เรีย่าวัยแรกรุ่นเีด้วยซ้ำ ิๆ แล้วไม่มีทางจะได้รับ่แบ่งจากเนื้อี้แม้เพียงเสี้ยวเี`
ทว่าบัดี้ชายหนุ่มหลังค่อม ถึงกับใจกว้างฉีกเนื้อถึงครึ่งแผ่นใส่ลงไปใหม้อ ``
เด็กหนุ่มที่นั่งมองอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นท่าทางเหล่าปาก็ลอบกลืนน้ำลายลงคอ
่เฉินโย่วน้อยเมื่อเห็นดังนั้นก็เริ่มก่อความวุ่นวาย ทารกน้อยนำดอกไม้ที่นางแทะไปแล้วจนแหว่งไป่าครึ่งโยนลงไปใหม้อทีละดอกๆ
ถึงกระนั้นเหล่าปาก็ไม่ได้พูดอะไร
เ้าทารกน้อยแทะอยู่นานสองนานยังไม่เป็นอะไร เ้าดอกไม้ี้ย่อม้กินได้แน่ นางโยนใส่ใหม้อก็ดี จะได้ใช้แทนผักป่าเีเลย
จากนั้นเขาจึงลงืฉีกเนื้อแห้งต่อ โดยยังคงฉีกให้เป็นเ้เล็กที่สุด
เหล่าปาเมื่อเห็นแววาหิวโหยดั่งหมาป่าอาลู่ ก็ดึงเนื้อก้อนึ่ให้อาลู่ช่วยฉีก
เด็กหนุ่มวัยกำลังโตคือช่วงที่กินได้มากที่สุด
อาลู่รู้สึกราวกับได้รับความเมตา่าไม่คาดฝันจากเหล่าปายามที่เขาได้รับเนื้อชิ้นหนา มันขนาดยาวราวๆ ึ่ิ้ ทั้งหมดสองชิ้นมาจากเหล่าปา เมื่อสัมผัสเ้าเนื้อี้แล้วก็รู้สึ่ามันออกจะแข็งไปหน่อย
นิ้วือาลู่เรียวยาว ไม่เหืนเหล่าปาที่ทั้งหนาและงอ ดังนั้นเนื้อที่เด็กหนุ่มฉีกจึงดูะเีเป็นเ้สวย่าหน่อย ท่าทีเด็กหนุ่มยามตั้งใจก็พลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
ทั้งสามล้อมวงอยู่ข้างกองไฟ สายาจับ้ไปยังหม้อบนกองไฟว่าเมื่อไหร่จะได้ที่เีที ท่าทางชายหนุ่ม เด็กหนุ่ม และทารกน้อยดูแล้วช่างอบอุ่น และดูราวกับกำลังอยู่ใพิธีการเช่นกัน
่าน้อยสำหรับอาลู่แล้วการที่มีกันและกันเช่นี้ ได้เห็นแสงไฟสะท้อนแก้มแดงๆ เฉินโย่วน้อยที่นั่งอยู่ข้างกายเขาเช่นี้ อะไรจะสำคัญไป่าท้องอิ่มอีกเ่า พรุ่งี้้ไปทำหน้าที่แทนเ้าก้างปลาแล้ว่าไรเ่า ป่ให้มันเป็นเรื่องที่้ขบคิดใวันพรุ่งี้เีจะดี่า ถึง่าไรเรื่องพวกนั้นก็ไม่อาจสู้ตรงหน้าเขาใตอนี้ได้
ทว่าเหล่าปานั้นกลับคิดไปไกล่านั้น
ชายหนุ่มใช้ไม้เล่มึ่กวนอาหารใหม้อ พลางกล่าวกับอาลู่ “เ้าก้างปลาถึงจะเป็นชั่วช้า แต่สมองนั้นทึบนัก เมื่อ่มันก็ชอบมารังควานข้า จนคืนึ่ที่ข้าแกล้งหลอกให้มันมาเห็นว่าข้ากำลังต้มเนื้อมนุษย์อยู่ ทั้งที่จริงข้าเพียงหยิบกระดูกแถวนั้นโยนส่งๆ ้ไป ทว่านับแต่นั้นมันก็ไม่กล้ามาหาเรื่องข้าอีกเลย ไร้หัวคิดเช่นี้ไม่แปลกหรอกที่จะายเร็ว่าอื่น”
อาลู่ได้แต่พยักหน้าตอบราวกับปะหลาดใจ
แต่ใใจเขากลับมั่นใจแล้วว่าที่ถูกโยนลงไปใสระกระดูกนั้นจะ้เป็นเ้าก้างปลาไม่ผิดแน่
“บนภูเขาแห่งี้มีอยู่สามปะเภท ปะเภทแรกคือกำลังหลักใการป้ อีกปะเภทคือแบบข้าที่ทำงานเลี้ยงชีพอยู่บนเขา ่ปะเภทสุดท้ายคือแก่ ป่วยและอ่อนแอ พวกนั้นจะถูกขังไว้ใถ้ำ รอวันเป็น่ึ่กองกระดูกขาวนั่น เพราะเช่นนั้น่าเ้านี่จึงนับว่าโชคดีแล้ว”
“อืม ข้าโชคดีิๆ ี่้าีน้องา มีทั้งทวยเทพคอยคุ้ม” อาลู่ตอบเหล่าปาด้วยน้ำเีงหนักแน่น
เมื่อชายหนุ่มมองทารกน้อยข้างกองไฟ ใบหน้าน้อยๆ นั้นเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม เพียงเ่าี้เขาก็ไม่กล่าวสิ่งใดต่ออีก
เมื่อกลิ่นหอมเนื้อโชยมา ทั้งสามก็ทราบทันทีว่าถึงเวลากินข้าวแล้ว
อาลู่มองเหล่าปาที่กำลังกินเนื้อชิ้นหนา่าระมัดระวัง ใใจก็พลันรู้สึกตื่นเต้น
“ท่านอาปา ท่านรอข้ามีเงิน่เถิด ข้าจะหาเจี่ยวจือให้ท่านกินเช่นกัน เจี่ยวจือนั้นหอม่าเนื้อเีอีก ข้ารับรองเลยว่ามันจะ้เป็นอาหารที่ดีที่สุด”
ทว่าเหล่าปาก็ยังคงก้มหน้ากินต่อ ไม่ได้สนใจคำพูดเด็กหนุ่ม คิดเพียงรอให้เ้าเด็กนั่นมีชีวิตรแล้วค่อยว่ากันเถิด
.......!
วันต่อมา
ท้องฟ้าเพิ่งแสงส่องรำไร อาลู่ก็ออกเิทางเีแล้ว
เด็กหนุ่มแบกน้องาเิไปยังค่าย ด้านหลังยังมีเ้าม้าสีนิลามมาอีกตัว
อาลู่เิ่าถ้ำยาว ่าสะพานเถาวัลย์ ่าทางแคบเลียบหุบเหว เ้ทางเหล่าี้ทำให้อาลู่รู้สึกราวกับได้มาเยือนอีกโลกึ่
ด้านล่างถ้ำนั้นก็คือลานเลี้ยงม้า ทว่าวันี้กลับมีเพียงทุ่งหญ้ากว้างกับม้า และชายหลังค่อมึ่เ่านั้น
เมื่อคิดเช่นี้เด็กหนุ่มก็รู้สึกวางใจ
เพียงแต่ด้านบนถ้ำนั้นกลับมีเีงโหวกเหวก ซ้ำยังมีเข้าออกไม่หยุดดูคึกคักราวกับตลาด
อาลู่รู้สึกกังวลเล็กน้อย
เขาสัมผัสได้ว่าทุกที่นี่ ดูแล้วช่างคล้ายกับสามารถแผ่รังสีอำมหิตได้
จากนั้นเขาก็เห็นนายท่านสามยืนอยู่ท่ามกลางผู้ ใบหน้าชายหนุ่มปะดับรอยยิ้มอบอุ่น สวมชุดคลุมยาวตลร่าง ยามพูดจาก็ทำทีเออออไปกับฝ่ายตรงข้าม
เมื่อชายข้างๆ เผลอกระแทกเขาเข้าทีึ่ เขาก็เพียงยกืขึ้นบังกายเ่านั้น
ใบหน้าเด็กหนุ่มพลันเปลี่ยนเป็นไร้สีเลื
เพราะเขาเพิ่งจะกระจ่างแจ้งว่าเ้าก้างปลานั้นหายตัวไปได้่าไร
ทันใดเขาก็เพิ่งรู้ตัวว่านายท่านสามกำลังมองตนอยู่
ความขึงเครียดบีบรัดเด็กหนุ่มไปทั้งร่าง รู้สึกได้ว่าร่างกายตนสั่นเทิ้ม่าไม่ทราบสาเหตุ
“พิพิ เลี่ยงเลี่ยงาแ้” เมื่อเีงเล็กๆ ที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นดังขึ้นข้างหูอาลู่ ความัเมื่อครู่ก็พลันอันตรธานไป
อาลู่รู้สึ่าพลังทั้งหมดที่หายไปค่อยๆ หวนคืนสู่กาย
แล้วจึงหันไปามเีงทารกน้อย แหงนหน้าไปมองด้านบน
แม่นางหลัวมาแล้ว
แม่นางหลัวใวันี้สวมชุดสีขาว เมื่อปะจวบรวมกับผิวนางที่ขาวราวกับหิมะ ก็ทำให้ร่างบางดูราวกับจะเปล่งแสงได้
อาลู่นั้นรู้สึ่าไม่ได้พบแม่นางหลัวเพียงวันเี พบกันวันี้นางกลับงดงามยิ่ง่าเดิมเีด้วยซ้ำ
ขนาดอาลู่ที่ยังเป็นแค่เด็กหนุ่มที่ยังโตไม่เต็มวัยึ่ยังคิดเช่นี้ ยิ่งไม่้พูดถึงเหล่าชายฉกรรจ์ใค่ายแห่งี้ว่าจะคิดเช่นไร
การปรากฏตัวหลัวอู๋เลี่ยงทำให้ค่ายแห่งี้จากที่เคยเงียบเชียบก็เปลี่ยนมาคึกคักขึ้นทันา
่เด็กหนุ่มนั้นัว่าน้องาตนจะโผเข้าหาแม่นางหลัว จึงได้แต่จับืนางกดไว้กับบ่าตน โชคดีที่ทารกน้อยนั้นรู้ความ จึงแค่ตะโกนปะโยคเมื่อครู่เพียงครั้งเีเ่านั้น ทว่าทันใดแม่นางหลัวก็เิเข้ามาใกล้ตน อาลู่จึงรีบพาน้องาถอยหลังไปก้าวึ่
ชายหนุ่มที่เห็นเหตุการณ์ี้ ต่างพากันหัวเราะครืน
เพราะหากเป็นพวกเขาที่นางฟ้าเช่นแม่นางหลัวเิเข้ามาใกล้เช่นี้ ก็มีแต่จะเบียดเข้าไปแนบชิด แม้ความจริงอาจจะไม่กล้าทำเช่นนั้น ทว่าเพียงได้สูดกลิ่นกายนางสักหน่อยก็ไม่เลวนัก
“เ้าลูกหมานั่นมันัจนถึงขั้นถอยหนีเชียวรึ เกรงว่ายังไม่เคยได้รู้จักสตรีเีมาก่ากระมัง”
“รอเ้าเด็กนั่นมันรู้ว่าหญิงงามนั้นดี่าไร มัน้แทบจะพุ่งตัวไปหาเีกระมัง”
“วะฮ่าๆๆ”
เหล่าชายโฉดหัวเราะ่าไม่เกรงฟ้าัดิน
ทว่านายท่านสามกลับไม่ได้ร่วมหัวเราะไปด้วย
“ได้ยินว่าเ้ามาแทนตำแหน่งเ้าก้างปลา แต่จะลงไปจี้ป้ข้างล่างภูเขา เ้าจะพาทารกน้อยไปด้วยได้่าไร หากจะลงไปก็ฝากนางไว้กับข้า รอเ้ามีชีวิตกลับมา ข้าจึงค่อยคืนนางให้เ้า...อะแฮ่ม”
หลัวอู๋เลี่ยงมิรู้ว่าเหตุใดอยู่ดีๆ ลำคอนางก็แห้งผาก ยามสนทนาจึง้กระแอมออกมา
เด็กหนุ่มพลันค่อยๆ คลายืที่กำอยู่ แล้วหันมองชายโฉดที่ออกันเพื่อรอชมเรื่องสนุก
ทว่ากลับไม่ได้มองไปถึงนายท่านสามที่ยืนอยู่ไกลๆ เพราะเขารู้ว่าชายหนุ่มคงจะยืนมองเขาอยู่เป็นแน่
เด็กหนุ่มเมื่อคลายืแล้ว ก็วางทารกน้อยลง่าระมัดระวัง
เด็กน้อยที่วัน่ๆ เพียงแค่เห็นแม่นางหลัวก็โผเข้าหา วันี้กลับต่อสู้ขัดขืนไม่ยอมไปหาสตรีตรงหน้า ทารกน้อยเอาแต่รั้งรอบคอี่ชายตนไว้ สองืน้อยปะสานเข้ากันแน่นราวกับกำลังใช้แรงทั้งหมดตนที่มีต่อสู้ ซ้ำดวงาคู่โตนั้นยังเบิกกว้างถลึงมองเขา
อาลู่จึงได้แต่ตบืคู่น้อยเบาๆ ่จะยิ้มขื่นออกมา “วางใจเถิด ี่ชาย้กลับมารับเ้าแน่”
ืคู่น้อยที่ปะสานกันอยู่ค่อยๆ ถูกาู่แะออก ใช้แรงอยู่นานสองนาน นางจึงยอมไปอยู่ใอ้อมกแม่นางหลัว
เด็กหนุ่มยังคงยืนอยู่ที่เดิม มองแม่นางหลัวพาน้องาตนจากไป
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกราวกับตนเป็นไร้ญาติขาดมิตร ไม่เหลือใครอีกต่อไป
เพราะแม้กระทั่งเ้ามืดก็ค่อยๆ เิามแม่นางหลัวจากไปเช่นกัน
ชายโฉดรอบกายพลันหัวเราะกันอีกครั้ง
ทารกน้อยบนไหล่แม่นางหลัว ยื่นืมาโบกให้ี่ชายเบาๆ อีกทั้งเขายังเห็นว่านางกำลังร้องเรีย่า “พิ พิ”พ
หลัวอู๋เลี่ยงขณะอุ้มทารกน้อยอยู่ก็เห็นว่านางนั้นปีนขึ้นมาบนไหล่ตนเพื่อโบกืให้เด็กหนุ่ม นางจึงพูดกับทารกน้อย่าจนปัญญาว่า “ไาี้ ี่ชายเ้าไม่ได้ยินหรอก”
เฉินโย่วน้อยพยายามโบกื่าไม่ลดละ เช่นี้ี่ชายจะ้เห็นนางแน่ๆ
เห็นแล้ว
ี่ชายเห็นนางแล้วิๆ
สุดท้ายทารกน้อยจึงตัดสินใจซบลงกับไหล่แม่นางหลัว เฝ้ามองร่างี่ชายที่ค่อยๆ มีขนาดเล็กลงทุกที่าทรมานใจ
นางมิได้พยายามกล่าวอันใดอีก เพียงแต่ืคู่น้อยก็ยังไม่ยอมหยุดโบกเช่นกัน
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??