เรื่อง เกี้ยวรักท่านอ๋อง ฉบับชายาข้ามมิติ
ย่างเข้าวสันตฤดูได้สามเืแรก เมืองหลวงก็เกิดเรื่องใญ่ไปแล้วเรื่อง โดยเรื่องั้ล้วนเกี่ยวข้องกับองค์าเจ็ดั้สิ้น เรื่องึ่เป็นาโศกเศร้าครั้งใญ่ อีกเรื่องึ่เป็นเรื่อง่ายินดี
เรื่องโศกเศร้าคือ พระาาที่ร่วมุข์ร่วมสุขกับองค์าเจ็ดาึสามปี สิ้นพระชนม์ด้วยเุอันใด เรื่องี้ยังมิชัดเจนนัก รู้เพียงว่านางตกลงไปจาก้าผาสูง ่าได้ว่าหากไม่ายก็เลี้ยงไม่โต แ่ิๆ ดูไปแล้วก็พาให้รู้สึกเจ็บปวดไปั้กระูเรื่องราวเกิดตอนช่วงเถลิงศกพี คนเราเห็นกันอยู่หลัดๆ เป็นใครประสบกับเรื่องเ่ี้ ก็คงใสลายไปามๆ กัน
องค์าเจ็ดก็เ่กัน ุคนต่างพูดกันว่าเขาั้ดื่มหนักั้สติฟั่นเฟือน ้าเรื่องก่อั้วี่ั้วัน ุคนก็เข้าใได้ เป็นที่รู้กันอยู่ว่าองค์ากับพระาาทรงรักกันเืเกิน ่าได้เลยว่าเป็นแบบอย่างคนรัก คนึ่สิ้นไป อีกคนจะไม่ตรอมใามไปเลยหรือ
ตลึ่เื องค์าจมอยู่กับาเจ็บปวดที่สูญเสียพระาาที่รักยิ่งไป ไทเฮาที่อยู่ใวังทนดูต่อไปไม่ไหว องค์าเจ็ดเป็นหลานาุที่รักพระนาง จะหมดอาลัยายอยากเพียงเาะสตรีคนเีได้อย่างไร นางจึงได้คัดสรรหญิงงามอันดับึ่ใราชวงศ์เพื่อาอภิเษกกับองค์า
องค์าเจ็ดซึ่งสูญเสียพระาาไปไม่ึึ่เื กำลังจะมีงานคลอีกแล้ว ว่ากันว่าพระาาคนี้ไม่เพียงแต่มีาสาารถเท่าั้ ทว่านางยังงามยิ่ง ผิวพรรณขาวนวลผุดผ่อง สุภาพและ่ารัก ได้คู่กับองค์าก็เหาะกันราวกับ์สรรค์้า
อวิ๋นอี้ฟังเรื่องี้าตลทางจนเอียน เข้าร้านอาหารเพื่อจะกินข้าวสักมื้อ ก็ยังกินได้ไม่เป็นสุข ุคนแทบจะรอให้องค์าเจ็ดอะไรนั่นกับหญิงงามอภิเษกกันไม่ไหว จะมีใครจำได้บ้างว่าพระาาคน่ เพิ่งจะเสียไปได้แค่เื่าเ!
แค่คิดก็อนาถใ กระูพระาาคน่ยังมิทันเย็น สวามีก็สวมหมวกเขียวให้นางเสียแล้ว แถมยังเป็นหมวกเขียวที่ยิ่งใญ่จนใครๆ ต่างก็รู้ จะ้เป็นสามีภรรยาที่โกรธเกลียดกันเพียงใด ึทำเรื่องที่ทำร้ายกันได้ขนาดี้ แต่ึจะแย่ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับนาง นางไม่ใ่พระาาคน่สัก่ จะไปคิดากทำไม!
อวิ๋นอี้สบถเล็กน้อย ได้สติกลับาก็คว้าหมั่นโถวเข้าปาก มองไปทางเสี่ยวมู่อวี่ที่อยู่ตรงข้าม “กินเสร็จหรือยัง? กินเสร็จแล้วจะได้ไปหาที่นอน”
เสี่ยวมู่อวี่พุ้ยข้าวเข้าปาก “อวิ๋นอี้ ข้ายังไม่อิ่มขอรับ”
“...” อวิ๋นอี้หมดคำจะพูด “เุใดเจ้าึกินเก่งเ่ี้?”
เสี่ยวมู่อวี่เกาหัว “ข้าก็ไม่ได้อยากเป็นเ่ี้ ข้ากำลังโต กินหมั่นโถวครึ่งอันจะไปอิ่มได้อย่างไรขอรับ?”
“ข้าไม่มีเงินแล้ว!” อวิ๋นอี้ยืนึ้ ลากเขาออกไปข้าง “เจ้าแ่้า หมั่นโถวครึ่งอันน่ะพอแล้ว ข้าอายุขนาดี้ยังกินแค่อันเี ทูนหัวจ๋า พวกเราาเมืองหลวงก็เพื่อหาญาติเจ้า เจ้าบอกเไม่ใ่หรือว่าเจ้าอยู่จวนตระกูลใญ่? รอให้ข้าเจอพ่อแม่เจ้า่ เจ้าจะกินเยอะอย่างไรก็ย่อมได้!”
เสี่ยวมู่อวี่ถูกนางกระเตงออกา ้าบึ้งตึง แต่ไม่กล้าส่งเสียง เขาหนีออกจากจวนแล้วหลงทาง่าครึ่งเื ใตอนที่ใกล้จะายอยู่ั้ก็ถูกอวิ๋นอี้ช่วยไว้
อวิ๋นอี้อารมณ์ร้าย แต่นางก็เป็นคนดี นางบอ่านางาจำเสื่อม ไม่มีที่ไป ใเมื่อเเาแล้ว ก็ช่วยเขาหาพ่อแม่่ก็แล้วกัน พวกเขาจึงค่ำไหนนอนนั่นาตลทางจนาึเมืองหลวง
เมืองหลวงเจริญรุ่งเรืองหาใดเปรียบ มีผู้คนพลุกพล่านอยูุ่หนุแ่ ถนนข้างทางเต็มไปด้วยพ่อค้าหาบเร่ ร้านค้าต่างั้เรียงรายาก่าเกล็ดบนัปลาเสียอีกพวกเขาต่างตื่นาตื่นใ เฝ้าหาโรงเตี๊ยมราคาดีไปุที่ เาะตอนี้พวกเขาเริ่มหมดแ และ้การเตียงเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเดินเข้าไปใถนนที่ปูด้วยหินที่ั้เก่าและอุดอู้ นางก็เห็นว่าเบื้อง้าไม่ไกลมีคนอยู่ากาย ดูครื้นเครงยิ่งนัก ัจากที่เดินไปฟังอย่างะเี ก็ทำให้รู้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแต่งงานองค์าเจ็ดอีกแล้ว
อวิ๋นอี้กำลังจะกลอกาขาวใส่ แต่ก็ได้ยินเรื่องดีๆ เข้า พรุ่งี้องค์าเจ็ดจะอภิเษกรส ั้แต่เที่ยงวันี้จะั้โต๊ะเลี้ยงา้ำไหล [1] สามวันสามคืน สำหรับผู้ที่เข้าาอวยพร สาารถกินดื่มได้ไม่อั้น
อวิ๋นอี้แทบจะยิ้มคุณ์ นี่มันลาภปากชัดๆ คนคนกำลังอยากาเป็นมัน จู่ๆ ก็มีอาหารดีๆ าอยู่ตรง้า ใเมื่อเป็นเ่ี้ ก็ขอกิน่ละกัน!
อวิ๋นอี้พาเสี่ยวมู่อวี่าึประตูวัง เ็ิๆ ว่าถนนั้าเต็มไปด้วยโต๊ะกลม มีอาหารากายบนโต๊ะ หมูตุ๋น าู ลูกชิ้นหัวสิงโต ปลาไนนึ่ง...
องค์าใึเสียจริง!
ั้เดินตรงไปลงทะเบียนด้วยากระฉับกระเฉง ที่ประตูใญ่วัง มีคนต่อแถวยาวเี ด้าน้ามีโต๊ะหงมู่ [2] สี่เหลี่ยม บนโต๊ะมีกระดาษฟาง บนกระดาษั้ถูกชื่อเขียนไว้อย่างเป็นระเบียบ อวิ๋นอี้ลูบท้องด้วยมือซ้าย จูงเสี่ยวมู่อวี่ด้วยมือขวา กัดฟันต่อแถวรอ แถวที่ยาวเีดูเหมือนจะคนเยอะ แต่ที่จริงแถวขยับได้รวดเร็วจนเป็นที่่าพอในัก
ผ่านไปประาณครึ่งชั่วยาม ใทีุ่ก็ึาพวกเขาแล้ว
าวัยกลางคนนั่งอยู่ัโต๊ะสี่เหลี่ยมด้วยท่าทางภูมิฐาน อวิ๋นอี้ก้มลงทำาเคารพามกฎระเบียบ พร้อมกับกดหัวเสี่ยวมู่อวี่ให้คำนับด้วย
เมื่อเงย้าึ้ นางก็พูดเสียงัด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าน้อยอวิ๋นอี้ ได้ยินข่าวคลฝ่าบาท จึงาแสดงายินดี ขอร่วมอวยพรให้ฝ่าบาทเพคะ! ขอพระองค์อภิเษกอย่างมีาสุข ครองคู่ร้อยปีกับพระาา เป็นฤกษ์งามยามดีฉินเส้อสประสาน [3] หงส์ร่อนมังกรเหิน ขอให้มีแต่ารุ่งโรจน์ตลไปเพคะ!”
ัจากที่นาง่าจบ าวัยกลางคน้า็้ตรงาที่นาง กระอักกระอ่วนจะยิ้มก็ไม่ใ่ จะร้องก็ไม่เชิง
นางไม่ได้ทำอะไรผิดใ่หรือไม่?
“นั่น...” องอวิ๋นอี้มึนชา ้ำๆ อึ้งๆ หากทราบว่าไม่พูดากก็ดีอยู่แล้ว พอพูดึ้จู่ๆ าคน้า็ลุกึ้ ทรุดลงคุกเข่าทันที
“นี่มัน…” อวิ๋นอี้ถอยัด้วยาตกใ ได้สติกลับา เอ่อ เจ้าคงจะไม่ได้วางแผนเรียกร้องอะไรจากข้าใ่หรือไม่?
าวัยกลางคนไม่รู้ว่านางกำลังตำหนิตน ดวงาเขาแดงก่ำ ้ไปที่นางแล้วก็ล้มลงคุกเข่า ้าผากเขากระแทกพื้น พร้อมตะโกนร้องไห้เสียงั “พระาา! พระาาท่านยังไม่าย! โชคดีอะไรเ่ี้!”!
าานับไม่ถ้วนจับ้ไปที่อวิ๋นอี้ที่แต่งกายด้วยผ้าขี้ริ้ว
อวิ๋นอี้มึนงง นางเคยพบเจอเุการณ์เ่ี้ที่ใดกัน มือเ้านางั่ “ข้าหรือ?”
“แน่นอนขอรับ!” าวัยกลางคนโขกหัวด้วยารุนแ “หากมิใ่แล้วจะเป็นผู้ใด! ต่อให้ท่านกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว ทาสอย่างข้าก็ยังจดจำท่านได้!”
แหม ใจริงๆ!
าคนั้ให้คนไปส่งนางเข้าวัง อวิ๋นอี้ปะลาดใยิ่งนัก นางาที่นี่ก็เพื่ออาหารเท่าั้ จะกลายเป็นพระาาไปได้อย่างไร แล้วเุใดนางึถูกกักัไว้ให้องี้เ่า!
จะพาไปไหนก็เอาเถอะ อย่างดีก็ให้ข้าวกิน่ไม่ได้หรืออย่างไร..
ท้องอวิ๋นอี้ร้องครืนคราด นั่งชันเข่าเ้าแก้มอย่างเบื่อห่าย ไ่าั ข้างก็เกิดเสียงเคลื่อนไหว เสียงฝีเ้าที่เร่งรีบาจากที่ไกลเข้าาใกล้ นางเงี่ยหูฟัง ชั่วิาก็าึ้าประตู
ประตูถูกผลักออกด้วยาแ เงาสีดำวาบผ่าน้านางไป อวิ๋นอี้ยังไม่ทันมองให้ชัด นางก็ถูกโอบเข้าไปใอ้อมแขนจนแน่น
“อวิ๋นอี้! อวิ๋นอี้!” เสียงทุ้มนุ่มลึกที่ชวนฟัง พร่ำหาซ้ำแล้วซ้ำเ่า ทำให้ใคนฟังแทบจะละลาย
อวิ๋นอี้เก็ซาบซึ้งใยิ่งนัก ทว่านางก็เกือบจะหายใไม่ออกแล้วเหมือนกัน
นางยื่นมือออกไปตบัาหนุ่ม พูดอย่างยากลำบา่า “ีัใ... ก็พูดกันดีๆ อย่าใช้กำลัง!”
“อวิ๋นอี้! เจ้ายังมีีิอยู่! ดีจริงๆ! ดีทีุ่เลย!” ้ำเสียงั้พูดซ้ำๆ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และยังกแน่นึ้อีก
เยี่ยม…คำพูดนางราวกับผายลมไร้าหาย
อวิ๋นอี้ทนรอให้เขากจนพอใ าตรง้าก็ปล่อยนาง ั้ถอยห่างออกไปเล็กน้อย เพียงพอให้นางมองให้ชัด
เป็นาหนุ่มผู้สง่างาม คิ้วโก่งยาว แววา องคาพยพั้้างดงามกริบ มีเสน่ห์เย้ายวนใใุท่วงท่า
อวิ๋นอี้พอจะเดาัตนเขาได้ นางกลืน้ำลาย “ฝ่าบาทหรือเพคะ?”
“อวิ๋นอี้! ข้าได้ยินาว่าเจ้าสูญเสียาทรงจำ จำัเไม่ได้” าหนุ่มไม่ได้กนาง แต่วางมือั้ข้างบนลงไหล่นางแทน
เจ็บปวดรวดร้าวพอๆ กันนั่นแหละ
อวิ๋นอี้กลัวึ้า บอกอย่างตรงไปตรงาว่า “ใ่เพคะ ข้าจำอะไรไม่ได้เลย ฝ่าบาท ท่านช่วยปล่อยมือจากข้า่ได้หรือไม่ ไหล่ข้าจะหลุดอยู่แล้ว!”
ขณะที่นางพูด นางก็เอามือเขาออกไป ฉีกยิ้มด้วยใบ้าบิดเบี้ยวพลางนวดคอ
หรงซิวมีสี้าขอโทษเล็กน้อย ่จะยิ้มอย่างมีเลศนัย ทันทีที่เขายิ้มก็ยิ่งดูสง่างาม “ถ้าเจ้าปวดไหล่ล่ะก็ มิสู้ให้ข้านวดให้เจ้าสัก่”
“อย่า ุ ไม่้เพคะ!” องค์าทำัเป็นคนนิสัยเยี่ยงสุนัข [4] ยิ้มทีทำเอาขนหัวลุก อวิ๋นอีุ้เขาไว้แล้วพูดว่า “ฝ่าบาท เราาคุยกันให้ชัดดี่าเพคะ ข้าาจำเสื่อม ท่านบอ่าข้าเป็นาา เ่ั้ก็ปฏิบัติต่อข้าเหมือนเป็นาาเถิด!”
“แต่ามที่ข้ารู้า ท่านกำลังจะอภิเษกกับสตรีคนใหม่แล้ว ข้ารู้ว่าท่านกับพระาาองค์ใหม่เป็นเหมือนฟืนแห้งที่ใกล้ไฟ ขาดกันไม่ได้ าสัมพันธ์ช่างลึกซึ้งนัก ฝ่าบาทวางใได้เลยเพคะ แค่ท่านให้เงินข้าก้อนึ่ ้าพันตำลึง ไ่ิ… ้าร้อยำึ ถือเป็นค่าเลิกรา ข้าจะไม่าปรากฎัต่อ้าท่านกับพระาาองค์ใหม่อีก ข้าจะไม่ทำลายาสัมพันธ์ท่านกับพระาาแน่นอนเพคะ”
นางพูดอย่างจริงจัง พร้อมกับยื่นมือออกไป “เงินา ุอย่างจะเรียบร้อย! ท่านจะให้ข้าออกไปจากจวน ข้าก็จะไม่อยู่ให้ท่านเห็นเด็ดขาด! ซื้อขายสุจริต ไม่หลอกลวงแน่นอน แถมเรายังเป็นคนคุ้นเคยกัน ท่านไม่มีทางขาดทุน ไม่มีทางถูกหลอกแน่!”
หรงซิวยิ้มฟังนางพูดจนจบ มีอารมณ์ซับซ้อนอยู่ใแววาเขา แล้วก็กลับาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
เขายังคงยิ้มอยู่ ดูชั่วร้ายแต่กลับเป็นธรรมชาติ ทำให้ไม่สาารถละาาไปได้ “าาข้า เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน ใเมื่อเจ้ายังมีีิอยู่ ข้าก็ไม่มีเุผลที่จะ้อภิเษกใหม่ ข้า้การแค่เจ้าเท่าั้ เจ้าก็เคยพูดไว้ว่า รักข้าุหัวใ ีิี้ไม่มีข้าเจ้าก็อยู่ไม่ได้ ข้าจะทนเห็นเจ้าาย หายจากีิข้าไปได้เยี่ยงไร?”
อวิ๋นอี้ถูกฟ้าผ่าจนกรอบนุ่มใ [5] “ข้าาจำเสื่อม ข้าไม่มีารู้สึกอันใดกับท่านแล้วตอนี้...”
“เจ้าาจำเสื่อม แต่ข้าไม่ได้สูญเสียาทรงจำไปด้วย ข้ารักเจ้า ไม่้พูดให้ากา เจ้าคือาาข้า ้ามไปไหนั้ั้ ้อยู่ข้างกายข้าเท่าั้ ข้าจะจัดหาหมอที่เก่งทีุ่าให้เจ้า!” หรงซิวขัดจังหวะนาง ก้าวไปข้าง้าึ่ก้าว กนางไว้แน่นใอ้อมแขนเขาแล้วพูดอย่างเสน่หา
ถ้าไม่รู้เรื่องผิดศีลธรรมที่เขาทำ อวิ่นอี้จะ้ดีใจนหลั่ง้ำาเป็นแน่ แต่ตอนี้นางกลายเป็นข่าวนินทาามถนนตรอกซอกซอย กลายเป็นีตพระาาโชคร้ายผู้โดนใที่ใครๆ ก็รู้จัก ารู้สึกี้มันช่างเจ็บแปลบใใอย่างแปลกปะลาด
อวิ๋นอี้ยังไม่ยอม “ฝ่าบาท พระาาองค์ใหม่เป็นคนที่ไทเฮาเลือกเลยนะเพคะ ถ้าท่านปฏิเสธ มิกลัวว่าจะทำให้ไทเฮาไม่พอใหรือ? หากไม่เ่ั้...”
“ข้าบอกไปแล้ว ข้ามีแค่เจ้าก็พอ ใเมื่อเจ้ากลับาแล้ว ข้าก็จะไม่อภิเษกอีกแน่นอน” หรงซิวมองนางอย่างลึกซึ้ง “อวิ๋นอี้ เชื่อข้าเถิด ไม่ว่าเจ้าจะาจำเสื่อมหรือไม่ ารักข้าก็จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง เรื่องทางท่านย่ามีข้าอยู่ เจ้าอย่าได้กังวลไป”
แววาเขามุ่งมั่นยิ่งนัก อวิ๋นอี้รู้สึกคอคัน ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ไม่นานนางก็พูดออกาอย่างอึดอัดว่า “ไปกินข้าว่เถิด...”
จู่ๆ ก็กลายเป็นพระาา แถมยังมีสวามีที่รักจนโง่หัวไม่ึ้ ดูเหมือนว่านางจะาสู่จุดสูงุีิอย่างกะทันหันเสียแล้ว...
เชิงอรรถ
[1] หลิวสุ่ยสี (流水席) เป็นงานกินโต๊ะที่อาหารุจานจะ้มี้ำซุป อาหารุรายการจะ้เสิร์ฟไม่ให้ขาดตอน ประึ่า้ำไหล จึงได้รับการเรียกขานว่าหลิวสุ่ยสี (แปลาหายได้ว่า งานเลี้ยงา้ำไหล)พ
[2] โต๊ะไม้หงมู่ หายึ โต๊ะไม้มะฮอกกานี
[3] ฉินเส้อสประสาน琴瑟和鸣 qín sè hé míng ฉินและเส้อเป็นเครื่องดนตรีที่จะบรรเลงร่วมกัน) อุปาว่า สามีภรรยารักใคร่กันราวกับดนตรีที่สประสานกันอย่างดี
[4] 人模狗样” Rén mó gǒu yàng แปลว่า ัเป็นคนนิสัยเป็นหา หายึคนที่ไมมีารยาท แสดงพฤติกรรมไม่เหาะ
[5] 外焦里嫩 wài jiāo lǐ nèn กรอบนุ่มใ ภาษาชาวเน็ต หายึ ปะลาดใ, บิ๊กเซอไพรส์ มีาหายเีกัน
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??