เรื่อง เกี้ยวรักท่านอ๋อง ฉบับชายาข้ามมิติ
ลู่จงเฉิงรู้สึกแปลกใยิ่งนักที่เห็นอวิ๋นอี้อยู่ในที่แ่นี้ จำนวนครั้งที่พวกเาได้พบกันช่วงนี้ ูจะค่อนข้างบ่อยมาก่าที่ผ่านมา.
ความคิดเช่นนี้แวบเข้ามาในหัว ไม่นานเาก็ได้สติ่ารวดเร็ว ใบหน้าและดวงาเาสงบนิ่ง ลู่จงเฉิงพยักหน้าเล็กน้อยตอบรับอวิ๋นอี้
ภูเาในช่วงบ่ายาใต้แแดด อบอุ่นึ้เล็กน้อย เมื่อัเาๆ ทำให้ใบหน้าเาูอ่อนโยนึ้
ั้ยืนหันหน้าเข้าหากัน อวิ๋นอี้เงยหน้าึ้มอง ใบหน้าเห่อร้อนึ้เล็กน้อย
นางสูดหายใเข้าลึกๆ แล้วา่าเป็นกันเว่า “ท่านมาทำอันใดที่นี่เจ้าคะ?”
นางจำได้ว่าหรงซิวบอ่าจะมีประชุมตอนบ่ายหรืออันใดสัก่า ในฐานะอัครมหาเสนาบดีเาควรจะเข้าร่วมด้วย
พอลู่จงเฉิงได้ยิน ก็มิได้ตอบออกไปตรงๆ เพียงแต่บอ่า "มาเิเล่นั"
เอาเถิด
ท่าทีเาที่คิดว่าคำพูดราวกับทอง [1] อวิ๋นอี้ยอมรับได้แล้ว นางยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อว่า "เช่นนั้นท่านก็นับว่ามาถูกที่แล้วเจ้าค่ะ ถ้ำที่อยู่ข้างหน้า นี้เรีย่าฉางหลง ที่มานามนี้เพราะว่าในถ้ำมีกระูกมังกรที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้่าดี ว่ากันว่าายไปัจากโชคไม่ดีติดอยู่ที่นี่ในสมัยก่อน”
ก่อนที่อวิ๋นอี้จะมาที่นี่ นางอ่านคำอธิบายจากในแผนที่มาแล้ว นางทำัราวกับเป็นมัคคุเทศก์่ามั่นอกมั่นใ
ัจากพูด นางก็รอให้ลู่จงเฉิงชมนาง แต่ไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะพูดเพียงว่า “เป็นเช่นนี้นี่เ"`
"...ก็ใ่น่ะสิ"``
"พ่ะย่ะค่ะ"
"......"
จากนั้นการสนทนาก็ลง่ากะทันหัน
ใบหน้าอวิ๋นอี้ขมวดเกร็ง นางอับอายยิ่งนัก
หากพูดว่าลู่จงเฉิงเป็นเย็นชา ไู่ ก็ถือว่าช่างมันเถิด แต่เามิใ่่านั้นนี่ เาคุยกับหรงซิวและบุรุษผู้อื่นได้่าสบายอกสบายใ พูดไปหัวเราะไป เรีย่ามีคารมคมคายมากมายเลยทีเดียว
แต่ทำไมเมื่ออยู่กับนาง...ึไม่คุยกับนางเลยเล่า?
เมื่อเห็นว่าแผ่นัลู่จงเฉิงกำลังจะก้าวเข้าสู่ทางเข้าถ้ำ อวิ๋นอี้ก็พ่ายแพ้อีกครา
นางเดาว่า หากมิใ่ว่าลู่จงเฉิงให้ความสำคัญกับฐานะพระาานาง ผ่านสวนแตงไม่ยกเท้า ผ่านสวนพลัมไม่ยกมือ [2] จงใที่จะเว้นระยะห่างกับนาง
ก็คงเป็นเพราะเามิได้ชอบสตรี ?
ความคิดนี้ ทำให้อวิ๋นอี้เหงื่อตก มองูหุ่นและขาาเา...
อย่าคิดมากเกินไป!
นางส่ายหัวด้วยความรุนแรง สลัดความคิดมั่วๆ ในใออกไปใ้สิ้น แล้วรีบเิามลู่จงเฉิงที่เข้าไปในถ้ำฉางหลง่ารวดเร็ว
ทางเข้าถ้ำแคบและเล็กนัก อวิ๋นอี้สงสัยว่าจะมีมังกรอยู่ที่นี่ได้่าไร
ยิ่งเข้าไปข้างในมากเ่าใด ถ้ำก็จะยิ่งกว้างึ้เ่านั้น าในถ้ำสูง่าสิบเมตร ผนังโดยรอบขรุขระ มีตะเกียงน้ำมันหลายอันอยู่ในนั้น ตะเกียงกวัดแกว่งไปมา ในความืิ แม้จะมีแไฟเพียงเล็กน้อย แต่สามารถสาดส่องให้เห็นทางเิเท้าได้่าชัดเจน
ลู่จงเฉิงเิไปข้างหน้า ามมาติดๆ ด้วยอวิ๋นอี้ เสียงฝีเท้าัก้องไปทั่วทางโล่ง
ัจากเิอยู่นาน่าครึ่งชั่วยามก็ไม่เห็นอันใด
มีเพียงกำแพงหินขรุขระและแไฟสลัว
นางไม่รู้ว่าเย็นพัดมาจากที่ใด มันพัดอวิ๋นอี้จนทำให้นางรู้สึกเย็นยะเยือกไปั้แผ่นั รู้สึกขนลุกเป็นครั้งครา
นางขี้ัวจึงรีบเิามลู่จงเฉิงไปติดๆ "ท่านคิดว่าที่นี่มันมืดไปหน่อยหรือไม่เจ้าคะ?"
เสียงสตรีแผ่วเบา ที่ฟังูก็รู้ว่าัวเล็กน้อย
ลู่จงเฉิงหยุดฟัง แล้วเิต่อ "ไม่พ่ะย่ะค่ะ"
"......"
รู้อยู่แล้วว่าาเาไปก็ไม่ได้อันใดึ้มา
นิสัยเช่นนี้ในคราแรกจะรู้สึ่าเาเย็นชา แต่ัจากที่รู้จักเป็นเวลานานใช้ไม้ไผ่ตีก็ไม่มีแม้แต่เสียงผาย [3] เช่นนี้ ช่าง่าเบื่อเกินไปแล้ว
อวิ๋นอี้เป็นที่ชอบพูดพล่าม จะให้พูดกับขอนไม้ั้วัน แค่คิดก็ปวดในัก
ะที่นางตกอยู่ในภวังค์ มิได้สังเกตว่าบุรุษตรงหน้าหยุดเิเสียแล้ว นางที่รีบเิไปข้างหน้า่าเร่งรีบจึงกระแทกเข้าที่ัลู่จงเฉิง่าจัง
อวิ๋นอี้เจ็บจมูกในทันใด เงยหน้าึ้ั้น้ำา สบาเข้ากับเาที่มีใบหน้าสงบนิ่ง
เาไม่ได้พูดอันใดออกมา มันยิ่งทำให้นางสับสน นางอดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมาว่า “ข้ามิได้ทำให้ท่านเจ็บใ่หรือไม่?”
“ั” ลู่จงเฉิงพยักหน้า ่ๆ เบี่ยงัไปทางข้าง “ึแล้วั”
อวิ๋นอี้มองไปามที่แนวสายาเา ดวงาเบิกกว้างึ้เรื่อยๆ ปากอ้าค้าง
สิ่งที่ปรากฏในสายาคือกระูกมังกรที่มีความสูง่าเมตร ไ่ี มีเพียงโครงกระูกสีขาวเรืองแเ่านั้น เพียงแค่ยืน ก็ยังรู้สึกได้ึความยิ่งใญ่และไอกดดัน
แม่เจ้าโว้ย อวิ๋นอี้คิดในใ
ตอนแรกนางไม่คิดว่าจะมีกระูกมังกรอันใดเลย นางมาูเพราะความสนุ้วนๆ แต่สิ่งที่นางเห็นตรงหน้า ทำให้ต้องแปลกใ
สิ่งที่อยู่ตรงหน้านาง ูเหมือนเป็นหัวมังกร กับสิ่งที่เหมือนจะเป็นเาอันั้อยู่บนนั้น ไม่สั้นไม่า ู่ารักอยู่บ้างในคราแรก และด้านัคือสันัที่ยกึ้ กระูกเส้นา โค้งเล็กน้อย าจรดไปึา
อวิ๋นอี้เิไปรอบๆ ครา ูั้แต่หัวจรดา นอกเหนือไปจากความประหลาดใก็คือความตกใ
ลู่จงเฉิงก็รู้สึกประหลาดใเช่นเดียวกัน เดิมทีก็พูดน้อยอยู่แล้ว เาจึงไม่ได้พูดอันใดเลยในระหว่างนั้น
เดิมอวิ๋นอี้ก็มีเื่ที่อยากจะพูดด้วย แตุ่คราที่เงยหน้าึ้มอง าหนุ่มัูเย็นชาและจริงจัง ทำให้นางต้องืนคำพูดเหล่านั้นลงคอไปใ้
นางรู้สึ่าหัวข้อที่นางต้องการจะพูดคุยอาจไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับลู่จงเฉิง
เพื่อไม่ให้อาย ไม่พูดอาจจะดี่า
ัจากเที่ยวชมไปจนหมดแล้ว ก่อนที่ลู่จงเฉิงจะจากไป เาก็านางก่อน่าไม่คาดฝั "ท่านจะัเลยหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?"
"ััั" อวิ๋นอี้ตอบ
เวลาที่พวกเาอยู่ในถ้ำนั้นไม่ถือว่าสั้นนัก คาดว่าข้างนอก่าจะค่ำแล้ว
ลู่จงเฉิงพยักหน้า เมื่อเห็นว่าอวิ๋นอี้กำลังจะัไปทางที่มา เาก็เรียกนางไว้ "ไปทางนี้ั ทางนี้่าจะมีทางออก"
"หา?" นางสงสัย "ิื? ท่านแน่ใหรือเจ้าคะ?"
"......"!
ลู่จงเฉิงไม่ตอบ เาหันัแล้วเิไปทันที
นางเม้มริมฝีปาก คิดว่าตนอาจจะเผยให้เาเห็นึระดับสติปัญญา มิเช่นนั้นเหตุใดสายาลู่จงเฉิงจึงูเป็นการเย้ยหยันและูถูกเหยียดหยามขนาดนั้นกัน?
อวิ๋นอี้ทุบหน้าอกตน อยู่กับพ่อเทพบุตร าาแทบจะเย็นยะเยือกเป็นน้ำแข็งอยู่แล้ว
ปวดในัก!
ั้เิผ่านกระูกมังกรไป ไ่าั พวกเาก็เห็นแสว่างที่แผดจ้าอยู่ข้างหน้า
อวิ๋นอี้ดีใ าเ่ฝีเท้า แต่เมื่อเข้าใ้ปากถ้ำ นางัได้ยินเสียงน้ำไหลรินที่ด้านนอก
"ฝแล้ว" ลู่จงเฉิงมองนางแล้วพูดช้าๆ "ข้ามิได้พกร่มมา"
“ออกไปูก่อนเถิด” อวิ๋นอี้พูด ก็เิไปเบื้องหน้า
ท้องฟ้าข้างนอกมืดครึ้ม เมฆดำบนท้องฟ้ารวมักันเป็นก้อน บดบังท้องฟ้า ทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกอึดอัดไม่น้อย
เม็ดฝนขนาดเ่าเม็ดถั่วตงมาบนพื้นเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ ฝนที่ตงมาเสียงัเปาะแปะ แอ่งน้ำเล็กๆ บรรกันเป็นลำธารเล็กๆ กำลังไหลริน
อวิ๋นอี้มุมปากกระตุก ทำไมัตกัึ้ได้เล่า?
นางหันัมามองลู่จงเฉิง เห็นเาขมวดคิ้วก็พูดปลอบใ “พวกเรารอสักครู่เถิด ฝนวสันต์มิ่าจะตกัมากึเพียงนั้น ฝนซาลงแล้วค่อยัเถิด”
"พ่ะย่ะค่ะ" ลู่จงเฉิงพูด ก็ยืนอยู่ข้างนาง
าหนุ่มเอามือไพล่ั ่า ูดุดัน ิ่นจากร่างเาหอม ต่างจากิ่นความหนาวเย็นหรงซิว เป็นิ่นหอมเบาๆ ราวกับิ่นแแดด
อวิ๋นอี้ไม่้ามองเา ันางั้ตรง มองไป้าหน้า หูนางั้ึ้ ั้ใฟังุการกระทำข้างๆ ่าระมัดระวัง
เาเงียบสงบยิ่ง ราวกับว่าที่แ่นี้มีแค่เพียงเสียงฝน
อวิ๋นอี้เม้มปาก เพลิดเพลินกับช่วงเวลานี้ นางไม่รู้ว่าจะพูดอันใดก็เลยทำได้แค่เงียบ เพียงหวังในใว่าฝนจะตกให้นานึ้่านี้
แต่ึกระนั้น ูเหมือนว่าสวรรค์จะไม่ค่อยเป็นในัก ูราวกับจงใจะขัดขวางนาง ัจากความคิดนี้วนเวียนอยู่ในใไม่กี่ครา ฝนก็ซาลง และัจากนั้นไม่นาน มันก็หยุดตกเสียแล้ว
ลู่จงเฉิงเอื้อมมือออกไปมองฟ้าแล้วพูดว่า "ไม่ตกแล้ว ไปกันเถิดพ่ะย่ะค่ะ"
"อื้ม"
นางเม้มริมฝีปาก แล้วยกมุมกระโปรงึ้่าระมัดระวัง หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำและเิลงเา แต่เมื่อลงไปึางภูเา ฝนก็ตกหนังมาอีกครา โชคร้ายที่บริเวณนั้นไม่มีที่ให้หลบฝน ในกรอบสายายามนี้เต็มไปด้วยหญ้าสีเขียวชอุ่ม ไม่มีแม้แต่ต้นไม้!
แย่จริง!
อวิ๋นอี้เอามือบังศีรษะก่อนจะเหล่มองลู่จงเฉิง
ฝนเทลงมา่าั นางเปียกโชกจนเหมือนไก่ต้มที่ขาวซีด เาก็ไม่ได้ดีไป่ากันมากนัก
ฝนที่ถูกชโลงราวกับน้ำตกไหลลงมาเป็นเส้นๆ ตงมาที่แก้มั้ข้าง่าแผ่วเบา อวิ๋นอี้ยิ้ม โดยที่ในใคิดว่านี่นับเป็นการร่วมุข์ร่วมสุขกันใ่หรือไม่ จากนั้นก็มองเห็นเาที่กำลังมองมาที่นางเช่นกัน
ชั่วะหนึ่ง ุสิ่งในโลกพลันูเงียบงันไป
ลู่จงเฉิงเสยผมไปด้านัเผยให้เห็นหน้าผากที่เอิบอิ่ม ใบหน้าที่อ่อนโยนเา่าชัดเจน ดวงาที่ถู้างด้วยน้ำนั้นมีแววความอ่อนไหวซ่อนอยู่ “มองอันใดพ่ะย่ะค่ะ ไม่เิหรือ?”
อวิ๋นอี้ตอบรับ แะิ้ “ไม่ ไม่มีอันใดเจ้าค่ะ”
นางรู้สึ่าใบหน้าตนร้อนผ่าว ึแม้จะฝนที่หนาวเย็นเข้ามาทักทายใบหน้านาง ทว่าก็ยังคงร้อนเหลือทน
ผู้ใดจะไปรู้ว่าลู่จงเฉิงเรียกนางจากด้านั "ประเดี๋ยวก่อน"
"กระไรหรือ?"
เาเิเข้ามา ถอดเสื้อคลุมแล้วยื่นให้นาง "พัดแรง ท่านสวมชุดบางเกินไป"
!!!
อวิ๋นอี้ตกใเกินจะบรรยาย นางเคยคิดว่าลู่จงเฉิงเป็นแค่ขอนไม้ แต่แท้จริงแล้วเาเป็นห่วงนางหรือ?
นางรับเสื้อผ้าที่เปียกด้วยมือที่สั่นเทา อวิ๋นอี้สวมไว้บนั นาง่าวขอบคุณด้วยเสียงแผ่วเบา ลู่จงเฉิงพยักหน้าแล้วกับนางว่า "ไปกันต่อเถิดพ่ะย่ะค่ะ"
ฝัยิ่งนัก จนสุดท้ายอวิ๋นอี้ก็ากฝนจนปวดหัวาลายไปหมด นางเิ่าโซซัดโซเซ
ลู่จงเฉิงขมวดคิ้วและคว้าันางไว้ “ึ้มาเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าจะแบกพระองค์ัลงไปเ”
อวิ๋นอี้โบกมือปฏิเสธ แต่ได้ยินเาพูดอีกคราว่า “ใ้จะมืดแล้ว างคืนจะยิ่งอันตา รีบึ้มาเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ัจากพูด เาก็เิเข้าไปหานาง ก้มัลงเล็กน้อย แสดงท่าทีชัดเจนว่าเาจะแบกนาง
“ึ้มาพ่ะย่ะค่ะ”
อวิ๋นอี้ไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกเช่นไร นางึ้ไปบนัเาด้วยความงุนงง
ลู่จงเฉิงูผอมมาก แต่ไม่คิดเลยว่าเาจะมี้าม เมื่อนางปีนึ้ไปก็สัมผัสเข้ากับแผ่นัอันทรงพลังเา กระแทกจนรู้สึกเจ็บ
นางขมวดคิ้ว คล้องคอเา ลู่จงเฉิงจับขานางด้วยมือเา่าสุภาพ
เสียงฝนกระทบแผ่นััึ้ แต่ความอบอุ่นผิวหนังที่อยู่เบื้องหน้ายังคงมอบให้นางเป็นระยะ
อวิ๋นอี้เอาหน้าซุกแผ่นัเา หูก็ได้ยินเสียงหัวใเต้น ไม่แน่ใว่าเป็นนางหรือเา
นางไม่พูดอันใดตลอดทาง
อันที่จริงลู่จงเฉิงอยากจะ่าวว่า เาอุ้มนางไว้บนั ทำให้ั้เิเร็วึ้่าเดิมมากนัก
ใช้เวลาไม่นานก็ึตีนเา เดิมทีอวิ๋นอี้เลี่ยงและบอ่าจะลงมาเิเ แต่ลู่จงเฉิงมองึ้ไปบนฟ้า างคืนกำลังคืบคลานเข้ามา นางจึงทำได้เพียงหุบปากและป่ให้เาแบกไว้บนั
ั้เิเข้าไปในสำนักศึกษา ยังไม่ทันจะเข้าไปึที่ ก็เห็นศิษย์สำนักจำนวนมากรีบร้อนเข้ามาหาพวกเา
ลู่จงเฉิงเป็นอัครมหาเสนาบดี เมื่อเห็นเื่นี้ก็อดไม่ได้ที่จะเรียกผู้ที่อยู่ข้างหน้าและาว่า "เกิดอันใดึ้?"
นักเรียนมองมาที่เา สำรวจเสื้อผ้าที่เาใส่ จากนั้นสายาก็เหลือบไปมองอวิ๋นอี้ ในแววามีความสงสัย าึ้ “อัครมหาเสนาบดีลู่?ท่านกับพระาา?"
ลู่จงเฉิงพยักหน้า “ใ่ พวกเจ้าทำอันใดกัน?”
“กำลังามหาพระาาั” นักเรียนามองอวิ๋นอี้แล้วพูดามจริงว่า “องค์าบอ่าพระาาหายไป ฝัมาก เป็นห่วงว่าจะเกิดอันใดึ้กับพระาา จึงส่งไปหา พวกเรารู้เข้าจึงอยาก่อีกแรง ใ่แล้วั ในเมื่อท่านัมาแล้ว รีบไปหาองค์าเถิดั! องค์าเป็นห่วงท่านมาก! "
อวิ๋นอี้กระตุกมุมปาก มองูหรงซิวที่เิามัศิษย์ในสำนักมา่าช้าๆ ่ๆ ยกมือึ้โบกให้เา "ฝ่าา?"
หรงซิวูโมาก เาเิตรงเข้ามา แววาและคิ้วูช่างเย็นชา กัดริมฝีปากแน่น
"อัครมหาเสนาบดีขวาลู่" เาเสายาออก พยักหน้าเล็กน้อย "ข้ามารับพระาาข้า"
ลู่จงเฉิงป่มือ อวิ๋นอี้ก็กระโดดลงมาทันที
ทันทีที่ลงมา หรงซิวก็คว้าข้อมือนาง แล้วดึงนางไว้ข้างั เายืนอยู่ตรงางขวางหน้าลู่จงเฉิงและนาง สีหน้ายิ้มเหมือนยิ้ม “มิทราบว่าอัครมหาเสนาบดีลู่และาาข้า ไปที่ใดมาหรือ?"
อวิ๋นอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วดึงแขนเสื้อหรงซิวเบาๆ
หรงซิวไม่เคลื่อนไหว
เาต้องการจะาให้ชัดเจน ท่าที่าเกรงขาม สีหน้าแววาเปี่ยมไปด้วยความเย็นชา
ลู่จงเฉิงตอบ่าสงบนิ่ง สบสายาจริงจัง "ข้าพบนางโดยบังเอิญที่หน้าถ้ำฉางหลง จึงเข้าไปูด้วยกัน ในระหว่างัก็เจอเข้ากับฝนั"
อวิ๋นอี้พยักหน้าและกระซิบ "เป็นจริงามนั้นเพคะ"
หรงซิวเมินนางแล้วตอบว่า "ช่างบังเอิญเสียจริง"
"ใ่ั" ลู่จงเฉิงูเหมือนจะไม่เข้าใคำประชดประชันในคำพูดเา "เป็นเื่บังเอิญ หากไม่มีเื่ใดแล้ว ข้าขอัก่อน ฝเิ่ัึ้ างคืนหนาวเย็นนัก”
เาไม่รีบร้อน และบอา่าสุภาพ
หรงซิวยืนอยู่ที่นั่นครู่หนึ่งแล้วดึงนางัไปที่ห้องทันที าหนุ่มเิก้าวใญ่นัก อวิ๋นอี้ามไม่ทัน ข้อมือก็โดนบีบจนเจ็บ ทำได้เพียงวิ่งามไป
ัจากัมาึห้อง นางก็เหนื่อยแทบหอบ
แต่หรงซิวปิดประตูกระแทกจนเกิดเสียงั อวิ๋นอี้ตกใมาก เงยหน้าึ้มองไม่ทันจะได้บ่น หรงซิวก็อยู่ตรงหน้าเสียแล้ว
อวิ๋นอี้รู้ว่าไม่ดีแน่ นางกำลังจะ หรงซิวก็กอดเอวนางเอาไว้ มือั้บีบแน่นจนแทบหายใไม่ออก
นางโมากจนตบัเา "ิ! ทำอันใด! ฝ่าาบ้าไปแล้วหรือ! ป่!"พ
"ไม่ป่!" เาโมาก โจนควันออกหู จนทำให้นางัสั่น
“ป่!” นางตีเาอีกครา
หรงซิวขยับั อุ้มนางึ้จากพื้น หัวหมุนไปหมด อวิ๋นอี้รีบกอดเา ในวินาทีต่อมา ั้ก็ล้มลงบนเตียงัใญ่ด้วยกัน
เากดนางลง ดึงเสื้อนางออกด้วยมือใญ่ แล้วโยนมันลงกับพื้น่าโจัด
อวิ๋นอี้อยากจะด่าพ่อล่อแม่ "ิ! ท่าน! ฝ่าา ฝ่าาหยุดนะเพคะ!หยุดเดี๋ยวนี้!"
หรงซิวกดขาและแขนนางไว้ ไม่ให้ขยับเขยื้อน จูบเาจรดลงมาทันที รุนแรงและครอบงำราวกับมังกรคำราม ปล้นชิงทุมหายในาง
"อื้อ..."
อวิ๋นอี้ดิ้นรนไม่ไหว ได้แต่ฝืนทน
นางคิดว่าหรงซิวจะหยุดเพียงแค่จูบ จนกระทั่งมือเาเลิกเสื้อผ้าที่เปียกึ้และเคลื่อนเข้าหาหน้าอกนาง นางก็นึกึ้ได้ว่าครานีู้เหมือนว่าเาจะลงมือทำจริงๆ แ้? !
เชิงอรรถ
[1] คำพูดราวกับทอง 惜字如金 ายึพูดน้อย เปรียบเทียบกับคำไทยคือัวพิกุลจะร่วงจากปาก
[2] ผ่านสวนแตงไม่ยกเท้า ผ่านสวนพลัมไม่ยกมือ 瓜田李下 ายึ ไม่ทำการใดที่เป็นเหตุให้อื่นสงสัยในเจตนา
[3] ใช้ไม้ไผ่ตีก็ไม่มีแม้แต่เสียงผาย 八竿子打不出一个屁 ายึ ที่ไู่
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??