เรื่อง ชู่ว์... พระชายา ท่านซ่อนสิ่งใดไว้บนคาน!
ที่ประตูเมืองมีคนเิทางสัญจรไปมามากมาย ด้านัของฮวาเหยียนมีย่าหลานคู่ึ่ที่กำลังเิเท้าเข้ามาในเมือง ั้สองเิช้าๆ เนื้อตัวโงนเงนเนื่องจากร่างาที่ไม่ค่อยแข็งแ พวกเขาคงกำลังคิดจะหารถม้าเิทางต่อ ทว่าด้านหน้ากลับเห็นกลุ่มคนขี่ม้าที่กำลังขี่ม้าเข้ามา พวกเขาขี่่าไปด้วยารวดเร็ว มือคุมบังเหียนแน่น ฝุ่นฟุ้งตลบลอยทั่ว แม้ว่าจะขี่่าผู้คนไปมากมาย ทว่ากลับไม่ได้ชะลอาเร็วลงเลยแม้แต่ิ
"ไสหัวไป หลีกทางเร็วเข้า"
ดวงาเห็นคนกลุ่มนี้วิ่งเข้ามาด้วยาเร็ว าที่เป็ผู้นำมีแววาโหดเหี้ยม เขาก่นด่าเีงัมาตลอดทาง
ฮวาเหยียนที่กำลังขับเกวียนลาอยู่ าจริงนางสามารถขี่ไปอีกทางเพื่อหลบคนกลุ่มนั้นได้ แต่ในพริบาที่นางเห็นย่าหลานคู่ึ่กำลังเิอยู่ัเกวียนลาของนางซึ่งหญิงชราอายุหกิเศษและหลานสาวก็อายุเพียงสี่ห้าขวบเ่านั้น นางพลันตัดสินใจไม่หลบ เพราะหากนางหลบ แปะทะั้หมดจะโดนสองย่าหลานเข้าเต็มๆ ั้สองคนคงโดนบดจนกลายเป็ผุยผงแน่
เ็หญิงตัวน้อยคนนั้นอายุพอๆ กับเป่า
ฮวาเหยียนขมวดคิ้ว แววาเย็นชาเปล่งประา นางไม่ยอมถอยแต่กลับก้าวออกไปเผชิญหน้ากับเขาแทน ใเานั้น ม้าควบวิ่งทะยานพุ่งตรงมาหานาง าบนัม้าดูเหมือนจะคาดไม่ึว่าฮวาเหยียนจะยืนนิ่งไม่ยอมขยับ ั่พริบาเดียวใบหน้าของเขาพลันดุร้ายึ้ เห็นได้ชัดว่าาเร็วของเขาไม่ลดลงเลยสักิ ในยามนั้นเเขายกแส้ในมือึ้และสะบัดไปทางฮวาเหยียนและเป่าทันที...
“เ้ากำลังรนหาที่ายอยู่หรือ? กล้าขวางทางจวิ๋นจู่...”
“กรี๊ด...! ”
“สวรรค์ทรงโปรด! ”
“รีบหลบเร็วเข้า พวกเ้าแม่ลูกจะโดนชนแ้นะ”
“ต้องูเหยียบย่ำเป็ผุยผงแน่...! ”
เีงอุทานโดยรอบัึ้ทันที บางคนึกับปิดาตัวเ ไม่กล้าดูฉากนองเลือดที่กำลังจะามมา
สีหน้าฮวาเหยียนไม่เปลี่ยนแปลง เป็ในตอนที่ม้าเข้ามาใกล้ ได้ยินเพียงเีงพ่นลมหายใจเย็นชาของนาง ร่างาที่เกียจคร้านมาแต่เดิมของนางขยับเคลื่อนไหว นิ้วเรียวยาวยกึ้ เข็มเงินสามเล่มทอประาเย็นเฉียบ ดวงาของนางฉายภาพม้าที่วิ่งทะยาน ะที่แสู้ยกึ้ เข็มเงินสามเล่มในมือของฮวาเหยียนูพลังลมปราณปกคลุม สะบัดโจมตีโดยตรงไปที่ขาของม้าทันที
ฮี้…
เีงคำรามแหบต่ำของม้าตัด่าท้องฟ้า ขาม้าสีน้ำาลงอและล้มลงด้วยารุนแ าบนัม้าปลิวออกไปทันที ก่อนจะหล่นกระแทกพื้นด้วยารุนแเช่นกัน เขาตกลงจากัม้าตัวใญ่ กินโคลนเข้าปากไปคำึ่ จากนั้นก็นั่งอึ้งอยู่า ไม่อาจลุกึ้จากพื้นได้
าเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ทำให้คนรอบข้างตะลึงงัน
“โจวเหอ เิเรื่องัใดึ้?”
ใเานั้น กลุ่มคนที่อยู่เบื้องัในที่สุดก็ามมาทัน ในยามนั้นเ ู่ๆ ก็ปรากฏเีงของสตรีผู้ึ่ัึ้ น้ำเีงของนางเปี่ยมไปด้วยาโมโห มิอาจอดทนอดกลั้นไหว
ฮวาเหยียนเงยหน้าึ้และเห็นสตรีบนัม้า าสีแดงหงส์ คิ้วเรียวดั่งใบหลิว รูปร่างผอมเพรียว สวมชุดขี่ม้าสีแดง ใบหน้าเย็นชาและเย่อหยิ่ง นางเชิดคางึ้เล็กน้อย สีหน้าเต็มไปด้วยาไม่พอใจ
“จวิ๋นจู่ คนผู้นี้ไม่ได้มีท่านในสายาเลย ั้ขวางถนน ซ้ำยังทำร้ายขาของม้าอีกพ่ะย่ะค่ะ”
ในที่สุดาที่ชื่อโจวเหอก็มีปฏิกิริยาตอบกลับ เขากระโดดตีลังกาึ้มา ถ่มดินในปากออก ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ด้านข้างของสตรีชุดแดง าหนุ่มบ่นอย่างไม่พอใจพลางจ้องไปที่ฮวาเหยียนัจากที่พูดจบ
"ไร้สาระ วิาุทธ์ของเ้าอยู่ในระดับผู้บำเพ็ญเพียรขั้นที่สี่ กลับูชาวบ้านลอบโจมตี เ้าทำให้จวิ๋นจู่คนนี้เีหน้าแ้"
สตรีูศักดิ์ที่อยู่บนม้าส่งเีงเคร่งขรึมด้วยสีหน้าที่เย็นชา
“จวิ๋นจู่โปรดให้อภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
าที่ชื่อโจวเหอรีบคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อขอาเมตา
"เฮอะ"
จวิ๋นจู่หลิวซวงถอนหายใจอย่างเย็นชา ขี้คร้านจะสนใจเขาแ้ ท่าทางมองเหยียดจากทีู่ นางกลอกา ดวงาเหยียดหยามจ้องไปที่ฮวาเหยียนและเป่าแทน
“เ้ากบฏ วันนี้จวิ๋นจู่ผู้นี้มีธุระด่วน ข้าจะไม่คิดเล็กคิดน้อยเอาโทษเรื่องาปะทะกันของพวกเ้า พวกเ้าจงคุกเข่าลงก้มหัวขอโทษ แ้เรื่องในวันนี้ก็ถือเีว่าช่างมันเถิด”
น้ำเีงของนางมีารู้สึกที่เหนือ่า ราวกับว่าประโยคที่นางพูดออกมานั้นเป็าให้ทานกับฮวาเหยียนและเป่า!
ที่ประตูเมืองมีคนจำนวนมากกำลังเคลื่อนไหว พวกเขากังวลแทนฮวาเหยียนและเป่าจนเหงื่อตก ผู้คนที่มองดูอยู่โดยรอบไม่กล้าที่จะหายใจ ทำได้เพียงกระซิบกันเ่านั้น
“แม่ลูกคู่นี้ต้องมาปะทะกับจวิ๋นจู่หลิวซวง ถือว่าโชคร้ายยิ่งนัก รีบก้มหัวสำนึกผิดเถิด เรื่องนี้จะได้จบ”
“จวิ๋นจู่หลิวซวงเป็ธิดาเพียงคนเดียวของอ๋องคัง นางมีวรยุทธ์ระดับผู้บำเพ็ญเพียรขั้นที่ิเอ็ดที่กำลังจะเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์ และฮ่องเต้เทรงชมเชยนางเป็อย่างยิ่ง”
“จะไม่ใช่ได้อย่างไร จวิ๋นจู่หลิวซวงเป็ธิดาองค์แรกของอาณาจักรต้าโจวที่ยิ่งใญ่ของเรา นางมียศถาบรรดาศักดิ์ชั้นู โตึ้มาอย่างงดงาม และมีวรยุทธ์ในระดับทีู่ยิ่ง”
...
เีงกระซิบจากบริเวณโดยรอบเข้าหูของฮวาเหยียน นางขมวดคิ้วเล็กน้อยและยังคงนึกึคำพูดของจวิ๋นจู่หลิวซวง เ้ากบฏ? นางกำลังพูดึตนและเป่าใช่หรือไม่? จวิ๋นจู่คนนี้าก็ไม่บอด ในใต้หล้านี้จะมีกบฏที่งดงามและเป็ที่รักเช่นนี้ได้อย่างไร?
ฮวาเหยียนไม่ขยับ เป่าเก็เช่นกัน
ัจากรอคำขอโทษจากฮวาเหยียนและเป่าจนเวลา่าไปา ใบหน้าของฉู่หลิวซวงก็มืดครึ้มลงเล็กน้อย แววาของนางดูเย็นาิ่ง “เ้าไม่ได้ยินที่จวิ๋นจู่ผู้นี้พูดเลยหรือ? ”
น้ำเีงนั้นเย็นชาอย่างเห็นได้ชัด
ฉู่หลิวซวงเม้มริมฝีปากสีแดงของนางแน่น คิดว่าหากสองคนนี้หูไม่หนวก พวกเขาก็คงจงใจท้าทายอำนาจของนาง
ถ้าเป็อย่างแรกก็นับว่ายังมีทางออกอื่นให้นาง แต่หากเป็อย่างั... หึหึ ่าไปหลายปียังไม่มีใครกล้ารนหาที่ายเช่นนี้
“แม่ลูกคู่นั้นทำอะไรกัน เุใดึไม่ขยับเลยสักิ?”
“รีบขอโทษเร็ว จวิ๋นจู่กำลังโกรธนะ”
ผู้คนโดยรอบต่างมองไปที่ฮวาเหยียนและเป่าที่กำลังก้มหัวไม่รู้ว่าทำสิ่งใดอย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขาต่างก็ร้อนใจแทนแม่ลูกคู่นี้
ทว่าในยามนั้น เิเรื่องอีกเรื่องึ่เิึ้ข้างเกวียนลา
ปรากฏว่านิ้วหัวแม่มือของฮวาเหยียนมีรอยแผลเล็กๆ อยู่ เป่าจัดากับมันอย่างใกล้ชิด เ็น้อยถอนหายใจอย่างเป็ทุกข์ยิ่ง
“ท่านแม่ ยังเจ็บอยู่หรือไม่ขอรับ? ”
"ไม่เป็ไร"
ฮวาเหยียนส่ายหัวพร้อมกับมองดูเขาด้วยแววาที่นุ่มนวล ลูกาของนางเป็เหมือนกางเกงผ้าฝ้ายตัวน้อยที่ใกล้ชิดมากจริงๆ [1]
“แ้จวิ๋นจู่ที่ขวางทางเล่า? ให้เป่าวางยาพิษพวกมันดีหรือไม่? ”
เป่าถาม
ฮวาเหยียนส่ายหัว “ลูกเอ๋ย เ้าควรเก็บเลือดนั้นเอาไว้ใช้เ แค่ไม่กี่คนแค่นี้ไม่คณามือของแม่หรอก แม่จัดาเได้ ปล่อยให้พวกมันกระโดดโลดเต้นกันไปสักพักเถิด เรามาทำแผลกันก่อน ยังปวดอยู่เลย”
ฮวาเหยียนตอบ
เมื่อได้ยินท่านแม่บอ่าเจ็บ เป่าก็ถอนหายใจออกมาหลายครั้ง
มีเพียงสวรรค์ที่รู้ แท้จริงแ้มันเป็เพียงแผลเล็กๆ เ่านั้น อีกครู่เดียวก็หาไม่เจอแ้
ฮวาเหยียนั้สวยและเ้าเล่ห์ทว่านางกลับเลี้ยงดูลูกาได้ดี เขาเก็รักนางด้วยใจจริง
...
ามจริงแ้ฮวาเหยียนไม่ได้มีพวกฉู่หลิวซวงในสายาเลย แม้ว่านางจะมาจากโลกอื่นเพราะไข่มุกทองมังกรคะนองน้ำ แต่เมื่อนางตกลงมาจากหน้าผาก็บังเอิญปลุกเส้นลมปราณได้ สี่ปีที่อยู่ด้านล่างของหน้าผานั้น นางก็ฝึกฝนอย่างหนักและเรียนรู้จากผู้เฒ่าติงที่อยู่ที่นั่นว่าแผ่นดินใญ่เป็เช่นไร
แผ่นดินชางหลานนี้มีาแยกระดับที่ชัดเจน ซึ่งมีั้คนธรรมดาและผู้บำเพ็ญเพียร
ผู้บำเพ็ญเพียรหมายึบุคคลที่ปลุกเส้นลมปราณและครอบครองพลังัแข็งแกร่ง พลังยิ่งกล้าแกร่งก็ยิ่งได้รับายกย่อง
ผู้ฝึกวรยุทธ์ระดับผู้บำเพ็ญเพียรขั้นสามัญจะแบ่งขั้นพลังลมปราณเป็ิสองขั้น ัจาก่าขั้นที่ิสอง พวกเขาก็จะเข้าสู่ระดับปรมาจารย์
าเข้าสู่ระดับปรมาจารย์ก็หมายาว่าได้เข้าสู่ตำแหน่งของผู้แข็งแกร่ง
แม้ว่านางจะไม่ได้ทดสอบระดับาแข็งแกร่งของลมปราณในช่วงหลายปีที่่ามา ทว่าผู้เฒ่าติงเคยกล่าวว่านางมีพรสวรรค์เป็อย่างยิ่งและระดับปัจจุบันของนางควรเป็ระดับปรมาจารย์ขั้นที่ึ่ ันั้นฉู่หลิวซวงผู้นี้จึงไม่อยู่ในสายาของนาง
เ้าต้องรู้าแตกต่างระหว่างระดับผู้บำเพ็ญเพียรและระดับปรมาจารย์
แต่าจริงแ้ ครั้งนี้นางตั้งใจจะพาเป่ากลับบ้านจึงอยากจัดาอย่างเงียบๆ และไม่อยากสร้างเรื่อง จะทำอย่างไรึจะสร้างาประทับใจให้ะูมู่ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน? แต่เหมือนจะตรงกันข้ามเพราะมีแต่คนจ้องจะหาเรื่องพ
“เฮอะ...”
เชิงอรรถ
[1] ช่างเป็กางเกงผ้าฝ้ายตัวน้อยที่ห่วงใยในชีวิตยังเป็คำอุปมา โดยทั่วไปหมายึาสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างลูกกับพ่อหรือแม่เพราะลูกมักจะละเอียดอ่อน สุภาพ และมีน้ำใจ และตีาได้ึารักในะู
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??