เรื่อง ชู่ว์... พระชายา ท่านซ่อนสิ่งใดไว้บนคาน!
เีงกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง ฮวาเหยียนถูกตี้หลิงหานโยนออกจากคุกมืด สวรรค์และโลกกำลังหมุนวน [1] แรงกระแทกนั้นรุนแรงจนาลายราวกับมีดาววนอยู่บนศีรษะ เวลาผ่านไปนานก็ยังลุกไม่ึ้
ฮวาเหยียนรู้สึกว่ากระดูกั้หมดในร่างพังทลาย ชายหนุ่มไม่รอให้นางลุกึ้ ยามที่นางหันศีรษะไปมองก็พบว่าตี้หลิงหานเดินเ้ามาทีละ้า ท่าทีเยี่ยงจอมปีศาจตรงมาที่นาง
ฝีเท้าเขาช้ายิ่งนัก ใบหน้านั้นน่าเกลียดจนแทบดูไม่ได้ ดวงาเย็นชาเฉยเมย สูงส่งแหลม เปี่ยมไปด้วยความอาฆาตแค้น
อึก
ริมฝีปากฮวาเหยียนกระตุก จบแล้ว ีิน้อยๆ นาง
...
ฮวาเหยียนถูกดวงาตี้หลิงหานจับจ้องจนชาไปั้ร่าง ญิสาวทนต่อความเจ็บปวดก่อนจะกระโดดหมุนกายึ้จากพื้น นางใช้ืข้างขวาออกแรงหมุนข้อืข้างซ้ายจนเิเีงักึก ข้อืที่ผิดรูปจึงกลับมาเ้ารูปัเดิม
ในในางรู้สึกขนลุกยิ่งนัก แต่นางกลับไม่รู้สึกเกรงกลัวตี้หลิงหานเลยแม้แต่น้อย ญิสาวจ้องกลับไปยังตี้หลิงหาน ไม่อยากเชื่อว่าชายคนนี้กล้าที่จะลงืกับนาง ้รู้เีก่อนว่าบัดนี้ีิเขาตกอยู่ในกำืนางแล้ว เขาทานพิษไร้ั้สีและกลิ่นเ้าไป ไม่กลัวหรือ!
ตี้หลิงหานจ้องมองไปยังท่าทีที่ไม่เกรงกลัวฮวาเหยียน เีงหัวเราะเย็นชาถูกพ่นออกมาเีงึ่ ดียิ่งนัก ไม่เจอคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลมู่มาถึงสี่ปี นางได้ฝึกฝนความกล้าหาญจนยิ่งใหญ่เทียมฟ้าถึงขนาดนี้แล้ว
“บอกมาเถอะ เจ้า้การายอย่างไร? ”
เขาเปิดปากพูดออกมาเพียงประโยคเี ดวงาตี้หลิงหานปราศจากอุณหภูมิใดๆ นี่มัน... ไอ้บ้าเอ้ย นี่มันเป็นสายาที่เอาไว้ใช้มองคนายชัดๆ เพราะในโลกที่นางจากมา าาในโลกนางเคยใช้สายาเช่นนี้มองคนมาก่อน
"ข้าไม่อยากาย"
ฮวาเหยียนตอบอย่างรวดเร็ว ดวงากะิปริบ
"มันไม่ได้ึ้อยู่กับเจ้า"
วินาทีถัดมา ืตี้หลิงหานคว้าจับเ้าที่ลำคอฮวาเหยียนด้วยความรุนแรงทันที
แน่ว่า เขาไม่ได้หักคอนางทันที เขายังจำเรื่องที่สตรีที่อยู่ในืป้อนยาพิษไร้สี ไร้กลิ่นให้เขาได้
ฮวาเหยียนไม่อาจขัดขืนได้อย่างแน่ และนางเก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะขัดขืน แต่คอนางเจ็บยิ่งนัก การกัดสุนัขชั่วร้ายตี้หลิงหาน ทำให้มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
"พิษที่ข้าป้อนให้เจ้า ไร้สี ไ้ ทว่ากลับมีพิษร้ายแรง กลางเดือนทุกเดือนจะออกฤทธิ์ ยามที่ออกฤทธิ์จะทำให้เจ็บปวดจนยากที่จะทานทนไหว ผิวหนังเจ้าจะึ้เป็นตุ่มหนอง มีีิอยู่ไม่สู้าย ฝ่าบาทที่เคารพ ยาถอนพิษนี้มีข้าเพียงคนเีเท่านั้นที่ครอบครอง ันั้น เจ้าแน่ใหรือว่า้การที่จะฆ่าข้า? ”
ฮวาเหยียนพูดอย่างใเย็น
ดวงานางเป็นประกาย เผยให้เห็นแววาเจ้าเล่ห์ราวกับจิ้งจอกปีศาจ
แววาตี้หลิงหานเต็มไปด้วยโทสะ คำพูดฮวาเหยียนพาให้เขาหงุดหงิด ชายหนุ่มจับคอฮวาเหยียนไว้ในืแน่น ผิวที่เขาสัมผัสนั้นบอบบางเรียบเนียน คอด้านขวาปรากฏบาดแผลที่เขากัด และตอนนี้ก็ยังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด พาให้เขาเิความรู้สึกกระหายเลือด อยากก้มหัวลง ดูดกินเลือดผู้ญิที่เหืนปีศาจจิ้งจอกคนนี้ให้หมดตัว
ดวงาเขาแดงหนักึ้เรื่อยๆ ราวกับว่ามันถูกปกคลุมไปด้วยโลหิต
ฮวาเหยียนสังเกตเห็น และรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติทันที
ในยามนั้นดวงาตี้หลิงหานกลายเป็นสีแดงโลหิต ลมหายใเขาหนักอึ้ง ืที่จับคอนางเอาไว้อยู่ค่อยๆ เพิ่มแรงหนักึ้เรื่อยๆ ดวงาเขาจับจ้องไปที่ลำคอนาง พูดให้ถูก้คือแผลที่คอนาง จากนั้นดวงาก็ค่อยๆ เปี่เป็นสีแดงก่ำมากึ้เรื่อยๆ ราวกับผลทับทิมคู่ึ่ พร่างพรายงดงาม อีกั้ยังเผยความกระหายเลือดอันลึกลับยั่วยวน
“ตี้หลิงหาน เจ้าจะทำอะไร? ”
ฮวาเหยียนพลันเปี่สีหน้า นางกรีดร้องคำรามออกมาทันที!
เห็นได้ชัดว่ามีสิ่งผิดปกติเิึ้กับองค์รัชทายาทตี้หลิงหาน ราวกับเขากำลังเิภาวะธาตุไฟเ้าแทรกอย่างไรอย่างนั้น [2]
นี่มันเรื่องอะไรกัน!
แต่เดิมในหัวตี้หลิงหานก็สับสนมากพออยู่แล้ว ภาพที่อยู่ตรงหน้าเขามีเพียงสีแดงก่ำโลหิต ราวกับว่ามันกำลังเรียกร้องหาเขา ดื่มเ้าไปสิ ดื่มเ้าไป ก่อนที่จะถูกเีงแหลมกรีดกระชากดึงสติเขากลับมา ชายหนุ่มตื่นตระหนกเนื้อตัวสั่นเทา หมอกเลือดพลันกระจายหายไปต่อหน้า ดวงาคู่นั้นก็ฟื้นกลับมากระจ่างใสอีกครั้งด้วยความรวดเร็ว
ฮวาเหยียนมองชายหนุ่มที่กำลังส่ายศีรษะ ดวงาสีแดงก่ำเขาค่อยๆ จางหายสลายไปและกลับเป็นสีดำสนิท นางรู้ว่าคนๆ นี้กำลังค่อยๆ กลับเ้าสู่สภาวะปกติ
ฮวาเหยียนจ้องมองไปที่เขา ดวงาสีแดงเลือดที่แดงราวกับผลทับทิมยังคงติดอยู่ในความทรงจำนาง ญิสาวสูดลมหายใเ้าลึก องค์รัชทายาทผู้นี้ไม่ปกตินี่นา เกรงว่าจะเป็นพวกวิปริต
ฮวาเหยียนไม่กล้าที่จะยั่วยุเขาในยามนี้เพราะกลัวว่าเขาอาการจะกำเริบึ้มาอีกครั้ง
"เจ้า เจ้าไม่เป็นไรกระมัง"
ฮวาเหยียนถาม น้ำเีงเต็มไปด้วยความระมัดระวัง
สีหน้าตี้หลิงหานไม่น่ามองเลยสักนิด เขาคิดไม่ถึงว่าจะไม่สามารถควบคุมตัวเได้จนอาการโรคกำเริบ และยิ่งคิดไม่ถึงว่า เขาจะถูกดึงสติกลับมาด้วยเีงมู่อันเหยียน
เขายังไม่ทันคิดให้กระจ่าง ในใพลันเิความรู้สึกหงุดหงิดอยู่เล็กน้อย ืยังคงไม่ปล่อยออกจากคอฮวาเหยียน ก่อนจะได้ยินตี้หลิงหานพูดึ้ว่า “ส่งยาถอนพิษมา แล้วเปิ่นกงจะให้เขาายเพียงคนเี หากเจ้ายังยืนกรานทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป ข้าจะสังหารตระกูลเจ้าเก้าชั่วโคตร"
ทันทีที่ฮวาเหยียนได้ยินคำนี้ ตี้หลิงหานผู้นี้ช่างมีจิตใโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนัก หากนางไม่มียาถอนพิษเช่นนั้นนางก็้ายแล้วใช่หรือไม่
เช่นนี้จะดีได้อย่างไร นางไม่ทำเช่นนั้นแน่
นางมีบุตรชายที่กตัญญู มีท่านพ่อที่รักนาง ไม่ง่ายที่จะมีครอบครัวอบอุ่น ยังไม่ทันได้สัมผัสเรื่องราวดีๆ เหล่านี้ กลับจะ้ายด้วยน้ำืองค์รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์เช่นนี้หรือ?
ล้อกันเล่นหรือ
“เจ้าปล่อยข้าก่อน”
ฮวาเหยียนตอบ
"ยาถอนพิษ"
เีงตี้หลิงหานเย็นยะเยือก แววาเขาส่องประกายเย็นชา บรรยากาศเย็นเฉียบแผ่ทั่วร่างเขา
สมองฮวาเหยียนหมุนเร็วจี๋ องค์รัชทายาทที่กำลังรัดคอนางและกำลังขอยาถอนพิษจากนาง หมายความว่าเขาเก็ไม่อยากายเช่นกัน หากไม่อยากาย เขาจะมาขอยาถอนพิษทำไม นี่เป็นบททดสอบจิตใ ใครเผยจุดอ่อนก่อน ก็แพ้ไป
“้การยาถอนพิษนั่นไม่มี ้ใช้ีิมาแลกกัน องค์รัชทายาทเพคะ ท่านเป็นผู้มีเกียรติเหนือผู้คนนับหมื่น สูงส่งน่าเคารพน่านับถือ และข้าเป็นเพียงสตรีสูงศักดิ์จากตระกูลชั้นสูง ีิข้านั้นมีค่าน้อยกว่าท่าน วันนี้ หากท่านยืนกรานที่จะปลิดีิข้า พระองค์ก็ไปพร้อมกับข้า เช่นนั้นก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว”
ฮวาเหยียนอมยิ้ม ใบหน้าเรียบเฉยไม่มีความร้อนรน เห็นได้ชัดว่าเป็นคำขู่ ราวกับว่ากำลังสนทนาเรื่องสนุกสนาน
ตี้หลิงหานบีบคอฮวาเหยียน ใช้แรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถหักคอนางได้อย่างง่ายดาย เขารูปร่างสูงใหญ่ อีกั้ยังไม่เคยพบใครที่กล้าพูดกับเขาเช่นนี้ สตรีที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นคนแรกที่กล้าทำแบบนี้กับเขา แต่เื่ตี้หลิงหานลองคิดดูอีกครั้ง เื่ครู่สตรีผู้นี้ได้ทำสิ่งกล้าหาญยิ่งกว่าลงไปแล้ว อย่าไปนับคำหยาบคายล่วงเกินแค่สองสามคำเลย
“เจ้าไม่สนีิตัวเ แล้วเจ้าอยากให้ตระกูลมู่เจ้าถูกฝังไปพร้อมกับเจ้าด้วยหรือ? แล้วบุตรชายเจ้าล่ะ”
ตี้หลิงหานถาม
คิ้วงามฮวาเหยียนขมวดแน่นเล็กน้อย นางประืกับตี้หลิงหานและเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ แผนการสู้ครั้งนี้ใช้อุบายทางจิตใซึ่งเริ่มลงืจากครอบครัวนางก่อน พยายามที่จะโจมตีเส้นอดทนนาง แต่น่าเีดายที่นางคือฮวาเหยียน มีคลื่นลมที่ยิ่งใหญ่คลื่นไหนที่นางไม่เคยพบเจอมาก่อนเล่า?
“ตระกูลมู่เป็นวีรบุรุษแห่งใต้หล้า มีคุณูปการยิ่งใหญ่ต่อต้าโจวเป็นอย่างยิ่ง หากเจ้าคิดจะลงืกับตระกูลมู่จริงๆ หัวใวีรชนคงจะเคียดแค้นและก่นด่าเจ้าแน่
อีกประเด็นึ่ ในภายภาคหน้าเจ้าคือฮ่องเต้คนต่อไปแห่งต้าโจว มีผู้คนนับหน้าถือาเจ้ามากมาย เจ้าเต็มใพร้อมที่จะแลกชื่อเีงแว่นแคว้นและราชวงศ์กับเรื่องที่เล็กเพียงแค่นี้หรือ? มันไม่คุ้มอยู่แล้ว”
ฮวาเหยียนใช้ถ้อยคำกระตุ้นอย่างดุดัน
ตี้หลิงหานพ่นลมเย็นชา เขามองออกว่าสตรีผู้นี้มีช่างพูดช่างจำนรรจา นางสามารถพูดอะไรก็ได้และสิ่งที่พูดนั้นก็เต็มไปด้วยทฤษฎีที่บิดเบี้ยว ถ้าใเขาไม่เย็นพอ เขาอาจเพลี่ยงพล้ำจนถูกจูงจมูกได้
เื่เห็นว่าตี้หลิงหานไม่พูดอะไร ฮวาเหยียนก็พูดต่อ “ันั้นแล้ว องค์รัชทายาทเพคะ ข้าคิดว่าเป็นการดีกว่าที่พระองค์จะทรงปล่อยข้าไป ข้ามอบยาถอนพิษให้แก่ท่าน ท่านก็ปล่อยข้าและลูกชาย ทุกอย่างที่เิึ้ก่อนหน้านี้ก็ให้แล้วต่อกัน ข้าจะข้ามสะพานไม้แผ่นเี [3] ตกลงหรือไม่? ”
ฮวาเหยียนกะิา ดวงานางเปล่งประกายราวกับสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง
“พูดพอหรือยัง?”พ
เชิงอรรถ
[1] สวรรค์และโลกกำลังหมุนไป อุปมาสำหรับการเปี่แปลงครั้งใหญ่ นอกจากนี้ยังอธิบายถึงความรู้สึกวิงเวียนศีรษะหรือความวุ่นวายอย่างรุนแรงอีกด้วย
[2] ธาตุไฟเ้าแทรก เป็นศัพท์ศิลปะการต่อสู้ เื่ฝึกลมปราณ มักจะเิผลกระทบต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นปกติ บางครั้งก็เิเรื่องที่ไม่คาดฝันึ้ แต่สามารถปรับถอนและหายได้ แต่บางครั้งหากเิึ้แล้วถอนไขไม่ทัน ทำให้เิความผิดปกติทางจิตใและพฤติกรรมแบบถาวร
[3] ข้ามสะพานไม้แผ่นเี อุปมาถึงการเดินทางที่ยากและอันตราย
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??