เรื่อง ฤทธาสยบฟ้า ใต้หล้าเหนือพันธนาการ
เวลาล่วงเข้าสู่ฤดูกาลชุนเฟิน สรรพสิ่งต่างเจริญงอกงาม!.
หลังเขาเทพสาขา บรรยากาศเงียบสงัด ดอกไม้ป่าหลากสีสันบานสะพรั่ง
บริเวณพื้นที่ว่างข้างทะเลสาบ ฉู่เหินกำลังร่ายรำเพลงหมัดอันวิจิตรล้ำลึก รังสีพลานุภาพแข็งแกร่งถ่ายเทออกมาจากาฉู่เหินไม่มีหยุด
ะแสลมปราณในระยะสิบกว่าตารางเมตรปั่นป่วนเร่งร้อน
กิ่งไม้ใบหญ้าแห้งที่ร่วงหล่นเริงรำกำแหงในอากาศ
แม้แก่นวิชาหมัดฉู่เหินชุดี้จะอยู่ที่ารุนแรวดเร็ว พลิ้วไหวดุจสาย้ำ ในาล่องลอยแซมด้วยกำลังซ่อนเร้น มีีิชีวาแต่ไม่ขาดารุนแและรวดเร็ว คลื่นหมัดมโหฬารหนักขึ้นในทุกๆ หมัดไป สำแพลานุภาพแกร่งกล้า
ฟู่…
ฉับั รังสีพลานุภาพฉู่เหินก็พุ่งทะยานทันใด าตากริบเรืองรองปะาหนาว พลังหยวนแท้ห่อหุ้มหมัดซ้าย วาดหมัดทลายหมื่นพันธนา
“หมัดดาวมืด!”
ตู้ม!!!
ิ้เสียงคำรามฉู่เหิน แหมัด่าตะลึงก็ถล่มลงไป่าหนักแน่น`
แผ่นิสั่นสะเทือนเลือนลั่น แตะแหงลุกลามไปทั่วทุกสารทิศราวกับใยแมงมุมก็มิปาน พื้นิแตกะเด็นะดอนไปสี่ทิศทางราวกับฝูงแมลงเม่า``
ฝุ่นิล่องลอย เศษิฟุ้งะจายไปทั่ว
ฉู่เหินเรียกพลังหยวนแท้ั หว่างคิ้วปรากฏแววตะลึงและยินดี
“ไม่นึกเลยว่าาโกลาหลจะมีาสามารถเช่นี้ าแกร่งาเนื้อข้อะดูกข้าเพิ่มมากกว่าหลายเืก่อนมากนัก...” ฉู่เหินมองมือทั้งตนเองแล้วพึมพำแผ่วเบา
ในระยะเวลาเืกว่าๆ ที่ผ่านมา ฉู่เหินได้ค้นพบ่าเหนือาคาดหมายว่านอกจากตนจะมีาศักดิ์สิทธิ์เนตรปีศาจแล้ว ยังมีขีดจำกัดสายเลือดลึัอีกปะเภทหนึ่งอยู่ด้วย
หลังตั้งนามขีดจำกัดสายเลือดั้ว่าาโกลาหลแล้ว ฉู่เหินก็จะฝึกควบคุมพลังาศักดิ์สิทธิ์เนตรปีศาจโดยมีหลีอู๋ซางคอยช่วยเหลือในยามทิวา ล่วงเข้าราตรี เขาจึงจะลองติดต่อและสั่งการพลังสายเลือดาโกลาหลบ้าง
หลังวิจัย่าละเอียดแล้วก็พบว่าาโกลาหลเป็ลักษณะาที่สามารถเสริมาแกร่งตัวเองได้ทุกด้าน หากร่างาแข็งแกร่งขึ้น อานุภาพะบวนยุทธ์ที่ใช้ก็จะยิ่งทรงพลังกว่าแต่ก่อน
“นี่เป็เพียงพลังขั้นแรกาโกลาหลเท่าั้เอง ไม่รู้เลยว่าหลังจากี้จะเป็เช่นไรบ้าง...”
ดวงตาฉู่เหินฉายแววคาดหวังหลาย่
เพิ่งตื่นขึ้นมาได้ไม่นานเท่าไร ก็ฟื้นฟูร่างาให้ัมาแกร่งเหมือนเดิม มิหนำซ้ำยังเพิ่มพลังขึ้น่ามาก หาใช่สิ่งที่าศักดิ์สิทธิ์เนตรปีศาจจะเทียบเทียมได้
แน่ว่าาแกร่งสายเลือดเนตรปีศาจั้โดยมากจะอยู่ที่ ‘วิชาเนตร’ ในยามี้เป็หลัก
เท่าที่ฉู่เหินเข้าใในตอนี้ าศักดิ์สิทธิ์เนตรปีศาจมีพลังที่ดลใคนให้ลุ่มหลงได้ยิ่งกว่า
ไม่ว่า่าไร ฉู่เหินก็ตระหนักดีว่าเ้ทางในวันข้าง้ายังอีกยาวไกล จะสำแพลังาศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงออกมาใาคตได้ืไม่ ยังต้องการระยะเวลาอีกเนิ่นนานนัก
...
“เห็นทีเจ้าคงฟื้นฟูดีแล้ว”
ทันใดั้เองที่เสียงหัวเราะนิ่งและอ่อนโหลีอู๋ซางแว่วมา
ฉู่เหินหันัไป เห็นเพียงอีกฝ่ายเิเอามือไขว้หลัง้ามาทางี้่ามั่นคง
“ู้อาวุโสหลี!”
ฉู่เหินเิเข้าไปก่อน มือปะสานหมัดคารวะเล็กน้อย
หลีอู๋ซางกวาดตาดูทิวทัศน์ที่ถูกฉู่เหิน ‘ทำลาย’ โดยรอบ ใบ้ามีแววปะหลาดใ “ยังไม่ถึงสามเืก็ใช้พลังเนตรปีศาจได้ระดับี้แล้ว พรสวรรค์เจ้าใช้ได้เลยนะนี่”
‘ใช้ได้เลย!’
ฉู่เหินลูบจมูกเขินๆ ว่าไปแล้วก่อน้าที่ตนยังอยู่สำนักเส้าจงั้ ได้ยินแต่คำชมปะเภท ‘พรสวรรค์หาตัวจับยาก’ ื ‘คุณบัติสูงยิ่ง’ ื ‘โเด่นเป็สง่า’ ทั้งั้
แต่คิดดูแล้วก็เข้าใ หลีอู๋ซางเป็ยอดฝีมือเหนือโลก วิสัยทัศน์จะกว้างไกลเพียงไรกันเ่า ต้องเคยเห็นอัจฉริยะและปีศาจทั้งหลายมาไม่น้อยอยู่แล้ว เขาพูดคำว่า ‘ใช้ได้เลย’ ออกมาก็นับเป็คำปะเมิน่าสูงแล้ว
“ต้องขอบพระคุณู้อาวุโสหลีที่ปรีชาชี้แนะ!”
หลีอู๋ซางยิ้มบาง ไม่รอให้เขาเ่ปากอันใด ฉู่เหินก็รีบสาธยายต่อ่าเอาจริงเอาจัง “ู้อาวุโส ท่านมาพอดีเลย ข้ากำลังอยากไปพบท่านพอดี”
“โอ๊ะ?” หลีอู๋ซางเ่เป็เชิงถาม
ฉู่เหินผ่อนลมหายใออกพรืดยาว แล้วว่าต่อ่าจริงจัง “ู้อาวุโส ู้น้อยจะลงจากเขาเทพสาขาพรุ่งี้ขอรับ”
หลีอู๋ซางไม่รู้สึกเหนือคาดอะไรที่ฉู่เหินจะเ่เช่นี้ เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะตอบ “ดูจากพัฒนาการเจ้าในตอนี้แล้ว ในสามเืย่อมจะทลายเนตรปีศาจหนึ่งดาวได้ เจ้าแน่ใืว่าจะไม่ไปหลังจากบรรลุเสียก่อน?”
“ขอบพระคุณู้อาวุโสหลีที่หวังดี!”
ฉู่เหินกล่าวขอบคุณตัดบทโดยไม่ลังเล ดวงตาฉายแววเย็นยะเยียบ “อีกไม่กี่วันก็จะเป็วันสอบ ‘สำนักยุทธวายุจักรพรรดิ’ ข้าเตรียมการมาสามปีเพื่อวันี้ และยังพวกคนที่ทำร้ายข้า ข้าจะสะสางบัญชีให้จงได้...”
หลีอู๋ซางเพ่งมองเล็กน้อย พรสวรรค์เฉกเช่นฉู่เหินไม่ใช่ว่าสำนักยุทธขั้นสูง้าไหนก็แย่งกันคว้าตัวื?
แต่ะั้ สิ่งที่เกิดขึ้นก่อน้าี้ได้ทิ้ง ‘ปม’ ไว้ในใฉู่เหินไปเสียแล้ว หากไม่อาจแก้ ‘ปม’ ี้ให้สำเร็จได้ จะเป็ผละทบที่ไม่อาจมองข้ามได้ต่อการฝึกวิชาในภายภาค้าฉู่เหิน!
หลีอู๋ซางไม่ได้ทัดทานอันใด
“พบพานกันนับเป็วาสนา ข้ามีสิ่งหนึ่งจะให้เจ้า” หลีอู๋ซางว่าพลางหยิบม้วนหยกออกมา
“นี่คือ?”
“วิชาะบวนยุทธ์ในม้วนหยกี้ มีเพียงู้ครองสายเลือดเนตรปีศาจเท่าั้จึงจะเปิดอ่านได้ ทว่าวิชาะบวนยุทธ์โดยมากในี้ถูกหวงห้ามไว้ ต้องรอจนเจ้าบรรลุตบะถึงขั้นที่เหมาะจึงจะเปิดอ่านได้”
ว่าจบหลีอู๋ซางก็ส่งม้วนหยกให้ถึงมือฉู่เหิน
ฉู่เหินกำม้วนหยกหนาหนักในมือ หัวใบังเกิดาตื้นตันใและขอบคุณที่ไม่อาจบรรยายได้
พระคุณช่วยีิ พระคุณไขากังขา พระคุณที่ถ่ายทอดศิลปวิทยา พระคุณที่มอบล้ำค่าให้...
ฉู่เหินปะสานหมัดคุกเข่าลงทันใด คุกเข่าขอบคุณบุญคุณี้
“ู้น้อยน้อมคุกเข่าขอบพระคุณคุณอันยิ่งใญู่้อาวุโส บุญคุณู้อาวุโส ฉู่เหินจักจดจำอยู่ในใ วัน้าวันใด จักขอมาตอบแทน”
“ลุกขึ้น!”
หลีอู๋ซางยื่นมือพยุงฉู่เหินขึ้นมาจากพื้น เอื้อนเ่่าอ่อนโ “พวกเราจะได้พบเจอกันอีกในภายภาค้า”
ว่าจบหลีอู๋ซางก็ยกมือซ้ายขึ้นมา ุแสงสีทองสว่างไสววับวาวที่ปลายนิ้วชี้ หลีอู๋ซางดีดนิ้วเบาๆ ุแสงสีทองั้ก็จมลงที่หว่างคิ้วฉู่เหินดุจแสงหิ่งห้อย
“ู้อาวุโสท่าน?” ฉู่เหินมองอีกฝ่ายด้วยสงสัย
“นี่คือปะทับผนึกที่ข้าวางให้าศักดิ์สิทธิ์เนตรปีศาจเจ้าเป็การเฉพาะ เื่เจ้าใช้พลังเนตรปีศาจได้ปกติ สีตาจะไม่เปลี่ยนชัดจนเกินไป เจ้าเข้าใาหมายข้าืไม่?”
“ู้น้อยเข้าใแล้วขอรับ!” ฉู่เหินพยัก้าตอบรับจริงจัง “ข้าจะไม่แพร่งพรายเรื่องขีดจำกัดสายเลือดเนตรปีศาจและู้อาวุโสเป็อันขาด”
“เจ้าชาญฉลาดนัก!”
หลีอู๋ซางเผยสี้าเชยชมหลาย่ “าศักดิ์สิทธิ์เนตรปีศาจเป็เรื่องใญ่ หากเรื่องที่เจ้าครองขีดจำกัดสายเลือดเนตรปีศาจแพร่งพรายออกไป ่ากลัวว่าจะไม่มีวันได้อยู่่าสงบสุข เจ้าควรรู้ชัดในเรื่องี้”
“ขอรับ!”
“เช่นั้วันี้เจ้าก็พักผ่อนให้จงดี พรุ่งี้ค่อยลงจากเขาไปแล้วกัน”
หลีอู๋ซางยกมือสะบัดชายเสื้อ สำแางามสง่าแห่งยอดคนเลิศล้ำเหนือสามัญ
“ขอบพระคุณู้อาวุโส!”
มาตรแม้นเพิ่งพานพบได้ไม่ถึงสามเืดี แต่ฉู่เหินก็ซาบซึ้งและขอบคุณหลีอู๋ซางเช่นที่ไม่อาจบรรยายเป็คำพูดได้
แค่พระคุณเรื่อง ‘ช่วยีิ’ ่าเดียว ก็มากพอให้ฉู่เหินจดจำไปชั่วีิแล้ว
...
ยามราตรี
หลังกินข้าวเย็นกับหลีอู๋ซาง สนทนาพาทีสุขสันต์เสร็จิ้แล้ว ฉู่เหินก็ัมาที่ห้องตนเอง
มองดูห้องที่ตนพักมาเกือบสามเืแล้ว ฉู่เหินก็หัวใหนักอึ้งขึ้นมา ะเดียวกันก็คิดถึงสารพัดเรื่องราวและู้คนที่จะได้พบเจอยามัเมืองหลินเหยียนในวันพรุ่งี้ ดวงตาฉายแววเยือกหนาวขึ้นมา่าไม่อาจควบคุม
ัั้ ฉู่เหินไม่ได้ล้มตัวลง แต่หยิบม้วนหยกที่หลีอู๋ซางให้ตนออกมาดู
ม้วนหยกบนฝ่ามือหนาหนักแต่ัสบายมือู้ถือนัก
“จากเขาเทพสาขาไปเมืองหลินเหยียนต้องใช้เวลาเิทางสามวัน ระหว่างสามวันที่เิทางี้ ก็ศึกษาวิชาะบวนยุทธ์ไปด้วยหน่อยแล้วกัน...”
ว่าจบก็กางม้วนหยกออกมา เห็นเพียงม้วนหยกที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งตัวอักษรใด
ฉู่เหินคิดในใ เคลื่อนใช้พลังเนตรปีศาจในา ารู้สึกร้อนวาบอ่อนๆ เข้าครอบคลุมตา ั์ตาฉู่เหินเปล่งปะาแสงสีม่วงเลือนรางทันตา
เหมือนเช่นที่หลีอู๋ซางเ่ไว้ก่อน้าี้ ปะทับผนึกที่เขาวางไว้เปลี่ยนสีเนตรปีศาจได้
นอกเสียแต่จะจ้องตาฉู่เหินใ้มากแล้ว ก็เห็นเป็เพียงแสงสีม่วงรางๆ เป็สายเ้เท่าั้ ในสถานการณ์ปกติย่อมยากจะมีู้สังเกตเห็น
แน่ว่าปะทับผนึกี้ไม่ได้ส่งผละทบอันใดต่อพลังาศักดิ์สิทธิ์เนตรปีศาจเลย
กึงๆ!
ยามี้เองที่ม้วนหยกขาวว่างเปล่าตรง้าเกิดเป็คลื่นพลังแปลกปะหลาด ั์ตาฉู่เหินหรี่ลงเล็กน้อย ใส่จิตเข้าไปในม้วนหยกทันใด
วาบ!
ฉู่เหินสัมผัสเพียงแสงสีขาววาบขึ้นมา จิตสำนึกถูกพลังบาง่านำพาไป
ิตาต่อมา กลุ่มแสงพิเศษก็ล่องลอยอยู่เบื้อง้าฉู่เหิน กลุ่มแสงขนาดเท่ากำปั้นแบ่งเป็สีสัน โดยมากเป็สีแ ่น้อยเป็สีทอง
ฉู่เหินเข้าใได้ในทันทีว่าหนึ่งกลุ่มแสงแทนหนึ่งวิชา
มีแต่วิชาะบวนยุทธ์ฉายแสงสีทองเท่าั้ที่เขาจะนำมาฝึกได้ ่วิชาะบวนยุทธ์แสงสีแั้ต้องรอให้พลังตบะเขาเข้าระดับขั้นที่พอเหมาะเสียก่อนถึงจะครอบครองได้
ฉู่เหินลอบทอดถอนใเบาๆ “ู้อาวุโสหลีท่านช่างคิดรอบคอบเหลือเกิน”
ฉู่เหินมุ่ง้าไปหากลุ่มแสงสีทองกลุ่มที่ใ้เขาที่สุด่าไม่รีรอ วินาทีที่แตะกลุ่มแสงกลุ่มั้ ข้อมูล่าก็หลั่งไหลเข้าห้วงคำนึงฉู่เหินทันที
“มังกรดาวเหนือจร ะบวนยุทธ์ท่าาที่ร้อยเรียงตามลำดับเจ็ดดาวเหนือ ้าย่างเป็ตำแหน่งเจ็ดดาว มีีิชีวาดุจมังกรจรลี หากฝึกฝนสำเร็จ จักสามารถไปมารวดเร็วดุจสายลม รูปาอ่อนจางดั่งผีสาง...”
“ฝ่ามือ้ำตกทลายภูผา วิชาหมัดที่ทั้งอ่อนโและรุนแ ให้พลังหยวนแท้มารวมกันที่ฝ่ามือแล้วจู่โจมออกไปในิตา ในาแข็งแกร่งคือาอ่อนหวาน กำลังภายนอกแทรกด้วยกำลังเร้นลับ ป้องกันเช่นไรก็ป้องกันมิได้...”
ครั้นได้รับข้อมูลในหัวแล้ว ฉู่เหินก็ยิ่งตะลึงยินดีมากขึ้น
ะบวนยุทธ์ทีู่้อาวุโสหลีอู๋ซางให้ตนมาไม่มีธรรมดาสามัญเลย ลำพังเพียงฝ่ามือ้ำตกทลายภูผาก็เหนือกว่าะบวนยุทธ์ที่แกร่งที่สุดเท่าที่เขาใช้ได้่าหมัดดาวมืดเจ็ดสังหารไปไกลโข
ฉู่เหินคาดหวังในใยิ่งขึ้น กลุ่มแสงสีแที่เรืองรองั้เ่าจะเป็วิชาะบวนยุทธ์ระดับขั้นใดกัน
ครั้นสงบใที่ฟุ้งซ่านลงแล้ว ฉู่เหินจึงเลือกวิชามังกรดาวเหนือจรกับฝ่ามือ้ำตกทลายภูผา่าี้ แม้จะมีเวลาก่อนการทดสอบสำนักยุทธวายุจักรพรรดิเพียงไม่กี่วัน แต่ฉู่เหินก็มีพรสวรรค์เหนือคนและามั่นใมากพอว่าจะพอเข้าใพวกมันในขั้นเริ่มต้นได้
นับปะสาอะไรกับการที่มีทั้งพลังขีดจำกัดสายเลือดาศักดิ์สิทธิ์เนตรปีศาจและพลังโกลาหล่าอยู่ในครอบครองด้วย
...
หนึ่งราตรีผ่านพ้นไปไวราวนกที่ติดปีกบิน
ยามอรุโณทัย หมอกยามเช้าในพงไพรส่งาเย็นถึงะดูกพ
“ู้อาวุโสหลี ฉู่เหินขอลา หากมีเวลาในวัน้า ู้น้อยจะัมาเยี่ยมเยือนขอรับ”
“ไปเถิด! มีวาสนาย่อมได้พบกันอีก”
แผ่นหลังฉู่เหินเริ่มไกลห่างออกไปบนเ้ทางลงเขาที่ปูจากหินคราม
หลีอู๋ซางมองร่างบุรุษหนุ่มที่เริ่มเลือนราง ดวงตาล้ำลึกเผยแววซับซ้อนยากจะอธิบาย
“ยามี้ข้าช่วยเจ้าได้เพียงเท่าี้ วัน้าเนตรปีศาจคู่ั้เจ้าจะทอดมองไปได้ไกลเพียงใดหนอ?”
.............................
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??