เรื่อง ฤทธาสยบฟ้า ใต้หล้าเหนือพันธนาการ
สามเดือนผ่านไป เมืองหลินเีได้ต้อนรับาทดสอบรับศิษย์ของสำนักยุทธวายุจักรพรรดิที่ทั้งเมืองต่างตั้งารอ.
ที่ผ่านมา หากคนหนุ่มสาวเมืองหลินเีหมายใจจะเข้าสำนักยุทธขั้นสูงที่มีชื่อเีง จะต้องเิทางไปยังนครหลวงเพื่อเข้าร่วมาทดสอบด้วยตนเ แต่ในปีนี้สำนักยุทธวายุจักรพรรดิมารับัครศิษย์ด้วยัเ นับเป็เรื่องใญ่และเป็เกียรติแก่ทั้งเมืองหลินเีโดยแท้
แต่ะนั้น ที่น่าประหลาดใจก็คือ สถานที่จัดาทดสอบสำนักยุทธวายุจักรพรรดิคือที่บ้านตระกูลเย่ มิหนำซ้ำยังจัดในงานเลี้ยงวันเกิดของคุณหนูใญ่ตระกูลเย่นามเย่โยวีต่างหาก
“ยอดเยี่ยมจริงแท้! ไม่นึกเลยว่าตระกูลเย่จะไปมีความเกี่ยวข้องกับสำนักยุทธวายุจักรพรรดิ ึ่ใน้าสำนักใญ่แห่งอาณาจักรดาวศักดิ์สิทธิ์ได้ เมืองหลินเีคงใ้ถึงยุคที่ตระกูลเย่จะเป็หัวเรือใญ่แล้วะมัง?”
“ก็เป็ไปได้! เกิดป่ายปีนร่มไม้ใญ่อย่างสำนักยุทธวายุจักรพรรดิได้ วันข้างหน้าคงได้งอกงามไม่ร่วงโรยเป็ธรรมดา”
“พวกเราก็ไปร่วมวงที่บ้านตระกูลเย่หน่อยแล้วั! ูหน่อยซิว่าจะมีอัจฉริยะหนุ่มสาวสักกี่คนของสำนักเส้าจงที่เข้าสำนักยุทธวายุจักรพรรดิได้สำเร็จ”
“สี่อัจฉริยะทำได้แน่นอน”
“เ้าพูดผิดแล้ว สามอัจฉริยะต่างหาก”
“ฮ่าๆ โทษที ีคนเป็สวะนี่นา”
...
ท่ามาความเืพล่าน ึั และสั่นสะเทือนของทั้งเมือง งานเลี้ยงวันเกิดของเย่โยว คุณหนูใญ่ตระกูลเย่ได้เปิดฉากอย่างเงียบเชียบ`
ยามใ้เที่ยงวัน บ้านเย่ก็มีแขกมาัอย่างเนืองแน่น เนื่องจากเป็ตระกูลอันดับต้นๆ เืหลินเี ตระกูลเย่จึงมีกิตติศัพท์ในเมืองอย่างสูง``
จวนตระกูลเย่ที่ประดับประดาอย่างหรูหราและใญ่โต
พรมสีแดงใหม่เอี่ยมูปูจากประตูใญ่บ้านเย่ไปจนถึงสวนหน้าบ้าน
เพื่อต้อนรับขับสู้าทดสอบศิษย์สำนักยุทธวายุจักรพรรดิในครั้งนี้ ตระกูลเย่ตั้งใจดัดแปลงสวนหน้าบ้านให้เป็ลานเต๋า้าใญ่เป็าพิเศษ เใจาลานเต๋านั้นคือแท่นสี่เหลี่ยมสูงกว่า้าิเมตรอันโอฬารตระาา
ภายในจวน ผู้คนามาย ึัหาใดเปรียบ
ตำแหน่งบนแท่นสูงาของลานคืออัฒจันทร์อันโอ่อ่าแห่งึ่
บนอัฒจันทร์ ่าจักรปราณไม่สามัญนั่งอยู่บนเ้าอี้ใญ่แสนสบายทั้งสี่ั
หากมองไปทั่วงานจะเห็นว่ามีเพียงสี่คนนี้เท่านั้นที่มีสิทธิ์นั่งอยู่ข้างบน
“เ้าตระกูลหลิ่ว เ้าตระกูลเหลียง เ้าสำนักเส้าจงมาัหมดแล้วใช่หรือไม่?”
“ช่างหาูได้ยากเีจริง! คนใญ่คนโตเืหลินเีทั้งาไม่เคยได้รวมััเช่นนี้มานานแล้ว”
“ข้าว่าคงเป็เพราะสำนักยุทธวายุจักรพรรดิไปกว่าึ่”
...
ผู้คนใต้ลานวิพากษ์วิจารณ์ั ต่างฝ่ายต่างมีสีหน้ายำเกรง
ผู้นั่งซ้ายสุดคือเ้าตระกูลเหลียง ‘เหลียงฮุย’
อายุอานามราวสี่ิ เขาวางมือทั้งลงกับพนักเ้าอี้ สีหน้านิ่งสงบเป็อย่างยิ่ง
ข้างๆ เหลียงฮุยคือชายาคนในชุดยาวผู้มีอายุไล่เรียงั บุรุษผู้นั้นมีแววาลึกหม่น มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา เขาก็คือเ้าตระกูลหลิ่ว ‘หลิ่วเสวียน’
ส่วนทางขวาสุดนั้นคือชายชราวัย้าหกิปี มือขยับูเหล็กูในมือ ให้ความรู้สึกหนักแน่นดุจขุนเขา
เ้าสำนักสำนักเส้าจง ‘ชิงสือ’
และบุรุษาคนผู้ที่นั่งตรงาเ้าอี้ทั้งสี่อันแ้ว้าไม่สามัญ คือเ้าตระกูลเย่ ‘เย่ฉิง’
เย่ฉิงนั่งอยู่บนเ้าอี้ั้า มุมปากจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม งานวันนี้หาใช่ง่ายดายแค่เพียงเป็วันเกิดูสาวแสนรักอย่างย่โยวไม่
แขกเหรื่อแน่นขนัด ปืนใญ่พิธีแซ่ซ้อง!
บรรยากาศอันรื่นเริงปกคลุมทั่วทุกหัวมุมจวนเย่
แต่ะนั้น ผู้ที่ดึงูดความสนใจผู้คนาที่สุดับมิใช่ประมุขตระกูลทั้งสามหรือเ้าสำนักเส้าจง แต่เป็บุรุษหนุ่มที่อยู่ใ้เ้าตระกูลหลิ่วกับเ้าตระกูลเหลียงต่างหาก
“ศิษย์พี่หลิ่วเซียวหล่อเหลือเกิน!”
“ศิษย์พี่เหลียงอี้หมิงก็ช่างเย็นชายิ่งนัก”
“ในบรรดาอัจฉริยะสำนักเส้าจง ข้านับถือพวกเขาคนที่สุดแล้ว”
...
ศิษย์หญิงไม่น้อยมองคนนั้นอย่างเพ้อฝัน ด้วยเป็อัจฉริยะอันดับึ่แห่งเส้าจงในเวลานี้ หลิ่วเซียวจึงเป็จุดสนใจของผู้คนเอไม่ว่าจะไปแห่งหนไหน ก็ูแ้ว้าสามารถ หว่างคิ้วมีิ่นอายความทระนงและบ้าคลั่ง
เหลียงอี้หมิงรูปลักษณ์ภายนอกนั้นูแสนเย็นชา ไม่พูดจาปราศรัย บุคลิกโดดเดี่ยวทระนงดุจอินทรีในทุ่งหญ้า
“คุณหนูเย่โยวออกมาแล้ว...”
ทันใดนั้น เีงจ้อกแจ้กจ้าละหวั่นก็ดังมาามฝูงชน าาามายหันเหไปทางเดียวั ท่ามาาาตะลึงและอิจฉา ดรุณีสาวงามหมดจดเลิศเลอ บุคลิกเฉกเช่นชนชั้นสูงก็เิออกมาจากในเรือนตระกูลเย่
“คุณหนูเย่โยววันนี้ช่างสวยจริงๆ ”
“พูดจาเหลวไหล! คุณหนูเย่โยวสวยมาตลอดนั่นแหละ”
“อวยพรให้คุณหนูเย่โยวสุขสันต์ในวันเกิด!”
...
คุณหนูใญ่ตระกูลเย่และึ่ในสี่อัจฉริยะแห่งสำนักเส้าจง
เย่โยวเป็ที่ต้อนรับของผู้คนอย่างยิ่ง ผนวกกับวันนี้เป็วันเกิดครบรอบอายุิหกปีของนาง เมื่อนางปาฏกาย จึงได้น่าตะลึงงันในความงามยิ่งนัก
“โยวเอ๋อ มาคารวะเ้าตระกูลทั้งและเ้าสำนักสิ” เ้าตระกูลเย่อมยิ้มเอ่ยนิ่ง
เย่โยวเผยรอยยิ้มตรึงใจคน นวยนาดมายังบนอัฒจันทร์ ทำความเคารพามมารยาท แล้วว่า “เย่โยวคารวะท่านอาหลิ่ว ท่านอาเหลียง ท่านลุงเ้าสำนัก”
“าสาวเย่โยว อย่าได้พิธีรีตองไป” หลิ่วเสวียนยกมือขึ้นเล็กน้อย แล้ว่าวเจือรอยยิ้ม
“โยวเอ๋อน้อย...” ชิงสือเ้าสำนักเส้าจงกวักมือเี “มานี่สิ ข้ามีของขวัญชิ้นึ่จะให้เ้า”
ิ้คำ ชิงสือก็หยิบ่องไหมวิจิตรงดงามออกมา เปิ่ออก ิ่นหอมสะอาดซึมลึกถึงอณูโชยมา ยาสีแดงเม็ดึ่ปาฏแก่าาผู้คน!
“ยาะูกหยวน!” เย่ฉิงเลิกคิ้วแล้วโพล่งออกมา
เพียงได้ยินนาม ‘ยาะูกแท้’ นามนี้ คนโดยรอบต่างก็ื่ตระหนก
ชิงสือี่าเล็กน้อย ใบหน้ามีรอยยิ้มย่ามใจ “โยวเอ๋อ ‘ยาะูกหยวน’ เม็ดนี้าพอให้เ้าบรรลุระดับเชื่อมหยวนในึ่ปี ต้องพยายามเข้านะ!”
เย่โยวชื่นใจเป็นักหนา “ขอบพระคุณท่านลุงเ้าสำนักที่รักา โยวเอ๋อจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังเ้าค่ะ”
“ฮ่าๆ ดีเลย”
เย่โยวรับยาะูกหยวนที่ชิงสือมอบให้มาแล้วไปอยู่ข้างเย่ฉิง เ้าตระกูลเย่ ท่ามาาาอิจฉาเป็เท่าันับคู่ไม่ถ้วน
ยามนี้เที่หลิ่วเซียวผู้อยู่ไม่ไเิมาข้างกายนาง แย้มยิ้มบางื่เต้นาส่วน เา่า “คุณหนูใญ่เย่โยว เ้าสวะนั่นไม่มาหาเ้าีแล้วะมัง?”
เย่โยวขมวดคิ้วงามเล็กน้อย ตอบับไม่แยแส “เ้าคิดว่าะไรเล่า?”
“ฮึๆ!” หลิ่วเซียวหัวเราะชอบใจ “สวะที่ตัดมือตัดตีนไปแล้วคงหมดปัญญาคลานเข้าหน้าประตูใญ่บ้านเย่”
...
บรรยากาศอันครื้นเครงทวีความึัไม่หยุดหย่อน
แต่คุณหนูรองตระกูลเย่ผู้ยืนอยู่ข้างสนามอย่างเย่เหยาับัดุ้มไปทั้งใจ นางมองคุณหนูเย่โยวผู้เป็ดั่งดาวล้อมเดือนแววาซับซ้อนนัก
“พี่ฉู่เหิน ท่านไปอยู่ที่ไหนัแน่?”
เย่เหยากัดริมฝีปากแดงๆ ดวงหน้างามแฉล้มเผยความกังวลเต็มที่
...
ไม่นานนัก ทุกคนที่มีหน้ามีาในเมืองหลินเีก็มายังบ้านเย่โดย้เพรียง
“ขาดแต่เพียงเ้าตระกูลหลงจ้านแห่งจวนแม่ทัพเท่านั้นที่ไม่มา”
“จวนแม่ทัพไม่มีทางมาแน่อยู่แล้ว ฉู่เหินเ้าสวะทำเรื่องทุเรศพรรค์นั้น จวนแม่ทัพคงขายขี้หน้าิ้แล้ว หากเ้าตระกูลหลงจ้านา็เท่ากับถามหาความอัปยศเ”
“พูดีก็ูี ฮ่าๆ”
...
จวนแม่ทัพที่ทุกคนพูดถึงันั้นคือมหาอำนาจุ่มึ่ในเมืองหลินเี ฉู่เหินก็ได้จวนแม่ทัพนี้รับเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก
เดิมทีแล้วหากมีงานอย่างวันนี้ เ้าตระกูลจวนแม่ทัพหลงจ้านควรจะมางานด้วยตนเ ่าทั้งเ้าตระกูลหลงจ้านหรือคนจากจวนแม่ทัพก็ไม่มาเลยแม้แต่คนเดียว
สาเหตุนั้นก็ต้องเป็เพราะฉู่เหินอยู่แล้ว
ยามนี้ คนทั้งเมืองหลินเีมองฉู่เหินเป็สวะที่น่าอับอายขายขี้หน้าไปแล้ว
แกว๊ก!
ันั้น เีงร้องของอินทรีอันกังวานใสก็สะท้อนก้องบนน่านฟ้าเหนือบ้านเย่
ทุกคนตกใจไปามๆ ั ต่างก็เงยหน้ามองบนท้องนภา ี่นัยน์าลงทุกคน เห็นเพียงอินทรียักษ์สีขาวบารมีน่าเกรงขาม ทรงอำนาจหาใดเทียมที่ทะลวงเมฆจากขอบฟ้าเื้หน้าเข้ามา
อินทรียักษ์ขาวโพลนทั้งั ไม่มีขนสีอื่นใดแทรกแซม กางปีกทั้งออกได้ความ้าร้อยเมตร
เคลื่อนไหวดุจลำแสงนำพาพลานุภาพน่าครั่นคร้าม
รังสีที่แผ่ออกาดทับได้ทั้งงานเลี้ยง
“สัตว์ิญญาขั้นเ้า อินทรีขาวยอดคม!” คนเื้ล่างส่งเีงอุทานออกมา
“เห็นทีคนจากสำนักยุทธวายุจักรพรรดิจะมาแล้ว”
“องอาจดีจริงๆ! ขี่สัตว์ิญญาขั้นเ้ามา แล้วที่เป็สำนักยุทธวายุจักรพรรดิ”
...
เย่ฉิงเ้าตระกูลเย่ หลิ่วเสวียนเ้าตระกูลหลิ่ว เหลียงฮุยเ้าตระกูลเหลียง และชิงสือเ้าสำนักเส้าจงต่างยืนขึ้น้ัโดยมิได้นัดหมาย ต่างฝ่ายต่างเงยมองอินทรีขาวยอดคมที่น่าเกรงขามอย่างขึงขังและวาดหวัง
เงาสีดำใญ่ยักษ์เคลื่อนไหวอย่างว่องไวบนพื้นเมืองหลินเี เพียงพริบาอินทรีขาวยอดคมก็อยู่เหนือบ้านตระกูลเย่
บนหลังของอินทรีขาวคือ่าอันเฉียบคมรังสีอานุภาพเลิศล้ำยี่ิกว่าคน
ผู้นำนั้นคือชายาคนวัยประมาณสามิกว่าปี าาทอดมองผู้คนเื้ล่างอย่างผู้อยู่สูงกว่า ใบหน้าประดับยิ้มบางอันหยิ่งทะนง
แกว๊ก!
อินทรีขาวยอดคมวาดองศาสง่างามในอากาศธาตุ แล้วจึงร่อนลงบนแท่นสูงใจาสวนหน้าบ้านอย่างมั่นคง
ะแสปราณล้นหลามผนวกกับรังสีพลานุภาพถาโถมม้วนตลบออกไปสี่ทิศแปดทาง ผู้คนโดยรอบต่างสะท้านสะเทือนจนถอยหลังไปาก้าว
“ยินดีต้อนรับาา์หลี่กู้ เิทางมาไ เิทางมาไ...”
เย่ฉิงรีบเข้าไปต้อนรับด้วยรอยยิ้ม ท่าทีมีอัธยาศัยยิ่งนัก
“เ้าตระกูลเย่!”
บุรุษาคนบนอินทรีขาวยิ้มบาง จากนั้นก็ะโจนลงมายังแท่น้คนเื้หลัง แล้ว่าวกับอินทรีขาว “รอคำสั่งข้าที่ป่านอกเมือง”
อินทรีขาวส่งเีงร้องต่ำเบา แล้วจึงกางปีก ทะยานสู่ท้องฟ้าแล้วหายับไปจากเหนือบ้านตระกูลเย่ ท่ามาาาตกตะลึงเป็เท่าของฝูงชน
“ช่างเก่งกาจจริงๆ! ข้าเพิ่งเคยเห็นสัตว์ิญญาูเลี้ยงจนเชื่องเชื่อฟังคำสั่งเป็ครั้งแรก”
“มิหนำซ้ำยังเป็สัตว์ิญญาขั้นเ้าเีด้วย”
“สำนักยุทธวายุจักรพรรดิไม่ธรรมดาจริงๆ ”
...
เพียงได้ยินเีงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนโดยรอบ คนจากสำนักยุทธวายุจักรพรรดิก็ยิ่งรู้สึกเหนือกว่าอย่างแสนทระนง
“าา์ลี่กู้เิทางมาลำบากนัก เชิญนั่งทางนี้่!” เย่ฉิงมาต้อนรับคณะสำนักยุทธวายุจักรพรรดิด้วยตนเ
เ้าสำนักเส้าจงเก็เข้าไปทักทายอย่างสนิทสนม “เหอะๆ าา์ลี่กู้ สุขกายสบายใจดีนะ!”
“เ้าสำนักชิงสือ ท่านยังะชุ่มะชวยเหมือนเดิมนะ! ฮ่าๆ”
มาตรแม้นึ่เป็าา์ ีึ่เป็เ้าสำนัก
่าสำนักเส้าจงกับสำนักวายุจักรพรรดิับไม่อาจเปรียบเทียบัได้เลย ชิงสือยามอยู่ต่อหน้าลี่กู้ก็ต้องวางกิริยาเ้าสำนักอย่างถ่อมตน
เ้าตระกูลหลิ่วและเ้าตระกูลเหลียงเก็เข้าไปทักทายปราศรัยามมารยาท
จากนั้น ลี่กู้ก็นั่งลงตรงที่นั่งตรงาระหว่างเย่ฉิงกับชิงสืออย่างสง่าผ่าเผย ูจากตำแหน่งก็รู้ได้ว่าลี่กู้กับเย่ฉิงตำแหน่งแทบจะเท่าัอยู่แล้ว
เห็นได้ว่าตระกูลเย่เคารพสำนักยุทธวายุจักรพรรดิาเพียงใด
“เ้าตระกูลเย่ ได้ยินมาว่าวันนี้เป็วันเกิดพันชั่งท่าน ไม่สู้จัดฉลองให้พันชั่งเี่ แล้วค่อยดำเนินเรื่องทดสอบ...” ลี่กู้เปิดบท
“าา์ลี่กู้เกรงใจัไปแล้ว” เย่ฉิงปัดป่ายมือ ่าหน้าพลางว่า “าทดสอบของสำนักยุทธวายุจักรพรรดิคือาใญ่ที่ทั้งเมืองตั้งารอคอย ทำเรื่องนี้ให้เสร็จเี่ ทุกคนค่อยผ่อนคลายสบายใจก็ไม่า”
เพียงเอ่ยคำนั้นออกไป ทุกคนเื้ล่างก็เห็นเป็เีงเดียวั
ต้องรู้่ว่าผู้คนที่มาัตั้งามายล้วนมีเป้าหมายคือมาูาทดสอบรับศิษย์สำนักยุทธวายุจักรพรรดิัทั้งนั้น
ที่ผ่านมาอัจฉริยะหนุ่มสาวทั้งปวงเืหลินเีต้องเข้าเมืองหลวงไปเข้าร่วมาทดสอบเข้าสำนักยุทธขั้นสูงัเอาเ
นานทีปีหนจะมีสำนักยุทธอย่างวายุจักรพรรดิมาถึงที่ ความคาดหวังามายเพียงไหนไม่บอกก็รู้ได้พ
“ในเมื่อเป็เช่นนั้น ก็ทดสอบ่แล้วั!” ลี่กู้ไม่ดึงดันอะไรา หยุดครู่ึ่จึงมองชิงสือเ้าสำนักเส้าจงข้างกายแล้วว่าต่อ “่า ่หน้าจะทดสอบ ข้ามีเรื่องึ่จะประกาศ”
‘ยังมีเรื่องจะประกาศีหรือ?’
ทุกคนอึ้งไปเล็กน้อย
...
บนถนน้าใญ่ในเมืองหลินเี ่าสูงของคนหนุ่มหล่อเหลาเงยมองอินทรีขาวยอดคมหายลับไปในม่านเมฆ
บุรุษหนุ่มสวมอาภรณ์สีดำ โครงหน้าคมกริบประึ่แกะสลักด้วยมีดสลัก
ันั้น าาไปตกต้องที่เื้หน้า บนป้ายเหนือประตูใญ่จวนอันน่าเกรงขาม อักษรคำว่า ‘จวนเย่’ แผ่รังสีเคร่งขรึมน่าเลื่อมใส
มุมปากคนหนุ่มยกเป็ยิ้มเย็นชา ดวงาเยือกเย็นเผยประกายสีม่วงซ่อนเร้นอันเฉียบแหลมเด่นชัด
.............................
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??