เรื่อง ฤทธาสยบฟ้า ใต้หล้าเหนือพันธนาการ
เช้าตรู่ อรุณรุ่งอ่อนโสาดส่องผืนฟ้า.
สนามฝึกยุทธขนาดเล็่างเปล่าตั้งอยู่ใกลางสวนักว้างใญ่ ที่แห่งี้คือที่ซึ่งฉู่เหินฝึกวิทยายุทธผู้เดียวเป็นปะจำ
ยามี้ บนแท่นหินด้านบนสนามฝึกยุทธ ฉู่เหินกำันั่งขัดสมาธิอยู่ แสงสีทองอ่อนาหนึ่งพันรอบาเขาปะดุจแพรบาง
ฉู่เหินหลับพริ้ม าานิ่งไม่ไหวติงดั่งหินผา
มือซ้ายเานั้นเล่ากลับกำึกน้ำขนาดเ่ากำปั้นทารกไว้อยู่ก้อนหนึ่ง ึกใสแวววาวมีแสงเงินกะพริบเคลื่อนไหวอยู่ภายใน
พัวิญญาณหลั่งไหลไม่ขาดาถูกดูดออกมาจากหินึกนั้น รวมเข้าสู่าฉู่เหิน
นี่คือหินึกขั้นกลาง
ภายในแอบซ่อนแหล่งพังานที่ร่างาดูดซับรับเอาไว้ได้ แหล่งพังานี้สามารถแปรสภาพเป็นพัแท้ เพิ่มพัตบะผู้ฝึกยุทธได้
วิธีฝึกวิชาผู้ฝึกยุทธนั้นแตกต่างกันออกไป
วิธีค่อนข้างดั้งเดิมหน่อยก็คือดูดซับพัวิญญาณฟ้าดินกับซึมซับแหล่งพังานจากหินึก เทียบกันแ้ การใช้หินึกจะเ็และมีปะสิทธิมาก่า แต่ก็เช่นเดียวกัน ระดับคุณค่าหินึกจึงได้สำแดงออกมาเพราะเหตุี้เอง
มาตรแม้นเป็นฉู่เหิน ก็ได้รับหินึกขั้นกลางจากจวนแม่ทัพมาเพียงสองก้อนต่อเดือนเ่านั้นเอง`
ตึงตึง!``
มีพัหินึกกรอกเข้าใส่ พัแท้ในาฉู่เหินก็แปรเป็นรุ่มร้อนไม่หยุดนิ่ง
แกร่ก!
พลันนั้น หินึกในมือฉู่เหินก็แตกร้าวออกเป็นหลายทาง สีสันสว่างไสวกลับหม่นหลงทันใด
พัวิญญาณอบอวลรอบด้านถูกเก็บกลับเข้าสู่ร่างฉู่เหินอย่างรวดเ็ สองาเบิกกว้างามมา พ่นลมหายใออกแผ่วเบา ก้มหน้าลงพลัน หินึกแตกระแหงในมืออย่างงุนงง
“เพิ่งไม่ึคืนก็ย่อยหินึกขั้นกลางไปแ้ก้อนหนึ่ง าศักดิ์สิทธิ์เนตรปีศาจกับาโกลาหลกลั่นได้รวดเ็ดีแท้...”
หากคำนวณล่วงหน้าในยามปกติ พัที่ซ่อนเร้นในหินึกขั้นกลางนั้นมากพอให้ฉู่เหินดูดซับได้ห้าหกวันโดยปะมาณ
แต่บัดี้กลับอยู่ไม่ึหนึ่งคืน ก่อนัแตกต่างกันเกือบสิบเ่าตัว
แน่นอนว่าพัวิญญาณ แหล่งพัที่แฝงอยู่ในหินึกนั้นกลับไม่ได้สูญเปล่าเลยแม้แต่น้อย มันได้รวมเข้าในร่างเาอย่างสมบูรณ์แ้ นี่เองคือามหัศจรรย์พัแห่งขีดจำกัดาเลือดทั้งสอง
“เห็นทีจากี้คงต้องคิดหาวิธีหาหินึกเพิ่มแ้...”
ฉู่เหินพึมพำกับตนเอง หากอยากเพิ่มพูนตบะให้เ็ขึ้นี หินึกก็คือทรัพยากรที่ไม่อาจขาดได้
แกร่ก!
ฉู่เหินออกแรงบีบมือเล็กน้อย หินึกในมือก็แหลกสลายเป็นเศษผง
...
ทันใดนั้นเองที่เสียงฝีเท้าหนักแน่นดึงาสนใฉู่เหินกลับมา
“ุ้า!” เห็นเพียงจ้านเดินเข้ามาจากปะตู ฉู่เหินเลิกคิ้ว ลุกขึ้นไปต้อนรับ
จ้านยิ้มอ่อนโ “ลูกเหิน เ้าอาการเป็นเช่นไรบ้าง?”
“ขอบพระคุณุ้าที่ห่วงใย ได้พักผ่อนมาหนึ่งคืน ร่างาไม่มีปัญหาอะไรมากขอรับ”
“เช่นนั้นก็ดีเลย!”
ทั้งสองพูดพลางนั่งลงข้างโต๊ะหินทิศปะจิมสวนไปพลาง
“ุ้ามาเพื่อถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับข้าตลอดสามเดือนี้ใช่ไหมขอรับ?” ฉู่เหินชิงามก่อน
จ้านยิ้มเป็นเชิงยอมรับกลายๆ
ฉู่เหินตอบไปไม่ัเล “วันนั้นัจากข้าถูกพวกหลิ่วเซียววางกับดักทำร้ายก็ได้ผู้สูงส่งท่านหนึ่งช่วยชีวิตไว้ ผู้สูงส่งท่านนั้นไม่เพียงช่วยต่อเส้นปราณข้าที่แหลกสลายไปแ้เ่านั้น ยังช่วยชี้แนะารู้สำคัญเรื่องการฝึกวิทยายุทธให้ไม่น้อย แต่ทว่า..."
ฉู่เหินหยุดไป สบาจ้านโดยตรง “ผู้สูงส่งท่านนั้นเคยบอ่าอย่าบอกเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับเขาให้ผู้ใดรับรู้ขอรับ”
อารัมภบทแสนง่าย ฉู่เหินบอกเล่าเรื่องที่ปะสบพบเจอมาสามเดือนให้ฟัง
หลีอู๋ซางเคยเตือนฉู่เหินไว้ชัดเจนว่าาลับเรื่องเขากับาศักดิ์สิทธิ์เนตรปีศาจจะรั่วไหลออกไปมิได้เด็ดขาด
แม้จ้านจะเป็นเสมือนพ่อแท้ๆ เา แต่ฉู่เหินก็คิดว่า ยังไม่สมควรบอกเรื่องที่าศักดิ์สิทธิ์เนตรปีศาจเาตื่นขึ้นมาแก่จ้าน!
“เช่นี้นี่เอง เห็นทีผู้อาวุโสสูงส่งผู้นั้นคงไม่คิดขัดแย้งกับโลก ึได้ไม่ยินยอมเปิดเผย้มูลตนเอง นี่ก็ถือว่าเป็นปะสงค์ฟ้า ลูกเหินชะาเ้ายังไม่ขาด”
จ้านไม่ระแคะระคายัใด เพียงทอดถอนใเ่านั้น
ในเื่สภาพอย่างฉู่เหินนั้น หากไม่มีผู้สูงส่งคอยช่วยเหลือแ้ไซร้ มีหวังคงได้นอนติดเตียงลุกไม่ขึ้น นับปะสาอะไรกับการเอาชนะหลิ่วเซียวเพื่อแก้แค้นในวันี้เล่า
ฉู่เหินเอ่ยด้วยขอโทษ “ุ้า สามเดือนี้ข้าสร้างปัญหาให้ท่านเพิ่มแ้”
จ้านตบัมือีฝ่ายเบาๆ ่าหน้าไม่เห็นด้วย “เ้าอยู่ที่จวนแม่ทัพนี่ตั้งแต่เล็กจนโต ข้าเห็นเ้าเป็นลูกคนที่สามมาแสนนานแ้ ขอถามหน่อยเถิดเกิดเรื่องใญ่เช่นี้ หากข้าไม่ช่วยออกหน้าให้เ้า แ้ใครจะช่วยเ้าเล่า?”
ฉู่เหินอบอุ่นหัวใยิ่งนัก ดวงาใสกระจ่างฉายาซาบซึ้งใและขอบคุณจากใจริง
พลันนั้น จ้านหยิบเอาถุงผ้าสีเทาใบน้อยกับตำราเล่มหนึ่งออกมา
“ลูกเหิน นี่คือหินึกขั้นกลางยี่สิบก้อนกับวิชายุทธที่ท่านปู่เ้าทิ้งไว้ให้ ‘เคล็ดวิชาปะทับมังกรเก้าวิญญาณ’ เ้าจงเก็บรักษามันไว้ให้ดีนะ”
‘อะไรนะ?’
ฉู่เหินอึ้งไปชั่วะ หินึกขั้นกลางยี่สิบก้อนหรือ?
ปกติเขาได้อย่างมากก็แค่เดือนละสองก้อนเ่านั้นเอง นี่แทบจะได้จำนวนเ่ากับทั้งปีเลยทีเดียว
และ ‘เคล็ดวิชาปะทับมังกรเก้าวิญญาณ’ คือกระบวนยุทธ์ ‘ระดับสร้างเมล็ดพันธุ์’ จากปะสบการณ์ก่อนหน้าฉู่เหิน เขาไม่มีสิทธิ์จะได้รับมันแต่อย่างใด
ระดับขั้นวิชากระบวนยุทธ์สอดคล้องกับระดับขั้นตบะวรยุทธ
...
แน่นอนว่าไม่มีสิทธิ์ได้รับกับไม่มีสิทธิ์ฝึกมันคนละอย่างกัน
ฉู่เหินที่ตบะระดับเปิดเส้นปราณสามารถฝึกวิชากระบวนยุทธ์ระดับสูงได้ เพียงแต่ระหว่างกระบวนการฝึกนั้นอาจมีพัแท้ไม่มากพอ หรือาแกร่งพัไม่มากพอ จึงไม่อาจสำแดงพัทำลายล้างที่แกร่งที่สุดออกมาได้
พูดให้ง่าย่านั้นคือพัี้ฉู่เหินสามารถแสดงวิชากระบวนยุทธ์ใดก็ามที่เป็น ‘ระดับขั้นเปิดชีพจร’ ได้ ไม่เพียงสำแดงพัเข่นฆ่าที่แกร่งที่สุดกระบวนยุทธ์ออกมาได้เ่านั้น พัแท้ยังไม่มีทางหมดเกลี้ยงีด้วย
หลักการเดียวกัน ตบะยุทธระดับเชื่อมก็สามารถสาธิวิชากระบวนยุทธ์ ‘ระดับขั้นเชื่อม’ ออกมาได้โดยไร้แรงกดดัน
แต่ทว่า หากให้ตบะยุทธระดับเปิดชีพจรใช้กระบวนยุทธ์ ‘ระดับขั้นเชื่อม’ ขึ้นมา พัแท้ที่เสียไปจะมหาศาล่ากระบวนยุทธ์ ‘ระดับขั้นเปิดชีพจร’ มากมายนัก
มีแต่ระดับขั้นการฝึกยุทธและวิชากระบวนยุทธ์ที่สอดคล้องกัน พัปลิดชีพกระบวนยุทธ์ึจะปลดปล่อยออกมาได้เต็มร้อย
...
แต่ึแม้จะเป็นเช่นนั้น หากสำเร็จกระบวนยุทธ์ระดับขั้นเชื่อมเพียงสองสามส่วนพั ก็สามารถเอาชนะพัที่กระบวนยุทธ์ระดับขั้นเปิดชีพจรทำสำเร็จได้แ้
ีทั้ง การที่จอมยุทธระดับต่ำฝึกวิชากระบวนยุทธ์ขั้นสูงก็ยังมี้ดีที่สุดอยู่ จะสามารถเพิ่มระดับการฝึกได้อย่างรวดเ็
หากเปรียบให้เห็นภาพ คือให้เด็กสิบขวบเข้ารับการฝึกเด็กหนุ่มอายุสิบสามนั่นแล
ช่วงระยะแจะยากมากก็จริง แต่หากรักษาระดับไว้ระยะหนึ่งแ้ าเ็ในการเติบโตเด็กสิบขวบย่อมจะมาก่าเด็กรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน
...
ทว่าเคล็ดวิชาปะทับมังกรเก้าวิญญาณี้กลับเป็นกระบวนยุทธ์ ‘ระดับขั้นสร้างเมล็ดพันธุ์’ ที่เหนือ่าระดับเชื่อมเสียี
ลำพังเพียงระดับฉู่เหินในี้ ไม่มีทางแสดงกระบวนยุทธ์ชุดี้ออกมาได้แน่ ้ดีเพียงอย่างเดียวคือสามารถเพิ่มคุณภาพการฝึกฝนฉู่เหิน และเพิ่มาเ็ในการเพิ่มพูนพัขึ้นีได้
นี่คือ้ได้เปรียบที่ไม่อาจข้ามได้เลย
“ลูกเหิน เคล็ดวิชาปะทับมังกรเก้าวิญญาณอยู่ในระดับขั้นสร้างเมล็ดพันธุ์ นับเป็นกระบวนยุทธ์ขั้นสูงแน่นอน หากเ้าเริ่มฝึกเสียตั้งแต่ี้ จะเพิ่มระดับาเ็ในการบรรลุเ้าได้ รอจนเ้าย่างก้าวเข้าระดับเชื่อมเื่ใดแ้พร่ำเพียรฝึกฝน ย่อมจะสำแดงปะทับมังกรท่าที่หนึ่งได้เป็นแน่...”
จ้านเอ่ยจากใ
“แตุ่้า กฎจวนแม่ทัพมิใช่บอ่ามีเพียงคนหนุ่มสาวระดับเชื่อมจึงจะมีสิทธิ์ฝึกฝนกระบวนยุทธ์ี้หรือขอรับ?” ฉู่เหินถามด้วยไม่เข้าใ
จ้านให้าสำคัญกับกฎจวนแม่ทัพอย่างมากเสมอมา ีทั้งไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้แจ้งในเคล็ดวิชาเก้ามังกรปะทับวิญญาณได้ แม้เป็นหนุ่มสาวที่ได้มาตรฐาน ก็สามารถฝึกฝนได้เพียงครึ่งแเ่านั้น ต้องรอก้าวสู่ขั้นที่สูงขึ้นไปก่อนึค่อยฝึกฝนครึ่งัต่อได้
เห็นได้ชัดว่า เคล็ดวิชาเก้ามังกรปะทับวิญญาณตรงหน้าฉู่เหินในยามี้เป็นฉบับสมบูรณ์
จ้าน่าหน้าหัวเราะ “ฎไ้ชีวิต ิีชีวิต ลูกเหินเอ๋ย ่าเหตุการณ์วุ่นวายเื่วานมา เกินครึ่งเ้าคงไม่อาจเข้าสำนักยุทธวายุจักรพรรดิได้แ้ ข้าึคิดจะให้เ้าเป็นเหมือนเช่นพี่ชายใญ่และพี่สาวรองเ้า เดินทางไปยังนครหลวงเพื่อเข้าร่วมการทดสอบศิษย์ใหม่สำนักยุทธระดับสูงแห่งอื่น...”
เพียงได้ยินคำนั้น ฉู่เหินก็เข้าใาเคี่ยวเข็ญเอาใใส่จ้านในพลัน
พัฉู่เหินในี้หากอยากเข้าสำนักยุทธขั้นสูงที่ค่อนข้างดีย่อมมิใช่เรื่องยากเย็นเกินไป แต่เพื่อรับปะกันว่าจะไม่มีสิ่งใดผิดพลาด จ้านผู้เข้มงวดเสมอมาึได้ยอมทำลายกฎที่ตนเป็นคนตั้งไว้ในแลงเสีย
ฉู่เหินตื้นตันใเหลือเกิน
ว่ากันามจริง จะมีเคล็ดวิชาปะทับมังกรเก้าวิญญาณหรือไม่ก็ไม่สำคัญ ในเื่ก่อนหน้าี้หลีอู๋ซางได้ให้ม้วนไม้ไผ่ที่บรรจุวิชากระบวนยุทธ์ไว้นับร้อยวิชามาแ้
แต่ฉู่เหินก็ไม่คิดหักหาญน้ำใจ้าน จึงรับเบื้องหน้ามาอย่างขึงขังจริงจัง
“ุ้า ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”
เห็นแววสัตย์จริงจากดวงาฉู่เหินแ้ จ้านก็ถอนหายใพรืดยาว ส่งาาให้กำัใ “ข้าเชื่อว่าต้องมีสักวันที่เ้าจะข้าม่าพี่ใญ่และพี่หญิงรองเ้าได้”
ฉู่เหินยิ้ม ดวงาเจือแวววาดหวังจางๆ
“นายท่าน...”
พลันนั้น เสียงเร่งเร้นก็ดังมา
ามมาด้วยเสียงฝีเท้ารีบเร่ง องครักษ์จวนแม่ทัพผู้หนึ่งปรากฏาในสวนพ
“มีเรื่องัใด?” จ้านถามเสียงเคร่ง
“เรียนนายท่าน อาจารย์ลี่กู้สำนักยุทธวายุจักรพรรดิมาเยือนขอรับ”
“โอ๊ะ?” จ้านปะหลาดใเป็นนักหนา สบาฉู่เหินข้างาแ้จึงตอบ “สำนักยุทธวายุจักรพรรดิหรือ? พวกเขามาทำอะไรที่นี่?”
“ผู้น้อยไม่รู้ พวกเขาบอกเพียงว่าอยากขอพบนายท่าน แ้ก็นายน้อยเหิน...”
………………………..
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??