เรื่อง ฤทธาสยบฟ้า ใต้หล้าเหนือพันธนาการ
‘ูปฏิเสธหรือ?’.
ูรายชื่อผูู้คัดเลือกั้สามใบแ้ ฉู่เหินก็ยืนอึ้งอยู่กับที่ มือกำหมัดโดยไม่รู้ตัว หว่างคิ้วปรากฏแววลึกซึ้งหลายส่วน
ศิษย์หนุ่มสาวที่มุงูรอบด้านยิ่งตระหนกตกใจเป็เท่าตัว ต่างต่างก็คาดไม่ถึงกันั้นั้น
“แปลกา ไม่มีชื่อเขาได้อย่างไร?”
“ไร้เุผลิ้ดี! เมื่อวานเขาฆ่าหมีพิโรธเกราะเกล็ดตายได้ใทีเชียวนะ”
“ชักไม่เ้าใจแ้”
...
ทุกต่างวิพากษ์วิจารณ์เื่นี้กันั้นั้น เุการณ์สุดท้ายใการทดสอบศิษย์กลุ่มแรกเมื่อวานยังตราตรึง ตามัแ้ฉู่เหินทำได้ถึงเพียงนั้น ย่อมจะ้ได้รับการคัดเลือกอย่างไร้ปัญหา
แต่ความเป็จริงกลับเหนือความคาดหมายทุกอย่างิ้เชิง
นอกจากพวกที่ฉงนฉงายและเีดายฉู่เหินแ้ ก็ยังมีพวกที่มีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่นอยู่ไม่น้อย
“ความจริงูปฏิเสธก็ไม่แปลก เุการณ์เมื่อวานนั้น หมีพิโรธเกราะเกล็ดมันิ้เรี่ยวแแ้ ลงมือปลิดชีพได้ง่ายดายา เุที่เขาไม่เคยบอกแผนการตัวเองต่อศิษย์อื่นก็เพราะ้การจะ ‘เหยียบ’ พวกเีกันขึ้นไป หลอกใช้พวกเีกันเช่นนี้ไม่สมควรได้รับการยกย่อง”`
“พูดเป็ตุเป็ตะไปได้ ีเะ นั่นมันก็แค่การทดสอบ มาพูดเื่หลอกใช้ไม่หลอกใช้อะไรกัน”``
“ใช่แ้ เขายังช่วยคุณหนูเฉินอวี้ไว้อีกต่างหาก!”
“ฮึ เช่นนั้นพวกเ้าก็ลองบอกซิว่าทำไมเขาถึงูสำนักมหาหัสดีปฏิเสธ? าาเุนี้แ้ ยังจะคิดสาเุอื่นใดออกอีกหรือ?”
“เื่นั้นมัน...”
...
เีงกระซิบกระซาบรอบด้านดั่งน้ำหลากหลั่งไหลเ้าหูฉู่เหินไม่ขาดสาย
ฉู่เหินเพ่งสายตาเล็กน้อย ผ่อนลมหายใจพรืดยาว ไม่คิดจะหยุดอยู่ที่นี่นาน หันหลังเดินจากไปทันที
ฉู่เหินผู้เดินอยู่ท่ามาฝูงชนที่สัญจรไปมามีั้จิตใจหนักอึ้งและฉงนฉงาย
ก่อนหน้านี้ก็ูสำนักวายุจักรพรรดิปฏิเสธไป มาคราวนี้ยังูสำนักมหาหัสดีปฏิเสธอีก
‘เื่นี้จะเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า?’
หากเื่นี้เกี่ยวข้องกันจริง เื่ก็ง่ายดายขึ้นานัก
‘มีกำลังเป็ปฏิปักษ์กับเขาอยู่หรือ?’
ฉู่เหินมีแววตาสงสัยเืหลาย เขาเพิ่งเ้าเมืองหลมาไม่ถึงสามวันเท่านั้นเอง ไม่ได้ทำผิดต่อผู้ใดั้นั้น
หรือจะเป็เื่ที่ตระกูลหลิ่วก่อขึ้นมา? แต่ที่นี่มันนครหล ตระกูลหลิ่วไม่ได้ใญ่คับฟ้าใเมืองหลินเหยียนด้วยซ้ำ จะสมือเ้ามาถึงที่นี่ได้อย่างไร
“ช่างมัน...”
ฉู่เหิน่าหน้า ใเมื่อคาดเดาไม่ได้ก็อย่าเพิ่งคิดถึงมันแ้กัน ไม่ว่าอย่างไร ตนก็ูสำนักมหาหัสดีปฏิเสธไปแ้ ต่อจากนี้้หาทางออกอื่น
ไม่นานนัก ฉู่เหินก็สงบอารมณ์ใัใจลงได้ ดตาวาววามด้วยแสงแ่ความทรหด
จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปทิศทางหนึ่งโดยไร้ลังเล
...
สำนักมหาหัสดี!
อาคารกว้างใญ่แผ่ขจายกลิ่นอายใญ่โตโอ่อ่า
เสาหินสีแดงชาดเรียงรายตามทางเดินักว้างขวาง ทางเดินนั้นทยาวไปถึงห้องัปะดับปะดาหรูหราห้องหนึ่ง แต่กลับมีเีงถกเถียงล่องลอยมา
“าา์อาวุโสเ ท่านหมายความว่าอะไร?”
“ฮึ าา์ลู่ซู่ ฟังน้ำเีงตัวท่านเองเีบ้าง” ชายาวัยสี่ิกว่าๆ นั่งบนเก้าอี้ตัวกว้าง ชายฉกรรจ์วัยสามิกว่าๆ เื้หน้าแววตาไม่พอใจ
รายหลังหาใช่ใครอื่นใด เป็าา์คุมสอบัสำนักเมื่อวานนี้ ลู่ซู่นั่นเอง
ลู่ซู่ใยามนี้ขมวดคิ้วมุ่น อารมณ์เหมือนจะเืพล่าน เขาชี้กระดาษรายชื่อใมือ “าา์อาวุโสเ ทำไมท่าน้ถชื่อศิษย์นามฉู่เหินนั้นออกด้วย?”
“เฮอะๆ...” ชายวัยาผูู้เรียกว่าาา์อาวุโสเัเราะนิ่ง “ข้าว่ามันก็ไม่ใช่เื่ใญ่โตัใด แค่ศิษย์หนึ่งเท่านั้นเอง”
“แต่เขาผ่านการทดสอบ อย่างน้อยท่านควรจะบอกเุผลที่ท่านปฏิเสธเขากับข้า”
“าา์ลู่ าา์อาวุโสผู้นี้ตัดสินใจัใด้ชี้แจงแก่เ้าด้วยหรือ?” าา์อาวุโสเจ้องอีกฝ่ายอย่างเยือกเย็น น้ำเีงเต็มไปด้วยความไม่แยแส
ลู่ซู่โกรธจนไฟุ เขายอมรับตัวศิษย์ที่ชื่อฉู่เหินนี้า!
ยามนี้อีกฝ่ายเอะอะจะถชื่อก็ถเลย มิหนำซ้ำยังไม่มีเุผลชัดเจนอีกด้วย สมควรจะไม่พอใจไม่าก็น้อย
“าา์อาวุโสเ” ลู่ซู่ขมวดคิ้วเป็ปม ว่าต่้วยเีงเคร่งชัดเจนทุกถ้อยคำ “ผู้รับผิดชอบการทดสอบศิษย์ใหม่คือข้า”
“แ้อย่างไรกันเล่า? หากเ้าไม่พอใจต่อการตัดสินใจข้า ก็ไปรายงานเ้าสำนักเี แต่าา์อาวุโสผู้นี้จะเตือนเ้าสักหน่อย อย่าเอาตัวไปเสี่ยงเพียงเพื่อเื่ขี้หมูราขี้หมาแห้งจะดีกว่า”
“เ้า...”
ลู่ซู่สีหน้าเปลี่ยน ถ้อยคำอีกฝ่ายข่มขู่กันชัดเจนนัก
เป็ไปไม่ได้ที่จะรายงานเ้าสำนัก เพียงเพราะถชื่อศิษย์ใหม่หนึ่งออกเท่านั้น อย่าว่าแต่เ้าสำนักเลย ต่อให้เป็าา์ธรรมดาสามัญหนึ่งก็ไม่ใส่ใจด้วยซ้ำไป นี่มันเป็เื่ขี้หมูราขี้หมาแห้งอย่างเห็นได้ชัด
ลู่ซู่ต่อสู้ไม่ยินยอมเช่นนี้เป็เพราะเขาคิดว่าฉู่เหินเป็บุคคลฟ้าปะทานที่สามารถหมายมั่นปั้นมือให้ดีได้ล้วนๆ ถถอนไปมันน่าเีดายจริงๆ แต่สถานะเช่นเขาไม่อาจต่อกรกับาา์อาวุโสเตรงหน้าได้ จึงได้แต่้กล้ำกลืนลงไปแม้ใจจะอยากช่วยเืเกิน
“ไปได้แ้ าา์อาวุโสยังมีธุระ้จัดการ...” าา์อาวุโสเตัดบทไม่แยแส
ลู่ซู่ระงับโทสะใอกที่ไม่อาจระบายออกมา กำหมัดแน่นแ้หันหลังตะบึงตะบอนจากไป
าา์อาวุโสเปรายหางตาเมินเฉย ใบหน้าเจือความขำขันัเหยียดหยาม
...
ยามเที่ยงวัน ฉู่เหินมาถึงปะตูเคหาสน์หลังหนึ่ง
เื้บนปะตูสำนักัโอฬารน่าเกรงขามแขวนป้ายไว้ใบหนึ่ง บนป้ายสลักอักษรัเฉียบคมสี่ตัว
‘สำนักจันทร์สกาว’
สำนักจันทร์สกาว หนึ่งใ้ามหาสำนักแ่นครหล
ฉู่เหินเลือกสำนักแ่นี้เพราะหลงเสวียนซอยู่ที่นี่แน่อยู่แ้
ธิดาเล็กหลงจ้าน ี่หญิงรองฉู่เหิน แม้จะไม่ได้มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลื ผนวกกับหลงเสวียนซไม่ได้สนิทสนมกับเขาเหมือนกับหลงชิงา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็เป็ครอบครัวที่โตด้วยกันมา
หากได้เรียนสำนักเีกันกับหลงเสวียนซแ้ไซร้ ้ไม่ใช่เื่เลวร้ายแน่
ั่ขณะนี้ ปะตูใญ่สำนักจันทร์สกาวแทบจะไร้ผู้ มีแต่องครักษ์สามกับเ้าหน้าที่ลงทะเบียนตรงทางซ้ายบันไดหนึ่งเท่านั้น
เขานั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะตัวยาวอย่างแสนคร้าน ี่า หน้าตาเบื่อหน่ายเต็มทน
“ข้าอยากรายงานตัวเ้าร่วมการทดสอบ...” ฉู่เหินเดินไปเื้หน้าอีกฝ่าย เื้เอ่ยถ่อมตน
“หืม?” เ้าหน้าที่ลงทะเบียนหาวหว เหล่ฉู่เหินไม่ยี่หระ “มาช้าจริงนะ? การทดสอบวันนี้เริ่มไปนานแ้”
“เช่นนั้นข้าขอรายงานตัวเ้าร่วมวันพรุ่งนี้” ฉู่เหินว่าต่อ
ชายหนุ่มไม่ตอบกลับมา แต่หันไปตะโกนใส่ทางปะตูใญ่สำนักจันทร์สกาว “ฮ่าึ...”
‘ฮ่าึ?’
ฉู่เหินอึ้งไป นี่มันชื่อหรือนี่?
“ฮ่าึ” เห็นยังไม่มีความเคลื่อนไหว ชายเดิมก็ตะโกนเรียกอีกสามรอบ
“มาแ้ๆ จะเร่งไปตายหรือ?” ิ้เีงต่อว่าไม่พอใจ เ็ุ่ตัวเล็ก ัเล็ก ตาเล็กก็วิ่งออกมาจากปะตูใญ่สำนักจันทร์สกาว
เพียงเห็นรูปร่างหน้าตาเขาฉู่เหินก็เ้าใจ ว่าชื่อ ‘ฮ่าึ’ นี้มีที่มาจริง
โดยเฉพาะดตาเล็กๆ เขาที่เหมือนหนูราวกับแกะ
“ฮ่าึ เ้าตกบ่อขี้หรือูขี้อุดหูาันหา? เรียกั้นานถึงเพิ่งขานเนี่ย?” ชายลงทะเบียนอ้าปากด่า
“เ้าสิตกบ่อขี้ ตะโกนให้มันดังอีกหน่อยไม่ได้หรือไงเล่า? รู้อยู่ว่าหูข้ามันเล็ก เ้าจงใจนี่หว่า!” ฮ่าึอ้าปากสวนกลับไม่เกรงใจ
พอได้ยินบทสนทนาั้คู่ ฉู่เหินก็หน้ามืด
‘นี้เป็สำนักจันทร์สกาวจริงหรือนี่?’
หรือเขาเดินมาผิดทาง!
“เ้าเป็ใคร บอกชื่อแซ่กับอายุหน่อยซิ” ชายรับหน้าที่ลงทะเบียนหันกลับมาฉู่เหินอีกครั้ง
“ฉู่เหิน ิหกปี!”
หลังลงทะเบียนง่ายๆ เ็ิ้ ชายนั้นก็เบนตัวไปบอก “ฮ่าึ พาเขาไปสนามสอบทีซิ ูซิว่ายังจัดที่ได้อยู่ไหม ถ้าไม่ได้ก็้รอคราวหน้าแ้”
“ขอบคุณา!” ฉู่เหินพยักหน้าซึ้งน้ำใจ
ชายนั้นปัดป่ายมือไม่ว่ากระไร
แต่ฮ่าึชายตาเล็กกลับกระตือรือร้นเป็ัา “แฮะๆ ตามข้ามาสิ! จะว่าไปเ้านี่ก็มาช้าดีจริง ทดสอบวันนี้มันเริ่มไปั้แต่เช้าแ้ ไม่รู้ว่าจะยังเ้าร่วมได้อยู่ไหมด้วย!”
“วันนี้ข้าเิเื่ไม่คาดฝันิหน่อย ทำให้เ้าลำบากแ้” ฉู่เหินตอบกลับ
“ไม่เป็ไรๆ หลายวันมานี้ข้าเห็นเจอแบบเ้ามานักต่อนักแ้ เ้า้พยายามเ้านะ! หากเ้าสำนักจันทร์สกาวเราได้ อนาคตข้างหน้าสดใสแน่ล่ะ เ้าควรจะมีพลังระดับเปิดชีพจรั้เจ็ดกระมัง?”
“หืม?” ฉู่เหินชะงักเล็กน้อย
“ไม่ใช่หรือ? แ้ั้หกเล่า? ั้หกคงถึงแ้กระมัง?” ฮ่าึว่าต่อ “หากยังไม่ถึงั้หกก็คงยากหน่อยแ้ แต่ไม่เป็ไรหรอก โอกาสวันหลังยังมี เหมือนข้านี่ สอบมาั้ปีกว่าจะเ้าสำนักจันทร์สกาวได้ อย่ายอมแพ้ก็พอแ้...”
ฮ่าึเป็พวกพูดเก่งสายเลืบริสุทธิ์ อายุแก่กว่าฉู่เหินไม่เท่าไรก็ทำวางมาดเป็ผู้อาวุโสกว่าเีแ้ แต่รูปลักษณ์ภายนอกอีกฝ่ายกลับไม่ให้เอาเีเลย ูยังชวนขบขันไม่เบา
แน่นอนว่าฉู่เหินไม่ได้ผลักไสปะเภท ‘พูดเป็ต่อยหอย’ ใเมื่อทุกคำพูดและการกระทำเขาล้วนแฝงความห่ใยไว้ั้นั้น
...
ฮ่าึนำทางฉู่เหินมาถึงลานเต๋ากว้างใญ่แ่หนึ่ง
ออกันเต็มลานนั้น โดยาเป็หนุ่มสาวอายุอานามราวิ้าิหก นับรวมั้หน้าหลังได้ราว้าหก้ ณ เวลานี้สายตาทุกคู่ล้วนจับจ้องไปที่เวทีใจาลานพ
เวทีนั้นมีเีงปะทะกันพลังหยวนแท้และเีงตะโกนกู่ก้องฝูงชนดังมา
ฉู่เหินตามไป เห็นบนเวทีกำลังต่อสู้กันอยู่
หนุ่มสาวเยาว์วัยยี่ิสามิล้อมบุกเพียงเี ผูู้ล้อมนั้นคือชายอายุราวสามิร่างกำยำูใญ่ แข็งแเืี มือกำดาบใญ่เล่มหนึ่ง เผชิญกับการปิดล้อมศิษย์ามายอย่างสุขุมไม่ไหวติง...
“นี่หรือเนื้อหาการทดสอบ?” ฉู่เหินซักไซ้ด้วยกังขา
“อื้ม!” ฮ่าึพยักหน้า พลางว่า “เนื้อหาการทดสอบสำนักจันทร์สกาวพวกเราง่ายดายา มีแค่อย่างเีคือรวมกลุ่มกันสามิ บุกใส่าา์หลิวเหมิ่งให้สุดแเิ แค่ยืนหยัดรับการบุกาา์หลิวเหมิ่งให้ได้หนึ่งใสี่ครึ่งั่ยามก็ผ่านได้แ้...”
………………………..
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??