เรื่อง ฤทธาสยบฟ้า ใต้หล้าเหนือพันธนาการ
ยามรัตติกาล!.
เมืองหลวงที่คลาคล่ำไปด้วยผู้อวลแโสว่างไสว สุราเขียวโแดง ดนตรีบรรเลงนวลนางร่ายรำ ขจรขจายเสน่ห์แห่งนครหลวงของอาณาจักร
ในโรงเหล้าอันมลังเมลืองอะร้าอร่าม จะเห็นบุรุษและสตรีอาภรณ์หรูหรานั่งสำเริงสำราญ
“ทั้งท่านเชิญทางนี้...”
เหยียบย่ำบันไดขั้น้า เดิน่าระเบียงทางเดินที่โไฟสลัว
ชายหนุ่มึ่นำทางาา์ำัจันทร์สกาวอย่างหลี่เวยและหลิวเหมิ่งไปยังห้องเงียบห้องึ่ที่ชั้น
“ทั้งท่าน เิญ้าใน” บุรุษหนุ่มพยักหน้าเป็มารยาท แล้วักปะตูออกเบาๆ
สิ่งแรกที่เห็นในคลองสายาคือสรรพอาหารเลิศรสเรียงรายบนโต๊ะัึ่
ชายวัยกลางนั่งอยู่ในห้องเพียงผู้เี หน้าาของเขาธรรมดาเหลือจะเอ่ย หากอีกฝ่ายเดินเข้าฝูงชนแล้วไซร้ ต้องลืมหน้าเขาในเวลาอันรวดเ็เป็แน่
แต่ชายผู้ดูช่างธรรมดาผู้นี้ไม่รู้จะธรรมดาอย่างไร กลับให้กลิ่นอายอันตรายอย่างยิ่งยวด
“รอคอยมานานแล้ว าา์หลี่เวย าา์หลิวเหมิ่ง...” ชายวัยกลางยิ้มน้อยๆ น้ำเีงทุ้มต่ำหนักอึ้งราวฟ้าร้อง`
หลี่เวยกับหลิวเหมิ่งมองหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างมองเห็นแววสับสนในดวงาอีก``
“ท่านคือผู้ใด? เรียกหาพวกเราด้วยธุระอันใด?”
หลี่เวยเปิดปากซักถามแล้วเข้าห้องนั้นไปกับหลิวเหมิ่งามลำดับ
“เชิญทั้งท่านนั่งลงก่อน ไม่ต้องเกรงอกเกรงใไป” ชายวัยกลางเอ่ยเรียบนิ่ง ยกกาสุราใกล้มือขึ้นแช่มช้า รินสุราชั้นเลิศหอมกรุ่นใส่จอกจนเต็ม
ทั้งยิ่งฉงนหนักเข้าไปอีก
หลิวเหมิ่งขมวดคิ้ว ตะคอกเีงเคร่ง “เจ้าเป็ใครกันแน่? หากไม่บอกมาให้ชัดเจน ข้าไม่มีเวลามาอยู่เป็เพื่อนเจ้าที่นี่หรอก...”
“เหอะๆ าา์หลิวเหมิ่งไยต้องรีบร้อน” ชายวัยกลางหัวเราะนิ่ง วางกาสุราลงแผ่วเบา มองทั้งแววาสงบนิ่ง แล้วึิา “ผู้น้อยเรียนเชิญท่านทั้งมาด้วยมีการึ่จะไหว้วานพวกท่าน...”
“โอ๊ะ?” หลี่เวยและหลิวเหมิ่งปะหลาดใเล็กน้อย
“กลางวันวันนี้ คงมีผู้นามว่า ‘ฉู่เหิน’ มาเข้าร่วมการทดสอบำัจันทร์สกาวกระมัง!”
ฉู่เหิน?
ทั้งยิ่งปะหลาดใหนักขึ้นไปอีก อีกฝ่ายมาหาพวกเขาทั้งคู่เพราะฉู่เหินกระนั้นหรือ?
“มีการอันใดก็บอกมาามตรงเถิด! อย่ามัวอ้อมค้อมอยู่เลย” หลี่เวยตอบ
ชายวัยกลางยังยิ้มสุขุมไม่สะทกสะท้านเช่นเคย เขาหันกล่องไม้กล่องออกมาจากด้านัของตนอย่างใเย็น วินาทีที่เปิดกล่องออกมา ปะกายแระยิบระยับพลันเจิดจ้า
กล่องไม้บรรจุหินึกแท้แวววาวโปร่งใสหลากาลวดลายและสีสันสิบ่าเม็ดด้วยกัน
ดูจากสีสันและลวดลายาในของหินึกเหล่านี้แล้ว เป็หินึกแท้ชั้นสูงอย่างแน่นอน
“ท่านหมายความว่าอย่างไร?” หลี่เวยเอ่ยปากถาม น้ำเีงเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย
“เฮอะๆ ของขวัญยามพบหน้า ที่คือของขวัญแรกพบที่ข้ามอบให้พวกท่าน” ชายกลางหัวเราะด้วยอารมณ์
“ไม่มีบำเหน็จใดได้มาโดยไร้งาน เชิญท่านเ็ๆ ท่านกลับไปเถิด” หลิวเหมิ่งว่าเยียบเย็น
“สิ่งของ...ในเื่นำออกมาแล้ว ย่อมไม่อาจเก็บกลับคืนเช่นที่ท่านว่าได้...” ชายวัยกลางหยุดไป แล้วึ่า่ “ทว่า เื่ที่ข้าไหว้วานพวกท่านทั้ง ก็ขอเชิญาา์ทั้งท่านโปรดช่วยเหลือด้วย”
“ท่านต้องการจะพูดอะไรกันแน่?”
“ในรายชื่อรับิ์เข้าำัจันทร์สกาวพรุ่งนี้ ข้าไม่อยากเห็นชื่อ ‘ฉู่เหิน’ คำนี้”
อะไรนะ?
หลี่เวยกับหลิวเหมิ่งอดตกใไม่ได้ เป้าหมายของอีกฝ่ายคือสิ่งนี้อย่างนั้นหรือ?
คือเพราะไม่อยากให้ฉู่เหินเข้าำัจันทร์สกาวนั่นเองหรือ?
“ทำไมเล่า?” หลิวเหมิ่งอดถามไม่ได้
“เหตุข้าจะไม่พูดา แต่เื่เล็กน้อยเ่านี้เชื่อว่าคงเป็เื่ง่ายดายอย่างยิ่งสำหรับพวกท่าน”
“ไม่ได้” หลิวเหมิ่งขมวดคิ้วคู่หนา “พวกเราำัจันทร์สกาวทำามกฎเกณฑ์ ในเื่ฉู่เหิน่าการทดสอบจะยังมีเหตุใดให้ปฏิเสธเขาอีก? เ็ๆ ท่านกลับไปเี”
หลิวเหมิ่งไม่ิยอม แต่หลี่เวยข้างกันกลับสีหน้าลังเล
ชายวัยกลางยิ้มพลางลุกขึ้นมา “ข้าบอกแล้วว่า ของที่ให้ไปแล้วย่อมไม่มีเหตุต้องรับคืน ข้าขอัก่อน ท่านทั้งโปรดดื่มสุราจอกนี้เีก่อน...”!
ว่าจบก็ออกไปจากห้องทันที
อากาศดูราวกับนิ่งแ็ หินึกหยวนแท้ชั้นเลิศบนโต๊ะดั่งมณีในราตรีมืดมิด ส่องแสุกสกาว
หินึกหยวนแท้ชั้นเลิศเหล่านี้เป็ทรัพย์สินจำนวนไม่น้อยเลยสำหรับพวกเขาทั้ง
พวกเขาอยู่ำัจันทร์สกาวให้อดข้าวอดน้ำก็ต้องใช้เวลาสามปี่าจะได้หินึกหยวนแท้ชั้นเลิศจำนวนเ่านี้มาได้ แต่เพลานี้ ขอแค่พวกเขาตัดสินใง่ายๆ อย่างึ่ก็จะได้ค่าแรงเทียบเ่าสามปีเลยทีเี
แต่หากเป็เช่นนี้จริง จิตใด้านดีก็ยังรู้สึกเกินทนรับได้อยู่ดี
“เจ้าจะตอบรับผู้นั้นจริงหรือ?” หลิวเหมิ่งจ้องหลี่เวยาไม่กะพริบ
หลี่เวยลังเลไม่ตัดสินใ นี่มันการดิ้นรนกันชัดๆ ัครุ่นคิดรอบึ่ ดวงาของหลี่เวยก็ฉายแววตัดสินใ เขาเปรย “หลิวเหมิ่ง เจ้ารู้ไหมว่าหินึกหยวนแท้ชั้นเลิศพวกนี้จะมีส่วนช่วยพวกเราได้า”
“แต่ถ้าเบื้องบนรู้เข้า พวกเราจบเห่แน่”
“ไม่มีทางหรอก” หลี่เวย่าหน้าแน่วแน่ “แค่ิ์ใหม่ที่คุณสมบัติค่อนข้างดีเ่านั้นปะไร เบื้องบนไม่มาใส่ใเื่พวกนี้หรอก ต่อให้เจ้าำัรู้เข้า ก็ไม่มีทางขับพวกเราออกจากำัจันทร์สกาวเพราะเหตุนี้แน่...”
ทั้งอยู่ำัจันทร์สกาวมาราวเจ็ดแปดปีจึงแน่ใในข้อนี้ได้
“อัจฉริยะที่ไหนก็มีทั้งนั้น ำัจันทร์สกาวของพวกเราไม่เคยขาดิ์อัจฉริยะโดดเด่นเช่นนี้อยู่แล้ว ฉู่เหินเป็เพียงึ่ในนั้นเ่านั้น เบื้องบนไม่ใส่ใหรอ่าจะเพิ่มมาึ่หรือลดไปอีก...”
หลี่เวยพูดเป็ต่อยหอย หยุดลงแล้วึ่า่ “เจ้าลองคิดดูให้ดี ที่เป็ปฏิปักษ์กับเด็กนั้น มิใช่ที่พวกเราจะผิดใด้วยได้แน่”
หลิวเหมิ่งตกใ เหมือนจะเข้าใบางสิ่ง
ยามนี้พอมาคิดดูอีกที เบื้องัชายวัยกลางผู้นั้นต้องเป็บุคคลที่เหนือล้ำยิ่ง่าแน่
ผู้เป็ปรปักษ์กับฉู่เหินซ่อนเร้นอยู่เบื้องัชายผู้นั้น
“ข้าเข้าใแล้ว!” หลิวเหมิ่งกำหมัด รู้สึกเย็นวาบไปทั้งกระดูกสันั
หลี่เวยถอนหายใพรืดยาว “ฉู่เหินจะายเื่ไรก็แค่ช้าหรือเ็เ่านั้น อีกฝ่ายยังไม่ลงมือยามนี้ ่าครึ่งคงต้องการเล่นแบบ ‘แมวเล่นหนูก่อนฆ่า’ นั่นแหละ ต่อให้ฉู่เหินเข้าำัจันทร์สกาวของเราได้ในาหน้า น่าัว่าก็ต้องายในสักวันอยู่ดี ในเืุ่จบมันถูกวางเอาไว้แล้ว พวกเราจะยุ่งาเื่ไปไยเล่า?”
จำต้องบอ่า หลี่เวยเป็ฉลาด
แน่นอน นครหลวงแห่งอาณาจักรดาวศักดิ์สิทธิ์มีฉลาดามายนับไม่ถ้วน
ิการวิเคราะห์ของอีกฝ่ายแล้ว หลิวเหมิ่งจึงตระหนักได้ว่าเื่ราวมิได้ง่ายดายเช่นที่คิด
“เด็กนั้นไปผิดใกับใครเข้านะ?” หลิวเหมิ่งลอบถอนหายใ พลันก็่าหน้า “พอแล้ว เื่นี้ข้าฟังความคิดเจ้าแล้วกัน! เีดายต้นกล้าที่น่าบ่มเพาะจริงๆ...”
หลี่เวยเพ่งสายา ใบหน้ามีแววเย็นชา
“แต่วันนี้ฉู่เหินทำได้โดดเด่นสะดุดาา พรุ่งนี้พวกเราจะหาข้ออ้างอะไรปฏิเสธเขาเล่า?” หลิวเหมิ่งถาม
“ทำไมต้องหาข้ออ้างด้วยเล่า? พวกเราแค่หลบหน้าไม่พบ พบเข้าก็ไม่ตอบเี...อีกอย่างเื่นี้ก็เป็ธุระของเรา เบื้องบนไม่ถามอันใดหรอก เบื้องล่างก็ไม่ต้องไปสนใ อยากวิพากษ์วิจารณ์อันใดก็ให้พวกเขาทำไป ่าไปไม่กี่วันใครจะมาสนใเื่พวกนี้เล่า?”
“พูดมีเหตุ!”
หลิวเหมิ่งพยักหน้า สิ้นไร้ความลังเลในพลัน
นอกจากรู้สึกผิดต่อฉู่เหินอยู่ในใแล้ว ก็ไม่รู้สึกอื่นใดอีก าั เื่ทั้งหยิบหินึกหยวนแท้ชั้นเลิศใส่กระเป๋าแล้ว ความรู้สึกผิดนั้นก็เลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ความจริงมันก็โหดร้ายเช่นนี้!
เื่มีอำนาจและสิ่งยั่วยวนอยู่เบื้องหน้า ความถูกต้องนั้นช่างเล็กจ้อยเหลือจะเอ่ย
ในโลกที่กินใบนี้ พลังต่างหากคือสัจธรรมึ่เีที่ใช้ทดสอบความแ็แกร่ง
...
ดึกสงัด!
แจันทร์ผ่องใสดุจเมล็ดหิมะสีเงินฉาบไล้ลงมา
เรือนอันงดงามเป็เอกลักษณ์เงียบสงบเด่นชัดใต้แแห่งจันทรา
เขตนี้เป็เขตที่พักอาศัยของิ์ำัจันทร์สกาว ิ์ธรรมดาจะพักในึ่เรือนด้วยกันา มีเพียงอัจฉริยะชั้นยอดที่ำัให้การดูแลเป็พิเศษเ่านั้นจึงจะมีเรือนที่อยู่ส่วนั
เห็นได้ชัดว่านี่คือเรือนส่วนั
ตำแหน่งทางซ้ายของสวน คือแท่นศิลา ศาลาเปิดัคาแห่งึ่
ยามนี้ อิสตรีอ่อนเยาว์นางึ่นั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นศิลานั้น ยาวปะบ่า ชุดกระโปรงราตรีสีขาว แจันทร์สุกสกาวฉาบไล้เรือนร่างนางให้ผิวขาวราวกับหิมะนั้นผุดผาดปะดุจหยก
ดวงหน้าเลอโฉมเข้าคู่กันกับเครื่องหน้าพริ้มเพรา งามเลิศเพริศพริ้งดุจภูตพรายในราตรี
ทันใดนั้นเอง เด็กาค่อยๆ ลืมาคู่สวยขึ้นมา บุคลิกอันเยือกเย็นราวกับน้ำแ็บังเกิดขึ้นเงียบงัน
นางหาใช่ใครอื่น แต่เป็ธิดาเล็กของจ้าน น้องาของชิงา และพี่หญิงรองที่ไม่มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดของฉู่เหิน เสวียนซวง...
“าวันแล้ว เขาน่าจะมารายงานัที่ำัวายุจักรพรรดิแล้วกระมัง...” ดวงาของเสวียนซวงฉายแววบางปะการ ขยับริมฝีปากพึมพำกับตนเองเช่นนั้น
สามวันก่อนได้จดหมายจากจ้านผู้เป็บิดามา กล่าวว่าฉู่เหินได้รับเลือกจากำัวายุจักรพรรดิ ให้นางกับชิงาไปรอรับที่สถานีพักม้า
แต่เพราะสาเหตุในันาง เสวียนซวงถึงไม่ได้ออกไปข้างนอกมาาวันแล้ว
ยามเสวียนซวงลังเลว่าจะไปพบฉู่เหินพรุ่งนี้ดีหรือไม่นั่นเอง วังวนปราณที่ไม่อาจควบคุมก็เกิดเอ่อล้นออกมาจากในร่างไม่ทันให้ตั้งั ทั้งแท่นศิลาศาลาเป็รัศมีโดยรอบกายนางพลันปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแ็บางๆ
“เฮ้อ...”
เสวียนซวงถอนหายใแผ่วเบา พลังกายสัปะยุทธ์วิญญาณน้ำแ็ไม่อาจควบคุมได้เช่นนี้เอง เผด็จการ่าขีดจำกัดสายเลือดกายสัปะยุทธ์ธรรมดานัก
“พอเถิด รออีกสักพักค่อยไปแล้วกัน! พี่ชายอยู่ด้วยทั้ง คงไม่เกิดปัญหาอันใดที่แก้ไขไม่ได้”
พลันนั้น เสวียนซวงหลับาลงสงบใเข้าสู่สภาวะฝึกวิชาอีกครั้ง
...พ
ดวงดาวพราวพร่างเต็มม่านฟ้าค่อยๆ เลือนรางลับา
ขอบฟ้าปรากฏเป็สีทองอำไพ
ยามแแรกแห่งอรุณรุ่งส่อง่าชั้นเมฆอาบฟากฟ้า ฉู่เหินในห้องก็เบิกา ดวงาดำทมิฬฉายแวววาดหวังาส่วน
ึ่วัน่าพ้นไปแล้ว ควรจะไปำัจันทร์สกาวได้แล้ว...
…………………………
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??