เรื่อง ย้อนยุคมาเป็นเถ้าแก่เนี้ยสาวชาวสวน กับ ระบบวิเศษ
“ี่ใหญ่ ท่านพูดอะไรของท่านเจ้าคะ นี่คือสิ่งที่ี่สะใภ้เหลือให้เซวียนเซวียน ท่านจะให้เซวียนเซวียนเอาไปจำนำได้อย่างไร” ซย่าชุนอวิ๋นขัดซย่าหลี่จวินด้วยความไม่พอใ นางไม่รู้ว่าจิ่นเซวียนมีแหวนอยู่ จึงพูดได้แค่ว่าเป็ของตกทอดของแม่เซวียนเซวียนเพื่อช่วยนาง
เ็บ้าชุนอวิ๋นกับเซวียนเซวียนเป็พวกเีกัน
“ข้าแค่พูดเท่าั้ เจ้าไม่จำนำก็มิเป็ไร” ซย่าหลี่จวินไม่พอใเล็กน้อย
“ท่านลุงเป็คนไม่ดี ท่านลุงรังแกี่สาว” หานเอ๋อร์น้อยนั่งข้างกายจิ่นเซวียน นางเห็นซย่าหลี่จวินตี้านิ่งเลยเอนัเ้าหาจิ่นเซวียนด้วยความกลัว
“หานเอ๋อร์ ลุงมิใช่คนไม่ดี” ซย่าหลี่จวินไม่สบายในักที่หลานอายุสองขวบไม่ชอบตน
เขา้าตาเหืนคนเลวื?แม่หนู่าโมโหพอๆ กับมารดาของนางเลย
“ท่านแม่ ท่านลุงมิใช่คนไม่ดีหรือเจ้าคะ?” หานเอ๋อร์น้อยถามมารดาอย่าง่ารัก แม่นางเลยยิ้มอธิบาย “ท่านลุงมิใช่คนไม่ดี เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าเขาเคยซื้อลูกอมให้เจ้าด้วย!”
คนเลวนี่ไปที่ใดก็โดนรังเกียจ กระทั่งหานเอ๋อร์น้อยยังรู้เลยว่าพ่อเฮงซวยเป็คนเลว
หากซย่าหม่านชางไม่อยู่นางคงหัวเราะไปแล้ว
......
พวกจิ่นเซวียนใช้เวลาประมาณหนึ่ง้า [1] ใการเ้าเืง ท่านอาเขยนำรถม้าฝากไว้คนคุ้นเคยตรงถนนเป็ผูู้แล แล้วให้เิเขายี่ิอีแปะ ค่อยพาพวกเราไปเดินซื้อของ
“้เขย รบกวนเจ้าพาจิ่นเซวียนไปซื้อข้าวของงานแต่งด้วย ข้ากับหม่านชางจะไปซื้อวัตถุดิบ” ซย่าหลี่จวินไม่อยากเดินซื้อของกับจิ่นเซวียน เขากลัวนางขอเิ
ี่ภรรยาผู้นี้วางแผนไว้แล้ว ทำั่าขยะแขยงเีจริง
“เซวียนเซวียน พวกเราไปร้านตัดเสื้อ ซื้อชุดแต่งงานเจ้าก่อน แล้วค่อยไปซื้ออาภรณ์ๆ ดีหรือไม่” ซย่าชุนอวิ๋น่ลูกให้สามีอุ้มและให้จิ่นเซวียนตามนางไปร้านตัดเสื้อ
“ท่านอา ท่านคิดว่าควรซื้อสิ่งใดเป็ของขวัญให้คน้าซ่งหรือเจ้าคะ?” จิ่นเซวียนไม่มีประสบการณ์เลยอยากถามท่านอาเล็ก
“ข้าปรึกษากับอาเขยเจ้าแล้ว พวกเราจะซื้อผ้าๆ หลายผืนมอบให้คน้าซ่งไปตัดเย็บเอง ให้ของแพงเกินไปเจ้าสู้ราคาไม่ไหวหรอก แต่ให้ของูเกินไป้าสามีจะว่าเจ้าตระหนี่เอาได้”
ซย่าชุนอวิ๋นแต่งงาน ก็มอบผ้าให้เหล่าี่สามีและี่สะใภ้เป็ของขวัญ
“ผ้าหนึ่งพับทำอาภรณ์ได้หลายชุด คน้าสามีเจ้าอยู่รวมกันหลายิคน ผู้อาวุโสสองคนให้ของขวัญมีค่าเีหน่อย ่พวกี่ชาย้สาวสามี เจ้าไม่ต้องให้ความสำคัญมาก”
“ท่านอา ก่อนซื้อของขวัญ ข้าอยากไปเดินชมร้านเครื่องประดับถงซินเจ้าค่ะ จะได้นำภาพที่ข้าออกแบบไปให้เถ้าแก่ร้านเครื่องประดับูว่าขายได้ราคาเท่าใด?” จิ่นเซวียนไม่อยากใช้เิท่านอาเล็ก เท่าที่นางรู้มา ร้านเครื่องประดับที่ใหญ่ทีุ่ใเืงจินจู๋เป็ของเศรษฐีกัว และผู้ที่ลงทุนด้วยคือเศรษฐีฉิวใเืง เศรษฐีฉิวผู้นี้เป็เพียงเถ้าแก่คนที่สอง รับตำแหน่งหลงจู๊ใเืงจินจู๋ ว่ากันว่าร้านเครื่องประดับถงซินมีร้านสาขาีแห่งใเืงหลวง เศรษฐีกัวซึ่งย้ายไปเืงหลวงเมื่อไม่กี่ปีก่อนเลยยกร้านนี้ให้เศรษฐีฉิวเป็ผู้จัดการ
เมื่อคืนนางวาดมาสองภาพ ภาพหนึ่งคือต่างหูเม็ดสีแดงเพลิง ่ีภาพคือปิ่นไม้เนื้อแดงลายดอกไม้ผ้าพลิ้ว เครื่องประดับรูปแบบแปลกใหม่เช่นนี้ใเืงไม่เคยมีมาก่อน ของหายากย่อมมีราคาแพง นาง่าจะได้เิไม่น้อย
“เมื่อวานเจ้ากลับไปก็เพื่อวาดแบบเครื่องประดับพวกนี้ื?” ซย่าชุนอวิ๋นมองจิ่นเซวียนอย่างประหลาดใ นางรู้สึ่าจิ่นเซวียนต่างจากเมื่อก่อน
“เจ้าค่ะ!” จิ่นเซวียนอมยิ้มพยัก้า
“เซวียนเซวียน แหวนวงนี้ของเจ้ามาจากที่ใดกัน?” ซย่าชุนอวิ๋นรู้ดีว่าแหวนมิใช่ของตกทอดของแม่จิ่นเซวียน
“ท่านอาเล็ก ท่านอาเขยเจ้าคะ ข้าจะไม่ปิดบังพวกท่าน ใ่ไม่กี่วันก่อนที่ข้าหมดสติไป ข้าได้พบท่านเทพเ้าโดยบังเอิญ ท่านไม่เพียงสอนวิถีเซียนให้ข้า ยังสอนทักษะอื่นให้ด้วย แหวนหยกวงนี้คือของขวัญแรกพบที่ท่านเทพให้ข้าเจ้าค่ะ” จิ่นเซวียนรู้ว่าท่านอาเล็กจะสงสัยเลยแต่งเรื่องเทพหลอกพวกเขา
“ท่านเทพ เจ้าายึเวลานี้เจ้ามีวิชาเซียนแล้วื?” ซย่าชุนอวิ๋นสบตากับสามีด้วยความตื่นตระหนก
“ใช่เจ้าค่ะ อาจารย์เทพข้าให้เดินตามเส้นทางทีู่ต้อง นำความสงบสุขมาสู่ผู้คนแทนเขา ท่านอาเล็ก พวกเรากลับ้าคืนนี้ให้ข้าช่วยลบรอยแผลเป็บน้าผากท่านเถิดนะเจ้าคะ” จิ่นเซวียนรู้ว่าท่านอารักรักงาม แต่เพราะรอยแผลบนใบ้านางเลยต้องไว้้าม้าปัดข้าง ไม่กล้าเปิด้าแม้อากาศจะร้อน
้าตาและู่ของท่านอาเล็กกับท่านอาเขยอยู่ด้วยกันูไม่เ้ากันนัก แต่พวกเขาก็รักกัน นี่คือพรหมลิขิต!
“เจ้าเกิด ดอกท้อที่ลาน้าบานสะพรั่งใชั่วข้ามคืน ท่านปู่ว่าเจ้าเป็เทพบุปผากลับชาติมาเกิด แต่ท่านย่าของเจ้าหลอ่าเจ้าเป็ดาวหายนะ” ภาพจิ่นเซวียนเกิดผุดึ้มา ซย่าชุนอวิ๋นคิดว่าจิ่นเซวียนคงูลิขิตมาให้มิใช่คนธรรมดา
“เรื่องนี้ข้าเคยได้ยินทุกคนพูดแล้วเจ้าค่ะ ท่านอาเล็ก อย่าไปพูดึมันีเลย พวกเราไปร้านเครื่องประดับถงซินกันเถิดเจ้าค่ะ” คำนินทามากมายที่เกี่ยวข้องกับการเกิดของนาง นางชินไปเีแล้ว
ดาวหายนะหรือดาวนำโชคก็ช่างเถิด นางไม่สนใ ีิา นางจะลิขิตด้วยืของตนเอง!
......
พวกจิ่นเซวียนเดินไปร้านเครื่องประดับถงซิน ฉิวจั่งกุ้ยของร้านเดินมาทักทายพวกเขาด้วยตนเอง ฉิวจั่งกุ้ยเป็ชายวัยสามิ่า ัไมู่มาก ่าอวบเล็กน้อย ใบ้าเหลี่ยมูอัธยาศัยดี
“นายท่านหู ไม่พบกันา ่นี้สบายดีหรือไม่ขอรับ” ไม่กี่เดือนก่อนหูเหยียนซูสร้างเรือนขยายให้ฉิวจั่งกุ้ย พวกเขาเลยรู้จักกัน
“ขอบคุณี่ใหญ่ฉิว ทุกอย่างเรียบร้อยดีขอรับ” หูเหยียนซูกระชับกอดบุตรสาวแล้วเอ่ยตอบฉิวจั่งกุ้ยด้วยรอยยิ้ม
“้หู สาวน้อยใอ้อมแขนเจ้า่ารักยิ่งนัก ลูกสาวเจ้าื?” แม้ฉิวจั่งกุ้ยจะร่ำรวยแต่ไม่เคยวางท่าใหญ่โต เขา่โยนใดีกับทุกคน จึงเป็ที่ชื่นชอบของผู้คนเสมอ
เมื่อครู่หานเอ๋อร์น้อยยิ้มให้ เขาดีในัก
“ใช่ขอรับ ี่ใหญ่ฉิว ผู้นี้คือภรรยาข้า ่นี่คือหลานสาวของภรรยาขอรับ” จากั้หูเหยียนซูก็แนะนำซย่าชุนอวิ๋นและจิ่นเซวียนให้ฉิวจั่งกุ้ยรู้จัก
“ฉิวจั่งกุ้ย ใเมื่อท่านกับท่านอาเขยรู้จักกัน ข้าก็จะไม่อ้อมค้อมนะเจ้าคะ ัข้ามีแบบภาพเครื่องประดับสองใบอยากขายให้ท่าน ไม่ทราบว่าท่านยินดีจะลองูหรือไม่เจ้าคะ” จิ่นเซวียนล้วงแบบภาพสองแผ่นออกจากแขนเสื้อ่ให้ฉิวจั่งกุ้ยพิจารณา
“ข้าขาดแบบสินค้าใหม่อยู่พอดี เจ้าเอาให้ข้าูได้” ร้านเครื่องประดับถงซินไม่ได้ออกสินค้าใหม่มาาแล้ว พวกเขากังวลเรื่องนี้กันอยู่ พอได้ยินจิ่นเซวียนกล่าวเมื่อครู่เลยค่อนข้างแปลกใ
“ฉิวจั่งกุ้ย ปิ่นปักผมรุ่นผ้าไหมผูกนี้มีห้าสี โดยแบ่งใช้สีแดงดอกเหมยกุ้ย [2] เทา่ เขียวโป้เ[3] ้แแะน้ำเิ เช่นนี้ลูกค้าจะได้เลือกแบบที่ตนเองชอบได้เจ้าค่ะ การออกแบบผ้าไหมผูกแบบพิเศษจะช่วยเพิ่มจิตวิญญาณให้กับัปิ่น ยามผ้าไหมพลิ้วไหวั้ราวกับผ้าของเทพธิดา บริสุทธิ์ ใสและมีชีวิตชีวา ใ่วัุที่ใช้ทำต่างหูเม็ดสีแดงเพลิงก็หาง่ายยิ่งนัก หากท่านอยากให้มันูหรูหราึ้ ก็ใช้ทับทิมแทนเม็ดสีแดงสี่เม็ดนี้เจ้าค่ะ” จิ่นเซวียนกางแบบอธิบายให้ฉิวจั่งกุ้ยเ้าใทีละอย่าง
ฉิวจั่งกุ้ยเห็นแบบภาพ ก็ตะลึงกับความงามของเครื่องประดับเหล่านี้
โดยเฉพาะปิ่นปักผมดอกไม้มีผ้าพลิ้ว ่าสนใยิ่งนัก เขาไม่เคยเห็นแบบภาพดอกไม้เช่นนี้มาก่อน
“แม่นาง ดอกไม้ของเจ้ามีความายหรือไม่?”
“ข้าเรียกดอกไม้ชินี้ว่าดอกเหมยกุ้ย ายึความรักและความงาม เป็ทั้งัแทนการกำเิของเทพแห่งความงามและเกิดจากหยดเลือดของเทพแห่งความงาม จึงใช้มันเป็สัญลักษณ์แทนความรักที่งามเจ้าค่ะ” ยุคที่จิ่นเซวียนอยู่ั้ไม่มีดอกไม้ชินี้ฉิวจั่งกุ้ยไม่รู้ย่อมไม่แปลก
“แม่นาง แหวนบนืของเจ้ามาก ให้ข้าทาย นี่คงเป็แหวนหยกที่แกะสลักจากหยกฝูหรงหายากใช่หรือไม่ แหวนใืเจ้าวงนี้มีมูลค่าอย่างน้อยหมื่น่าตำลึงเลยทีเี” ขณะฉิวจั่งกุ้ยฟังจิ่นเซวียนอธิบายก็ประเมินแหวนหยกของนางไปด้วย
ใฐานะผู้เชี่ยวชาญ มองแวบเีก็รู้ทันทีว่าเป็หยกฝูหรงล้ำค่า
“นี่คือของขวัญจากอาจารย์ของข้า ไม่คิดว่าราคาจะูเพียงนี้เจ้าค่ะ” จิ่นเซวียนเอื้อมืแตะแหวนหยก แน่นอนนางรู้ว่าหยกฝูหรงมีค่ายิ่งนัก แต่มันคือกระบี่เถาเยาของนาง ต่อให้ราคาหลายหมื่นตำลึงนางก็ไม่ขาย
“อาจารย์ของแม่นางมีฐานะจริงๆ” ฉิวจั่งกุ้ยรู้สึ่าจิ่นเซวียนช่างลึกลับ ูไม่เหืนหญิงสาวชาว้าเลยสักิ แต่สิ่งที่เขาพึงพอใทีุ่คือแบบภาพของนาง ภาพเครื่องประดับของจิ่นเซวียนทันสมัยนัก พอวางขายแล้วเขากล้ารับรองเลยว่าขายดีแน่
“แม่นาง ข้าไม่อ้อมค้อม เจ้าขายแบบภาพทั้งสองของเจ้าให้ข้า ให้ราคาห้าร้อยตำลึง เจ้าคิดเห็นอย่างไร?” ฉิวจั่งกุ้ยอยากหลอกจิ่นเซวียน แต่เขารู้นางหลอกยาก ีอย่างเขาก็เป็สหายกับหูเหยียนซู ทำการค้าแบบกันเอง หากทำงาม้าไป อนาคตคงเ้า้ากันไม่ติด
ห้าร้อยตำลึง?
หูเหยียนซูกับภรรยามอง้ากัน แบบภาพสองแผ่นมีค่าเช่นนี้เชียวื?
“ห้าร้อยก็ห้าร้อยเจ้าค่ะ แต่ข้ามีเงื่อนไข เมื่อท่านทำต่างหูกับปิ่นปักผมออกมาแล้ว ต้อง่ปิ่นหนึ่งด้ามกับต่างหูหนึ่งคู่ให้ท่านอาเล็กของข้านะเจ้าคะ” จิ่นเซวียนรู้ว่าแบบภาพมีราคามาก่าห้าร้อยตำลึง เห็นแก่้าท่านอาเขยก็ถือว่าคบหาสหายคนหนึ่งแล้วกัน
“ไม่มีปัญหา” ฉิวจั่งกุ้ยตอบแบบไม่คิด เขาคิดแล้วว่าจะขายปิ่นแบบใดให้เืงหลวง!
“ข้าเห็นฉิวจั่งกุ้ยเปิดเผยตรงไปตรงมา หากข้ามีแบบดีๆ ีจะคิดึท่านคนแรกเลยเจ้าค่ะ”
แต่ร่วมืกันครั้ง้า จะมิขายภาพให้ง่ายๆ แล้ว นางจะเอาค่านาย้าด้วย
“ข้ากับนายท่านหูเป็สหายกัน หากแม่นางไม่รังเกียจก็เรียกข้าว่าลุงฉิวเถิด” ฉิวจั่งกุ้ยอยากคบค้ากับจิ่นเซวียนเลยเรียกบ่าวยกน้ำชามาให้พวกจิ่นเซวียน ่เขาึ้ไปเอาเิมาให้นาง
“ท่านลุงฉิว ท่านให้เิหนึ่งร้อยตำลึงข้า ่ที่เหลือข้าขอแลกเป็ตั๋วเิเจ้าค่ะ” จิ่นเซวียนกำชับฉิวจั่งกุ้ยึ้บันไดไปหยิบเิ
“ท่านอาเล็ก ท่านชอบเครื่องประดับชิ้นไหนหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะซื้อให้ท่าน” จิ่นเซวียนมีเิตำลึงแล้ว นางก็อยากซื้อของที่ท่านอาเล็กชอบ ท่านอาเล็กเป็คนที่รักนางทีุ่ นางเลยอยากตอบแทน
“เ็คนนี้มีเิใช้แล้วก็ถลุงเลยหรือ เิพวกนี้เจ้าเก็บไว้ใช้เองเถิด อย่าให้ท่านย่าเจ้ารู้เด็ดขาด” ซย่าชุนอวิ๋นไม่อยากใช้เิของจิ่นเซวียน นางมีเิแล้วควรเอาไปวางแผนสำหรับอนาคตเีดี่า
“หานเอ๋อร์น้อย เจ้าชอบกำไลทองปลาเส้นเล็กั้หรือไม่?” จิ่นเซวียนชี้ไปที่กำไลทองของเ็แล้วถามหานเอ๋อร์น้อย หานเอ๋อร์น้อยเพียงเห็นว่ากำไลทองส่องประกายระยิบระยับูงาม นางเลยอยากได้
“เซวียนเซวียน เจ้าไม่ต้องสนในาง” หูเหยียนซูไม่อยากให้จิ่นเซวียนสิ้นเปลืองเช่นเีกับที่ภรรยาคิด เขาคิดว่าจิ่นเซวียนมีเิถือเป็รื่องดีจะได้ไม่โดน้าสามีข่มเหง
“ท่านอาเขย ข้ายังไม่ได้ให้ของขวัญหานเอ๋อร์น้อยเลย ท่านอย่าเกรงใข้าเลยเจ้าค่ะ” จิ่นเซวียนคิดว่าเิต้องหาเพิ่มเพื่อเอามาใช้ มิใช่ประหยัด
“แม่นาง กำไลทองคำสำหรับเ็ชิ้นนี้ราคาไมู่นัก หนึ่งตำลึงทองเท่ากับิตำลึงเิ บวกต้นทุนการผลิตใการึ้รูปกำไล จึงต้องขายหกิตำลึงขอรับ”
“แม่นางซย่ามิใช่คน คิดเินางห้าิตำลึงพอ” ฉิวจั่งกุ้ยถือึเิลงจากบันไดมา และเอ่ยลดราคาให้จิ่นเซวียนิตำลึง
จิ่นเซวียนรับถุงเิมาจ่ายเิแล้วสวมกำไรบนืขวาของหานเอ๋อร์
“ี่สาว มันเรืองแสงได้ด้วยเจ้าค่ะ” หานเอ๋อร์น้อยยังเ็ นางเลยยกกำไลบนืขวาึ้มาใส่เ้าปากอย่างซื่อๆพ
เชิงอรรถ
[1] หนึ่ง้า ายึ หน่วยนับเวลาแบบโบราณของจีน เท่ากับเวลา 15 นาที หนึ่งจิบชา
[2] ดอกเหมยกุ้ย ายึ ดอกกุหลาบ
[3] โป้เ ายึ สะระแหน่
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??