เรื่อง Defeat me! สะดุดรักยัยเกมเมอร์ตัวร้าย
ตอนที่ 01 วีรกรรมของบรรพบุรุษตัวน้อย…
ณ ห้องประชุมเล็ก ขององค์กร Geneses (เจนนิซิส)
ในห้องประชุมเวลานี้เสมือนตกอยู่ในเมฆหมอกอึมครึมปลุกคลุมไปทั่วห้อง
ทั้งนี้เป็นเพราะเด็กสาวที่เป็นคุณหนูน้อยขององค์กรเอาแต่นั่งเล่นรูบิคฮัมเพลงอย่างสบายอารมณ์ โดยไม่สนใจสักนิดว่ารอบข้างกำลังทำอะไรอยู่
จนชายวัยกลางคนผู้ดูแลองค์กรตั้งแต่แรกเริ่มที่นั่งอยู่หัวโต๊ะทนไม่ไหวเอ่ยเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจพลางถอนหายใจอย่างคนระอากับพฤติกรรมของอีกฝ่าย “คุณหนูฮารุ คุณหนูคนดี….บรรพบุรุษน้อยของบ่าว”
บอกตรง ๆ บางครั้งบางคราว เขาล่ะอยากจะจับอีกฝ่ายมาตีสั่งสอนตรงกลางห้องเสียจริง
“ว่า” เด็กสาวที่ชื่อฮารุหรือคุณหนูน้อยขององค์กรตอบกลับมาคำเดียวและน้ำเสียงที่ใช้ตอบไร้อารมณ์สุดๆ ไปเลย
ส่วนเจ้าตัวไม่เงยหน้าขึ้นมองสถานการณ์รอบเลยสักกะเผียกเดียว ยังคงตั้งใจเล่นรูบิคเหมือนเดิม เมื่อยก็เปลี่ยนท่าเอนหลังพิงเก้าอี้และยกเท้าขึ้นมาพาดที่โต๊ะประชุม
การกระทำนั้น ทำให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันที เพียงมีอะไรล่วงลงมาเล็กน้อย เสียงคงก้องกังวาลไปทั่วห้องอย่างแน่นอน
พอเห็นการกระทำของบรรพบุรุษน้อยของเขานั้น ชายวัยกลางยกมือขยับแว่นพลางกระแอมเบา ๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังให้อีกฝ่ายรู้ถึงความสำคัญของการเรียกประชุมในครั้งนี้ “กำลังประชุมอยู่นะครับเลิกเล่นได้แล้วคุณหนู จริง….”
พูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกคุณหนูน้อยตัดบทด้วยน้ำเสียงรำคาญแทน “มีอะไรก็รีบพูด ฟังอยู่”
เมื่อได้ยินเสียงที่เริ่มติดจะหงุดหงิดของอีกฝ่าย น่าหลานเฉิงก็รู้ว่าคุณหนูน้อยคนนี้เริ่มทนไม่ไหวกับการประชุมครั้งนี้…
บรรพบุรุษน้อย… เปิดประชุมยังไม่ถึงสิบนาทีก็อารมณ์เสียซะแล้ว
‘นี่… ไว้หน้ากันสักนิดได้หรือไม่’ เขาโอดโครญอยู่ในใจ
ชาติที่แล้วเขาไปทำเวรทำกรรมอะไรมานะ ชาตินี้ถึงต้องมารับใช้บรรพบุรุษน้อยที่เอาแน่เอานอนไม่ได้คนนี้ด้วย อารมณ์สวิงยิ่งกว่าแอร์ซะอีก
เขาเป็นถึงผู้ดูแลองค์กรเชียวนะ!
แต่ก็นะ… องค์กรนี้ก่อตั้งมาเพื่อเธอ
พอคิดแบบนี้จิตใจก็พลันชุ่มชื้นขึ้นเล็กน้อย
แค่เล็กน้อยเท่านั้น…
ใครจะพูดอะไรได้ ทำได้แค่เก็บชอกช้ำเอาไว้เงียบ ๆ เพียงคนเดียว
โธ่… ชีวิตน้อย ๆ ที่น่าสงสารของน่าหลานเฉิง
แต่คำพูดพวกนั้น น่าหลานเฉิงได้แต่คิดในใจกับตัวเองเท่านั้น คนอื่น ๆ ก็เช่นกัน ขืนพูดออกไป บรรพบุรุษน้อยตรงหน้าเขาคงหาอะไรพิเรนทร์ ๆ มาป่วนองค์กรอีกแน่
ครานี้แหละ เละทั้งองค์กรแน่นอน
น่าหลานเฉิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ เก็บความขมขื่นจากนั้นก็พูดเข้าประเด็นที่เรียกคุณหนูน้อยเข้ามาประชุมด้วยตัวเอง
“พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะออกเดินทาง…” เขาพูดยังไม่ทันจบอีกฝ่ายก็แทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย “ไปไหนอีก”
“ประเทศ C เมืองลั่ว”
“อ่อ ที่นั่นมีอะไรดีล่ะ ถึงจะให้คุณหนูคนนี้ไปให้ได้”
“หัวหน้า อื้ม… คุณพ่อของคุณหนูสั่งให้คุณหนูลองไปใช้ชีวิตแบบเด็กธรรมดาทั่วไปดูบ้าง…” เขาเอาคำพูดที่หัวหน้าองค์กรสั่งตรงลงมาบอกกล่าวอีกฝ่าย จากนั้นเขาก็เงียบลงกะทันหัน
ขณะที่น่าหลานเฉิงเรียบเรียงคำพูดที่หัวหน้าสั่งมาในหัวอีกรอบนึง ก่อนจะเอ่ยพูดขึ้นมาอีกครั้ง
ยังไม่ทันจะเปิดปากพูดอีกรอบ
ฮารุที่ได้ยินตาเฒ่าผู้ดูแลองค์กรพูดจบ เธอขมวดคิ้วเป็นปมแน่น ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นแผ่รังสีอำมหิตออกมา ราวกับว่าถ้าอีกฝ่ายตอบกลับไม่เข้าหู เธอจะปาระเบิดใส่ทันที
“ชีวิตเด็กธรรมดาทั่วไป? แล้วตอนนี้ชีวิตฉันไม่เหมือนเด็กทั่วไปตรงไหน?!”
คนทั้งห้องยกมือขึ้นปาดเหงื่อที่ไม่มีอยู่จริงบนหน้าผากของตัวเอง
ส่วนน่าหลานเฉิงที่ได้สติขึ้นมาก็รู้แล้วว่าตัวเองพูดผิดไปมากโข
‘ทำไมทำไมต้องเรียบเรียงคำพูด แค่บอกสิ่งหัวหน้าสั่งมาก็จบแล้ว! น่าหลานเฉิงไอ้โง่เง่า’ เขาสบถด่าตนเองอยู่ในใจ
‘บรรพบุรุษน้อยนี่ก็ช่างไม่รู้ตัวเองเอาซะเลย! แค่ไอคิวก็ต่างจากเด็กทั่วไปแล้ว แล้วตัวเองจะเหมือนเด็กธรรมดาได้ยังไง’
‘มีเด็กทั่วไปที่ไหนจบปริญญาเอกตั้งแต่อายุสิบหก?!’
ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ในห้องก็คิดไปในทางเดียวกัน พลางรำลึกถึงวีรกรรมตั้งแต่ที่คุณหนูน้อยกลับมาเข้ามาในองค์กร
หนูน้อยถูกรับตัวกลับมาจากสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้าตอนอายุ 7 ขวบ
2 ปีแรกที่เข้ามาก็ดูเงียบขรึม เป็นเด็กที่น่ารัก ไม่วุ่นวายกับใคร ชอบไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับโค้ดและไปถามหาความรู้กับกลุ่มแฮกเกอร์ระดับสูงขององค์กร
จากนั้นทุกคนค้นพบว่าคุณหนูน้อยมีความสามารถในทางด้านนี้มาก เรียกได้ว่าอัจฉริยะ
สิ่งที่คุณหนูน้อยสนใจมีอยู่ไม่กี่อย่าง การเขียนโค้ดก็คือหนึ่งในสามอย่างนั้น
แต่หลังจากเก้าขวบไปแล้ว…
(วีรกรรมเด่น ๆ ตอนอายุ 9 ขวบ เข้าไปแฮ็กระบบของไฟจราจรประเทศ C ทำให้ทั้งประเทศปั่นป่วน ดีที่ตอนนั้นเป็นตอนกลางคืนรถไม่เยอะ ความเสียหายเลยไม่มาก ทุกวันนี้รัฐบาลของประเทศนั้นยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นตัวการ รัฐบาลคิดว่าเป็นประเทศศัตรูแฮกเข้ามาเพื่อก่อความวุ่นวายให้เท่านั้น เลยไม่ได้สืบความต่อ)
และสิ่งที่สนใจอย่างที่สองก็คือ อาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ
แรก ๆ คุณหนูก็แค่ชอบอ่านประวัติวิธีการสร้างของอาวุธทุกชนิด และให้พวกเขาอธิบายให้ฟังเท่านั้น
หลังจากนั้นไม่นาน คุณหนูน้อยคนดีของพวกเขาก็เข้าไปในโซนค้าอาวุธเถื่อนขโมยพวกมันออกมาถอดดูชิ้นส่วนประกอบเอง
และแฮกหาสถานที่ตั้งผลิตอาวุธในองค์กร
แรก ๆ แค่เลียนแบบสร้างอาวุธที่มีอยู่
จากนั้นก็เริ่มสร้างอาวุธ ที่คุณหนูของพวกเขาเรียกว่าของเล่นของตัวเองขึ้นมา
นั่นก็คือตอนอายุ 10 ขวบ
(วีรกรรมอายุ 10 ขวบ หัวหน้าพาคุณหนูน้อยไปเจรจาธุรกิจที่รัฐ K ประเทศ S แล้วตกลงกันไม่ได้ เพราะอีกฝ่ายให้ผลประโยชน์ไม่ลงตัวและไม่สมเหตุสมผลอย่างมาก
แล้วถือว่าเป็นบริษัทแรกที่กล้าต่อรองกับองค์กรของเธอ
เมื่อคุณหนูน้อยขององค์กรรู้เข้าก็โมโหกระฟัดกระเฟียดเดินออกไป
ทุกคนคิดว่า คุณหนูน้อยแค่ไม่พอใจเลยเข้าห้องไประบายอารมณ์ไม่พอใจเหมือนอย่างที่เคยทำ
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า… คุณหนูน้อยจะไปบุกบริษัทนั่นตามลำพัง
ฮารุจะทำให้ลูกค้าเฮงซวยรู้ว่า อย่ามาแหยมกับองค์กรที่เธอคุมอยู่
คิดได้ดังนั้น ฮารุก็แฮกหาสถานที่ตั้งของบริษัทนั้น จากนั้นก็หยิบอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากระเป๋าหมีขาวไว้ที่หลังแขนเล็ก ๆ นั่นก็กอดตุ๊กตากระต่ายหูยาวขนปกปุยตัวโปรดเดินลงไปขึ้นรถแท็กซี่บริษัทนั้นตามลำพังทันที
พอถึงหน้าบริษัทฮารุก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงถอดกระเป๋าหมีขาวที่สะพายไว้ข้างหลังเอามาไว้ข้างหน้าตัวเองก่อนจะเลื่อนซิบเปิดเพื่อหยิบระเบิดที่ไม่ใช่ระเบิดที่ตัวเองคิดค้นขึ้นมา ระเบิดที่ไม่ใช่ระเบิดอันนี้เธอสร้างขึ้นเอาไว้ปาใส่คนในองค์กรเวลาที่พวกนั้นขัดใจ
แต่ตอนนี้ต้องเอามาทดลองที่นี่
จริง ๆ ก็ไม่เลว…
มือน้อย ๆ นั่นล้วงเข้าไปในกระเป๋าหยิบระเบิดขนาดเท่าลูกปิงปองออกมา จากนั้นก็ปาใส่ประตูทางเข้าก่อน ก่อนจะขยับเท้าเดินปาระเบิดใส่ไปตามทางที่มีคนเดินผ่านไปผ่านมา
พวกคนที่ถูกปาระเบิดใส่ก็กรีดร้องเสียงดังลั่น พนักงานบางคนก็เป็นลมล้มพับไปทันที บางคนก็วิ่งหนีออกไปได้
พนักงานที่อยู่ด้านนอกก็มองภาพเหตุการณ์ที่วุ่นวายข้างหน้าก็ครุ่นคิดว่า… ตุ๊กตาปีศาจน้อยนี่มาจากไหนหรือว่าจะเป็นหุ่นยนต์ที่ผลิตขึ้นใหม่ของบริษัทคู่แข่งเพื่อมาโจมตีพวกเขาโดยเฉพาะ?!
ถ้าฮารุได้ยินสิ่งที่เขาคิดภายในหัว ก็คงพูดกับคนพวกนั้นว่า จินตนาการของพวกคุณล้ำเลิศเสียเหลือเกินนับถือ ๆ
พนักงานพวกนั้นยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นตระหนก บางคนถึงกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอเก็บไว้ เผื่อว่าบริษัทจะเรียกหาหลักฐาน และให้รางวัลตอบแทนพวกเขา
ที่พนักบางคนเห็นฮารุเป็นตุ๊กตาหุ่นยนต์ ก็ไม่แปลกสักเท่าไหร่ เพราะใบหน้าเธอเหมือนตุ๊กตาจริง ๆตากลมโตขนตายาวหนาเป็นแพจมูกนิดปากหน่อย
น่ารักเสียจนบางคนคิดอยากจะเก็บเอากลับบ้าน แต่พอเห็นการกระทำที่ขัดกับหน้าตานั่นแล้ว พวกเขาก็… ละไว้ในฐานที่เข้าใจ
ฮารุไม่ได้สนใจว่าใครจะคิดยังไง เด็กน้อยวัยสิบขวบนั่นค่อย ๆ ขยายพื้นที่ทำสงครามไปเรื่อย ๆ ก้าวเท้าสั้น ๆ ป้อม ๆ เข้าไปเกือบจะถึงล็อบบี้ต้อนรับของบริษัท
พนักงานตรงเคาน์เตอร์ต้อนรับเห็นแบบนั้นก็อกสั่นขวัญแขวน จากที่อ้าปากตาค้างตกใจนิ่งอยู่กับที่พยายามยกมืออันสั่นเทาไปจับโทรศัพท์ให้มั่นและโทรขึ้นไปรายงานสถานการณ์กับฝ่ายบริหารด้วยน้ำเสียงหวาดผวาปนตะกุกตะกัก
ฝ่ายบริหารได้ยินเรื่องราวที่ไม่ติดปะติดปะต่อเกิดขึ้นด้านล่างของบริษัท เขาก็จับความได้ว่าเป็นเรื่องไม่ดีแน่นอน สรุปได้ก็วิ่งกุลีกุจอเข้าไปรายประธานกรรมการใหญ่
พอประธานกรรมการใหญ่ได้ยินแบบนั้นแทบหงายหลัง รีบลุกพรวดกระโจนตัวออกไปเพื่อเข้าลิฟต์ลงไปดูสถานการณ์ด้านล่างทันที
ด้านล่างของบริษัท
พอประตูลิฟต์เปิดประธานกรรมการใหญ่แทบจะหงายหลังล้มตึงนอนลงไปอีกรอบ
กลิ่นนี่มัน…มีอนุภาพทำลายล้างสูงโคตร ๆ เขารีบยกมือขึ้นปิดจมูก สาวเท้ายาว ๆ ก้าวอาด ๆ ไปที่ล็อบบี้ของบริษัท เดินไปถึงก็เห็นเด็กน้อยอายุรวมเจ็ดแปดขวบ ยืนเท้าเอวถลึงตาใส่พนักงานต้อนรับอยู่
ประธานกรรมการใหญ่เห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ทันที ทำไมแค่เด็กตัวเล็ก ๆ คนนึง ก็ทำบริษัทป่วนได้ขนาดนี้ นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน?!
เขาพยายามข่มกลั้นโทสะที่จะปะทุขึ้นมาลงไป และมองพิจารณาอีกฝ่ายรอบนึง ก่อนจะเอ่ยปากพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความข่มขู่
“เด็กน้อยนี่ไม่ใช่ที่สนามเด็กเล่น หนูไปซะเถอะ ฉันจะไม่เอาความอะไรกับหนู แต่ถ้าหนูยังสร้างปัญหาอยู่อีก ฉันจะให้รปภ.ของบริษัทจับหนูส่งตำรวจเข้าเรือนจำซะ และผู้ปกครองของหนูก็ต้องตกงาน ไปซะเถอะก่อนที่ฉันจะเอาความ”
ฮารุได้ยินแบบนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เด็กสาวเงยหน้าสำรวจคนที่พูดออกมา
พบว่าชายวัยกลางแต่งตัวดูภูมิฐาน แต่กลิ่นอายที่แผ่ออกมาปกปิดความชั่วร้ายเอาไว้ไม่มิดเอาซะเลย
ปากหนาคว่ำตาเท่าเมล็ดถั่ว นัยย์ตานั่นเจ้าเล่ห์ มองแล้วมันช่างทำให้คนรู้สึกไม่ลื่นหูลื่นตาซะจริง
ทั้งเนื้อทั้งตัว นอกจากแต่งตัวดี ดูมีภูมิฐาน ส่วนอื่นก็ไม่มีอะไรดีอีกเลย
ดูไปแล้ว…น่าจะเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งสูงในบริษัทนี้ แต่ว่าเขาจะตัดสินใจด้วยตัวเองได้หรือเปล่านะ? เธอครุ่นคิดพลางยกมือขึ้นลูบที่คางเล็ก ๆ เอียงหัวน้อย ๆ
“ตัดสินใจเองได้หรือเปล่า” ฮารุถามอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงจริงจัง เธอไม่สนใจคำข่มขู่นั่นเลยสักนิด
“อะไรนะ?!” ประธานกรรมการใหญ่งงไปเป็นไก่ตาแตก อยู่ดี ๆ มาถามว่าเขาตัดสินใจด้วยตัวเองได้หรือเปล่า
ฮารุมองอีกฝ่ายอย่างดูถูกเบะปากเล็กน้อยพลางทำหน้าเหนื่อยหน่าย เบื่อจริง ๆ คุยกับไอคิวต่ำ คำพูดแค่นี้ก็ต้องให้ขยายความ
“ฉันถามคุณว่า คุณสามารถตัดสินใจในบริษัทนี้ได้หรือเปล่า ถ้าไม่ ฉันก็จะไม่พูดกับคุณเป็นครั้งที่สองและจะทำลายบริษัทโง่เง่านี่ต่อไป”
“แกว่าบริษัทใครโง่เง่า?! บริษัทเราเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของรัฐนี้…” ยังพูดอวดอ้างสรรพคุณไม่ทันจบ ก็ถูกเสียงเล็ก ๆ ของฮารุดังขึ้นมา “เจนนิซิส!”
ฮารุพูดถึงเจนนิซิสอีกฝ่ายก็เข่าอ่อน น…นั่นมันชื่อองค์กรที่ประธานบริษัทไปจ้างสืบข่าวบริษัทคู่แข่งไม่ใช่เหรอ?!
แล้วนี่คงไม่ใช่คุณหนูน้อยขององค์กรนั้นหรอกนะ
‘บอสไปทำอะไรให้ฝ่ายนั้นโกรธขนาดบุกมาทำลายบริษัทแบบนี้’ เขายิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ ได่แต่ยืนเหม่อมองเด็ดสาวที่เหมือนตุ๊กตาน่ารักน่าเอ็นดูตรงหน้า
“พอจะบอกได้มั้ยว่าพวกเราไปทำอะไรให้คุณหนูโกรธ” ประธานกรรมการใหญ่รีบเปลี่ยนท่าทีเป็นนอบน้อม
“อยากจะสืบข่าวฝ่ายศัตรูแต่เงินไม่ถึง ก็ไม่ต้องสะเออะมาคุยธุรกิจ ทำเหมือนไม่รู้กฎมาต่อรองนั่นนี่ คิดว่าเป็นองค์กรฉันเป็นองค์กรการกุศลหรือไงห๊า?! หรือคิดว่าองค์กรฉันไม่มีกำลังพอจะถล่มบริษัทเล็ก ๆ นี้กล้ามาก เก่งมาก!! ที่จะมาเป็นศัตรูกับพวกเรา แค่ฉันเอาข่าวไปขายหรือให้ฟรีให้ฝ่ายศัตรูของพวกแกพวกแกคิดว่าบริษัทตัวเองจะรอดหรือไง เชอะ! ช่างไม่เจียมกะลาหัว” ฮารุพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันปนดูถูกอย่างชัดเจน
สถานการณ์จากที่วุ่นวายพลันตกอยู่ในความเงียบ ส่วนฮารุก็เงียบไปพักนึง ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“อ้อ! อีกอย่าง ฝากบอกเจ้าของบริษัทด้วยว่าองค์กรของพวกเราจะขึ้นบัญชีดำกับบริษัทนี้! และให้พนักงานทั้งหลายของคุณปิดปากให้สนิทด้วยโดยเฉพาะเรื่องที่มาวันนี้ แล้วลบคลิปที่ถ่ายไว้ในมือถือด้วยถ้าฉันรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้หลุดออกไปแม้แต่นิดเดียว ฉันจะปล่อยข่าวเรื่องที่บอสของคุณทำเรื่องงามหน้าเอาไว้ให้ทั่วทั้งอินเตอร์เน็ตเลย ๆ ไม่เชื่อก็ลองดู”
ประธานกรรมการได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็แทบจะเข่าทรุดอีกรอบ บอสคิดอะไรอยู่ถึงใจกล้าไปต่อรองกับองค์กรนี้ เขาได้แต่โอดครวญปนเคียดแค้นที่มีประธานบริษัทไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวแบบนี้
ก่อเรื่องทำให้บริษัทตกที่นั่งลำบาก แต่ตัวเองไปล่องเรือยอร์ชกับสาว ๆ
ถึงคราวที่บริษัทจบสิ้นจริง ๆ เขาหลับตาพลางถอนหายใจยิ้มขมขื่นให้กับตัวเอง)
หลังจากนั้นไม่นานบริษัทก็ล้มละลายจริง ๆ
ข่าวพฤติกรรมของประธานบริษัทฉาวโฉ่ จัดปาร์ตี้มั่วยา ล่อลวงเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปีไปมีเพศสัมพันธ์ด้วย แถมยังถ่ายคลิปไว้แบล็คเมล์เด็กสาวพวกนั้นอีกด้วย จับได้พร้อมกับหลักฐานนี่ก็เพียงพอที่จะทำให้ติดคุกไปตลอดชีวิต เพราะที่ประเทศ S กฎหมายคุ้มครองเยาวชนของประเทศเขาถือว่าหนักพอสมควร
นี่แค่สองเรื่องเด่น ๆ ในอายุ 9 กับ 10 ขวบเท่านั้น
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??