เรื่อง หมื่นวิถีบรรลุเทพ
เยี่ยซางปีนขึ้นต้นไม้ในฉับพลันพร้อมส่งเีงเรียกเสืาวดังลั่น
น่าเีดายที่เจ้าเสืาวไม่อาจขยับไปไหนได้ในเวลาี้ มันยังยืนตรงๆ ไม่ได้ด้วยซ้ำ นั่นจึงทำให้เยี่ยซางตกใมาก ิ่ที่เห็นตรง้าช่างน่าเหลือเชื่อ สัตว์ร้ายัั้ต้องเป็นสัตว์ู่าแน่นอน ไม่เช่นั้เสืาวคงไม่เป็นแบบี้ เพราะนี่คือการกดข่ม ทว่าไม่ใช่การกดข่มสายเลื แต่เป็นการกดข่มระดับบ่มเพาะต่างหาก
ขณะที่เยี่ยซางกำลังตกใั สัตว์ูก็ขยับัเข้ามาใกล้กับต้นไม้มากขึ้น
แสงสว่างจากกองไฟทำให้เยี่ยซางสามารถมองเห็น้าตาสัตว์ูชนิดี้ได้ชัดเจน สัตว์ูัี้คืออูเจียว ขนาดร่างกายมันใหญ่โตเท่าต้นไม้ แต่ไม่รู้ว่าัมันจะยาวึขนาดไหน เพราะหางเจ้าัี้ยังคงอยู่ภายใต้เงามืดยามค่ำคืน
เื่เยี่ยซางหันกลับไปมองอูเจียวีครา ก็เห็นมันอ้าปากกว้างก่อนจะพุ่งพรวดเข้ามากัดเสืาวที่ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ เขาได้ยินเีงแตกหักดังสนั่น ึ่เป็นเีงกระูกเสืาวที่หักออกเป็นเสี่ยงๆ ัจากั้อูเจียวก็กลืนเสืาวลงไปไม่เหลือซาก
เหตุการณ์ี้เกิดขึ้นภายในชั่วพริบตาเดียวระหว่างที่เยี่ยซางปีนขึ้นต้นไม้ เขาไม่ได้อยู่ใกล้อูเจียวมากนัก แต่หากไม่รีบปีนขึ้นทีู่แล้ว ีิเขาคงจะจบลง่าง่ายดายเช่นเจ้าเสืาว
ขณะที่เยี่ยซางกำลังปีนขึ้นต้นไม้ อูเจียวที่กลืนกินเสืาวเสร็จแล้ว มันก็ขยับัไปมาอยู่ข้างล่าง พยายามกระโดดขึ้นมาพร้อมกับอ้าปากกว้างต้องการจะเขมือบเยี่ยซางทั้งัด้วยการกัดเพียงครั้งเดียว
เยี่ยซางรู้สึกได้ึความตายที่เคลื่อนใกล้เข้ามา เขารีบคว้ากิ่งไม้แล้วเหวี่ยงัขึ้นไป่ารวดเ็
เด็กหนุ่มเพิ่งจะพ้นออกมาจากุที่อูเจียวโจมตีได้
เีงกิ่งไม้หักดังขึ้นจากด้านั เยี่ยซางจึงรีบใช้มือและเท้าเร่งปีนขึ้นไปบนต้นไม้
ัจากปีนขึ้นไปได้หลายสิบจั้ง เยี่ยซางก็หันัมองย้อนกลับไปีครั้งแต่ไม่มีเีงใดๆ าา ขณะที่อูเจียวก็อยู่นิ่งๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่พร้อมดวงตาสีเขียวทั้งสองข้างยังคงจ้องมองเยี่ยซาง่าไม่ละสายตา
“บัดซบ!” เยี่ยซางคำรามเีงต่ำ ตอนี้เขายังปลภัยอยู่ แต่ก็รู้สึกเีดายเสืาวัั้ ก่อน้าี้มันยังอยู่กับเขา ทว่าตอนี้มันกลับกลายเป็นอาหารในท้องอูเจียวเีแล้ว
สู้กับอูเจียวหรือ? เยี่ยซางไม่กล้าเีหรอก! เห็นชัดว่าอูเจียวเป็นสัตว์ู ไม่ใช่สัตว์ร้ายทั่วๆ ไป ทั้งััลาดมาก หอกเหล็กดำเยี่ยซางคงไม่สามารถทำลายเกล็ดหนามันได้
่าไรแล้วก็ถือเป็นโชคดีเยี่ยซาง อูเจียวมีร่างกายใหญ่โตและปีนต้นไม้ได้ไม่เก่งนัก แม้มันจะสามารถกระโดดเพื่อโจมตีเยี่ยซางได้ แต่ก็ต้องอาศัยแรงจากหางมันด้วย
ัจากอูเจียวเฝ้าเยี่ยซางอยู่สักพักหนึ่งมันก็จากไป
เื่เยี่ยซางยืนยันจนแน่ใว่าอูเจียวออกไปแล้ว เขาก็รีบไถลลงไปตามต้นไม้แล้วมองไปยังคูน้ำลึกที่อูเจียวอาศัยอยู่มาก่อนที่มันจะปีนขึ้นมาบนพื้นดิน เยี่ยซางใช้เวลาไม่าก็รีบเก็บทั้งหมดและจากไป เขาต้องจัดการให้เสร็จโดยเ็ ไม่่าั้หากอูเจียวกลับมา เขาอาจจะต้องกลายเป็นอาหารอูเจียวเหมือนกับเสืาวไปด้วย
ข้าวต่างๆ ยังอยู่ใต้ต้นไม้ตรงุเดียวกับที่เสืาวถูกอูเจียวกลืนหายไป
ัจากเก็บแล้ว เยี่ยซางก็ปีนขึ้นไปพักผ่อนบนต้นไม้หนึ่งคืน จากั้เด็กหนุ่มก็เร่งจากไปตามทางที่วางแผนไว้
สองวันถัดมา เยี่ยซางยังคงเิไปตามทาง่าระมัดระวัง แต่เขาก็ไม่ได้พบอันตรายใดๆ ี
เื่มองไกลๆ จากตรงี้แล้วก็จะเห็นเมืองกู่หาตั้งตระหง่านอยู่ เยี่ยซางรู้ทันทีว่าเขาได้มาึุหมายแแล้ว นี่คือเมืองกู่หา สัญลักษณ์เมืองก็คือหอคอยกู่หา เมืองแห่งี้เป็นเมืองที่ค่อนข้างเจริญ การเิทางจากที่นี่ไปึหุบเขาโอสถ แม้จะเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างไกลแต่ก็ยังมีกองคาราวานที่เิทางผ่านไปมาอยู่เรื่อยๆ ดังั้จึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเิทางเพียงเดียว
เื่เข้าสู่เมืองกู่หาแล้ว เยี่ยซางก็มองหาโรงน้ำชา ก่อนเขาจะขอน้ำชาหนึ่งกาและหยิบเนื้อแห้งออกมากินให้อิ่มท้อง
ในเมืองมีร้านอาหารมากมาย แต่เยี่ยซางลังเลที่จะต้องควักเงินออกมาจ่าย เขาไม่ต้องการใช้เงินจำนวนมากเพียงเพื่ออาหารร้อนๆ เพราะแค่เท่าี้เยี่ยซางก็พอใมากแล้ว!
ขณะที่เยี่ยซางกำลังกินอาหารอยู่ั้ ู้าสามและู้หญิงเส้นผมสีทองสว่างท่าทางแข็งแกร่งก็ย่างเท้าเข้ามาในโรงน้ำชาพร้อมกับเีงสัตว์ร้ายีสองสามั
เยี่ยซางเหลือบตามองขณะที่กำลังเคี้ยวเนื้อแห้ง ด้วยประสบการณ์การล่าสัตว์ตนเ เขาสามารถสัมผัสได้ึจิตสังหารจาก เช่นเดียวกับจิตสังหารจากสัตว์ต่างๆ
“ี่ใหญ่ ครั้งี้เราเก็บสมุนไพรได้น้อยเกินไป ถ้าเราหาอูเจียวไม่เจอแล้วก็ข้าคิดว่างานเราต้องล้มเหลวแน่” ู้หญิงผมทองกล่าวขึ้น
“อืม นี่คือุที่แซ่จ้าวบอกว่ามีหญ้าชิงหลิงจำนวนมาก ี่าก็เคยมีเจออูเจียวแถวๆ ี้ด้วย เฮ้อ!” าไว้หนวดเคราทีู่้หญิงั้เรียกว่าี่ใหญ่ถอนหายใดัง
เื่ได้ยินเีงกล่าวึอูเจียวเยี่ยซางก็เงย้าขึ้นมอง
“เจ้ามองอะไร ถ้ายังไม่เลิกมอง ข้าจะควักลูกตาเจ้าทิ้งเี” ู้หญิงั้มองเยี่ยซางแล้วตะโกนใส่โดยพลัน
“้สี่ อย่าทำัเป็นเด็กๆ สิ” ามีเคราเหลือบมองเยี่ยซางแล้วกล่าว
“เจ้าก็้าตาพูได้ เหมาะที่จะพากลับไปเป็นสหายนายน้อยนะ” ู้หญิงั้มองเยี่ยซางแล้วพูดต่อ
เยี่ยซางดื่มชาทั้งหมดในคราเดียว จากั้ก็ุขึ้นเตรียมจะจากไป เขาไม่ต้องการมีปัญหา
แต่ความจริงแล้ว ึเจ้าจะไม่ต้องการมีปัญหา บางครั้งปัญหาก็จะเข้ามาหาเจ้าเ
“ให้เจ้าไปเป็นสหายนายน้อยถือเป็นเกียรติเจ้าแล้วแท้ๆ นี่กล้าดี่าไรึได้เิหนีข้า? หยุดอยู่ตรงั้นะ!” ู้หญิงัุ้ขึ้น เื่เธอยื่นมือออกมาขวางก็ทำให้เยี่ยซางแทบล้ม
“ขอโทษด้วย ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำ” เยี่ยซางลูบไหล่ตนเขณะพูดด้วยเีงต่ำ
สหาย? นั่นไม่ใช่รับใช้หรือ่าไร? เยี่ยซางไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องี้ ไม่ว่าีิจะแย่แค่ไหน เขาก็รู้สึกว่าัเต้องอยู่่ามีศักดิ์ศรี
“้สี่ เจ้ากำลังทำอะไร? ข้าขอโทษเจ้าแทนนางด้วย เจ้าต้องการจะไปไหนกันหรือ?” ามีเคราหยุดหญิงสาวที่กำลังกริ้วโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ข้ากำลังจะไปนครชื่อเหยียน” เยี่ยซางถามพ่อเขามาแล้ว ‘นครชื่อเหยียน’ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดระหว่างเส้นทางจะไปยังหุบเขาโอสถที่ภูเขาตานติ่ง
“นครชื่อเหยียน? พวกเราจะผ่านนครชื่อเหยียนตอนเิทางกลับ แต่ตอนี้เรายังมีเรื่องที่ต้องทำให้เสร็จก่อน” ามีเครารู้สึกประหลาดใขณะพูดกับเยี่ยซาง นครชื่อเหยียนอยู่ห่างจากที่นี่หลายพันลี้ เยี่ยซางยังูเด็กมาก จึงเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่เด็กหนุ่มเช่นเขาจะเิทางไกลขนาดั้
“แย่ชะมัด ถ้าพวกเราเจออูเจียว เราก็คงได้ออกจากที่บ้าๆ นี่ไปาแล้ว” ู้หญิงั้เหลือบมองเยี่ยซางและยกชาดื่ม่าโกรธเคือง
เื่ได้ยินคำพูดหญิงสาว เยี่ยซางก็ครุ่นคิดในใ เขารู้ว่าอูเจียวอยู่ที่ไหน พวกี้กำลังจะไปนครชื่อเหยียนัจากล่าอูเจียวได้แล้ว หากเขาติดตามเหล่าี้ไปคงสะดวกกว่าการไปกับกองคาราวาน เพราะพวกั้ใช้เวลาากว่าจะไปึ ทั้งอาจจะไม่ได้ตรงไปที่นครชื่อเหยียนในคราวเดียวเนื่องจากพวกเขาคงต้องแวะพักหลายุ ึ่จะเป็นเรื่องลำบากสำหรับเขาหากต้องเิทางผ่านหลายเมือง ีทั้งเยี่ยซางยังคิดึอันตรายที่ตนเอาจต้องพบเจอระหว่างทาง ทว่าเหล่าี้จะเชื่อถือได้หรือไม่?
“มีอะไรหรือ?” เื่เห็นเยี่ยซางครุ่นคิดามีเคราก็เอ่ยปากถาม
“ข้ารู้ว่าอูเจียวอยู่ที่ไหน แต่เจ้าต้องพาข้าไปนครชื่อเหยียน” ัจากคิด่าถี่ถ้วน เยี่ยซางก็รู้สึกว่าคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเขาก็ไม่ได้มีมีค่าอะไรติดั ดังั้จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องี้ ถ้าเหล่าี้รักษาสัญญา เขาจะประหยัดเวลาในการเิทางได้่ามาก
“เจ้ารู้หรือว่าอูเจียวอยู่ที่ไหน? ดี! ตราบใดที่เราเจออูเจียว พวกเราจะพาเจ้าไปยังนครชื่อเหยียน่าปลภัย” ามีเครากล่าว่าตื่นเต้น
“แน่นอน ข้ารู้ว่าอูเจียวอยู่ที่ไหน” เยี่ยซางพยัก้า่ามั่นใ
“ที่นี่ไม่มีเหล้า พวกเราออกไปดื่มกันเถิด ัจากั้ค่อยออกเิทางกัน” ามีเครากล่าวต่อ
“ข้ามีเหล้าอยู่ แต่ข้าไม่รู้ว่าพวกท่านจะชอบมันหรือไม่?” เยี่ยซางพูดพร้อมกับยกถุงหนังใส่เหล้าในมือตนเขึ้น
“ฮ่าฮ่า! ข้าไม่ถือสาหรอก ้รอง ้สาม ้สี่ ดื่มกันเถิด” ามีเคราตบไหล่เยี่ยซางแล้วกล่าวกับพรรคพวกเีงดัง
ด้วยแรงตบู้ามีเคราู้ี้ทำให้เยี่ยซางแทบล้มพ
“ี่ใหญ่ เบามือท่าน่ ้าี้ยังเด็กอยู่นะ” าู้มีแผลเป็นบน้าผากที่ามีเคราเรียกว่า้รองกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เยี่ยซางหยิบถุงหนังวัวขึ้นมารินเหล้าใส่ชามน้ำชา แล้วยกให้ทั้งสี่ก่อนจะรินให้ัเ
“้า ข้าชื่อาเซิน นี่้รองข้าตู้ชง ้สามจางจงเสวียน แล้วก็้สี่ิเฉี่ยว” าเซินที่มีเครากล่าว
ตู้ชงและจางจงเสวียนต่างก็พยัก้าให้กับเยี่ยซาง
ิเฉี่ยวลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “ข้าขอโทษเกี่ยวกับเรื่องเื่ครู่ี้ด้วย”
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??