เรื่อง หมื่นวิถีบรรลุเทพ
หลังจากฝึกพลังบ่มเพาะตลอดคืน รุ่งสางั้กลุ่มก็ออกเดินทางต่อเมื่อรับประทานมื้อเช้าเสร็จ
พอเห็นว่าเยี่ยซางเริ่มฝึกฝนอีกครั้ง ฉินเจินก็เริ่มฝึกฝนบ้าง เขาต้องาที่จะแข็งแกร่งึ้เ่เดียวกับเยี่ยซาง ดังั้เด็กหนุ่มจึงต้องฝึกตนบ่มเพาะให้มากึ้ ก่อน้านี้เขาไม่เคยฝึกปราณมาก่อน แต่ตอนนี้เขาสามารถบ่มเพาะได้แ้ ความปรารถนาที่จะแข็งแกร่งึ้ของฉินเจินไม่ได้มีน้อยไป่าเยี่ยซางแม้แต่นิดเดียว
าเดินทางใสองวันถัดมาค่อนข้างเงียบ สัตว์อสูรบางตัวที่ขวางทางก็ถูกกลุ่มองครักษ์กำจัด ุครั้งที่ตั้งที่พักแรมใตอนเย็นเยี่ยซางจะออกไปเก็บฟืนและล่าเหยื่อ พอช่วงอาหารเย็น เขาจะมอบเหยื่อบางส่วนให้กับกลุ่มองครักษ์และฉินเจินด้วย
ฉินเจินยอมรับอาหารที่เยี่ยซางมอบให้ั้หมดและไม่ปฏิเสธที่จะดื่มเหล้ากับอีกฝ่าย แต่ั้คู่ก็ยังไม่มีาสื่อสารกันด้วยคำพูดเหืนเ่เดิม
ยามออกเดินทางอีกครั้ง เยี่ยซางเห็นว่าฉินเจินนำยาเผยหยวนมาใช้ฝึกฝน เวลาั้หัวใจของเขาก็สั่นสะท้าน หากมียาแต่ไม่ใช้เ่ั้จะมีประโยชน์อะไร? ยามีไว้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ดังั้าใช้เพื่อให้ตนเองแข็งแกร่งึ้ถึงจะมีประโยชน์มากที่สุด
คิดดังั้ เยี่ยซางก็กินยาเม็ดเพื่อฝึกฝน พลังบ่มเพาะของเยี่ยซางใยามนี้อยู่ไม่ไกลจากขั้นที่สามของระดับเลี่ยนชี่มากนัก
ขณะที่เยี่ยซางและคนอื่นๆ กำลังบ่มเพาะฝึกฝนก็มีเีงคำรามของสัตว์ร้ายดังึ้ตามมาด้วยาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงของรถอสูร
หัว้ากลุ่มองครักษ์ชิวเจินถึงกับ้าเปลี่ยนสี “พวกเจ้าอยู่บนรถ” จากั้เขาก็เปิดประตูลงไปพร้อมกับองครักษ์คนอื่น
ฉินเจินก็แสดงสี้าไม่ดีเ่กัน พวกเขาได้ยินเีงพูดคุยด้านนอ่าสัตว์อสูรที่พบไม่ธรรมดา มิฉะั้เสือวายุที่ลากรถอสูรซึ่งมีพลังบ่มเพาะระดับสองของจวี้หยวนจะหวาดกลัวขนาดนี้ได้อย่างไร ตอนนี้รถอสูรเอียงไปด้าน้าเพราะเสือวายุกำลังหมอบราบลงกับพื้น
แ้เีงาต่อสู้ก็เริ่มึ้ ัพลันั้รถอสูรก็พลิกคว่ำ เยี่ยซางคว้าเหล็กที่้าต่างไว้ได้ทันจึงไม่ล้มกลิ้งเหืนคนอื่นๆ มีเพียงเด็กหนุ่มสองคนใรถเท่าั้ที่ล้มควํ่า ตามจริงแ้ฉินเจินก็เกือบจะล้มไปแต่องครักษ์ที่นั่งข้างๆ จับเขาไว้ได้ก่อน
“แย่แ้! นี่คืออินทรีปีกเขียว มันมีสายเลือดของเผิงปีกเขียวที่เป็นอสูรโบราณ” หนึ่งใองครักษ์ของฉินเจินตะโกนึ้ ่า้าต่างรถ
“องครักษ์กลุ่มั้ฆ่ามันไม่ได้หรือ?” ฉินเจินถามพร้อมขมวดคิ้ว
“ข้าไม่รู้ระดับาบ่มเพาะของคนอื่นๆ ใกลุ่มองครักษ์ อาจมีเพียงหัว้ากลุ่มองครักษ์เท่าั้ที่สามารถต่อกรกับมันได้ แต่ก็ยากที่จะสังหารมันอยู่ดี” หนึ่งใองครักษ์ของฉินเจิน่า
เยี่ยซางที่นั่งอยู่ติด้าต่างเขาสามารถมองเห็นสถานาณ์ภายนอกได้ ตอนนี้อินทรีปีกเขียวกำลังต่อสู้กับกลุ่มองครักษ์อยู่
ปีกของมันเป็นสีเขียวกว้างห้าถึงหกจั้ง มีกรงเล็บแหลมคมคู่หนึ่งส่องประาเย็นเยียบไม่ต่างจากใบมีดอันแหลมคม
ขณะที่เยี่ยซางกำลังดูอยู่ อินทรีปีกเขียวก็หัน้าไปจิกดาบยาวใืของกลุ่มองครักษ์ จากั้ก็สะบัดหัวกระแทกอกขององครักษ์ผู้ั้จนกระเด็นออกไป
“โจมตีที่กรงเล็บด้านนอกของมัน!” ชิวเจินคำราม
ด้วยสายตาเฉียบคมของเยี่ยซาง เขามองเห็นกรงเล็บแหลมคมคู่หนึ่งของอินทรีปีกเขียวที่ขยับไปมา มีเพียงขาด้านนอกเท่าั้ที่ไม่สามารถโจมตีได้ แม้ว่าปีกและปากของมันจะสามารถโจมตีได้แต่ก็ไม่ได้ทำให้บาดเ็สาหัสอะไรมากนัก มันไม่อาจทำอันตรายถึงตายได้เพียงาโจมตีครั้งเดียว
ชิวเจินเผชิญ้ากับอินทรีปีกเขียว ร่างาของเขาขยับเร็วมากจนเยี่ยซางแทบมองร่างของอีกฝ่ายไม่ทัน!
องครักษ์ถูกปีกของเจ้าอินทรีสะบัดกระแทกปลิวออกไปทีละคน แต่อินทรีปีกเขียวไม่สามารถต้านาโจมตีอย่างต่อเนื่องของกลุ่มองครักษ์ได้ ไม่นานนักบาดแผลหลายจุดก็ปรากฏั้บนปีกและขาของมัน รวมถึงยังมีแผลลึกบางส่วน
“ตอนนี้ถ้ามีใครโจมตีประตูหุบเขาของมันได้ จะได้ผลดี่า” หลังจากที่เฝ้ามองอยู่ครู่หนึ่งเยี่ยซางก็่าึ้
ฉินเจินตกใจมาก ก่อนจะหันมองเยี่ยซางโดยพลัน แ้องครักษ์ก็่าึ้ว่า “ี่ เจ้าปกป้องนายน้อย ข้าจะไป่ทางั้ ถ้าต้านไว้ไม่ได้ ุคนจะลำบากกันหมด”
“ได้! เจ้าระวังตัวด้วย” ี่พยัก้า
องครักษ์ของฉินเจินที่ชื่อเปิดประตูรถออกไป เขาเคลื่อนไหวอย่างว่องไวจนแทบมองไม่ทัน ก่อนเขาจะขยับไปยังบริเวณหางของอินทรีปีกเขียว
ประตูหุบเขาที่เยี่ยซาง่าถึงั้อยู่บริเวณใต้หางของอินทรีปีกเขียว หรือคือบริเวณก้นของมัน
ไม่คิดอะไรมาก เขาจัดาด้วยาเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว โดยแทงดาบยาวใืเข้าไปใประตูหุบเขาของอินทรีปีกเขียว
เีงคำรามดังลั่น หางของอินทรีปีกเขียวกดต่ำลงตั้งใจจะสะบัดออกไปโดยพลัน ทว่าอีกฝ่ายก็คว้าดาบของตนแ้บิดแน่นโดยไม่ยอมปล่อยื
อินทรีปีกเขียวคำรามก้อง ใ่ มันคำราม! นี่คือความแตกต่างระหว่างอินทรีปีกเขียวกับสัตว์ร้ายที่เป็นนกอื่นๆ มันเป็นเีงคำรามไม่ใ่เีงร้องจิ๊บๆ
อินทรีปีกเขียวขนาดใหญ่ที่ประตูหุบเขาของมันกำลังโดนแทงด้วยดาบอยู่ แม้บาดแผลจะไม่ใหญ่มากนักแต่เมื่อขยับดาบมันก็จะรู้สึกเ็ปวดมาก ขณะเดียวกันชิวเจินก็โจมตีที่หัวของมันอีกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้มันหันไปโจมตี
เมื่อมันไม่สามารถสลัดได้หลังจากพยายามหลายต่อหลายครั้ง อินทรีปีกเขียวก็โจมตีอีกสองสามครั้งแ้สะบัดปีกหนี พอเห็นเ่นี้ก็ปล่อยืจากดาบอย่างรวดเร็ว เนื่องจากประตูหุบเขาของอินทรีปีกเขียวั้ยึดดาบของไว้แน่น เขาจึงไม่สามารถดึงออกมาและทำได้เพียงทิ้งดาบเท่าั้
อินทรีปีกเขียวบินหนีไปทำใหุ้คนถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากทำแผลให้คนที่ได้รับบาดเ็แ้ ุคนที่ไม่ได้บาดเ็ก็่กันพาคนเ็ึ้รถอสูร
“ี่กวน ครั้งนี้ต้องขอบคุณท่านมาก หากท่านไม่ได้ยื่นืเข้า่เหลือ พวกเราคงถูกฆ่าไปแ้” สี้าของชิวเจินดูไม่ดีนัก ไม่ต้องพูดถึงว่าองครักษ์หลายคนได้รับบาดเ็ ใตอนแรกที่เขายังหาจุด่ของมันไม่เจอ กรงเล็บที่แหลมคมของอินทรีปีกเขียวจึงคร่าชีวิตขององครักษ์ไปหนึ่งคน
“หัว้าชิว เจ้าไม่อาจขอบคุณเรื่องนี้กับข้าได้หรอก เป็นเยี่ยซางต่างหากที่เห็นจุด่ของอินทรีปีกเขียว” ไม่รับคำขอบคุณ
“เยี่ยซาง? เจ้า...มีสายตาที่ดีจริงๆ” ชิวเจินมองเยี่ยซางด้วยความตกใจ
“ข้าเคยล่าสัตว์มาก่อน จึงรู้ว่าาต่อสู้กับพวกมันควรใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของเราและหลีกเี่จุด่ ต้องโจมตีให้เร็วและต่อเนื่องถึงจะขับไล่มันออกไปได้ ไม่อย่างั้อาจต้องสู้กันจนตาย” เยี่ยซางพูด
“เจ้าพูดถูก มันเป็นสัตว์อสูรเจี่ยตัน ถึงได้มีพลังสูง่าระดับบ่มเพาะของมัน หากมันอยู่ระดับสามหนิงตันจริงๆ พวกเราคงตายไปแ้” ชิวเจินรู้สึกหวาดกลัวเ็น้อย นี่ไม่ใ่ครั้งแรกที่เขาเดินทางไปนครตานติ่ง แต่เป็นครั้งแรกที่ได้เจออันตรายครั้งใหญ่เ่นี้
เพราะาโจมตีของอินทรีปีกเขียว กลุ่มองครักษ์จึงต้องสูญเีอย่างั ไม่ต้องพูดถึงองครักษ์สองคนที่เีชีวิตไป ั้ยังมีเสือวายุอีกสามตัวของรถอสูรคันแรกที่ถูกอินทรีปีกเขียวฆ่าด้วย เสือวายุจึงถูกถอดออกจากรถแต่ละคัน ใตอนนี้รถอสูรจะใช้เสือวายุลากคันละสองตัว
หลังจากฝังร่างองครักษ์สองคนแ้ั้ขบวนก็เดินทางต่อ
คนที่อยู่ใรถคันเดียวกับเยี่ยซางยามนี้ ั้ชิวเจินและคนอื่นๆ ต่างก็กระตือรือร้นที่จะพูดคุยกับเยี่ยซางมากึ้
เมื่อเห็นพลังของอินทรีปีกเขียว เยี่ยซางก็รู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย เขาเพิ่งออกเดินทางมาได้เพียงไม่กี่วัน เ้ทางข้าง้าจะต้องพบเจอกับความยากลำบากอีกมาก! หากเดินทางไปกับกองคาราวาน อันตรายครั้งนี้คงต้องรุนแรงมากยิ่งึ้ นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของผู้คุ้มกันกองคาราวานั้ยังเทียบไม่ได้กับองครักษ์ที่คฤหาสน์ของเจ้านครส่งมาอย่างแน่นอน
โชคดีที่าเดินทางใครั้งนี้ใช้เวลาอีกไม่นานก็ใกล้จะถึงที่หมายแ้ เยี่ยซางยังได้เห็นวิธีต่อสู้ของชิวเจินและคนอื่นๆ เ่ ายิงด้วย้าไม้ขนาดเ็ าใช้ยาที่ทำให้มึนงง และาใช้พิษ เมื่อเผชิญ้ากับสัตว์อสูรที่ทรงพลังชิวเจินและคนอื่นๆ ไม่ได้ประมาทใาต่อสู้ ต่างจากตอนอินทรีปีกเขียวที่เป็นอุบัติเหตุ อย่างไรแ้มันก็เป็นสัตว์อสูรบินได้ที่ทรงพลัง ชิวเจินและคนอื่นๆ ก็ไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะรับืกับมัน
เมื่อพวกเขาพักผ่อนอีกครั้ง ชิวเจินก็บอกกับุคนว่ายังเหลือเวลาอีกสามวันก่อนจะถึงนครตานติ่ง ่าได้ว่าช่วงนี้ปลอดภัยแ้เพราะจะไม่มีสัตว์อสูรอยู่ใกล้นครตานติ่งมากจนเกินไป
“หัว้าชิว ระยะทางระหว่างนครชื่อเหยียนกับเืงตานติ่งั้ไกลมากไม่ง่ายเลยที่จะเดินทางไปมา หากไม่มีาบ่มเพาะที่เพียงพอ คงต้องตายระหว่างทางอย่างแน่นอน” เยี่ยซาง่าด้วยอารมณ์บางอย่างพ
“ครั้งนี้มีคนจำนวนมาก หากมาคนเดียวก็สามารถหาสัตว์อสูรบินมาใช้ได้” ชิวเจินพูดด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินคำพูดนี้เยี่ยซางก็ตกใจ จริงเีด้วย ีเืา สิงโต และเสือวายุที่ถูกฝึกให้เชื่องจนเป็นสัตว์ขี่ได้ เ่ั้สัตว์ร้ายหรือสัตว์อสูรที่บินได้ก็สามารถฝึกให้เชื่องแ้ใช้เป็นสัตว์ขี่ได้เ่กัน
“ไอ้สารเลว ถ้าไม่ใ่เพราะอาสามของข้า่เหลือเจ้า เจ้าไม่มีทางได้มาที่นครตานติ่งแน่” เมื่อเห็นาแสดงออกที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของเยี่ยซาง ฉินไห่ก็พูดึ้อย่างประชดประชัน
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??