เรื่อง หมื่นวิถีบรรลุเทพ
“ท่านาา์ ข้ากินยาแล้วขอรับ” เยี่ยซางกล่าว
“นี่คือยาทงลั่ว ช่วยัษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและะูกได้” กงเสวียนยัดขวดยาใส่มือเยี่ยซางซางโดยตรง
หลังจากให้เม็ดยาแก่เยี่ยซางแล้ว กงเสวียนก็หันกลับไปสังเกตนกสีขาวต่อ
ดวงตาทั้งคู่ของนกสีขาวเป็นปะกาย มันส่ายหัวเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปเผชิญ้ากับกงเสวียน
“ข้าบอกไม่ได้ว่ามันคือนกชนิดใด แต่ตามคำบอกเล่าของูโบราณมันูคล้ายชิงเผิง แต่มันไม่ใช่ชิงเผิงแน่” กงเสวียนสรุป
“ข้าคิดว่าาา์ลุงจะรู้ ข้าเห็นมันต่อสู้กับสัตว์ูัอื่น ข้าเลยไปสู้กับมัน นี้มันยินดีจะติดตามข้ามา” เยี่ยซางกล่าว
“ไม่เลว ไ่เ! สัตว์ูที่อยู่ด้วยโดยสมัครใจเช่นนี้ดีกว่าสัตว์ูที่ถูกจับมาฝึกฝนนัก ูแล้วยังมีช่องว่างให้พัฒนาีมาก ไว้ค่อยให้ท่านาา์มาูวันอื่นแล้วกัน” กงเสวียนมองเยี่ยซางด้วยท่าทางปะหาใจ มีตั้งกี่ที่ใฝ่ฝันจะได้สัตว์ูบินได้มาเป็นสัตว์ขี่แต่ก็มักทำไม่ได้ แต่เยี่ยซางแค่ออกไปข้างนอกแล้วพบสัตว์ู มันกลับยินดีจะติดตามเขาด้วยัเอง
หลังจากสัตว์ูได้รับการฝึกฝนจากมนุษย์ ูันั้นจะสูญเสียความดุร้ายและขาดสัญชาตญาณบางอย่างไป ทั้งยังสูญเสียช่องว่างที่สามารถพัฒนาได้จึงยากจะก้าว้า สัตว์ูอย่างนกสีขาวที่เต็มใจจะติดตามผู้นั้นหายากกว่าสัตว์ขี่มาก ไม่สามารถเอามาเทียบกันได้เลย
“เจ้าเข้าสู่ขั้นสี่ของเลี่ยนชี่ นี้เจ้าปฏิบัติตามข้อกำหนดของข้าสำเร็จแล้ว แต่เจ้าไม่สามารถหย่อนยานได้เข้าใจหรือไม่? นอกจากนี้นกสีขาวันี้ต้องกินอาหารจำนวนมากทุกวัน มันลำบากที่เจ้าจะต้องหาอาหารด้วยตนเอง ข้าจะสั่งให้ศิษย์รับใช้ส่งอาหารมาให้” หลังจากอธิบายจบกงเสวียนก็มองที่เยี่ยซางด้วยสายตาแปลกๆ และจากไป
เื่กงเสวียนจากไปแล้ว เยี่ยซางก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะมาแต่งขนให้นกสีขาว “ข้าจะตั้งชื่อให้เจ้า ข้าหวังว่าเจ้าจะเป็นราชาบนท้องฟ้า เช่นนั้นข้าจะเรียกเจ้าว่า เทียนอวี่”
นกสีขาวยืดคอและส่งเสียงร้องสองครั้งเป็นการยอมรับชื่อที่เยี่ยซางตั้งให้
แม้ว่าแขนขวาจะไม่สะดวกนัก แต่เยี่ยซางยังคงอยู่ในสนาม้าบ้านไม้ไผ่ขณะใช้มือซ้ายสร้างที่พักให้เทียนอวี่ก่อนไปฝึกซ้อมต่อ
หลังกลับเข้าไปในบ้านไม้ไผ่ เยี่ยซางก็หยิบคัมภีร์หม้อโอสถศักดิ์สิทธิ์ออกมาและเิ่ท่องจำ
คัมภีร์หม้อโอสถศักดิ์สิทธิ์สามารถส่งคืนให้หุบเขาโอสถได้ทันทีก็จริง แต่อย่างไรแล้วัเขาก็มีสิทธิ์ที่จะฝึกฝนก่อนเาะเขาเป็นพบมันเอง
เยี่ยซางใช้เวลาหนึ่งชั่วยามในการท่องจำคัมภีร์หม้อโอสถศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด
เื่วางคัมภีร์หม้อโอสถศักดิ์สิทธิ์ลง เยี่ยซางก็นึกคำถามขึ้นมาได้ เฟิงเฉินไม่ได้ฝึกคัมภีร์หมื่นวิถีเนื่องจากการฝึกคัมภีร์หม้อโอสถศักดิ์สิทธิ์ของเขามีความก้าว้าในระดับสูงเกือบจะสำเร็จวิชาทั้งหมดในคัมภีร์หม้อโอสถศักดิ์สิทธิ์แล้ว แต่ัเยี่ยซางนั้นต่างออกไป วิชาหม้อโอสถลึกลับที่เขาฝึกเพิ่งเิ่ต้นเ่านั้น เช่นนั้นเขาก็สามารถฝึกทั้งสองคัมภีร์ร่วมกันได้
หลังจากอ่านการวิเคราะห์ของเฟิงเฉินเกี่ยวกับคัมภีร์หม้อโอสถศักดิ์สิทธิ์และคัมภีร์หมื่นวิถีแล้ว เยี่ยซางก็รู้สึกว่าทั้งคู่ไม่มีความขัดแย้งกัน หนึ่งคือเส้นทางการบ่มเพาะที่ใช้ัเองเป็นหม้อโอสถ ส่วนีหนึ่งใช้ฟ้าดินเป็นเตาในการฝึกตนเอง ทั้งสองรูปแบบสามารถทำได้ในเวลาเดียวกัน
หลังจากคิดได้อย่างนั้น เยี่ยซางก็เิ่ฝึกฝน
หลังจากเข้าสู่วิชาหม้อโอสถลึกลับแล้ว เขาก็โคจรพลังปราณไปตามเส้นทางที่เคยฝึก แล้วเยี่ยซางก็ใช้พลังงานทั้งหมดในการบ่มเพาะคัมภีร์หมื่นวิถี!
การบ่มเพาะของคัมภีร์หมื่นวิถีค่อนข้างซับซ้อน มันคือการเปิดจุดชีพจรของัเอง แล้วจึงูดซับปราณจิตวิญญาณฟ้าดินเข้าสู่ร่างกาย จากนั้นค่อยนำมันเข้าสู่เลืและะูกเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับัเอง
ขั้นแรกของคัมภีร์หมื่นวิถีเรียกว่า ‘เลี่ยนเซวี่ย’ ซึ่งเทียบเ่ากับระดับเลี่ยนชี่ซึ่งเป็นการฝึกเส้นเลืให้แข็งแ ขั้นที่สองคือเฉียงจินซึ่งเทียบเ่ากับระดับจวี้หยวนสำหรับฝึกฝนเส้นเอ็น ขั้นที่สามคือต้วนกู่เทียบเ่ากับระดับหนิงตันสำหรับฝึกะูก ขั้นที่สี่คือกุยอีเทียบเ่ากับระดับเฟินเสิน เป็นการรวมเลื เส้นเ็แะะูก ขั้นที่ห้าคือเวิ่นเต้าซึ่งเทียบเ่ากับระดับเวิ่นซวี ขั้นที่หกคือเลี่ยนเสินเทียบเ่ากับระดับเฮ่าเทียน ขั้นที่เจ็ดคือจินเซินเทียบเ่ากับระดับเซิ่งจิ้ง
คัมภีร์หม้อโอสถศักดิ์สิทธิ์สามารถฝึกฝนได้ถึงระดับสูงุคือเซิ่งจิ้ง แต่คัมภีร์หมื่นวิถียังมีขั้นถัดไปี ขั้นที่แปดของคัมภีร์หมื่นวิถีคือปู้เมี่ย ขั้นที่เก้าคือหลุนหุย หลังจากนั้นในคัมภีร์ก็เป็น้าะดาษว่างอยู่
นี่จึงเป็นเหตุที่ทำให้เยี่ยซางรู้สึกได้โดยสัญชาตญาณว่า คัมภีร์หมื่นวิถีนั้นแข็งแกร่งกว่าคัมภีร์หม้อโอสถศักดิ์สิทธิ์
ในขณะที่เขาฝึกฝน เยี่ยซางรู้สึกว่าปราณจิตวิญญาณฟ้าดินก็เหมือนดาวดวงเล็กๆ ่ๆ เข้าสู่ัเขาผ่านจุดชีพจร เข้าไปในเส้นเลืและไหลเวียนไปพร้อมกับเลื
หลังจากฝึกเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนเยี่ยซางก็ยังรู้สึกสดชื่น เื่เขาออกมาจากบ้านไม้ไผ่ ร่างกายของเขาูเหมือนจะมีพลังมากมายไม่รู้จบ อาการบาดเจ็บที่แขนขวาของเขาก็ดีขึ้นมากเช่นกัน
ขณะที่เยี่ยซางกำลังซักผ้า ชายหนุ่มสองในชุดคลุมสีเทาก็ปรากฏัขึ้นพร้อมกับหมูป่า
“พวกเจ้าเป็นใครกัน?” เยี่ยชางถาม
“พวกเราเป็นศิษย์ช่วยงานทั่วไปของยเขาไท่เสวียนขอรับ ท่านกงเป็นขอให้เรามาที่นี่ ท่านบอกว่ามีสัตว์ูที่ต้องให้อาหาร” พวกศิษย์ช่วยงานทั่วไปมักปฏิบัติต่อศิษย์ระดับอื่นๆ ของหุบเขาโอสถเหมือนพวกเขาเป็นผู้อาวุโส
“เช่นนั้นก็ย่อมได้ คุณสำหรับการทำงานหนักของพวกเจ้า ข้าจะย่างึ่หนึ่ง ส่วนีึ่จะให้เป็นอาหารของมัน” เยี่ยซางรู้ว่านี่เป็นศิษย์ช่วยงานทั่วไปที่กงเสวียนส่งมา
เยี่ยซางอารมณ์ดีขึ้น เขาจุดไฟและย่างหมูป่าึ่ั
เื่เร็วๆ นี้ เขากินแต่ยาปี้กู่ จึงทำให้นี้เยี่ยซางอยากกินเนื้อสัตว์มากเหลือเกิน
หมูป่าึ่ัถูกเทียนอวี่กินอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเทียนอวี่ก็ขยับมาที่ด้านข้างของเยี่ยซางีครั้งแล้วเฝ้าูหมูป่าย่างของเด็กหนุ่ม ส่วนศิษย์รับใช้สองก็ช่วยเยี่ยซางทำความสะอาดด้าน้าและด้านหลังของบ้านไม้ไผ่
หลังจากที่หมูป่าย่างเสร็จแล้ว เยี่ยซางก็หั่นแบ่งให้ศิษย์รับใช้สอง ก่อนจะเทเหล้าให้ัเองแล้วเิ่กินเนื้อย่าง
เื่เห็นว่าเยี่ยซางไม่สนใจ เทียนอวี่ก็จิกเนื้อย่างจากมือของเยี่ยซาง ก่อนมันจะขยับจะงอยปากกับคอสองครั้งแล้วกลืนมันลงไป
“กินเนื้อย่างด้วยหรือ?” เยี่ยซางตะลึง ตามปกติแล้วจะหาสัตว์ูกินเนื้อปรุงสุกได้จากที่ไหนกัน เทียนอวี่แตกต่างจากสัตว์ูทั่วไปมากจริงๆ
เื่เห็นว่าเทียนอวี่ชอบกิน เยี่ยซางก็หั่นหมูป่าย่างเป็นชิ้นๆ แล้วป้อนให้เทียนอวี่ ุท้ายแล้วเยี่ยซางก็ได้กินแค่สองชิ้นเ่านั้น
รวมทั้งเนื้ิบและเนื้อย่าง เทียนอวี่ก็กินหมูป่าไปมากกว่าึ่ัเสียแล้ว
“เจ้าสองทำงานหนักจริงๆ ข้าจะเตรียมอาหารให้มากกว่านี้ใาคต ถ้าเห็นข้ากำลังฝึกฝน เจ้าก็ย่างและให้อาหารมันได้เลย” หลังจากอธิบายสองปะโยคให้ศิษย์ช่วยงานทั่วไปฟังแล้ว เยี่ยซางก็นำตั๋วทองที่ฉินเอ้าเซวียนมอบให้เขาออกมาและส่งให้ศิษย์ช่วยงานทั่วไป
“ท่านเยี่ยซางสุภาพเกินไปแล้วขอรับ นี่คือสิ่งที่เราควรทำ พวกเราไม่กล้ารับตั๋วเงิน ถ้าผู้อาวุโสหรืออื่นรู้ เราจะถูกขับออกจากภูเขาได้” เื่เห็นเยี่ยซางให้ตั๋วทอง ศิษย์รับใช้ทั้งสองก็รู้สึกกังวล หุบเขาโอสถไม่เพียงแต่จัดการศิษย์ในสำนักอย่างเคร่งครัดเ่านั้น แต่ยังรวมถึงเื่นี้ด้วย
“เจ้าทั้งสองไม่ต้องกังวล ไปซื้อเหล้าแล้วนำกลับมาให้ข้า เื่ของสำนักข้าจะจัดการเอง!” เยี่ยซางกล่าวด้วยรอยยิ้ม ฉินเอ้าเซวียนให้ตั๋วทองจำนวนมากแก่เขา แค่หนึ่งหรือสองใบไม่มีปัญหาอะไรกับเยี่ยซางอยู่แล้ว
ศิษย์รับใช้ทั้งสองกล่าวคุณและจากไป พวกเขารู้ว่าเยี่ยซางกำลังูแลพวกเขาอยู่ ไม่จำเป็นเลยแม้แต่น้อยที่ต้องใช้เงินมากขนาดนี้ในการซื้อเหล้าสักสองสามขวด เาะนี่มันตั๋วทองคำ
หลังจากเล่นกับเทียนอวี่ระยะหนึ่ง เยี่ยซางก็กลับเข้าบ้านไม้ไผ่และฝึกซ้อมต่อไป เขารู้สึกว่าคัมภีร์หมื่นวิถีนั้นน่าทึ่งมาก ในการเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายก็ชัดเจน หลังจากฝึกเพียงครั้งเดียวอาการบาดเจ็บที่แขนขวาก็เกือบหายแล้ว อาจกล่าวได้ว่ามันดีกว่ากินยาัษาอาการบาดเจ็บเสียีพ
หลังจากฝึกฝนต่อีสองวัน แขนขวาของเยี่ยซางก็หายดี ถ้าอื่นรู้เื่นี้คงจะตกใจมาก ะูกหักจะหายดีในสามหรือสี่วันได้อย่างไร?
เยี่ยซางรู้ว่านี่คือการฝึกฝนของยาทงลั่วและการบ่มเพาะคัมภีร์หมื่นวิถี
หลังจากการฝึกฝนไม่กี่วัน เยี่ยซางก็ได้เข้าสู่ขั้นแรกของคัมภีร์หมื่นวิถี ตราบใดที่เขาตั้งใจฝึก พลังของคัมภีร์หม้อโอสถศักดิ์สิทธิ์และคัมภีร์หมื่นวิถีก็จะโคจรพร้อมกัน
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??