เรื่อง เกิดใหม่ชาตินี้มาเป็นภรรยาอ้วนยุค 90 [重生九零肥妻归来]
บทที่ 50 ทำไมยัยหมูน้อยถึงสวยขนาดั้
สำหรับภารกิจสาม่าที่กู้ย่าฮุยนำติดตัวมาด้วย ลู่ฮ่าวพูดได้แค่ว่าพออกพอใจ่าถึงที่สุด
เามองูนาฬิกาข้อื เอ่ยว่า “ไปเะ ไปกินข้าว่ เรื่องอื่นเอาไว้ค่อยคุยทีั”
พูดถึงเรื่องกิน กู้ย่าฮุยพลันรู้สึกหิวขึ้นมา เามองลู่ฮ่าว่าคาดหวัง “ไปกินบะหมี่คู่ไต้*[1] ขึ้นชื่อในท้องที่บ้านแกดีไหม?”
เื่่ตอนอยู่คณะแพทย์ กินที่ลู่ฮ่าวแนะนำเาาที่สุดก็คือเกี๊ยวที่อาหญิงเป็ทำกับบะหมี่คู่ไต้ในตัวอำเภอเืง พูดแ้กู้ย่าฮุยน้ำลายจะไหล
ลู่ฮ่าวส่งเสียงตอบ “อืม”
ข้างนอกพระอาทิตย์ส่องแสงจ้า จากสถานีรถไฟถึงโรงแรม กู้ย่าฮุยเดินจนเหงื่อท่วมหัว เากับลู่ฮ่าวเดินไปที่ร้านบะหมี่ภายใต้แสงตะวันแผดเผา ลูกผู้ดีมีเงินผู้ไม่เคยประสบความยากลำบากเริ่มขาอ่อนแรงขึ้นมา
“แกไม่มีรถจักรยานหรือรถจักรยานยนต์อะไรพวกั้หรือไง? อีกเดี๋ยวไปถ่ายรูปก็ต้องเดินไปหรือ?”
ลู่ฮ่าวร้อนยิ่งกว่ากู้ย่าฮุย
ทำไมน่ะหรือ?
เาสวมชุดสีดำซึ่นมันูดซับความร้อนน่ะสิ
ช่วงสองวันที่ผ่านมา บาดแผลบนใบหน้าเริ่มตกสะเก็ด เวลาเหงื่อออกเลยไม่ได้ปวดขนาดั้
เายื่นืออกไปหากู้ย่าฮุย “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน ฉันจะยืมรถ”
เื่กู้ย่าฮุยได้ยินว่าเาต้องการยืมรถก็รีบหยิบโทรศัพท์ืถือออกมาจากซองหนังที่เอวแ้มอบให้เา
ลู่ฮ่าวรับโทรศัพท์ืถือจากกู้ย่าฮุย ต่อสายโทรออกทันที
ัจากโทรเสร็จก็พากู้ย่าฮุยเดินตรงไปร้านบะหมี่ต่อ พอเข้าไปในร้านบะหมี่เ็ ๆ ััแ กู้ย่าฮุยมองสำรวจผนังสีดำมืดมิดด้วยสีหน้าตรึกตรอง “บะหมี่ที่นี่ อร่อยแน่นะ?”
สำหรับความสงสัยอีกฝ่าย ลู่ฮ่าวเพียงแค่โยนประโยคหนึ่งให้เา “ที่ว่ากันว่ายอดฝีือยู่ในหมู่ประชาชน อาหารเลิศรสก็เช่นกัน”
ัจากนั่งลงเรียบร้อยแ้ เถ้าแก่เี้ยก็เข้ามาทักทายพวกเา่าเป็กันเองแ้เทน้ำซุปบะหมี่ให้พวกเา
“เถ้าแก่ บะหมี่คู่ไต้สามชาม อีกชามไม่ใส่พริก”
“ได้เลย พวกเธอซดน้ำซุปกันไป่นะ”
กู้ย่าฮุยกระหายน้ำาจนระคายคอ เารีบยกซดน้ำซุปอุ่น ๆ ลงคอ
ในไม่ช้า รถสามล้อก็มาจอดอยู่นอกร้านบะหมี่ ฉินเฟิงสาวเท้าเดินเข้ามาสมทบ
เามองแวบเีก็เห็นลู่ฮ่าวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ม้านั่ง รวมถึงชายหนุ่มสวมเสื้อสีแ ชโลมครีมจัดแต่งทรงผมที่อยู่ตรงข้ามเาด้วย
“พี่ฮ่าว”
ฉินเฟิงตะโกนเรียกลู่ฮ่าวและเดินไปหาลู่ฉ่าว เาเห็นชายชุดแทีู่คุ้นหน้าคุ้นตา ชะงักงันอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็นึกชื่อไม่ออก
“เดี๋ยว...ุคือใครนะ?”
“ั้ที่อยู่คณะแพทย์ เดี๋ยว่ จำได้แ้”
ฉินเฟิงเอาืทาบหน้าผาก ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง่ตะโกน่าตื่นเ้ “กู้ย่าฮุย ุชายกู้ใช่ไหม?”
กู้ย่าฮุยมองเจ้าผมสั้นเกรียนทีู่กำลังตื่นเ้เป็่าาแ้พยักหน้ารับ “ใช่ ฉันคือกู้ย่าฮุยั้แหละ”
!
“ุชายกู้ ลมอะไรหอบนายมาที่นี่ได้?” ฉินเฟิงจับืทักทายเา่ากระตือรือร้น
“ี้คือ?” กู้ย่าฮุยมองลู่ฮ่าวด้วยความสงสัย
ฉินเฟิงแนะนำตัวเองโดยไม่ต้องรอให้ลู่ฮ่าวเอ่ยปาก “ฉันชื่อฉินเฟิง ตอนั้ที่อยู่ติดกับคณะแพทย์พวกนายไง บ้านเีกันกับลู่ฮ่าวที่ชอบมุดไปในโรงเรียนพวกนาย”
กู้ย่าฮุยมองฉินเฟิง่าแปลกใจยามได้ฟังการแนะนำตัวเา “เฟิงจื่อ?”
ฉินเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พี่ฮุย จำฉันได้แ้สินะ? ตอนั้ฉันเกาะลู่ฮ่าวกินข้าวนายฟรีอยู่บ่อย ๆ ไง”
กู้ย่าฮุยพินิจมองชายหนุ่มในชุดตำรวจ ่จะตบบ่าเา “า นี่นายเป็ตำรวจแ้หรือ?”
ฉินเฟิงหัวเราะแฮะ ๆ “เพื่อรับใช้ประชาชนนี่นะ”
“นั่งลงเร็ว”
ทันทีที่ฉินเฟิงทิ้งตัวนั่ง เถ้าแก่ยกบะหมี่มาบริการถึงโต๊ะพอดี
ฉินเฟิงดันชามที่ใญ่เ่าอ่างล้างหน้าไปตรงหน้ากู้ย่าฮุย แถมยื่นตะเกียบให้เา่ากระตือรือร้น “พี่ฮุย รีบกินเถอะ วันี้ฉันเลี้ยงเอง เื่่ตอนอยู่หลันเฉิงล่วงเกินเข้าแ้”
กู้ย่าฮุยมองชามที่อยู่ตรงหน้าซึ่งใญ่กว่าหัวเาา กระตุกมุมปากเ็น้อย
หล่งซานนี่แน่จริง ๆ กินชามนึงเบ้อเริ่มเทิ่มขนาดี้
ลู่ฮ่าวถามฉินเฟิงว่า “ตอนบ่ายเหล่ากู้อยากไปตามทางรถไฟ รถคันี้แกใช้หรือเปล่า?”
“ฉันเข้าเวรตอนกลางคืน แน่นอนว่ารถ… ยืมเอาไปใช้ได้”
ตำรวจที่ส่งออกมามีแค่สาม ผู้อำนวยการอยู่ในสถานีทั้งวัน ส่วนรถจักรยานยนต์คันี้เาแค่อยากไปไหนก็ขี่ไปที่นั่น
ฉินเฟิงพูด่าตรงไปตรงมา “มาเถอะ กินข้าวกัน กินเสร็จแ้จะพาไปเที่ยวรับลม”
กู้ย่าฮุยคีบเ้บะหมี่ขึ้นมา พูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง “ให้ตายสิ เ้จะใญ่เกินไปแ้”
ฉินเฟิงอธิบายให้เาฟัง “บะหมี่คู่ไต้นี่นา ความายตามชื่อนั่นแหละ เ้ใญ่พอ ๆ กับเข็มขัด ลองกินูสิ ขึ้นชื่อท้องที่บ้านเราเลยนะ”
กู้ย่าฮุยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอ้าปาก้ากลืนบะหมี่เ้ใญ่เข้าปากด้วยความยากลำบาก
เ้ใญ่า แต่ไม่เคยเห็นบะหมี่เ้ใญ่ขนาดี้มา่เลยจริง ๆ
...
เจียงหนานล็อกจักรยานไว้หน้าประูร้านบะหมี่ บังเอิญเห็นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ที่นั่น
นี่ไม่ใช่รถฉินเฟิงหรอกหรือ?
นึกถึงว่ารถจักรยานยนต์คันี้เป็หน่วยตำรวจฉินเฟิง แต่ก็ไม่ใช่ทรัพย์สินส่วนตัวเา อาจเป็อื่นขี่า็ได้
เธอจอดจักรยาน ั้ใจจะไปกินบะหมี่คู่ไต้ที่เธอโปรดปรานที่สุดในชาติ่
พอย้อนกลับมาเกิดใหม่ เธอยังคิดถึงบะหมี่เ้ใญ่าทีเี
เจียงหนานสวมกางเกงยีนส์ขา้าที่เพิ่งซื้อมาใหม่ เสื้อแขนสั้นสีขาว ูตัวูขายาวและยังบดบังเนื้อกาย รวบผมขึ้นมัดเป็ก้อนจุกเหนือศีรษะ หน้าตาขาวผุดผ่อง เธอเข้ามาในร้านพร้อมถุงผ้าลายดอกไม้ที่จ่ายไปหนึ่งไคว่สามเา
ภาพลักษณ์ั้ดึงูดพนักงานที่กำลังถูพื้นหน้าประูร้านบะหมี่ให้จ้องมองเธอเป็ตาเี
วันี้ในร้านเ็ ๆ มีแต่งตัวทันสมัยแถมหน้าตาดีเข้ามาามายขนาดี้ ช่างอิ่มเอมใจจริง ๆ
เธอเปิประู ตะโกนไปทางห้องครัวด้านั “เถ้าแก่ บะหมี่คู่ไต้หนึ่งชามค่ะ”
ฉินเฟิงซึ่งนั่งกินบะหมี่อยู่ตรงโต๊ะัประูได้ยินเสียงผู้หญิง เาเงยหน้ามองไปยังลู่ฮ่าว “พี่ฮ่าว ทำไมเสียงผู้หญิงั้ถึงคล้ายยัยหมูน้อยบ้านแกเลยล่ะ?”
กู้ย่าฮุยถาม “ยัยหมูน้อยคือใคร?”
“ยัยหมูน้อยก็คือภรรยาพี่ฮ่าว”
“ภรรยา?” เ้บะหมี่ที่กู้ย่าฮุยยัดเข้าปาก่ายากเย็นแสนเข็ญแทบจะพุ่งออกมา
ตกใจเสร็จกู้ย่าฮุยก็มองลู่ฮ่าวด้วยความประหลาดใจราวกับได้ยินเรื่องน่าขบขัน เาหัวเราะดังลั่น “เหล่าลู่ แกมีภรรยาแ้หรือ?”
ฉินเฟิงหันศีรษะ มองไปทางประูแ้พูดว่า “พี่ฮ่าว นั่นมันยัยหมูน้อยนี่นา ้า ทำไมวันี้สวยจัง?”
ฉินเฟิงประหนึ่งทื่อทึ่มเห็นสาวงาม เาเบิกตา้า สายตาแลูเลื่อนลอย “ทำไมหน้าใญ่ ๆ เ่าจานชามหายไปแ้? ขาช้างก็บางลงา เสื้อคลุมอมแมมนั่นก็ไม่ได้ใส่ จะทันสมัยเกินไปแ้เนี่ย” ลู่ฮ่าวไล้มองตามสายตาฉินเฟิง เาเห็นหญิงสาวแต่งตัวสาดสะอ้านหนึ่ง ใบหน้าประดับประดาด้วยรอยยิ้มสดใสกำลังพูดคุยกับเจ้าร้านบะหมี่ หัวใจอันแข็งกระด้างลู่ฮ่าวพลันสั่นสะท้าน พ
ขาช้างก็บางลงา เสื้อคลุมอมแมมนั่นก็ไม่ได้ใส่ จะทันสมัยเกินไปแ้เนี่ย”
ลู่ฮ่าวไล้มองตามสายตาฉินเฟิง เาเห็นหญิงสาวแต่งตัวสาดสะอ้านหนึ่ง ใบหน้าประดับประดาด้วยรอยยิ้มสดใสกำลังพูดคุยกับเจ้าร้านบะหมี่
หัวใจอันแข็งกระด้างลู่ฮ่าวพลันสั่นสะท้าน
*[1] บะหมี่คู่ไต้ หรือแปลตรงตัวว่า บะหมี่เข็มขัด เนื่องจากเ้มีขนาดใญ่พอ ๆ กับเ้เข็มขัด เป็อาหารที่มีลักษณะเด่นเฉพาะมณฑลส่านซี
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??