เรื่อง ทะลุมิติมาเป็นนางร้ายท้ายหมู่บ้าน
อากาศัหนาวเหน็บใน่ปลายเืสิบ นั้นทำให้ผู้ามายต่างล้มป่วยจากการเป็นไข้หวัด ไม่ก็โดนพายุหิมะถล่มใส่จนล้มทับทั้ง้าตาย ึ่นี่ก็เป็นเื่ราวของฤดูหนาวัโหดร้ายในทางภาคเหนือ ึ่ผิดกับทางทิศใต้ที่มีเพียงแค่ฤดู หากแต่นั้นมันก็เื่ของทางใต้ึ่ไม่ได้เกี่ยวัใดกับเทิศตะวันออกเลย
หมู่้าซีซานนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเืง ึ่อากาศในเนี้นั้นก็เหืนกับภาคอื่นๆ ที่มีสี่ฤดู จึงทำให้ที่นี่เองก็มีฤดูหนาวเช่นกันแม้ว่าจะอยู่ติดกับทางใต้ก็ตาม
ภาพของหิมะโปรยปรายไปทั่วย้อมให้ทั้งหุบเขาายเป็นสีขาวโพลน ที่ทั้งขาวและบริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปน ลมหนาวที่โบกพัดเป็นรอบๆ ทำให้เหล่าชาว้าต่างหลบหนาวกันอยู่ใน้า พวกเขาเหล่านั้นต่างก็กำลังนั่งรอบวงกันพูดคุยพิงไฟกันอย่างมีาสุข บางครอบครัวก็เริ่มเตรียมตัวรับปีใหม่ที่ใ้จะมาถึง บ้างครอบครัวก็นั่งเบียดกันเพื่อแบ่งปันาอบอุ่นให้แก่กัน และที่นี่ท้ายหมู่้าัห่างไผู้ ที่ึ่เป็นที่อยู่ของี่น้องตระกูลหลี่
ในลาน้าที่้าใหญ่ ตรงส่วนที่ว่างด้านขวาถัดจากที่ตั้งเรือนเพาะชำของหลี่หนิงหนิง ก็ได้มี่า่ากำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ ป๊ ป๊ เสียงตอกตะปูดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณนั้น บนัคาของ้าัเล็กได้มี่าของเด็กานึงกำลังถือค้อนตอกตะปูอยู่บนัคา โดยที่ด้านล่างก็มี่าเล็กของเด็กชายยืนอยู่เช่นกัน ตรงที่ว่างด้านซ้ายขวาของเขาก็เป็นลูกาป่าตัวนั่งอยู่
หนิงกำลังยืนมองี่าที่กำลังทำงานอยู่ด้านบน ในืของเขาก็ถือแผ่นไม้แผ่นยาวอยู่ ตัวเขานั้นมีหน้าที่คอยยื่นแผ่นไม้ให้นาง ส่วนนางก็ทำหน้าที่ตอกตะปูลงบนแผ่นไม้พวกนี้เพื่อทำเป็นัคา้าของาป่าน้อยทั้ง ึ่้าันี้ก็ปรับปรุงมีจาก้าัเก่าที่ตอนแรกมีพื้นที่คับแคบ แต่ตอนัก็ได้ี่าของเขาหลี่หนิงหนิงปรับปรุงจนายเป็น้าัใหญ่ ที่มีขนาดพอๆ กับศาลาัเล็กที่เป็นที่พักริมทาง
ป๊! ิ้เสียงตอกตะปูเสร็จ ่าบางก็เงยหน้าขึ้นมองผลงานของตัวเองด้วยาภาคภูมิใ
“เฮ้อเสร็จสักที” เสียงหวานบ่นออกมาด้วยเหนื่อยแต่ับไม่สามารถปกปิดน้ำเสียงภาคภูมิใได้เลย เด็กาค่อยๆ ปืนลงมาทางบันไดที่มีน้องชายช่วยจับไว้ให้ เมื่อลงมาถึงพื้นแล้ว นางก็เดินไปหยุดยืนอยู่หน้า้าา แล้วมองมันด้วยาภาคภูมิใในฝีืของตัวเอง
ขนาดของ้าไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป ึ่ตรงทางเข้าก็สูงพอให้เด็กวัยรุ่นสามารถเดินเข้าได้ ตัว้ามีพื้นที่ประมาณ16 ตร.ม.เทียบเท่ากับ้เช่าเล็กๆ ้หนึ่ง ด้านใน้านั้นนางปูพื้นด้วยปูนขาว่จะวางพรมไว้ด้านบน ึ่้าันี้ก็มีพื้นที่พอให้ครอบครัวาป่าเข้าไปอยู่ใน่หน้าหนาวนี้
ัจากที่มองจนพอแล้ว หนิงหนิงปล่อยเจ้าลูกาตัวเดินเข้าไปใน้าของมัน ส่วนนางก็พาน้องชายับเข้า้าไปพักผ่อน ด้วยาที่ตอนนี้เป็น่หน้าหนาว พวกนางจึงค่อนข้างว่างเพราะไม่มีงานทำ สวนผักด้านัหนิงหนิงก็เปลี่ยนมาปลูกเป็นผักในฤดูหนาวตั้ง่เข้าหน้าหนาวแล้ว ึ่อีกไม่นานพวกนางก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว เลยทำให้่นี้พวกนางเลยค่อนข้างว่าง
“อาฝึกคัดอักษรเป็นอย่างไรบ้าง” หนิงหนิงถามน้องชายเื่การ้าที่นางให้เขาทำ เพราะ่าพ้นปีนี้ไปนางก็จะให้เขาไปเข้าเรียนที่สำนักศึกษาในตำบลแล้ว เลยทำให้่นี้นางค่อนข้างเข้มงวดกับการตรวจการ้าของเขา ึ่ตัวหนิงเองก็ไม่ทำให้นางผิดหวังเลย เขาหยิบสมุดคัดลายืมายื่นให้นางตรวจ
“นี่ขอรับท่านี่”
“อื้อ...ไม่เลวทั้งการลงน้ำหนักืหรือการขีดเส้นโดยรวมถือว่า่าแหละนะ” หนิงหนิงมองดูลายืที่เขียนในสมุดแล้วเอ่ยออกมาราวกับผู้เชี่ยวชาญ ึ่ท่าทีเช่นนั้นในสายตาของหนิงมันช่างขัดตาเืเกิน เพราะี่าของเขาทำตัวเหืนตาแก่ที่่าโลกมาายังไงยังงั้น
หนิงหนิงผู้ึ่่าโลกมาา นางยังคงชื่นชมลายืในสมุดด้วยาตื่นเ้ จนไม่รู้เลยว่าน้องชายกำลังด่านางว่าแก่แดดอยู่ในใ ัจากที่นางดูจนครบุหน้าแล้ว นางก็ยื่นสมุดคืนให้เขา่กำชับให้อย่าลืมท่องตำราด้วย ไม่ใช่คัดอักษรจนลืมอ่านตำรา ึ่เขาก็รับคำนางว่าง่าย่จะเอ่ยขอตัวับไปอ่านตำราใน้ต่อ
ัจากที่หนิงไปแล้ว หนิงหนิงเดิมไปที่นั่ง้รับแขก ่าบางย้ายโต๊ะมาวางไว้ที่ข้างหน้าต่าง่ จะเดินับไปหยิบตำราและอุ้มอ่างปลามาวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นนางก็นั่งอ่านตำราอยู่ข้างหน้าต่าง
“นี่เสี่ยวจิน”
“หืม?”
“หลันเป่าไปไหนรึ ทำไม่นี้ข้าถึงไม่เห็นมันเลยละ” หนิงหนิงอ่านตำราในืไปพร้อมกับเอ่ยถามเสี่ยวจินที่อยู่ในอ่างปลา
“ไม่รู้สิ มันไม่ได้บอกข้าไว้”
“อ่อ”
ัจากนั้นใน้ก็ตกอยู่ในาเงียบ หนิงหนิงยังคงนั่งอ่านตำราอยู่เช่นเดิม ในะที่เสี่ยวจินก็หลับตาแล้วบำเพ็ญตนเหืนเช่นุครั้ง!
.
.
.
วันต่อมา
“นี่มันอะไรน่ะ”
หนิงหนิงมองสัตว์ตัวน้อยที่ล้อมรอบด้วยุ่มก้อนขนตรงหน้าด้วยาสับสน นางไม่เข้าใว่ามันมาอยู่นี่ได้ไง เจ้าสัตว์ตัวน้อยที่ล้อมรอบไปด้วยขนดกสีขาวนวล หูยาวข้างที่ลู่ลงและมีดวงตามโตสีดำ
“แกะ?”
“แมะ แมะ”
“เมี๊ยว~~” หนิงหนิงมองภาพตรงหน้าด้วยาสับสน นางไม่เข้าใว่าแกะน้อยตัวนี้มาอยู่ที่หน้า้าของนางได้อย่างไร ที่สำคัญมันเข้ามาจากไหนและมันมาได้ยังไง ่าบางมองสำรวจสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแกะด้วยาสงสัย ่จะหันไปมองเจ้าตัวป่วนที่กำลังออดอ้อนพลางส่งสายตาให้นางเป็นระยะๆ
หนิงหนิง: อย่าบอกนะว่า...
หลันเป่า: เมี้ยว~~
สุดท้ายแล้วเื่นี้ก็จบลงที่นางให้เสี่ยวจินออกโรงช่วยคุยกับหลันเป่าให้ เลยทำให้นางเข้าใถึงสาเหตุที่มีแกะมาโผล่ใน้าได้ ึ่สาเหตุที่หลันเป่าพาพวกมันา็เพราะนางดันเคยไปพูดกับเสี่ยวจินอยากได้แกะมันเลยไปพามาให้
ึ่ก็แลกมาด้วยปลาแชลมอนย่างตัว คงต้องบอกว่าโชคดีที่นางมองการณ์ไ เลยซื้อพวกปลามาเก็บไว้เยอะๆ ใน่ที่ไปตลาดท่าเรือา่อนหน้านี้ ไม่อย่างนั้นปลาแชลมอนของมันคงจะไม่มี ส่วนแกะนั้นนางก็พามันไปเลี้ยงที่คอกว่างๆ ข้างเล้าไก่ ที่นางทำไว้เพื่อเลี้ยงหมู แต่เพราะยังหาลูกหมูไม่ได้นางจึงเอามาเลี้ยงแกะไป่
หนิงหนิงที่ยืนให้อาหารลูกแกะตัวเสร็จแล้ว นางก็เดินับเข้าไปใน้าเพื่อเตรียมทำอาหารต่อ ึ่นางก็ไม่ได้คิดาว่าเื่นี้ เพราะเลี้ยงเองไว้ก็ดีต่อตัวนางเองนางจึงไม่คัดค้าน ่าบางจึงเดินเข้าไปทำอาหารอย่างอารมณ์ดีพลางคิดว่าเื่นี้มันคงจบแล้ว หากแต่นางับไม่รู้เลยว่านี่พึ่งจะเริ่มต้น
.
.
สามวันต่อมา ณ ที่เก่าเวลาเดิมเพิ่มเติมเปลี่ยนจากแกะน้อยเป็นเืาสามตัว
หนิงหนิงภาพเบื้องหน้าด้วยาอึ้งและหวาดัวจนพูดไม่ออก เมื่อเช้านี้นางตื่นมาแล้วก็ต้องมาพบกับเืาตัวใหญ่ตัว และลูกเืาอีกหนึ่งตัวที่หน้า้า โดยมีตัวป่วนตัวเดิมนั่งอยู่บนัของเืา
“โฮก!”
“...” หนิงหนิง
โรงละคร
หลันเป่า: ทาสเราพาเพื่อนมาเยี่ยม*^*พ
หนิงหนิง: เพื่อนของเป่าเป่าแต่ละตัวช่างยิ่งใหญ่จริงๆ
หนิง: ท่านี่หลบไปข้าจะปกป้องท่านเอง//ยืนบังหน้า
หนิงหนิง: ........
เืา: นายท่านนนน//ำา
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??