เรื่อง พันธสัญญาสะท้านโลกา
ที่ 21.
ยามสงบ คลื่นพัดพา
ณ หอตำราแห่งสำนักหินผา ัเป็นตำหนักประจำทิศบูรพา หนึ่งใสี่ตำหนักเดี่ยวที่ล้อมรอบตำหนักแดงย่ำรุ่งึ่อยู่เป็นตำหนักใญ่ใจางแห่งสำนักหินผา
หอตำรามักจะเป็นตำหนักที่เนืองแน่นไปด้วยเหล่าิ์แทบุระดับชั้นใแทบจะุเพลา สาเหตุนั้นเ้าใจได้มิยาก ไม่ว่าผู้ใดต่างก็แวะเวียนมาค้นหาตำราวิชาเพื่อฝึกฝนวรุ์เสริมแกร่งให้กับตน หัวกระได้าหอตำราจึงมีเคยแห้งเหือดแม้แต่วันเี
ับกัน แม้จะมีผู้คนมากมายเนืองแน่นกันอยู่เป็นพันใหอตำราเล็ก ๆ เพียงสามชั้น แตุ่ผู้คนับเงียบเชียบ ใช้เพียงแต่าตาและมันสจดจำเนื้อหาใตำรายุทธทั้งาเพื่อนำมันออกไปฝึกต่อไปใาภาค้า เพราะตำราุเล่มใหอแห่งนี้มิสามารถนำออกไปถือเล่นที่เบื้องนอกได้
มันผู้ใดบังอาจฝ่าฝืน จะ้ได้รับโทษทัณฑ์ห้ามเ้าสำนักเป็นเื หรือยิ่งมีเจตนาลักขโมยหรือทำลายตำรายุทธแ้ อาจร้ายแรงขึ้นถึงขั้นถูกขับออกจากสำนักเลยทีเี และชีวิตมันผู้นั้นจะจบเห่ตลอดไป ทางเีที่จะเอาวิชาออกไปได้ มีเพียงจดจำใส่สเพียงเ่านั้น แม้แต่าจดด้วยืลงกระดาษก็จะถูกนับเป็นข้อหาลักขโมยวิชา โทษนั้นร้ายแรงไม่ต่างกัน
จึงมิแปลกแต่่าใดที่ใเวลานี้หอตำราจักเงียบเชียบจนได้ยินเพียงเีงลายใจเ้าออกที่เรียบนิ่งเหล่าิ์ที่กำลังขมักขเม้นอ่านตำราอยู่เช่นนี้
ึ ๆ ๆ
แต่ใวันนี้ับมีสุ่มเีงัขึ้นุคราที่มีผู้คนเดินผ่านบริเวณชั้นสามตรงโถงฝั่งประจิม เพราะชายผู้ครองโต๊ะยาวที่มีเก้าอี้นั่งถึงสิบที่แต่เพียงผู้เีโดยมีิ์กว่า้ผู้คนคอยลอบจับตาจากรอบข้าง ทั้งจากโต๊ะค้างเขียงหรือหลังชั้นหนังสือ ไปจนถึงผู้ที่เดินผ่านขึ้นบันไดมาจนได้ยลโฉม้ามันเป็นคราแ ต่างก็ร้องตกใจออกมาไม่ต่างกัน
“..นั่นเ้าสวะปร–”
“อัจฉริยะปราณตำหนิต่างหาก!”`
“ไม่! อิจฉริยะผู้มาาต่างหากเล่า พวกโง่เง่า!”``
เ้าฉายาทั้งสามตอบรับน้ำเีงัแสนล่นสามิ์ชั้นผ้าแดงที่อ่อนขั้นอ่อนวัยกว่าตนลงไปถึงปี ด้วยาเงย้าขึ้นด้วยนัยตาสีฟ้าดุจทะเลลึก หนังสือใืถูดจากใบ้าส่วนล่างลงมาให้เป็น้าตาัโดดเด่นย่างเต็มสัดส่วน
พรึ่บ
ก่อนที่กองหนังสือบนโต๊ะกว่ายี่สิบเล่มจะค่อย ๆ สั่นไหวไปมาเบา ๆ ราวกับทั้งโต๊ะะเื จากนั้นเ้า่าผู้ทำเีงสั่นก็ได้เผยตัวตนัมดิ๊กออกมาให้คนุผู้ได้เห็น ้ดวงตามโตเป็นนัยสีมรกตฉายแววสงสัยะหันไปยังสามิ์ตรงขั้นบันได
“จะเรียกข้าว่าอะไรก็เรียกไปเถอะ แต่่เงียบเีงด้วย มันเีสมาธิ”
เยากั๋วซ่านเอ่ยตอบิ์ผู้น้องไปเช่นนั้น พลางก็เลื่อนาตาลงมาสนใจตำราเบื้อง้าตนต่อ พลางืซ้ายที่ว่างอยู่ก็ค่อย ๆ ูัเฮ่หลินน้อยให้อุ่นใจจนมันเลิกหันเหาตาไปตรงบันได ก่อนจะล้มตัวลงนอน่าเกียจคร้านอีกครั้ง
“พวกที่เหลือก็ด้วย เลิกจด ๆ ้ ๆ ข้าได้แ้ เอาเวลาไปจดจำตำรายุทธไม่ดีกว่าหรือไง?”
นอกจากิ์ผ้าแดงทั้งสามแ้นั้น เยากั๋วซ่านยังมิวายว่าฟาดไปถึงพวกที่จด ๆ ้ ๆ อยู่รอบกาย่าไม่ไว้้า พวกมันคงคิดว่าตนเองทำได้่าแนบเนียนกระมัง? แต่ขอโทษทีเถอะ เล่นขนกันมานั่งอยู่รอบตัวเป็น้คนเช่นนี้จะไม่ให้น่าสงสัยได้่าไร?
ครืดดดดด.. ึ ๆ ๆ ๆ
“...”
สิ้นเีงคำพูดนั้น ก็เหืนดั่งผึ้งแตกรัง เหล่าิ์ที่คิดมาซุ่มอัจฉริยะผู้มาา ทั้ง้จะหาข้อมูล ้ด้วยความชื่นชม หรือ้ด้วยความอิจฉา ต่างก็รีบเบือน้าหนี บ้างก็รีบยกตำรามาปิดบังใบ้าทำทีเป็นตั้งใจท่องจำตำราอยู่ บ้างก็ลุกเดินจากไปเลยก็มี
สิ่งที่เกิดขึ้นประจักษ์แก่าตาิ์ชั้นผ้าแดงทั้งสาม่าจัง ทำให้พวกเขาได้รับรู้่าแท้จริงว่าตัวตนชายตรง้าพวกตนหาใ่ิ์ปราณตำหนิทีุ่คนเคยปรามาศอีกต่อไปแ้
“ขออภัยขอรับ..”
เมื่อได้เห็นคนมากมายได้แต่หงอหลังโดนประกาศิตขาดจากเยากั๋วซ่านเ้าไป หนึ่งใิ์ผ้าแดงจึงได้ค้อมหัวลง้่าวขออภัยด้วยน้ำเีงเจื่อน ๆ ที่ไปรบกวนเวลาท่องวิชาเขาเ้าให้ นั่นจึงทำให้สหายอีกคนจึง้รีบก้มหัวลงา่าเีมิได้
“ช่างเถิด พวกเ้าก็ไปทำธุระตนได้แ้ล่ะ”
คำขออภัยจากทั้งสามถูกเยากั๋วซ่านตอบับพลางโบกไม้โบกื่าไม่ได้ใส่ใจนัก ทั้งาตาเขาทำเพียงแค่จดจ่ออยู่กับตำราใืขวาเพียงเ่านั้น นั่นทำให้ิ์ผ้าแดงทั้งสามได้แต่พยัก้ารับเบา ๆ ก่อนจะเตรียมหันหลังเดินกุลีกุจอจากไป
สามสหายผ้าแดงเดินผ่านโต๊ะเยากั๋วซ่านไป ก่อนจะตรงไปยังจุดรวมชั้นวางตำราที่เรียงรายกันเป็นทิวแถว แม้พวกมันจักตั้งใจมาหาตำราวิชาเพื่อฝึกฝนวรุ์ แต่กับเหล่าตำราบนชั้นสามที่อนุญาติให้มีเพียงิ์ผ้าแดงที่เ้าสู่ขอบเขตาฝึกยุทธถึงระดับฝึกกายขั้นปลายแ้เ่านั้นถึงจักขึ้นมาใช้งานได้
นั่นทำให้พวกมันทั้งสามที่เพิ่งผ่านเกณฑ์ขึ้นมาหา ๆ จึงได้แต่ยืน่าสับสนมึนงงต่อ้าชั้นตำรามากมายาศาลเหล่านั้น แม้จะเพิ่งเคยขึ้นมาถึงชั้นสามหาตำราเป็นคราแ แต่เวลาไม่เคยคอยท่า พวกมันจึงค่อย ๆ เตรียมจะแยกกันไปค้นหาวิชาที่น่าสนใจแบบสุ่ม ๆ าความรู้สึกใหัวตน่าไร้ทิศทาง
“ดูท่าพวกเ้าเพิ่งจะเคยขึ้นมาเป็นคราแ ข้าแนะนำว่าให้เลือกท่า่าก่อน แ้ค่อยเป็นกระบวนท่า และไม้ตายไว้ทีหลังุ”
ทีท่าง่ก ๆ เงิ่น ๆ นั้นทำเอาเยากั๋วซ่านที่ลอบด้วยหางาิอาจรู้สึกปล่อยผ่านไปได้ แม้หนึ่งใพวกนั้นจะเอ่ยฉายาที่เป็นาดูถูกตนมาก่อน้า่า สวะปราณตำหนิ แต่เขาหาได้เก็บมาใส่ใจ ซ้ำยังพูดชี้แนะสั้น ๆ ่ากระชับเพื่อให้พวกมันทั้งสามตรัสรู้ได้ว่าตนเองควรจะเลือกตำรา่าไร
“...ขะ ขอบุขอรับ ิ์ี่!”
“ขอบุขอรับ!”
ทันทีที่ได้ยินคำชี้แนะ ก็ทำเอาพวกมันทั้งสาม.. ไม่สิ เหล่าิ์ทั้ง้ที่ยังคงแฝงกาย่าแนบเนียน(ประชด)อยู่รอบข้างต่างก็ตื่นตะลึงไปไม่ต่างกัน แต่หนึ่งใสามสหายผ้าแดงที่เป็นคนเีกันกับที่เปิดปากขอโทษเป็นคนแ ็ไ้ีเอ่ยขอบุ ทำให้อีกเีงรีบเปิดปาก้ก้มหัวาใทันที
“ไม่คิดจะสงสัยใคำแนะนำข้า่รึ?”
แทนที่จะได้ยินคำตอบับ่าขอไปทีเหืนเช่นก่อน้า แต่บัดนี้ืขวาที่ยกตำราขึ้นอ่านจนแทบจะปิดบังใบ้าได้ถูดลง้พับครึ่งลงไป นัยตาสีฟ้าดุจทะเลกว้างใญ่ได้้ตรงไปยังสามสหายจนทำเอาพวกมันรู้สึกขนลุกซู่้กับคำถามหยั่งเชิงที่ทำเอาพวกมันถึงกับงงงวยขึ้นมา
“หากข้าแนะนำสิ่งผิด ๆ ไป พวกเ้าจะเชื่อฟัง่ามิลืมหูลืมตาเลยรึ?”
เมื่อเห็นพวกมันทำ้างงเป็นไก่ตาแตก เยากั๋วซ่านก็หลุบตาลงต่ำราวกับหนักใจเล็กน้อย ก่อนจะรีบอธิบายออกมาเพื่อให้เ้าใจได้ตรงกันด้วยน้ำเีงราบเรียบ
“..ละ แ้ท่านแนะนำพวกเ้าผิด ๆ หรือไม่เล่า?”
คำพูดเยากั๋วซ่านได้ชี้แจ้งแถลงไขให้พวกมันจนความงงงวยบนใบ้าลดน้อยถอยลงไป แต่ก็ยังมิหมดสิ้นไปเีทีเี เพราะโดนทักเช่นนั้นจึงทำเอาพวกมันเริ่มหวั่นใจแ้ว่าคำก่อน้าที่่าวมามันคือความจริงหรือไม่กันแน่ จึงได้ยิงคำถามับไป
“ถามข้า แ้เ้าจะรู้ได้ไงว่าข้าจะโกหกหรือไม่โกหกอีก?”
ทีท่าเลิ่ั่น่าปิดไม่มิดนั้นทำเอาเยากั๋วซ่านเริ่มรู้สึกขบขันอยู่าใใจ ดูท่าเ้าพวกนี้คงจะหวั่นเกรงข้ามากจนไม่มั่นใจว่าจะคิดทำสิ่งใดต่อได้เองเลยสินะ? เขาจึงเย้าหยอกด้วยาดึงเชิงให้มันวกวนต่อไป
“..เ่”
และผลก็เป็นดั่งคาด พวกมันทั้งสามได้แต่น้ำท่วมปาก้ากันเอง่าสับสนว่าพวกมันควรจะตาาความจริงได้จากสิ่งใดกันแน่? แ้ที่เยากั๋วซ่านมันพูดมา มัน้าอะไรกันแน่ล่ะเนี่ย!?
“เลิกั่นแ้งิ์ชั้นน้องได้แ้! เยากั๋วซ่าน!”
ใที่พวกมันัจนหนทาง่าขีดุ แสงสว่างก็ได้ปาฏขึ้นตรง้า เมื่อ่าเ้าญิหิมะแห่งหอาค้าจงได้ปาฏตัวขึ้นมาตรงบันไดทางขึ้นชั้นสาม ้กับความงามเส้นผมสีอินทนิลัเปล่งประกาย่าโดดเด่น ้ผิวเพ้าขาวผ่องจนสะกดคนได้ใิตา
น้ำเีงนิ่ง ๆ ที่แฝงไปด้วยอารมณ์ดุดันได้ัขึ้นจากริมฝีปากเรียวจงเค่อฉิง ้กับนัยตาสีลูกไม้อ่อนได้จด้ไปยังเยากั๋วซ่านที่กำลังสนุกได้ที่กับาปั่นหัวรุ่นน้องอยู่ไม่น้อย จนพ่อหนุ่มนักแ้งจำ้หันับไปปผู้มาเยือนจากทางด้านหลัง
“มาพอดีเลย แม่นางจง ่ไขข้อข้องใจให้ิ์ผู้น้องพวกนี้่สิ”
เมื่อเห็นจงเค่อฉิงที่ปาฏตัวขึ้นมา บรรยกาศรอบตัวที่เคยอึดอัดึ่แผ่ออกมาจากเยากั๋วซ่านก็ค่อย ๆ จางหายไป ายเป็นความเป็นกันเองที่ปาฏขึ้นมาใยามที่พูดกับแม่นางจงที่กำลังยืนทำ้าบูดอยู่ด้านหลังนั่น ซ้ำยังแก้สถานาณ์ให้นางรีบจบปัญหาที่ตัวเองก่อขึ้นมาอีกต่างหาก
“เฮ้อ… ที่เยากั๋วซ่านพูดมามิได้ผิดหรอก หอตำราชั้นสามนี่ไม่เหืนกับชั้นก่อน้าที่จะเลือกสรรฝึกวิชาาใจชอบได้”
นางเลือกที่จะไม่ต่อความยาวกับเ้าตัวขี้แ้งพรรค์นี้เป็นแน่ จงเค่อฉิงจึงละาตาจากเยากั๋วซ่านเพื่อหันไปตอบเหล่าิ์น้องที่กำลังทำ้างงเป็นห่านตาระเบิดกันอยู่ ึ่นางก็ได้ยืนยันว่าที่เยากั๋วซ่านพูดไปก่อน้ามันเป็นเรื่องจริง ้อธิบายเพิ่มเสริมไปอีก
“วิชาบนหอตำราชั้นสามเป็นวิชาที่มีความซับซ้อนและทรงพลังมากกว่าที่พวกเ้าเคยเล่าเรียน ่าน้อยพวกเ้า้มีกายที่้ และเรียนรู้วิธีเสริมปราณเฉพาะส่วนให้เป็นจึงจักพอฝึกฝนวิชาบนหอตำราชั้นสามได้”
ใ่แ้ ใแต่ละชั้นหอตำราแห่งนี้ต่างก็มีตำราที่มีระดับขั้นวิชาที่แตกต่างกันไป ใชั้นแจะเป็นวิชาที่พึ่งพากำลังกายเพียว ๆ มิจำเป็น้ใช้ลมปราณใาฝึกฝนเีด้วยซ้ำ เป็นวิชาต่อสู้พื้นฐานที่คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถฝึกฝนได้หากตั้งใจมากพอ
ใชั้นที่เองขอเพียงแค่มีปราณใ่ากาย มิได้มีเส้นปราณตำหนิจนหมุนเวียนลมปราณไม่ได้ดั่งเช่นเยากั๋วซ่านใอดีต มิว่าใครก็สามารถเลือกสรรวิชามาฝึกฝนกันได้ แต่กับชั้นที่สามนี่แตกต่างกัน่าสิ้นเชิง
“หากอยากเรียนตำราวิชาบนชั้นสามแห่งนี้ให้เกิดประโยชน์สูงุ เ้า้เริ่มด้วยาฝึกฝนวิธีาหมุนเวียนลมปราณเสริมกายให้ถ้วนทั่วด้วยวิชาท่า่าต่าง ๆ ึ่มันจะ่ให้เ้าบรรลุเ้าสู่ขั้นฝึกจิตได้รวดเร็วขึ้นอีกด้วย”
แมุ้คนจะรู้กันดีว่าจงเค่อฉิงเพิ่งเ้าเล่าเรียนที่สำนักหินผาได้เพียงแค่ปี มิได้ศึกษาเล่าเรียนาหลักสูตรเหืนิ์ส่วนใญ่ แต่ด้วยชื่อเีงตระกูลจง ไปจนถึงความสามารถนางที่เก่งกาจจนถือเป็นสิบยอดยุทธประจำสำนักใเพลานี้ ุสิ่งที่นางพูดมาล้วนน่าเชื่อถือเป็น่ายิ่ง
!
“..เช่นนี้เอง”
กระทั่งเหล่าิ์ชั้นทองคำ หรือทองคำขาวที่นั่งอยู่ใแถบนั้น มีกระทั่งบางผู้บางคนถึงกับทำตาเหลือก้เอ่ยออกมาลอย ๆ ่าตลึงขึ้นมายามที่ได้ยินคำชี้แนะจงเค่อฉิง ราวกับมันมิเคยล่วงรู้ถึงวิธีาเหล่านี้มาก่อนเลย
“เมื่อฝึกท่า่าจนเพิ่มพูนความสามารถให้กายาจนแกร่ง้าขึ้นได้แ้ จึงค่อยเริ่มฝึกวิชาจำพวกกระบวนท่าที่ประยุกต์ใช้ได้หลากา เลือกที่พวกเ้าสนใจหรือชื่นชอบได้าสะดวก ส่วนไม้ตายไว้ฝึกุท้ายเพราะโอกาสใช้งานมีน้อย ซ้ำร้ายบางวิชาอาจมีข้อเีมากกว่าข้อดีอีกด้วย”
และเมื่อหนอนหนังสือคงแก่เรียน่าจงเค่อฉิงได้เปิดปากพูดขึ้นมาสักที นางก็ปล่อยมันไหลออกมาราวกับเขื่อนที่แตกพ่าย นางพูดบอกเคล็ดลับที่ตนใช้ให้กับคนกว่า้ที่อยู่ร่วมที่นี่ให้รับทราบโดยทั่วกันไปหมดโดยมิคิดหวงวิชา สมกับที่เป็นอิสตรีผู้โอบอ้อมอารีย์ที่บุรุษทั้งาใเืงต่างหมายปอง
อนึ่ง ต่อให้นางจะบอกเคล็ดลับมากมายยิ่งกว่านี้ออกไป แต่ก็ใ่ว่าคนุผู้จักทำากันได้เีหมด เพราะเรื่องเช่นนี้มิได้ขึ้นอยู่แค่เคล็ดลับหรือวิชา มันขึ้นอยู่กับความพยายามและพรสวรรค์ส่วนบุคคลด้วยเช่นกัน
เพราะนางเป็นคนที่จิตใจดี คิดถึงเรื่องา่เหลือผู้อื่นก่อนสิ่งอื่นใดเช่นนี้มาตลอด จนเป็นเหตุให้เขาและนางได้สนิทสนมดั่งเช่นุวันนี้ แต่ความใจดี้เลือกใช้ให้ถูกผู้ถูกคนเช่นกัน หากใจดีเรี่ยราดเกินไปเช่นนั้น สักวันอาจจะเกิดเหตุดั่งนิทานชาวนากับงูเห่าก็เป็นได้
“..เอาเป็นว่า ่า ๆ ก็ประมาณนี้แหละ พวกเ้าก็จดจำแ้นำไปฝึกฝนเถอะ”
เยากั๋วซ่านจึงรีบชิงพูดขึ้นมาแ้ตัดบทก่อนที่จงเค่อฉิงจะเผลอหลุดปากบอกเคล็ดลับที่นางอุส่าห์ฟูมฟักด้วยประสบาณ์ตนเอง่ายาำบากไปมากกว่านี้
“ขะ ขอบุขอรับ!”
เีงประสานั้เพรียงสามสหายผ้าแดงได้ัขึ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งเีงอึ่กอั่กก่อนจะเอ่ยปากก็ยัง้เพรียงกัน ก่อนที่พวกมัน.. ไม่เว้นแม้กระทั่งิ์อีกาสิบคนต่างก็เริ่มลุกขึ้นไปตาาตำราวิชาท่า่าาที่จงเค่อฉิงได้เริ่มแนะนำเอาไว้
“...ข้าคงพูดมากเกินไปสินะ”
พอได้เห็นทีท่าที่้เพรียงกันเช่นนั้น มันก็ทำให้จงเค่อฉิงได้รู้ตัวว่าตนนั้นคงจะพูดมากเกินจำเป็นไป่ จึงได้แต่ยืนทำ้าเจื่อน ๆ ออกมา
“ฮื่ ก็สมเป็นเ้าดี”
เมื่อเห็นนางดูหงอยลงไปเช่นนั้น เยากั๋วซ่านจึงรีบเอ่ยสนับสนุนขึ้นเพื่อไม่ให้นางรู้สึกไม่ดี แม้เขาจะคิดว่าความใจดีเรี่ยราดอาจเป็นภัยต่อนาง แต่บางครามันก็อาจเป็นประโยชน์กว่าที่คิดก็เป็นได้
“ฮึ เ้าเองก็เหืนกันนั่นแหละ มิเคยเห็นจะพูดดีกับผู้ใดมาก่อน พอโด่งัเ้าก็เริ่มหลงชื่อเีงล่ะซี้?”
ับายเป็นว่า น้ำเีงตอบห้วน ๆ ั ฮื่ เยากั๋วซ่านทำเอาจงเค่อฉิงรู้สึกเหืนถูกแดกดันเบา ๆ ใส่เ้าให้ นางจึงได้เอ่ยแดกดันับไปบ้าง ึ่ก็จริง่านางว่า ก่อน้าเยากั๋วซ่านมักทำตัวดั่งหมาป่าเีดาย ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจากับผู้ใดเลยแม้แต่น้อย
“สงสัยคงติดโรคเ้ามากระมัง?”
แ้เยากั๋วซ่านก็สวนับใแทบจะทันควันด้วยสี้ายกยิ้มกระหยิ่มขึ้นมาราวกับจะกวนกัน จนทำเอาจงเค่อฉิงถึงกับคิ้วกระตุกเล็กน้อยที่โดนหาว่าตนเป็นตัวเชื้อโรคขึ้นมา
“..เ้า–”
“แต่ข้าก็ไม่ได้เียดมันหรอกนะ”
ทว่าความจริงแ้ นั่นคือคำชม เยากั๋วซ่านเว้นช่วงไว้เพียงชั่วครู่จนจงเค่อฉิงทำท่าจะเอ่ยสวนับา้วยทีท่าแอบโกรธเล็กน้อย แต่เมื่อได้ยินคำที่เปรียบดั่งคำชื่นชม แม้จะเปรีบเหืนนางเป็นโรค แต่ก็เป็นโรคดีที่เขามิคิดรังเกียจ มันก็ทำเอาเค่อฉิงถึงกับนิ่งค้างขึ้นมา
“..เ่ ช่างมันเถอะ เ้ามานี่แสดงว่าเลิกวิชาเรียนแ้สินะ?”
ทั้งนิ่งเงียบกันไปชั่วครู่ กระทั่งเยากั๋วซ่านเหืนจะนึกได้ขึ้นมาว่าตนพูดบางสิ่งที่ไม่ควรออกไปเีแ้ จึงได้แต่ส่าย้าไปมาไล่ความอับอายที่ตนเปรียบนางดั่งเชื้อโรคเ้าให้ ก่อนจะเอ่ยถามจุดประสงค์นางที่มาตาาตนจนถึงที่นี่
“..ใ่ เ่ ไป เริ่มฝึกกันเลยไหม?”
พอเยากั๋วซ่านตั้งสติได้แ้รีบเปลี่ยนเรื่องให้ เค่อฉิงที่ตั้งสติได้ใเวลาไล่เลี่ยกันก็รีบลูกต่อ้วกับเ้าประเด็นหลักที่นางมาาเขาจนถึงที่นี่
“รอข้าเก็บตำราสักครู่ แ้ไปกัน”
เยากั๋วซ่านพยัก้ารับเบา ๆ ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืน้ืที่เริ่มกอบโกยตำราสภาพเก่าแก่ที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะเป็นสิบยี่สิบเล่มเพื่อจะนำมันไปเก็บให้เ้าที่ทาง ะที่เค่อฉิงก็รู้้าที่ตน นางเดินเ้าไปอุ้มเ้าเฮ่หลินขึ้นมาไว้ใอ้อมกอด ทำให้ปลุกเ้านกฮูกขี้เซาให้ฟื้นคืนจากนิทราอีกครั้ง
หากเป็นปกติแ้ ุคราที่เค่อฉิง้คว้าเฮ่หลินเ้าาูแลใอ้อมแขน นางมักจะเล่นกับมันอยู่เป็นประจำ ะเา เกาจงอยปาก ูั หยิกแก้มม ๆ มัน จนทำเอาเฮ่หลินเคยชินกับาดูแลเช่นนั้นไปแ้
“..กรู๋ว?”
แต่ใยามนี้ที่เค่อฉิงเอาแต่ยืนนิ่ง้ไปยังแผ่นหลังเยากั๋วซ่าน่าเงียบ มันจึงทำให้นกฮูกน้อยร้องขึ้นมาพลาง้ใบ้าที่กำลังเหม่อลอย้นัยตาที่ส่อถึงความหม่นหลงมา่าไม่ทราบสาเหตุ
“..เค่อฉิง!”
“อ๊ะ!?”
ท่ามางผืนป่าหลังสำนักที่แสนคุ้นเคย ่าจงเค่อฉิงสะดุ้งโหยงขึ้นมาใทันทีหลังจากที่ได้ยินเีงร้องเรียกชื่อตน ก่อนจะหันหลังับไปาเีงที่ัอยู่ข้างหูแ้จึงพบว่าเป็นเยากั๋วซ่าน และลู่เลียนหมิงที่ยืนอยู่ด้านหลังนั่นเอง
“เรียกข้า.. มีอะไรเหรอ?”
สี้าที่เต็มไปด้วยความตกใจเค่อฉิงสร้างความสับสนมึนงงให้กับสหายไม่น้อย ไหนจะคำถามที่ลั่นออกมาราวกับนางมิได้ใส่ใจฟังใเรื่องที่กำลังพูดกันอยู่เลยแม้แต่น้อย
“เหม่ออะไรเ้าเนี่ยฉิงฉิง? ไม่ได้ฟังที่เยากั๋วซ่านพูดเลยรึ!?”
เป็นหมิงหมิงที่เอ่ยขึ้นมาก่อน้กับก้าวเดินขึ้นไปด้าน้า แ้ใช้ืค่อย ๆ ตบแขน ไ่ ก่อนจะใช้ืขวาอังที่้าผากเค่อฉิงราวกับจะตรวจหาอาาผิดปกติ่ากาย
“..ขอโทษที พอดีข้าคิดอะไรเพลินไป่”
คำตอบที่ส่งเป็นคำถามับมาหมิงหมิงทำให้เค่อฉิงทำสี้าอึดอัดขึ้นมาอยู่ครู่หนึ่ง ไม่สิ แม้กระทั่งใยามที่กำลังเอ่ยขอโทษเยากั๋วซ่านอยู่ นางก็ยังคงแสดงสี้าหวาดหวั่นต่อบางสิ่งออกมา่าปิดไม่มิด
ปกติแ้ ใยามบ่ายแก่ ๆ ลากยาวจนถึงช่วงโพล้เพลุ้ ๆ วันใช่วงนี้จะเป็นเวลาใารวมุ่มกันฝึกฝนวรุ์สหายทั้งสาม ามีาหัวย่อมดีกว่าหัวเี ทั้งสามจึงมักจะใช้เวลาช่วงหนึ่งใาพูดคุยกันเพื่อหาหนทางใาพัฒนาวรุ์ไปจนถึงลมปราณด้วยกันอยู่เสมอ
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าแค่พูดเรื่องาฝึกข้าน่ะ”
และเมื่อครู่นี้ก็เป็นคิวเยากั๋วซ่านที่กำลังร่ายยาวถึงาฝึกฝนตนใวันนี้ให้กับทั้งสหายาได้รับฟัง่าเช่นุที แม้จะมีความสงสัยเคลือบแคลงใจอยู่บ้างกับอาาเหม่อลอย่าผิดปกติจงเค่อฉิง แต่เขาก็เลือกจะไม่พูดสิ่งใดออกมาในี้ ทำเพียงแค่พูดปัดไป่าไม่คิดมาก
“เช่นนั้น พูดใหม่อีกครั้งสิ ครานี้ข้าจะตั้งใจฟัง”
ทว่า าตอบรับแบบไม่คิดมากับทำเอาจงเค่อฉิงรู้สึกผิดขึ้นมาไม่น้อย จนนางพูดขอโอกาสแก้ตัวอีกสักครา ้กับพยายามปรับสี้าสีตาให้ับเ้ารูปเ้ามากขึ้น
“..มันก็ได้อยู่หรอก แต่นี่ก็ใ้จะมืดค่ำแ้ ไม่ใ่ว่าเ้า้รีบับหรอกรึ?”
แต่าทำเช่นนั้นมันยิ่งทำให้จงเค่อฉิงดูแปลกประหลาดมากขึ้นไปอีกใาตาสหายทั้ง ทำให้เยากั๋วซ่านไม่อาจปิดบังใบ้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยได้อยู่ จน้เอ่ยถามออกไปเช่นนั้น
“..นั่นสินะ”
เมื่อได้ยินคำถามเยากั๋วซ่าน เมื่อนั้นนางถึงได้เริ่มหันรอบกาย และรู้ตัวว่าท้องฟ้าใยามนี้ถูกแสงสีแสดฉาบไปทั่วฟ้า ้ความมืดคล้ำที่เริ่มืนกินดวงตะวันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้นางรู้ตัวว่าเวลานางใ้จะหมดลงุทีแ้
“ไว้ค่อยมาคุยกันต่อพรุ่งนี้ยังไม่า เ้ารีบับก่อนเถอะฉิงฉิง”
สี้าที่ฉายแววกังวล่าแจ่มชัดเค่อฉิงที่ฉายออกมาใยามที่กำลังหันไปยังผืนฟ้า ทำให้หมิงหมิงผู้เป็นสหายคนสนิทมากพอจนเคยได้พบเจอกับครอบครัวตระกูลจงมาแ้ จึงได้รีบเอ่ยบอกเพื่อส่งเร่งเร้าให้สหายตนับบ้านไปเี
เพราะหมิงหมิงนั้นรู้ดีว่าบิดาเค่อฉิงเป็นคนเช่นไร กับเวลาที่เหลือเพียงเืเศษ ๆ ก่อนาสอบยุทธครั้งใญ่ใ้เ้ามาเยือน ไหนจะเรื่องที่ได้ว่าจ้างยอดยุทธืดีมาฝึกสอนตัวต่อตัวถึงที่เรือนอีกต่างหาก หากเค่อฉิงละขาดาฝึกส่วนตัวนั้นแม้แต่คราเี หายนะคงได้บังเกิดขึ้นเป็นแน่
ไม่สิ แค่ไปาโลกก็แทบจะถล่มลงต่อ้าได้เลยเชียวล่ะ
คำเตือนจากหมิงหมิงนั้นย้ำเตือนให้เค่อฉิงรับรู้ ไม่สิ ความจริงแ้เป็นนางเองนี่แหละที่ควรจะรู้ดีทีุ่ว่าาขัดประกาศิตผู้เป็นบิดาจะก่อให้เกิดหายนะแก่ชีวิตตนมากเพียงใด หากเป็นปกติ นางคงจะรีบกุลีกุจอเร่งฝีเท้าด้วยก้าวย่างแห่งาลม ้ฮ่อบึ่งถึงตำหนักาใชั่วอึดใจไปแ้
“..ข้า”
แต่สิ่งที่นางกำลังทำอยู่ใยามนี้คือายืนหยุดนิ่ง้สี้าปั้นยาก ราวกับคนที่ืนไม่เ้าคายไม่ออกะกำลังจะเอื้อนเอ่ยบางสิ่งต่อ้าสหาย.. ไม่สิ คนที่อยู่ใาตานางยามนี้มีเพียงเขาเ่านั้น.. เยากั๋วซ่าน
“..ข้า จะับแ้ล่ะ”
ุท้าย ทีท่าอ้ำอึ้งที่ทำเอาทั้งเยากั๋วซ่านและหมิงหมิงต่างก็อดใจรอฟังด้วยสี้าฉงนใจ ับแปเปลี่ยนเป็นใบ้าเรียบนิ่งราวกับกิ้งก่าเปลี่ยนสี เค่อฉิงยิ้มบาง ๆ ที่มุมปากออกมา้กับค้อมหัวลงให้กับสหายทั้งเป็นาบอา
ึ.. ึ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ก่อนจะเริ่มหันหลังแ้เร่งฝีเท้าด้วยท่า่าที่นางเชี่ยวชาญ่าก้าวย่างแห่งาลม จนลมกรดโบกสะบัดไปทั่วอาณาบริเวณ ก่อนที่่าบาง้เรือนผมสีอินทนิลยาวงามงดจะหายลับไปใิตาเี ้กับตะวันที่เริ่มยอแสงลงจนความมืดมิดเริ่มกัดกินท้องฟ้าให้ายเป็นย่ำราตรี
“..อะไรแม่คนนี้กันนะ?”
ท่าทางอ้ำอึ้งเหืนจะบอกอะไรสัก่าเค่อฉิง แตุ่ท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรซ้ำยังรีบวิ่งฉิวหายไปจากเขตป่า ข้ามสู่สะพานทางเชื่อมับเ้าสู่สำนัก ทำเอาหมิงหมิงได้แต่ยืนเกาหัวแกรก ๆ ่าไม่เ้าใจใากระทำเหล่านั้นสักเ่าไหร่
“...”
ับกัน ทางฟากฝั่งเยากั๋วซ่านที่กำลังาไปยังสะพานทางเชื่อมที่จงเค่อฉิงวิ่งหายออกไป ก็กำลังปาฏาตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยฉายแววแจ่มชัดผ่านนัยตาสีฟ้าคู่นั้น ้ืที่จู่ ๆ ก็กำหมัดขึ้นมาราวกับรู้สึกไม่ค่อยดีสักเ่าไหร่กับสิ่งที่เกิดขึ้น
“กรู้ว!!”
แม้แต่เ้าเฮ่หลินที่ยังนอนหลับอุตุอยู่บนรังนกเ้าประจำที่มันสร้างขึ้นา้วยตนเอง ก็ได้ลุกขึ้นยืน้สยายปีกแหกปากร้องไปทางเีกันกับเยากั๋วซ่านราวกับทั้งนั้นหวนคิดใจตรงกันขึ้นมาอีกครา
ว่าจงเค่อฉิง.. ้มีเรื่องบางสิ่งกัดกินใจอยู่เป็นแน่
“ขออภัยที่ข้า้พูดเช่นนี้นะท่านเค่อชาง”
น้ำเีงทุ้มหยาบกร้านสมกับเป็นเีงที่ลั่นออกจากปากชายวัยางคนได้ัขึ้นท่ามางห้องโถงักว้างขวางึ่ประดับประดาไปด้วยภาพวาดชิ้นงาม ม่านฉลุลายสีแดงตัดทอง ข้าวเครื่องใช้ล้วนทำจากไม้สักทองชั้นดี ไปถึง โต๊ะจิบชาที่มีบุรุษเหยียบวัยทองกำลังนั่งสนทนาด้วยใบ้าตึงเครียด
ไม่สิ มีเพียงหนึ่งคนเ่านั้นที่กำลังทำ้าตาคร่ำเครียดอยู่ นั่นก็คือจงเค่อชาง บุรุษ่าท้วมผู้ไว้ผมยาวเ้ามวย ้เคราที่ถูกถักเปีย่าสะอาดสะอ้าน มาใชุดผ้าแพรปัายงามดุจจ้าวมังกรแห่งขุนเขาพ
อีกหนึ่งผู้เป็นต้นเีงพูด คือชาย่าเล็กเตี้ยต่ำกว่ามาตรฐานชาวจ่งหัว แต่ับมีรูป่ากำยำ ซ้ำแขนที่โผล่พ้นชายขอบเสื้อเนื้อหยาบสีนิล ปาฏร่องคมดาบปาดไปเป็นทางยาวไปถ้วนทั่วดุจนักรบ ไม่ต่างจาก้าตาที่ตอบยาวแต่ับดูขึงขังจริงจังดั่งทหาร้า ไปจนถึงผมเพ้าที่มีสีดอกเลาแซมขึ้นมาาอายุขัย แม้จะมัดรวบเอาไว้แต่ับแตกปลายกระเซอะกระเซิงแลดูซกมก
ไม่ว่าผู้ใดเห็นต่างก็้เกิดสงสัย ว่าเหตุใดจงเค่อชางผู้ถือตน กับคนยากคนจนมิเคยยอมปริปากให้ได้ยินเีง ถึงได้ยอมนั่งจิบชามาเตชั้นดีที่ขนส่งจากทวีปแดนไ กับชายโหงวเฮ้งนักรบเถื่อนที่ดู่าไรก็มิอาจมีศักดิ์ทัดเทียมกับเ้าหอาค้าจงได้เลยแม้แต่น้อย
“นอกจากจะไร้ึ่พรสวรรค์แ้ บุตรีท่านยังไร้ึ่ความหมั่นเพียรเป็น่ายิ่ง ต่อให้ข้าจะเป็นยอดยุทธชั้นฟ้า แต่ก็มิอาจกุมบังเหียนม้าจอมเกียจคร้านได้หรอก”
ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะ ชายตรง้าคือซื่อฟูชั้นยอดที่ถูกว่าจ้างมาจากเืงหลวงแห่งจักรวรรดิจ่งหัวตั้งแต่เมื่อเืก่อน เพื่อปลุกปั้นจงเค่อฉิง ลูกาคนเล็กตระกูลจงให้ายเป็นหนึ่งใยอดยุทธแห่งสำนักหินผาให้จงได้ ทว่า ใยามนี้สิ่งที่ผู้เป็นพ่อได้สะดับรับฟัง คือคำตำหนิจากผู้เป็นอาจารย์ที่มีต่อลูกาตนเีแบบนั้น
“..ข้า ขออภัยจริง ๆ ซือฟู่ไล ไ้้า จะตักเตือนนางให้รู้จักสถานะตนมากกว่านี้!”
หากเป็นครอบครัวปกติ แม้จะเป็นซือฟู่ชั้นอ๋องมาจากไหน หากตำหนิบุตรหลานให้ได้ยินต่อ้า ผู้เป็นบิดาคงจะโกรธเกรี้ยวจนแทบคลั่งไปแ้ ..ใ่ แม้จงเค่อชางจะกำลังปั้น้าทะมึนราวกับแทบจะระเบิดออกมาอยู่ แต่ไม่ได้เป็นเพราะคำซือฟู่ไล แต่ับเป็นเพราะบุตรา้ทำให้ตนเี้า!
“หากเข็นไม่ขึ้นจริง ๆ ข้าว่าก็มิเป็นไรหรอกนะท่าน.. บุตรีท่านยังมีสิ่งที่ดีเลิศเียิ่งกว่าวรุ์อีกไม่ใ่หรือ?”
ะที่จงเค่อชางกำลังเลือดขึ้น้าได้ที่กับาที่ลูกาตัวแสบบกพร่องใ้าที่ กระทั่งใยามนี้ก็ยังมิปาฏตัวออกมา ทางซือฟู่ไลก็ได้พูดปลอบประโลมให้อีกฝ่ายค่อย ๆ ใจเย็นลงมา อีกทั้งยังชี้แนะหนทางอื่นด้วยใบ้าราบเรียบราวกับพูดสัจธรรมออกมา
“..ขอรับ”
นั่นทำให้จงเค่อชางรีบสำรวมตัวตน ก่อนจะค่อย ๆ ค้อมศรีษะลงไปเพื่อน้อมรับคำชี้แนะ แม้าใใจมันจะยังคงตั้งธงที่จะให้ลูกาตนายเป็นยอดจอมยุทธให้จงได้
โดยที่มันไม่ทันได้สังเกตุเลยว่า สี้าซือฟู่ไล ค่อย ๆ แปเปลี่ยนเป็นยิ้มเหยียดแสยะออกมา ะที่กำลังภาพหัว้าหอาค้าจงที่กำลังก้มหัวเคารพต่อมันเช่นนี้
“...ฮึก”
อีกฟากฝั่งกำแพง ่าบางที่ยืนแนบชิดอยู่หลังกำแพง่าเงียบเชียบแทบจะั้นลายใจเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อนางสัมผัสความคิดผ่านคำ่าวมันได้ขึ้นมา จนทำให้ขนลุกพองไปทั่ว่า นัยตาลูกไม้สีอ่อนสั่นระริกขึ้นมา้น้ำตาที่เริ่มปริ่มขอบราวกับทนกักเก็บไว้ไม่ไหวอีกแ้
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
userA???
???? ??? ? ???? ?? ??