เรื่อง มหาศึกห้าแผ่นดิน

ติดตาม
ตอนที่ 58 เมืองแตก
ตอนที่ 58 เมืองแตก
  • ปรับสีและขนาดตัวอักษร

รองผู้บัญชาการอันดับ 1 จ้าวจง นำกำลังทหารม้า ห้าพันนายบุกเข้าตะลุยใส่ทหารของกองทัพฮาน ที่เพิ่งเคลื่อนขบวนมาถึง ยังไม่ได้ตั้งค่ายก่อกระโจมเลย

ก็ถูกโจมตีราวกับพายุสายฟ้าฟาด เจอกับ-่าฝนธนู โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ทหารกองหน้าถึงกับล้มตายราวกับใบไม้ร่วง กองทหารแตกฮือไปทางทิศตะวันตก

แต่ทว่ากลับเจอกับกองทัพทหาร ที่นำมาโดยผู้บัญชาการอันดับ 2 เว่ยชิงหลง

ล้วนถูกฝนธนูยิงเข้าใส่อีกเป็นจำนวนมาก เหล่าฝูงสัตว์อสูรไม่ว่าจะเป็นแรดนอเดียว ช้างยักษ์ เสือดาว กระทิง ล้วนแต่วิ่งกระจัดกระจายไร้ทิศทาง

แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงขลุ่ยดังก้องกังวานไปทั่ว มีสตรีผู้หนึ่งยืนอยู่บนหัวงูยักษ์ตนหนึ่ง ทำให้ฝูงสัตว์อสูรล้วนสงบ แล้วกลับหันหน้าพุ่งเข้าชนกองทัพทหารม้าของ รองผู้บัญชาการจ้าวจง ลูกดอกธนูไม่อาจทำอะไร ผิวหน้าของสัตว์อสูรเหล่านี้ได้ ทำให้พวกมันวิ่งเข้าใส่ทหารม้าที่สวมเกราะเหล็ก ร่างฉีกขาด ทหารร่วงไปกับพื้น รองผู้บัญชาการจ้าวจง หันหัวม้ากลับหลัง ควบม้าหนีกลับเข้าประตูเมืองทันที

แต่ทว่ายังช้ากว่า เจ้างูจงอางยักษ์ พุ่งเข้างาบทั้งม้าและคนกลืนลงคอไปเสียแล้ว

รองผู้บัญชาการทหารจ้าวจงตายในสนามรบ เป็นคนแรก ส่วน รองผู้บัญชาการเว่ยชิงหลงนั้น เห็นท่าไม่ดีสั่งกองทหารถอยหลังกลับ แต่ก่อนที่จะเข้าประตูเมืองกลับมีนกอินทรียักษ์ พุ่งเข้ามาตะปบศรีษะของเขาหลุดออกจากบ่า เหลือแต่ตัวกับม้าวิ่งผ่านประตูเมืองไป เจ้าอินทรียักษ์นำหัวของ รองผู้บัญชาการเว่ยชิงหลง มาโยนที่เท้าของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ถือพัดเหล็ก ที่แท้มันคือ ปรมาจารย์พัดเหล็กจูชงนั่นเอง สตรีที่เป่าขลุ่ยยืนอยู่บนงูยักษ์ ก็คือ ปรมาจารย์ขลุ่ยหยูซวง ทั้งสองมายืนเคียงข้างกัน  แล้วปล่อยให้สัตว์อสูรของตน ต่างไล่เข่นฆ่ากองทหารม้า หนึ่งหมื่นคนตายจนเกลี้ยงไม่มีเหลือแม้แต่คนเดียว

เหล่าผู้นำทหาร ที่เห็นเหตุการณ์แบบนี้ ต่างก็แตกตื่นตกใจ กันยิ่งนัก ที่ปรึกษาแม่ทัพเยว่ไคว รีบตะโกนสั่งปิดประตูใหญ่ทันที ก่อนที่ฝูงสัตว์อสูรเหล่านั้นจะเข้ามา

“ แย่..แล้ว ทำยังไงดี สัตว์อสูรของพวกมันร้ายกาจเหลือเกิน” องค์ชายหลี่คังเอ่ยปากคอสั่น

“ ใจเย็นๆ ก่อน แม้นพวกเราจะไม่อาจบุกเข้าไปโจมตีพวกมันได้อีก แต่ทว่าพวกมันไม่อาจทำลายกำแพงยักษ์ใหญ่ของเราได้อย่างแน่นอน รอให้พวกมันเสบียงหมด พวกมันจะถอยทัพกลับไปเอง”  กุนซือฉีกุ้ย เอ่ยอย่างมั่นใจ แต่ทว่า ทัพเยว่ไคว กลับถอนหายใจอย่างแรง

“ พวกมันเตรียมทัพมาขนาดนี้ ต้องมั่นใจอย่างแน่นอนว่าจะถล่มกำแพงยักษ์ใหญ่ของเราได้ เราต้องเฝ้าระมัดระวังขั้นสูงสุด รีบส่งข่าวไปแจ้งต่อจักรพรรดิ เพื่อเร่ง แม่ทัพใหญ่จ้าวสง ให้รีบมาเมืองเปี้ยนเฉินเร็วที่สุด ก่อนที่พวกเราจะต้านไม่ได้”

แม่ทัพชราเยว่ไควสั่งการออกไป โดยไม่ถามความเห็นของ องค์ชายรองหลี่คังเลยแม้แต่น้อย แต่ทุก ๆ คนก็รีบทำตามคำสั่ง เพราะองค์ชายรองหลี่คัง ตอนนี้ก็ตัวสั่นไปทั้งตัวแล้ว ราเชนได้แต่ส่ายหัว เขาเห็นกองทัพฮานมาแล้ว และยังมียอดฝีมือ กับสัตว์อสูรร้ายกาจมากมาย นี่ยังไม่รวม เจ้าสำนักพันดารา ฮั่วเหยียนอีก ที่สำคัญเขาเห็นเครื่องดีดหินของพวกมัน มีขนาดใหญ่มาก พวกมันคงเตรียมตัวมาอย่างดี บางทีอาจดีดหินข้ามกำแพงใหญ่เข้ามาได้ หรือไม่ก็อาจจะทำให้กำแพงใหญ่พังลงได้อย่างแน่นอน  งานนี้เมืองเปี้ยนเฉินแย่ แน่ๆ ตัวเขาเองแม้จะแปลงร่างกลายเป็นมารโลหิตที่ร้ายกาจ แต่ว่า หากเจอพวกมันพร้อมๆ กัน ก็ไม่รู้ว่าจะสู้ได้หรือเปล่า ซึ่งราเชนก็ไม่คิดว่า เขาต้องลงทุนเปิดเผยตัวตนหรือเสียสละตนเพื่อคนเหล่านี้ทำไม

เงินทองตอนนี้เขาก็พออยู่ได้แล้ว หากองค์ชายรองหาเงินมาใช้เขาไม่ได้ เขาก็แค่เดินทางออกจากอาณาจักรปัจจิมนี้ไปก็สิ้นเรื่อง

ราเชนเห็นฝ่ายทัพฮานตอนนี้ต่างเข้ามาเก็บอาวุธของซากศพทหารของอาณาจักรปัจจิมไปจนหมด ท่านกลางเสียงโห่ร้องยินดีในการศึกครั้งแรก

ราเชนมองกองทัพของพวกฮานแล้ว คล้ายกับรู้สึกว่า พวกมันกำลังจะจัดทัพเพื่อโจมตีอีกไม่นาน ตอนนี้มันเริ่มติดตั้งเครื่องยิงหินไฟกันแล้ว ราเชนมองไปบนท้องฟ้า แล้ว เริ่มอ่านคำพยากรณ์ชะตาดวงเมืองเปี้ยนเฉินทันที

“ แย่แล้ว อะไรวะเนี่ย เมืองทั้งเมืองจะมีแต่เปลวเพลิง ซากศพกองเป็นภูเขา

เลือดไหลนองดั่งธารา เอาไงดีวะเนี่ย”

ราเชนแตกตื่นตกใจยิ่งนัก หลังจากมองดวงดาวบนทองฟ้า แล้วมาผูกดวงกับชะตาเมืองเปี้ยนเฉิน ผลออกมาเป็นแบบนี้ ราเชนจะบอกกับใครได้ หนีไปคนเดียวดีกว่าไหม

ราเชนกำลังคิดหนี แต่ก็ถูก องค์ชายรองหลี่คัง ดึงตัวเข้าไปประชุมผู้นำทหารอีกครั้ง

“ องค์ชายรองข้าว่า พวกเรา..” ราเชนกำลังจะชวนองค์ชายรองหนี แต่ไม่ทันได้พูด ก็ถูกเสียงของแม่ทัพชราเยว่ไคว เอ่ยขึ้นมาว่า

“ เมืองหลวงแจ้งข่าวมาแล้ว ขอเพียงเราต้านทานทัพฮานได้อีกสองวัน แม่ทัพใหญ่จ้าวสง จะมาถึงเมืองหน้าด่านแรกอย่างแน่นอน”

ทุกคนพออ่านสาส์นลับที่ส่งมาก็ยิ้มอย่างยินดี แต่ทว่าราเชนกลับไม่ยินดีด้วย เพราะในผลการทำนายดวงดาวที่เขาตรวจสอบ คืนนี้เมืองเปี้ยนเฉินจะกลายเป็นทะเลเพลิง พร้อมกับซากศพนับแสนๆ คน

“ องค์ชายรอง ข้าคิดว่า เมืองเปี้ยนเฉินนี้ ไม่อาจต้านทานกำลังของทัพฮานได้ถึงพรุ่งนี้”

ราเชนเอ่ยกับ องค์ชายรองหลี่คังเบาๆ แต่ทว่า ฉีอี้ กับ กุนซือฉีกุ้ยได้ยินชัดเจน

“ รองผู้บัญชาการหยาง หวาดกลัวเกินไปแล้ว กำแพงยักษ์ใหญ่ของเรามั่นคงยิ่งนัก พวกศัตรูไม่มีทางทำลายล้างได้ภายในคืนเดียว อย่างแน่นอน”

กุนซือฉีกุ้ยเอ่ยด้วยรอยยิ้มมั่นใจ

คำพูดเช่นนี้ ทำให้คนอื่นๆ ถึงกับมองราเชนด้วยสายตาที่ดูถูกดูแคลน

“ ท่านเป็นทายาทขุนศึกตระกูลหยางจริงหรือเปล่าเนี่ย ทำไมถึงได้ขลาดเขลาเช่นนี้ ข้าจ้าวชี ขอประกาศ ณ ตอนนี้ ข้าจะไม่ยอมหนีออกจากเมืองเปี้ยนเฉิน อย่างแน่นอน”

จ้าวปา และ จ้าวจิ่ว สามพี่น้องก็ประกาศยืนยัน ความกล้าหาญของตนออกมาเช่นกัน

“ ข้าแม้นจะรับใช้ท่าน แต่ทว่า บ้านเมืองสำคัญที่สุด ข้าจะไม่มีวันทอดทิ้งประชาชน ชาวบ้านตาดำๆ เพื่อหนีเอาตัวรอดอย่างแน่นอน ข้าพร้อมจะยอมตายที่เมืองเปี้ยนเฉินแห่งนี้” ฉีอี้ก้าวขึ้นมาเอ่ยเจตนารมณ์ของตนในที่ประชุม เหล่าหัวหน้าทหารต่างชื่นชมยกย่องฉีอี้ แต่กลับส่งสายตาดูถูกราเชน แต่ทว่า องค์ชายรองหลี่คังนั้นเชื่อมั่นในตัวราเชนเต็มที่ และ เขาเองก็หวาดกลัวทัพฮานด้วยเช่นกัน

“ ข้าอยากฟังคำอธิบายของ รองผู้บัญชาการหยางก่อน ทำไมต้องหนีด้วย พวกมันยังไม่บุกโจมตีพวกเราเลย พวกเรารออีกแค่สองวัน แม่ทัพใหญ่จ้าวสงก็กำลังจะมาแล้ว คงจะช่วยต้านทัพฮานได้อย่างแน่นอน”

ราเชนกำลังคิดหาคำอธิบายออกมา แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มเอ่ยอย่างไร หากขืนบอกว่า ตนเองดูดวงเมืองบนฟากฟ้า แล้วมาคำนวน ยิ่งจะถูกหัวเราะเยาะไปกันใหญ่

“ ในเมื่อ รองผู้บัญชาการหยางไม่พูดออกมา ทุกๆ คนก็จะคิดว่า ท่านขี้ขลาดตาขาว กลัวข้าศึกศัตรูจนหัวหด ข้าขอแนะนำ ท่านก็ลาออกจาก ตำแหน่งรองผู้บัญชาการอันดับที่ 4 ไปซะ”

รองผู้บัญชาการฉีหลิงเอ่ยอย่างไม่ไว้หน้าราเชนแม้แต่น้อย

ทุกๆ คน ต่างก็เห็นด้วย

ไม่ทันที่ราเชนจะอ้าปากอธิบายเรื่องทั้งหมด ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นด้านนอก มีหินลูกไฟ มากมาย ลอยข้ามกำแพงเข้ามาในเมืองเปี้ยนเฉิงนับร้อยๆ ลูก  เสียงผู้คนต่างร้องออกมาอย่างเจ็บปวดและโหยหวน

ทุกๆ คนไม่สนเรื่องราเชนรีบออกมาดูบนกำแพง พบว่า เครื่องดีดหินของทัพฮาน กลับสามารถยิงข้ามกำแพงยักษ์ใหญ่ เข้ามาในเมืองได้

“ เป็นไป..ได้ ยังไง เครื่องดีดหิน ของพวกมันทำไมยิงได้ไกลและสูงชนาดนี้” แม่ทัพชราเยว่ไคว เอ่ยอย่างแตกตื่น

ราเชนเห็นหินก้อนกลมขนาดใหญ่ ที่ลอยมาตกถึงพื้น มันเป็นหินชุบน้ำมัน ทำให้เกิดเป็นลูกไฟ ราวกับอุกาบาต บางลูกคล้ายกับบรรจุน้ำมันแล้วทำการห่อด้วยหนังยางทำให้พอตกพื้นทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ไปทั่ว แต่ทุกๆ คนก็ต่างช่วยกันดับไฟเอาไว้ได้

ข้าว่าแล้ว นี่มันเป็นดั่งที่ทำนายเอาไว้เลย ปราชญ์ปีศาจก็บอกแล้วว่าจุดอ่อนเมืองเปี้ยนเฉินแห่งนี้ คือความประมาท เพราะว่ามั่นใจว่ากำแพงเมืองที่ใหญ่โตแข็งแกร่งไม่เคยถูกทำลาย หากว่าวันหนึ่ง  หากศัตรูคิดค้นอาวุธหนักที่อานุภาพทำลายล้าง ก็สามารถทำให้เมืองเปี้ยนเฉินแตกได้อย่างง่ายดาย แล้วข้าจะบอกพวกเขาอย่างไรดีเนี่ย?

รองแม่ทัพฉีหลิงขึ้นไปบนกำแพง แล้วออกคำสั่งให้ใช้เครื่องดีดหินบนกำแพงออกไปบ้างแต่ว่า ไม่อาจดีดหินไปถึงฝ่ายทัพฮาน แต่ว่ากองทัพฮานกลับดีดหินไฟพุ่งเข้ามาแต่ก็มีเพียงเล็กน้อย ที่ลอยข้ามกำแพงมาได้ สถานะการณ์ยังถือว่าปลอดภัย เพราะหินที่พุ่งเข้าชนกำแพงนั้น ไม่อาจทำให้กำแพงเมืองยักษ์ใหญ่ระคายผิวไม่

 “ องค์ชายรอง เชื่อข้าเถอะ พวกเราไปตั้งหลักที่เมืองเอ้อเฉิน ที่นั่นท่านจะสามารถเอาชนะศึกในครั้งนี้ได้” ราเชนหันไปเอ่ยกับองค์ชายรองอย่างจริงจัง

“ สถานการณ์ตอนนี้ หากพวกเราหนีไป ฝ่าบาททราบเรื่องต้องลงโทษองค์ชายแน่ๆ ได้โปรดไตร่ตรองด้วย”      กุนซือฉีกุ้ยรีบเอ่ยคัดค้าน

“ ข้าจะสู้กับพวกมันที่นี่ไม่หนีไปไหน" ฉีอี้ยืนตรงกล่าวอย่างมั่นคงต่อหน้าทุก ๆ คนในที่ประชุม ทำให้เหล่าทหารต่างพยักหน้าชื่นชม มองไปที่องค์ชายรองว่าจะตัดสินใจอย่างไร

จิตใจขององค์ชายรองหลี่คังนั้นเริ่มหวั่นไหว ไขว่เขว สีหน้าขาวซีด ยังไม่เอ่ยอะไรออกมา

แม่ทัพเยว่ไคว มองหน้าองค์ชายรองหลี่คัง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า

“ องค์ชายรอง  ฝ่าบาทแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการใหญ่ในศึกครั้งนี้ หากว่าท่านจะทิ้งเมืองไป  ฝ่าบาทต้องทรงไม่พอพระทัยแน่ อาจจะมีผลกระทบต่ออนาคตของท่านด้วย"

องค์ชายรองสูดลมหายใจลึกๆ แล้วยืนขึ้น ตัดสินใจกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจว่า

“ ไม่ต้องห่วง  ข้าจะอยู่ที่นี่ไม่หนีไปไหน จะร่วมต่อสู้เป็นตายกับพี่น้องทหารทุกๆ คน   มาดูกันว่าพวกมันจะเก่งกล้าสักแค่ไหน"

เหล่าทหารในที่ประชุม ต่างส่งเสียงโห่ร้องยินดี ที่มีผู้บัญชาการใหญ่ที่กล้าหาญเช่นนี้  ส่วนราเชนได้แต่ส่ายหัว เขาตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรองผู้บัญชาการทันที

“ ถ้าเช่นนั้น ข้าคงต้อง...”

ราเชนเอ่ยเพียงเท่านี้ ก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

ตูม ตูม !!!

ทุกคนหันไปมอง มีก้อนโลหะขนาดใหญ่ พุ่งเข้ามาชนกำแพงยักษ์ จนแตกหักเป็นทางยาว กำแพงขนาดใหญ่ถูกทำลายลงแล้ว ด้วยลูกบอลโลหะ

องค์ชายหลี่คัง อ้าปากค้าง แล้วรีบร้องออกมาด้วยน้ำเสียงตกใจสุดขีด

“ แตก  แตกแล้ว……..แม่ทัพเยว่ไคว ทำ...ทำอย่างไรดี”

“ แย่แล้ว พวกมันมีใช้อาวุธร้ายกาจเช่นนี้ตั้งแต่เมื่องไรกันนี่ ต้องรีบอพยพไปที่เมืองเอ้อเฉินก่อน ที่นั่นพวกมันไม่อาจนำพาเครื่องดีดหินไปได้ หนทางมีแต่ป่าเขา หากกองทัพของมันไปถึง จะต้องเจอกับค่ายกลพนาสนธิ์โลกันต์ ไม่มีทางผ่านไปได้อย่างแน่นอน แต่ทว่า เราต้องมีผู้ที่คอยต้านพวกมันเอาไว้ ไม่เช่นนั้นหากเมืองแตก ทุกๆ คนไปไม่ถึงเมืองเอ้อเฉินแน่ๆ”

คราวนี้ทุกๆ คนรู้ว่ากำแพงเมืองนั้นต้านทานไม่ได้แล้ว ยิ่งฟังที่แม่ทัพที่ปรึกษาพูดเช่นนี้ก็เลยเปลี่ยนความคิด เตรียมตัวอพยพกันหมด

“ ข้าจะรีบไปเตรียมเสบียง เดี๋ยวนี้” จ้าวชีรีบประสานมือคารวะ แล้วลงไปกำแพงเมืองเพื่อไปเมืองเอ้อเฉินก่อนใคร

“ ข้าจะรีบไปเตรียมขนอาวุธ” จ้าวปาก็เช่นกัน

“ ข้าจะไปบอกกองพลสำรองทั้งหมดเพื่อเดินทางทันที” จ้าวจิ่ว ก็เช่นเดียวกัน

“ ข้าเป็นทหารมีหน้าที่รับคำสั่ง ท่านรองผู้บัญชาการหยางไปข้าก็จะติดตามท่านไปด้วย” ฉีอี้พูดจาแข็งขัน หน้านิ่ง ลืมสิ่งที่พูดไปเมื่อก่อนทันที

“ ใครจะอาสารับหน้าที่ ตรึงกำลังทัพฮาน ขอเพียงสามชั่วยามเท่านั้น พวกเราก็จะสามารถหลบหนีจากเมืองเปี้ยนเฉินได้ทัน ข้าจะเสนอตำแหน่งให้สิบเท่า ลูกหลานได้อวยยศตำแหน่งแทนสืบไป” ที่ปรีกษาเยว่ไควเอ่ยน้ำเสียงชัดเจน พร้อมกวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง  ทุกๆ คนกับเงียบกริบ  รองแม่ทัพลู่ตงผู้เฝ้าประตูทิศใต้ คนเดียวที่ก้าวออกมายืนด้านหน้า และคุกเข่าต่อหน้าองค์ชายรองหลี่คัง

“ ข้ารองแม่ทัพลู่ตง ขออาสาต้านทัพฮานจนวาระสุดท้ายจะไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว” ราเชนได้ฟังก็ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว เพราะคนที่ยืนข้างหลังรองแม่ทัพลู่ตงนั่นคือเพื่อนคนเดียวของเขา ต้าเฉิง ที่คุกเข่าอยู่ด้านหลังบิดา พร้อมสู้ศึก แม้นจะรู้ว่า การตรึงกำลังทัพฮานมหาศาลเช่นนี้ มีหนทางตายสถานเดียวเท่านั้น.......

ตอนต่อไป
ตอนที่ 59 เทพหมูป่า

นิยายแนะนำ

นิยายแนะนำ

ความคิดเห็น

COMMENT

ปักหมุด

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited( Kawebook.com )

Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )
ที่อยู่ : 20 หมู่ที่ 6 ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000
เวลาทำการ : 08 : 00 - 18 : 00 จันทร์ - เสาร์
e-mail : contact@kawebook.com

DMCA.com Protection Status

เริ่มต้นเผยแพร่ผลงาน

เริ่มต้นเป็นนักเขียนออนไลน์ เขียนเรื่องราวที่ประทับใจ สร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ และแบ่งปันประสบการ์ดีๆ กับผู้คนทั่วโลก kawebook.com เป็นโอกาส เป็นสื่อกลาง และยังเป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการสร้างรายได้ให้กับนักเขียนมืออาชีพ และนักเขียนมือสมัครเล่นจากทุกมุมโลก เพียงสมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์เพื่อเขียนหนังสือ การ์ตูน หรืออัพโหลดอนิเมชั่น ที่เป็นผลงานของท่าน และเผยแพร่ผลงานสู่สาธารณชน

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

© สงวนลิขสิทธิ์ 2017 Glory Forever Public Company Limited ( Kawebook.com )

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา