เรื่อง หนีคู่แห่งโชคชะตากับคุณแม่โอเมก้า
บที่ 5
จุดเริ่มต้น
เกล้าตัดสินใจโทรปรึกษาชินเรื่องี่จะขอพาลูกชายไปทำงานด้วย แต่สุดท้ายก็ได้รับการปฏิเสธกลับมา ตัวเกล้าเองแอบเผื่อใจไว้บ้างแล้ว..แม้ลึก ๆ ในใจหวังว่าคำขอนั้นจะได้รับการตอบตกลง ด้วยเหตุนี้เขาจึงขอลาออกไม่ไปทำงานต่อ เพราะหลังจากนี้เกล้าไม่สามารถทิ้งลูกชายให้อยู่คนเดียวได้อีกตอนนี้เกล้ามีเงินเก็บคงเหลือ 5000 บาทถ้วน หากเริ่มหางานในเร็ววันเขาก็จะไม่ตกี่นั่งลำบากเหมือนเคย ยังไงก็ยังมีเงินก้อนนี้สำรองไว้อยู่ คิดได้ดังนั้นคุณแม่โอก้าก็เริ่มปฏิบัติการหางานใหม่อีกครั้ง
วันนี้เกล้าพาลูกชายออกมาท่องโลกแห่งความเป็นจริง ด้วยเมื่อคืนเขาเห็นแวบ ๆ ผ่านเพจการรับสมัครงาน หาคนล้างจานี่ผับ คุณสมบัติรับเพศรองทุกเพศ ขอแค่สู้งานและไม่มีประวัติอาชญากรรมก็พอ เขาจึงลองโทรไปสอบถามรายละเอียดจากทางร้าน ทางนั้นจึงตอบเพียงว่าให้มาสมัครด้วยตนเอง แม้ความหวังี่จะได้งานแลดูริบหรี่ แต่เขาก็ไม่คิดจะยอมแพ้
เกล้าให้ลูกชายนั่งตักเมื่อจับจองี่นั่งบนรถเมล์ได้แล้ว เด็กชายชุติเทพขยับตัวยุกยิกไปมาอยู่ตลอดเวลา เด็กน้อยนั่งหันซ้ายแลขวามองทุกอย่างด้วยความสนอกสนใจไปเสียหมด บ่อยครั้งก็มักจะยื่นหน้าออกนอกหน้าต่างเพื่อให้ลมเย็น ๆ พัดปะทะเข้าผิว จนเกล้าต้องเอ่ยดุ เพราะกลัวลูกได้รับอันตราย
ถึงี่หมายคุณแม่โอเมก้าก็อุ้มลูกเดินลงจากรถเมล์ แล้วเดินเท้าต่อเข้าไปในซอยอีกประมาณ 2 กิโลเมตร สองแม่ลูกเดินคุยเล่น หยอกล้อกันไปมา ระหว่างทางนับว่าไม่น่ากลัวนัก กลับกันสองข้างทางในซอยแคบกลับมีร้านค้าต่าง ๆ เปิดขาย คนเดินในซอยเรียกได้ว่าคึกคักกันเลยทีเดียว
เมื่อไปถึง สิ่งแรกี่เกล้าเจอคืออัลฟ่าหน้าดุคนหนึ่งี่กำลังนั่งดูดนิโคตินเข้าปอด มือผอมบางดันลูกชายให้มาอยู่ทางด้านหลังด้วยเกรงว่าน้องพีจะตื่นกลัว แววตาดุดันหันมองสองแม่ลูกี่กำลังเดินใกล้เข้ามาอย่างหวาดหวั่น เกล้าทำเป็นใจดีสู้เสือเดินเข้าไปถาม ทั้งี่จริงตนเองก็กลัวจนขาสั่นอยู่เหมือนกัน
“มะ มาสมัครงานเป็นเด็กล้างจานครับ”
“มีลูกแล้วหนิ ทำไมไม่ให้ผัวเลี้ยงละ” น้ำเสียงห้วนพร้อมกับเลิกคิ้วยียวนถาม เกล้าไม่มั่นใจว่าคน ๆ นี้เขาต้องการอะไรกันแน่ เหตุใดถึงถามเรื่องของคนอื่นได้หยาบคายเช่นนี้
“เอ่อ…”
ในระหว่างี่เกล้าอึกอักในคำตอบอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงแหลมแวดแผดขึ้นมาเสียก่อน
“ไอ้เสกมึงมายืนทำ-่าอะไรอยู่ตรงนี้ กูให้คนตามหาตั้งนาน สรุปมึงเป็นบอดี้การ์ดกูจริงไหมไอ้เวรนิ ทำไมกูต้องเดินมาตามมึงเองทุกรอบว่ะ โทรไปก็ไม่รับ มีโทรศัพท์พกไว้ทำ-่าอะไร เขวี้ยงทิ้งซะดีไหมไอ้สันขวาน” ถ้อยคำหยาบคายพรั่งพรูออกมาเสียยาวเยียด แถมความเร็วในการด่าเรียกได้ว่าเป็นแร็พเปอร์เลยก็ได้ ทำเอาคุณแม่โอเมก้าต้องหันหลังปิดหูลูกชาย ไม่ให้ได้ยินคำด่าทอพวกนัน
“อ่าว..ล่ะไอ้เตี้ยนี่เป็นใครเนี้ย”
การแร็พจบลงอย่างงดงาม อัลฟ่าร่างสูงโปร่งหน้าตาหล่อเหลา ย้อมผมสีเทาออมเบร อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตลายเสือดาว แหวกอกกว้างเผยให้เห็นผิวขาวเนียน ต้นคอสวยมีโชคเกอร์ลายลูกไม้สีดำประดับเพิ่มความเซ็กซี่ กางเกงสเลคสีเข้ม พร้อมรองเท้าหนังราคาแพงถูกขัดเงาจนเอี่ยม หันมาตั้งคำถามกับคนแปลกหน้า
“สวัสดีครับ ผมมาสมัครงานล้างจานครับ”
“อ้อ…. เอ๊ะ…มีเด็กมาด้วยนิ” 'เจฟ' เอี้ยวตัวมองเด็กน้อยี่อยู่ด้านหลังคนเตี้ย
“เอ่อ…” เกล้ากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ดวงตากลมโตหลุกหลิกไปมาจะโกหกก็โกหกไม่ได้ ทำได้แค่เพียงสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อตอบคำถามไปตรง ๆ เอาว่ะถ้าเขาจะรับมีลูกเขาก็รับ
“ลู-”
“สวัสดีฮะ พี่คนสวย”เป็นน้องพีี่รีบตัดบทผู้เป็นแม่ โผล่ใบหน้าน่ารักออกไปเจอกับเจ้าของผมสีเทา สองมือเล็กป้อมพนมขึ้นไหว้ผู้ใหญ่อย่างเอื้อเอ็นดู รอยยิ้มกว้างี่ใครเห็นเป็นต้องตกหลุมรักทุกราย ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยมารดา ปิ้ว ปิ้ว ราวกับมีลูกศรแห่งความน่ารักของเด็กตรงหน้าพุ่งเข้ามาปักกลางอกเจฟ เหมือนความน่ารักมันบังตา อยากเข้าไปจับฟัดแก้มย้วย ๆ นั้นสักที สองที ร่างกายไปไวกว่าความคิด เพียงชั่วพริบตาเดียว เด็กน้อยผู้น่ารักก็ตกไปอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าของผมสีเทาออมเบรไปเป็นี่เรียบร้อย
“คุณเดี๋ยวก่อน จะพาลูกผมไปไหน” เกล้าตะโกนถามด้วยความงุนงง อะไรกันมาเอาลูกเขาไปอุ้มตอนไหน แถมไม่บอกไม่กล่าวกันสักคำ
“จะสมัครงานไม่ใช่รึไง รีบตามมาสิ มึงด้วยไอ้เสก” ร่างสูงโปร่งตวัดสายตามองบอดี้การ์ดของตนก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน ซึ่งประตูฝั่งนี้เป็นประตูหลังร้าน เสกค้อมหัวให้เจ้านายก่อนี่เขาจะเดินตามเข้าไปติด ๆ
เกล้าเอียงคอมองลูกชายกับเจ้าของเสื้อลายเสือดาวี่เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยราวกับพ่อลูกี่พลัดพรากกันมาก่อน มีจังหวะี่เด็กน้อยหันมองสบกับมารดาแล้วขยิบตาให้ โอ้ว ร้ายกาจนักนะ เกล้ารู้สึกอึ้งกิมกี่กับพฤติกรรมของลูกชายเมื่อครู่นี้ เจ้าเล่ห์แบบนี้ได้ใครมาเนี้ย แม่ไม่เคยสอนนะลูก
เดินเข้าไปในร้านถึงได้รู้ว่าผับนี้เป็นตึกค่อนข้างใหญ่มีทั้งหมด 4 ชั้นซึ่งรวมกับชั้นจอดรถด้วย และภายในร้านก็แบ่งโซนออกอย่างชัดเจน ทั้งโซนบาร์นั่งชิว โซนเต้น โซนครัวและห้องรับแขกVip ร่างสูงโปร่งของเจ้าของผับพาสองแม่ลูกเข้ามานั่งคุยในห้องทำงานส่วนตัวของตนซึ่งอยู่ชั้นสองของตึก
“นี่ ๆ เหม่ออะไร จะทำไหมงานนะ” เจฟเคาะโต๊ะเรียกสติคนตรงหน้าี่ดูเหม่อลอย
“คะ ครับ ทำครับ”
“ฉันชื่อเจฟนะ เรียกเจ๊ก็ได้ คนี่นี่เขาเรียกฉันแบบนี้ แล้วแกล่ะชื่ออะไร”
“ผมชื่อเกล้าครับ ลูกชายชื่อพี คือผมอยากถามคุณเจฟ เอ๊ย เจ๊ ว่า ผมขอเอาลูกมาด้วยได้ไหมครับ คือ ผมเคยให้น้องพีอยู่ห้องคนเดียวแล้วน้องเกิดอุบัติเหตุ ผมเลยไม่อยากปล่อยลูกไว้คนเดียวอีกนะครับ รับประกันว่าผมไม่ให้น้องพีซนแน่นอน”
จู่ๆ น้องพีก็โพล่งขึ้นมาว่า “น้องพีจะไม่ดื้อฮะพี่สาว น้องพีสัญญา” นิ้วก้อยป้อม ๆ ยกขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานเหมือนเคย
“ว้ายตายแล้ว เด็กดี คนเก่งทำไมน่ารักอย่างนี้ลูก….. ไอ้เสก ไปหาขนมนมเนยมาเดี๋ยวนี้เลย ไปเร็ว ๆ อย่ากลับมาช้านะมึง”
“เจ๊จะเอาอะไร ร้านเราเป็นผับมีแต่เหล้า แต่เบียร์นะ”
“มึงนี้มันจริง ๆ เลย ประตูหลังร้านก็เปิดออกไปสิว่ะ ใช้ขายาว ๆ ของมึงให้เป็นประโยชน์หน่อย” เจฟตบเข่าฉาดใหญ่ รู้สึกเหมือนจะเป็นเส้นเลือดในสองแตกทุกครั้งี่คุยกับบอดี้การ์ดของตัวเอง ถึงแม้จะรู้ว่ามันพูดกวนบาทาไปแบบนั้นก็เถอะ ยังไงก็อดี่จะหงุดหงิดไม่ได้อยู่ดี
เจฟยื่นข้อเสนอในการทำงานให้เกล้าคือ ได้ค่าแรงวันละ 400 จากปกติ 500 บาท เพราะให้ทำงานตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงเี่ยงคืน หากนับเป็นชั่วโมงคือเกล้าทำงานไม่ครบแปดชั่วโมง และไม่สามารถทำงานเวียนกะเหมือนพนักงานคนอื่น ๆ ได้ ตรงนี้เจฟเห็นว่าเป็นการไม่แฟร์เช่นเดียวกัน ถ้าหากจะจ่ายค่าแรงเต็มจำนวนให้ ทว่าหักเงินเยอะก็สงสารโอเมก้าี่เลี้ยงลูกเพียงคนเดียว เจฟไม่ได้ใจดีเกินไป แต่ก็ถือว่าไม่ได้ใจร้ายเสียทีเดียว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ยอมให้โอเมก้าต้วจ้อยเอาลูกมาทำงานด้วยหรอก
เหมือนข้อตกลงจะจบลงด้วยดี แต่พอเกล้านั่งไตร่ตรองดูแล้วอุปสรรคี่แท้จริงมันอยู่ี่รถเมล์เี่ยวสุดท้าย คือ ห้าทุ่ม ครั้นจะให้กลับรถแท็กซี่ก็เกรงว่าค่ารถจะแพงเกินกว่าค่าของแรงตน ท้ายี่สุดเจฟเลยตัดสินใจให้คุณแม่โอเมก้าเลิกงานสี่ทุ่มครึ่งได้ แต่ค่าแรงลดลงเช่นกัน คือเหลือ 300 บาทเท่านั้น ซึ่งงานนี้เจฟให้เกล้าทำเป็นงานประจำ หยุดได้อาทิตย์ละหนึ่งวันโดยจะมีสวัสดิการอื่น ๆ ตามกฎหมายแรงให้ด้วย ก่อนกลับน้องพีก็ได้ขนมถุงใหญ่ติดมือกลับไป ด้วยความเอ็นดูจากเจ้าของผับ
17.30 น. ผับXr
สองแม่ลูกเดินจูงมือกันเข้าหลังร้าน พอไปถึงก็ตอกบัตรเข้างานแล้วเอากระเป๋าผ้ายัดใส่ไว้ในล็อคเกอร์พนักงาน ตามี่เจ๊เจฟบอกมาเมื่อวาน ก่อนจะเริ่มเข้าสู่โหมดการทำงานอย่างจริงจังคุณแม่โอเมก้าก็ต้องทำความเข้าใจกับลูกชายเสียก่อน
“น้องพีครับ วันนี้แม่ทำงานวันแรก เด็กดีอย่าวิ่งซนี่ไหนนะครับ เพราะจะเป็นการรบกวนคนอื่น อีกอย่างถ้าเกิดน้องวิ่งชนใครเข้า จะเกิดอุบัติเหตุเอาได้นะครับ”
“เหมือนี่ลูกวิ่งไล่จับสบู่แล้วหัวฟาดพื้น เจ็บ เจ็บ ใช่ไหมฮะ” นัยน์ตาสีน้ำตาลมีแววสงสัย
“ใช่ครับ เอาละใกล้จะถึงเวลาแม่เข้างานแล้ว เดี๋ยวเราไปชิ้งฉ่องกันก่อนนะครับ”
“โอเคฮะ”
สองแม่ลูกยืนพูดคุยกันอยู่นาน ไม่ได้สนใจผู้มาใหม่อย่าง 'เบ็น' ี่ยืนฟังอยู่ ทั้งคู่เดินผ่านเบ็นไป พร้อมกับยิ้มทักทายน้อย ๆ หลังทำธุระส่วนตัวเสร็จ คุณแม่โอเมก้าก็กระเตงลูกชายเข้าห้องครัวไปด้วย ไม่นานนักพนักงานคนอื่น ๆ ก็เริ่มทยอยกันเข้ามา เมื่อทุกคนมาครบ เบ็น ซึ่งเป็นหัวหน้าพ่อครัวจึงเรียกประชุม
“วันนี้เรามีพนักงานมาใหม่สองคนนะ มานี่สิมาแนะนำตัว” มือหนากวักเรียกพนักงานใหม่
“สวัสดีครับ ผมชื่อเกล้านะครับ แผนกล้างจาน นี่น้องพี ลูกชายผมเอง รบกวนด้วยนะครับ” กล่าวจบคุณแม่โอเมก้าก็โค้งหัวให้แก่ทุกคน เด็กน้อยเมื่อเห็นแม่ทำก็ทำตามบ้าง สร้างความเอ็นดูแก่เพื่อนร่วมงานไม่น้อย แต่ก็มีบางคนี่รู้สึกไม่พอใจเพียงแต่ไม่ปริปากออกมา
“สวัสดีครับ ผมชื่อต้นครับ ช่วยงานทั่วไปครับ” สิ้นคำแนะนำตัวของทั้งสองคนจบลง ทุกคนต่างปรบมือต้อนรับพนักงานใหม่
“ใครมีคำถามไหม” เบ็นถามออกไปเพราะเห็นสีหน้าของพนักงานบางคนคลางแครงใจ พนักงานมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เกี่ยงกันไปเกี่ยงกันมา ในใจอยากรู้แต่ไม่กล้าถาม จนมีตัวแทนหมู่บ้านเป็นอัลฟ่าคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“หัวหน้า ทำไมเด็กใหม่ถึงทำงานแค่สี่ทุ่มละ” ใบหน้าดุดันตวัดสายมองเด็กใหม่อย่างเชือดเฉือน เพิ่งได้เข้ามาทำงานก็ได้เลิกเร็วเชียวนะ แถมยังมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นโดยการเอาลูกมาเลี้ยงี่ทำงานได้ด้วย
เบ็นปรายตามองก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเข้ม“เพราะเขามีลูกเล็กอย่างี่เห็น ละอีกอย่างเขาไม่ได้เงินเต็มจำนวนแบบพวกเรา เจ๊จ่ายแค่ 300 บาท มีใครสงสัยอะไรอีกมั้ย” เมื่อเห็นสายตามืดครึ้มของหัวหน้าพ่อครัว พนักงานคนอื่น ๆ ต่างพากันก้มหน้าส่ายหัว เพราะรู้ดีว่าอย่าทำให้พ่อครัวคนนี้พิโรธจะดีกว่า จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายเข้าสู่โหมดการทำงาน ช่วงแรกี่ยังไม่มีจานให้ล้าง เกล้าก็ไปช่วยล้างผัก เช็ดจานเตรียมไว้ให้เพื่อนร่วมงาน พอเริ่มมีจานเข้ามาก็กลับไปทำหน้าี่ตนเอง
เกล้าได้ทำความรู้จักพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานบ้าง จึงทราบมาว่าี่นี่รับทุกเพศรองเข้าทำงาน และทุกตำแหน่งขึ้นอยู่กับความสามารถ ส่วนเจ้าของผับอย่างเจ๊เจฟ เป็นอัลฟ่าี่ผูกพันธะโดยอิมิกม่าไปแล้วเรียบร้อยี่สำคัญผัวหวงมาก
“น้องพี ยูฮู~ อยู่ไหนเอ่ย มาเล่นกันเถอะ เดี๋ยวพี่คนสวยคนนี้จะพาไปเี่ยว” ตายยากมาก เพิ่งนินทาไปหยก ๆ ก็โผล่มาเลย เจฟวันนี้สวมชุดราตรีสีดำปักเลื่อมเล่นแสงไฟสะท้อนวิบวับจนแสบตา เดินเข้ามาพร้อมกับถุงขนมในมือ เอาไว้ใช้หลอกล่อลูกของคนอื่นให้ติดกับดัก น้องพีี่นั่งเล่นของเล่นอยู่ใต้โต๊ะสเตนเลสใช้วางของ ก็วิ่งพรวดออกไปหาพี่คนสวยขาของตน
“สวัสดีฮะ พี่คนสวย” ยิ้มหวานจนตาหยีโอ๊ย เจ๊เจฟคนนี่หัวใจจะวาย ดาเมจความน่ารักทะลุตา ว่าแล้วก็ก้มลงฟัดแก้มนิ่มจนเกิดเสียง แล้วอุ้มเด็กน้อยเดินออกจากครัวไปโดยไม่บอกกล่าวแม่เขาสักคำ ผู้เป็นแม่ได้แต่มองตามหลังทำตาปริบ ๆ
“นี่ ๆ ทำไมเอาลูกมาทำงานด้วยได้อ่ะ” พนักงานข้าง ๆ สะกิดถาม
“เอ่อ… คือ น้องพีเคยล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำตอนอยู่คนเดียวน่ะผมเลยขอเจ๊ให้เอาลูกมาด้วย” เกล้าตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ดวงตากลมโตวูบไหวชั่วขณะ เมื่อพูดถึงความผิดย้อนหลัง อีกทั้งยังรู้สึกเกรงใจเพื่อนร่วมงานเพราะไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจเขา
“แล้วไม่ให้ผัวเลี้ยงล่ะ” อีกคนโพล่งขึ้นมา
“แหม่… ก็ถ้ามีผัว ก็ให้อยู่กับผัวแล้วสิ แกนี่ถามอะไรหัดมีสมองเสียบ้าง” โอเมก้าคนหนึ่งตอบกลับมา แต่เกล้าดันรู้สึกเหมือนเขากำลังโดนแขวะยังไงก็ไม่รู้ คุณแม่ลูกหนึ่งทำเพียงยิ้มอ่อน ไม่ตอบโต้หรือตอบคำถามใคร แล้วหันกลับมาสนใจงานของตนต่อ
“นี่ ๆ ทำไม-” ในระหว่างเพื่อนอีกคนกำลังสะกิดถาม หัวหน้าพ่อครัวี่เหลือบมองดูคุณแม่โอเมก้าอยู่ห่าง ๆ เอ่ยดุเสียงแข็งขึ้นมาในทันที
“เวลางานนะ ไม่ใช่เวลาคุย อยากคุยกันนักก็ไปคุยกันข้างนอกไป”
สิ้นเสียงดุดันเกล้าเกิดสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อดันสบตากับเจ้าของเสียงเข้ม ดวงตาสีนิลหลุบตามองต่ำทันทีด้วยความกลัว หลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรเกล้าอีกเลย
นิยายแนะนำ
นิยายแนะนำ
ความคิดเห็น
COMMENT
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอคอนเทนต์ที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีบนบริการของเว็บไซต์เรา หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไปโดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ นั่นเป็นการแสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
0.00
0.00









userA???
???? ??? ? ???? ?? ??